|
ซัวสะเดย..เนียงลออ ซัวสะเดย..เนียงลออ โดยพระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#1
|
||||
|
||||
ซัวสะเดย..เนียงลออ ตอนที่ ๗
คุยกันเรื่องเมืองจีนที่ "ว่าจะ" ไปหลายทีแล้ว วันเสาร์ที่ ๒๘ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๕ ตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่นมาก นึกว่าใกล้สว่างแล้ว ที่ไหนได้..เพิ่งจะห้าทุ่มกว่าเอง จึงยกใจไปกราบพระ แล้วภาวนาตามความเคยชิน ว่าไปจนครบชุดยังไม่ตีสองดี ลุกไปเข้าห้องน้ำ แล้วมาอ่านหนังสือ คู่มือทหารอาชีพ ต่อ คาดว่าถ้าไม่ใช่ทหารแล้ว คงไม่มีใครอ่านหนังสือเล่มนี้เป็นแน่แท้ เพราะเขียนแบบวิชาการมาก... ตีสี่เสียงกริ่งดังขึ้น เปิดออกไปเจอแม่ป๋อม รายนี้ตื่นเช้าทุกวัน ตีหนึ่งตีสองก็ตื่นตามประสาคนแก่ คงฝึกโยคะจนครบทุกท่าแล้วจึงมากวนอาตมาแทน วันนี้ไม่ได้มาเคี่ยวเข็ญให้ฝึกโยคะ ทำบุญแล้วคุยกันเรื่องเมืองจีนที่อาตมา ทำท่า จะไปหลายทีแล้ว แต่ยังไม่ได้ไปสักที... แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-08-2014 เมื่อ 01:41 |
สมาชิก 140 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
||||
|
||||
เซี่ยงไฮ้..มหานครที่เจริญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก คุณแม่บอกว่า ป้าปุ๋ม พี่สาวที่อยู่เซี่ยงไฮ้ จะย้ายไปยุโรปเร็ว ๆ นี้ ถ้าจะไปเมืองจีนก็ต้องรีบไปโดยด่วน ขืนช้าก็ต้องไปจ่ายค่าที่พักแพง ๆ เอาเอง แน่ะ..มีขู่อีกด้วย พอดีลูกปุ๊กมาอีกคน ทำบุญแล้วช่วยต้มน้ำร้อนและพับผ้าให้ พอได้ยินว่าจะไปเมืองจีน คุณลูกก็ขอไปด้วย อาตมาบอกว่าเมืองจีนค่าใช้จ่ายแพง ลูกปุ๊กยืนยันว่าถึงแพงก็จะไป... แม่ป๋อมบอกว่า ป้าปุ๋มจะย้ายสิ้นเดือนหน้า ถ้าจะไปก็ต้องก่อนสิ้นเดือนหน้า แบบนี้ฉุกละหุกตายห่..! เพราะแทบจะไม่มีเวลาขอวีซ่าเลย คุณแม่แนะนำว่าให้ถ่ายรูปสำหรับขอวีซ่าไว้ก่อน พอถึงเมืองไทยแล้วรีบเอาหนังสือเดินทางมา คุณแม่จะไปดำเนินการเรื่องวีซ่าให้... |
สมาชิก 135 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#3
|
||||
|
||||
อาหารเช้าแบบบุฟเฟต์ คนกินกันแน่นทีเดียว คุยกันจนหกโมงเช้า ได้เวลาอาหารเช้าของทางโรงแรมแล้ว อาตมาเดินลงบันไดไปยังห้องอาหารข้างล่าง ขณะที่ลูกปุ๊กกับแม่ป๋อมไปเรียกคนอื่น ๆ ที่ห้องพัก ถึงห้องโถงด้านล่างแล้วเดินผ่านเคาน์เตอร์ของพนักงานต้อนรับ เลี้ยวขวาผ่านประตูกระจกเข้าไป โอ้โฮ..คนแน่นไปหมด มีเสียงบอกกันว่า พระไทย..พระไทย.. แสดงว่าคนไทยมาเที่ยวเสียมเรียบกันมากทีเดียว... อาตมายกมือเป็นการทักทาย เพื่อแสดงให้พวกเขาทราบว่า รู้แล้วว่าคุณเป็นคนไทย แล้วเดินเลาะไปตามโต๊ะต่าง ๆ เพื่อหาที่นั่ง มีโต๊ะด้านในสุดติดกับหน้าต่าง ๒ ๓ ตัวยังไม่มีใครนั่ง จึง ยึด เสีย ๑ ตัว พี่มุกดา ป้ามอย แม่ป๋อม น้องเล็ก ลูกปุ๊ก ที่ตามมาถึง ยึด ไปอีก ๑ ตัว แล้วช่วยกันตักอาหารมาประเคนให้กับอาตมา... |
สมาชิก 133 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#4
|
||||
|
||||
มุมไม่กว้างพอที่จะถ่ายรูปโรงแรมได้ทั้งหลัง ข้าวผัดอเมริกันมาก่อนเป็นอันดับแรก ตามมาด้วยข้าวต้ม ผัดหมี่ โรตีกรอบ กล้วยไข่ สับปะรด พี่วิไลที่เพิ่งมาถึงส่งน้ำส้มมาอีก ๑ แก้ว อาตมากวาดทุกอย่างเรียบวุธตามมารยาทในการกินอาหารบุฟเฟต์ แล้วหยิบน้ำดื่มติดมือกลับไปห้องพัก ๑ ขวด กระโดดขึ้นไป “เลื้อย” บนเตียง ภาวนารอบหลังอาหารเช้า รอเวลาที่รถจะมารับ... หกโมงห้าสิบนาทีลูกปุ๊กมาตาม บอกว่ารถตู้มาถึงแล้ว อาตมาเดินลงไปจนถึงข้างล่างแล้วจึงรู้ตัวว่าเดินเท้าเปล่า ต้องย้อนกลับไปใส่รองเท้าบนห้องพักอีกรอบ ขนาดนั้นยังลงมาเร็วกว่าพี่วิไล ทำให้มีเวลาเดินถ่ายรูปบริเวณหน้าโรงแรมไปหลายรูป จากนั้นตามคนอื่น ๆ ขึ้นรถตู้ ซึ่งมีคุณราญเป็นพลขับ... แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-07-2014 เมื่อ 02:53 |
สมาชิก 131 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#5
|
||||
|
||||
ไปแลกเงินก่อนตามเคย อาตมานั่งคู่กับคุณปัญญาที่เบียดติดกับคุณราญ คุณอารีนั่งคู่กับพี่วิไล น้องเล็กนั่งคู่กับลูกปุ๊ก พี่มุกดา ป้ามอยกับแม่ป๋อมนั่งแถวหลังสุด ส่วนคุณแสงไม่ได้ไปกับเราแล้ว พี่วิไลบอกว่าวันนี้จะพาไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติพนมกุเลน ไม่ต้องมีมัคคุเทศก์ก็เที่ยวกันเองได้ จึงไม่ได้ใช้บริการของคุณแสงอีก อาตมาที่ยังไม่ได้บอกลาคุณแสงเลย จึงได้แต่ ออคุณเจริญ คุณแสงอยู่ในใจ... คุณราญออกรถ (คำว่า รถ ขแมร์ใช้คำเดียวกับไทย แต่ถ้าออกเสียงเร็ว ๆ จะฟังเป็น ร็วด) ไปบนถนนที่ว่างสุด ๆ เพราะยังเช้าเกินไปสำหรับคนอื่น พี่วิไลสั่งให้วิ่งไปยังร้านฮุ่ยเกียงเพื่อแลกเงิน ซึ่งเป็นหน้าที่ของคุณอารีที่วันนี้ใส่เสื้อกึ่งเสื้อกล้ามกึ่งคอกระเช้าสีแดง วิ่งลงไปแลกเงินให้ตามเคย... |
สมาชิก 131 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#6
|
||||
|
||||
ลูกน้องหลอกเล่นหัวชาวบ้าน มีเจ้านายคอยเชียร์..! คุณอารีหอบธนบัตรเขมรกลับขึ้นรถมาส่งให้พี่วิไล แล้วไปเปิด อารีซาลอน ที่เบาะแถวกลาง เพราะลูกปุ๊กเห็นว่าคุณอารีถักเปียได้หลายรูปแบบ เอ่ยปากชมว่าสวย อีกฝ่ายจึงเต็มใจบริการให้ เพียงแต่คุณลูกตัดผมสั้นไปแล้ว ไม่รู้ว่า เจียงอารี จะทำออกมาเป็นทรงไหน... คุณราญพารถตู้เลี้ยวขวาข้างพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติเสียมเรียบ วิ่งตรงไปข้างหน้า ผ่านโรงพยาบาลเด็กและวงเวียนอัปสรา เมื่อออกพ้นตัวเมืองก็เลี้ยวซ้ายตรงไปทางปราสาทนครวัด มาถึงสามแยกข้างตัวปราสาทนครวัด มีด่านตรวจซึ่งเจ้าหน้าที่ชะโงกมาดูในรถ พอเห็น โลกไทย ก็โบกมือให้ผ่าน คุณราญพารถเลี้ยวขวา วิ่งยาวไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ ผ่านสระสรงทางขวามือและปราสาทแปรรูปทางซ้ายมือ... |
สมาชิก 132 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#7
|
||||
|
||||
เลิกเล่นหัวคนอื่นก็ไปหาซื้อของกิน เลี้ยวขวาอีกทีออกไปตามถนนเส้นที่ไปปราสาทบั้นท้ายสตรี เอ๊ย..บันทายศรี ผ่านหมู่บ้านพึ่งตนเองที่มีของที่ระลึกขายเต็มไปหมด วิ่งไปประมาณครึ่งชั่วโมงก็หมดถนนลาดยาง กลายเป็นทางลูกรังแดง ๆ แต่ก็เรียบดี เสียอย่างเดียวว่าเมื่อรถวิ่งผ่าน ฝุ่นสีแดงก็ฟุ้งตลบตามหลังเป็นทางยาว สองข้างทางมีบ้านหลังเล็กหลังน้อย บ้างมุงแฝก บ้างมุงสังกะสี แทรกอยู่เป็นระยะ บ้างบ้านมีเพิงเล็ก ๆ วางของจำพวกพืชผักผลไม้พื้นบ้านขายอยู่ด้วย... คุณอารีถักเปียให้ลูกปุ๊กเสร็จ ก็เปลี่ยนจากช่างทำผมมาเป็นผู้จัดการทั่วไปของคณะทัวร์ สั่งคุณราญให้หยุดรถที่เพิงหลังหนึ่ง ซึ่งมีตุมสวาย (มะม่วงสุก) กับก็อมปึงเรียจ (กระท้อน) วางขายอยู่ ทั้งอาตมา คุณอารีและคุณปัญญา ลงจากรถไปเพื่อดูของ... |
สมาชิก 130 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#8
|
||||
|
||||
ฝีมือช่างอารีที่อุตส่าห์ถักผมสั้น ๆ ให้ บนแคร่ในเพิงมีมะม่วงกระล่อนทั้งสุกและดิบอยู่อย่างละกอง กับกระท้อนพื้นเมืองที่ ดูแล้วน่าจะเปรี้ยวมากกว่าหวานแขวนอยู่อีกพวงใหญ่ คุณอารีถามราคา พี่วิไลกับลูกปุ๊กที่ตามลงมาจึงได้ยินเสียงรัวลิ้นภาษาขแมร์ “ตุมสวายโปร๊กบอกนี้ทะรัยโปนมาน ?” (มะม่วงสุกนี่ราคาเท่าไร ?) ทั้งสองคนฟังไม่ทันจึงได้แต่ยิ้มแห้ง ๆ ก้มดูพื้นเหมือนกับสงสัยว่า พูดเสร็จแล้วคงมีตัว ร.เรือ หล่นอยู่เต็มพื้นเป็นแน่..! “ฝีมือช่างอารีเป็นอย่างไรบ้างจ๊ะ ?” อาตมาถาม ลูกปุ๊กหมุนตัวหันหลังให้ดูฝีมือ “เจียงอารี” ที่อุตส่าห์ถักผมสั้น ๆ เป็นเปียคู่ให้ แล้วรวบปลายมามัดติดกันไว้ อือม์..ดูดีเหมือนกันนะ ถ้าเข้าร้านเสริมสวยจริง ๆ คงโดนไปเป็นร้อยแล้ว พอดีคุณอารีซื้อมะม่วงเสร็จ ให้คุณปัญญาที่ชิมมะม่วงของเขาไปเป็นลูกหอบมาขึ้นรถ พวกเราจึงต้องขึ้นตามเพื่อเดินทางต่อไป... แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-08-2014 เมื่อ 01:41 |
สมาชิก 129 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#9
|
||||
|
||||
ขแมร์ก็มีด่านบุญเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นจะน้อยหน้าพม่า คุณราญพารถตู้ลุยไปบนถนนลูกรังต่อ ช่วงนี้สองข้างทางเป็นทุ่งนาและป่าละเมาะ นาน ๆ จะมีบ้านคนสักหลังหนึ่ง วิ่งไปประมาณ ๑๐ นาทีก็เจอนักเลงโต เอ๊ย..เจอด่านเรี่ยไร มีโต๊ะตั้งอยู่ ๑ ตัว พร้อมกับสัปทนสีทอง ๑ อัน ด้านหลังมีป้ายบอกว่าทำบุญอะไร แต่อาตมาอ่านไม่ทัน ส่วนที่ยืนอยู่ข้างถนนน่าจะเป็นสามเณร ๒ รูปกับเด็กวัด ๓ คน ถือบาตรรอรับการบริจาคอยู่... พี่วิไลบัญชาคุณราญจอดรถเทียบข้างให้ พวกเราควักกระเป๋าทำบุญกันใหญ่ อาตมาเป็นพระเองแท้ ๆ น่าจะเป็นฝ่ายรับ ยังบริจาคไป ๑,๐๐๐ เรียล นึกถึงตอนไปประเทศพม่า ที่นั่นเขาตั้งด่านรับบริจาคกันเป็นล่ำเป็นสัน ประมาณ ๑ ก.ม.ก็จะเจอ ๑ ด่าน อาตมาต้องแลกแบงค์ย่อยเอาไว้เป็นหอบ เพื่อทำบุญกับด่านเหล่านี้โดยเฉพาะ... อะภิวาทะนะสีลิสสะ นิจจัง วุฒาปะจายิโน, จัตตาโร ธัมมาวัฑฒันติ อายุ วัณโณ สุขัง พะลัง สามเณรกับเด็กวัดให้พรตามปกติ เพียงแต่ลืมไปว่าทำแบบนี้ถือว่าเสียมารยาท เป็นสามเณรกับเด็กวัดดันมาให้พรพระ..! |
สมาชิก 131 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#10
|
||||
|
||||
ด่านนี้เป็นแม่ชีกับโยมวัด ทำบุญไปเถอะ..อย่าคิดมาก มัวแต่จอดทำบุญอยู่ มีรถตู้สีขาววิ่งแซงไปคันหนึ่ง เมื่อพวกเราตามหลังไปจึงมีแต่ฝุ่นสีแดงตลบอบอวล ยังไม่ทันที่อาตมาจะยุให้คุณราญวิ่งแซง รถตู้คันนั้นก็เบรกเห็นไฟท้ายแดงโร่ ที่แท้มีด่านบุญอีกด่านหนึ่ง คราวนี้เป็นแม่ชีกับคุณป้าคนหนึ่ง มาตั้งจุดรับริจาคอยู่แถวหน้าวัดเลย กลายเป็นว่าทั้งเขาทั้งเราต้องหยุดทำบุญกันก่อน แล้วค่อยวิ่งตามก้นคันหน้ากินฝุ่นกันต่อไป... |
สมาชิก 122 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#11
|
||||
|
||||
ด่านเก็บ "ค่านักเลง" ของอุทยานแห่งชาติพนมกุเลน สองข้างทางรกทึบขึ้นเรื่อย ๆ จากทุ่งนาเป็นป่าละเมาะ จากป่าละเมาะกลายเป็นป่าเบญจพรรณ ไม่นานนักก็มาถึงด่านเก็บค่าผ่านทาง ราคาโหดได้ใจเชียวละ..รถเก๋ง รถกระบะ จ่ายคันละ ๑๐,๐๐๐ เรียล รถตู้คันละ ๒๐,๐๐๐ เรียล นักท่องเที่ยวคนละ ๒๐ ดอลลาร์ คนขแมร์คนละ ๒,๐๐๐ เรียล พี่วิไลให้คุณอารีวิ่งลงไปจ่าย ค่านักเลง แต่โดยดี... |
สมาชิก 124 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#12
|
||||
|
||||
ร้านค้าบริเวณหน้าด่าน เนื่องจากมีทั้งรถตู้คันหน้าและรถตู้คันของเรา เจ้าหน้าที่ต้องตรวจนับจำนวนคนก่อน แล้วค่อยออกบัตรผ่านทางให้ อาตมาจึงลงไปเดินถ่ายรูปสถานที่โดยรอบ แถมแวะดูร้านขายของข้างด่านอีกด้วย ร้านนี้มีทั้งมะม่วง (สวาย) สับปะรด (มะนัวะ) ขนุน (คะน็อล) และของขบเคี้ยวประเภท “ข้าวเกรียบรวยเพื่อน” เหมือนของไทย ดูคุ้นตาดีแท้ ๆ... |
สมาชิก 128 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#13
|
||||
|
||||
พื้นที่อุทยานแห่งชาติพนมกุเลนส่วนใหญ่เป็นป่าดิบเขา เมื่อกลับขึ้นรถมา รถตู้คันหน้าก็หายไปนานแล้ว เจ้าหน้าที่เปิดไม้กั้นให้ คุณราญนำรถวิ่งไปตามถนนที่เป็นดินแดงเหมือนลูกรัง แต่กลับเป็นดินเหนียวเรียบกริบ สองข้างทางเป็นป่าทึบประเภทป่าดิบเขา ดูแล้วน่าจะมีสัตว์ป่ามากมาย แต่รถราที่วิ่งเป็นประจำคงทำให้สัตว์ต่าง ๆ หนีห่างจากถนนไปโดยปริยาย พวกเราวิ่งผ่านป่ามาตั้งนานจึงไม่เจอตัวอะไรเลย... รถวิ่งขึ้นสูงไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งทางขวามือเป็นไหล่เขากระหนาบชิดเข้ามา บางตอนเลี้ยวหักข้อศอกซ้ำยังเป็นช่วงที่กำลังขึ้นเนินอีกด้วย วิ่งผ่านซอกเขาที่มีหินใหญ่ก้อนมโหฬาร แถมยังมีศาลเจ้าที่อยู่ให้หวาดเสียวเล่น อาตมาตั้งใจอุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้าที่ทุกท่าน เห็นเจ้าที่ร่างใหญ่มหึมายืนถือกระบองอันโตอยู่ตรงโค้งหน้าเหว เหมือนกับช่วยยืนปิดทางไม่ให้รถราตกลงไป ในเมื่อท่านไม่เข้ามาใกล้ ก็ได้แต่ขอบคุณท่านอยู่ในใจ... |
สมาชิก 131 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#14
|
||||
|
||||
เห็นแต่ไกลนึกว่าเป็นห้องแถว มีทางโค้งหักข้อศอกหลายแห่ง อาตมาบอกให้คุณราญบีบแตร เพื่อเตือนให้รถที่วิ่งลงมารู้ว่า มีรถกำลังวิ่งสวนขึ้นไป คุณราญหัวเราะพลางบอกว่า ไม่ต้องหรอก เพราะช่วงเช้าเขาให้รถวิ่งขึ้นอย่างเดียว ใครจะลงต้องรอช่วงบ่ายโน่น อ้าว..ไม่บอกไม่รู้นะนี่... ประมาณครึ่งชั่วโมงก็เห็นมีอาคารเหมือนห้องแถวยาวอยู่ข้างหน้า เข้าไปใกล้จึงเห็นว่าเป็นร้านขายของที่ระลึกทั้งนั้น คุณราญพารถเลี้ยวเข้าไปในลานจอดด้านซ้ายมือหลังร้านขายของ ซึ่งตอนนี้มีรถจอดอยู่ไม่กี่คัน น่าจะเป็นของบรรดาพ่อค้าแม่ค้านั่นแหละ... |
สมาชิก 127 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#15
|
||||
|
||||
นี่แค่หนึ่งในร้อยที่วางขาย พวกเราลงจากรถแล้วเดินเลาะออกมาทางด้านหน้าร้านค้า ซึ่งมีของขายสารพัดชนิด ทั้งดอกไม้ธูปเทียน พระพุทธรูปทั้งแกล้งเก่าและของใหม่ เครื่องรางของขลังประเภทปลัดขิก และนกคุ่มกันไฟ ผ้าผ่อนท่อนสไบ เครื่องสัมฤทธิ์ที่ดูก็รู้ว่าใช่โซดาไฟกัดแล้วทิ้งให้ดูเก่า ของป่าต่าง ๆ ทั้ง เขา หนัง เขี้ยว เล็บ ของสัตว์ป่า ตลอดจนว่านยาสารพัดชนิดทั้งสดและแห้ง ถ้าไม่ใช่ต้องหอบหิ้วกันข้ามประเทศก็น่าซื้ออยู่เหมือนกัน... |
สมาชิก 133 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#16
|
||||
|
||||
หน้าตาชวนกินมาก อาตมาเดินดูของไปตามร้านค้า ที่มีทั้งมุงแฝก มุงสังกะสี บางร้านก็คลุมด้วยผ้าใบ มีเสียงโฆษณาปาว ๆ ของทางวัด ซึ่งประกาศชักชวนให้ญาติโยมทำบุญกรอกหูไปตลอดทาง ผ่านแผงหอยคราง (คล้าย ๆ หอยแครง) ที่เขาคลุกกับพริก-เกลือ-น้ำตาล แล้วแผ่ตากไว้เต็มแผ่นสังกะสี เห็นแล้วนึกอยากได้มากินกับข้าวต้มร้อน ๆ ขึ้นมาโดยพลัน... |
สมาชิก 129 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#17
|
||||
|
||||
ขนาดบ่อน้ำยังวิลิศมาหราจนปานนี้ เกือบสิบนาทีกว่าจะเดินพ้นแถวร้านค้ายาวเหยียด มาเจอบ่อน้ำแบบบ่อโพง แต่เขาปั้นลายกลีบบัวรอบปากบ่อ มีพญานาค ๕ เศียรแบบขอมแผ่พังพานอยู่สี่ทิศ หางพญานาคม้วนพันกันเป็นเสาหลักกลางบ่อ มีคันทวยรูปคล้ายกินรี ค้ำยันดอกบัวดอกเล็กด้านบนอยู่ ๔ ทิศเช่นกัน แต่สับหว่างกับพญานาคด้านล่าง อาตมาถ่ายรูปไว้แล้วเดินตามคณะไปทางขวามือ... |
สมาชิก 129 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#18
|
||||
|
||||
โปรดดูหมาวัด เอ๊ย..กวางที่ขั้นบันได ด้านนี้เป็นบันไดขนาดมโหฬาร แต่ละขั้นกว้างประมาณหนึ่งเมตร เหมือนกับจะเอาไว้ให้ยักษ์เดิน สองข้างบันไดช่วงแรกปั้นรูปกวางเอาไว้ทุกขั้น แต่เป็นกวางอีแลนด์ และกวางกาเซลของอาฟริกา เหมือนกับศิลปินจะอวดว่า ถึงจะอยู่คนละซีกโลกก็ยังเอามาประดับวัดได้ แต่กวางกาเซลหลายตัวชำรุดเขาหัก ทำให้ดูเหมือนหมาวัดมากกว่า..! |
สมาชิก 122 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#19
|
||||
|
||||
ถ่ายรูปกับหมาลายเสือ สองฟากของแต่ละขั้นบันได ถูกจับจองไว้โดยคนขายดอกไม้ธูปเทียนตลอดจนของที่ระลึก บางคนนั่งขอทานก็มี บันไดช่วงที่สองเป็นรูปปั้นพญานาค ซึ่งลำตัวยาวเหยียดเท่ากับเป็นราวบันไดไปโดยปริยาย แต่พังพานพญานาคกลับเป็นครุฑสยายปีกเสียนี่ ผ่านซุ้มประตูสามพี่น้อง ที่ตรงกลางเป็นประตูใหญ่ สองข้างเป็นประตูเล็ก มีลวดลายคล้ายลายไทยเสียด้วย... หน้าซุ้มประตูมีรูปปั้นเสือโคร่งสองตัว แต่ความที่ปั้นหน้ายาวไปหน่อย เลยดูเป็นหมาลายเสือแทน อาตมาประหยัดพลังงานด้วยการก้าวยาว ๆ ให้ได้ก้าวละหนึ่งขั้น คนอื่น ๆ ทำตามบ้างแต่ไม่สำเร็จ กลายเป็นกึ่งเดินกึ่งวิ่งเพื่อที่จะตามอาตมาให้ทัน เมื่อเลยซุ้มประตูเข้าไป บันไดก็หักเลี้ยวไปทางซ้าย ราวบันไดช่วงนี้เป็นพญานาค ๗ เศียร ประมาณ ๒๐ - ๓๐ ขั้นก็เป็นพญานาคตัวใหม่ นอกจากจะค่อนข้างชันแล้ว ยังยาวเหยียดนับร้อยขั้น ทำเอาทุกคนลิ้นห้อยไปตาม ๆ กัน... |
สมาชิก 122 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#20
|
||||
|
||||
นั่งถ่ายรูปรอไปก่อน อาตมากลับหลังมองลงไป เห็นพี่วิไลกับคุณปัญญาอยู่ลิบ ๆ ถัดมาเป็นพี่มุกดา ส่วนป้ามอย แม่ป๋อมกับน้องเล็กเดินมาทันแล้ว ตามด้วยคุณอารีกับลูกปุ๊ก เห็นทุกคนหอบแฮ่ก ๆ อาตมาจึงนั่งตรงหน้าสิงห์ขอมข้างบันได ขอแม่ป๋อมช่วยถ่ายรูปให้ เป็นการนั่งพักไปในตัว... |
สมาชิก 117 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|