กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เทศน์ในวาระสำคัญต่าง ๆ

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 31-05-2023, 23:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,152 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default ปกิณกธรรมช่วงบวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรมสงกรานต์ วันที่ ๑๓ - ๑๗ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๖

ก่อนปฏิบัติธรรมช่วงบ่าย วันพฤหัสบดีที่ ๑๓ เมษายน ๒๕๖๖

อาตมภาพเรียนหนังสืออยู่ชั้นป. ๑ มีเพื่อนชื่อ "ไอ้ตาโต" ทุกคนเรียกอย่างนั้นหมด ชื่อจริงไม่เรียกหรอก จริง ๆ แล้วชื่อ สุรศักดิ์ เล้าอรุณ แต่คนอื่นเรียก "ไอ้ตาโต" ผู้ชายอะไรก็ไม่รู้ตาโตเท่าลูกปิงปอง ถ้าเป็นสมัยนี้ก็เหมือนการ์ตูนญี่ปุ่น คนนั้นเป็นผู้ชายนะ

นั่นคือจุดเด่น ที่คนอื่นเขาเห็นชัดเจนที่สุด แล้วยกขึ้นมาเรียก แบบเดียวกับที่เรียกหมาว่า ไอ้แดง ไอ้ขาว ไอ้ด่าง นั่นแหละ ไม่เห็นหมาว่าอะไรสักคำ ทำไมคนเราต้องน้อยใจ ซึมเศร้า เวลาเขาบูลลี่เรา..ไม่เข้าใจ ?

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-06-2023 เมื่อ 02:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 22 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 31-05-2023, 23:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,152 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

การปฏิบัติธรรมช่วงสงกรานต์ของพวกเรา ต้องมีความอดทนอดกลั้นมากกว่าปกติ

อันดับแรกก็คือ พวกเราอยากไปเที่ยวเหมือนกัน ใครว่าไม่อยาก เพียงแต่ว่าคนอื่นเขามองแล้วว่าเราเป็นคนดี ก็ต้องหน้าด้าน ๆ ทำดีต่อไป

ข้อต่อไปคือ อากาศร้อน ต้องใช้ความอดทนมากกว่าปกติ เพราะฉะนั้น..อย่าเปิดพัดลมส่องใส่ตัวเองคนเดียว แบ่ง ๆ คนอื่นเขาบ้าง

ข้อต่อไปก็คือ ในช่วงของการปฏิบัติธรรม เมื่ออากาศร้อนก็หงุดหงิด กระทบกระทั่งกันง่าย ต้องระมัดระวังรักษาใจให้ดี ฟังดูแล้วไม่น่าจะเกี่ยวกัน แต่เกี่ยวกัน

เรื่องของดินฟ้าอากาศสำหรับบุคคลที่กำลังใจมั่นคงแล้ว ไม่มีปัญหาเลย ถ้าท่านที่ยังไม่มั่นคงผลกระทบก็เต็ม ๆ เหมือนกัน เพราะว่าเรายังไปยินดียินร้ายอยู่

ถ้ายินดียินร้าย สักแต่ว่ารู้สึกก็ยังไม่กระไรนัก แต่ส่วนใหญ่เรายินดียินร้ายแล้วไปปรุงแต่งมากขึ้น..มากขึ้น ท้ายสุดก็เลยทำให้กิเลสงอกงาม จากที่ไม่พอใจ ก็เริ่มโกรธ จากที่โกรธมากขึ้น..มากขึ้น ก็ระเบิดตูม !


ระเบิดตูมลงไปนึกว่าจบ..ไม่..ไม่จบ กูไม่โกรธนานหรอกแต่กูจำนาน..! อันเดียวกันหรือเปล่า ? ที่ว่าจำนานนั่นน่ะเขาเรียกว่าพยาบาท หนักกว่าโกรธอีก..! เป็นไฟสุมขอน พร้อมที่จะเผาเราอยู่ตลอดเวลา

ดังนั้น..ต้องระมัดระวังให้ดี เมื่อถึงเวลาเราก็รีบโกรธรีบจบ เพราะยังแก้ไม่ได้ ยังโกรธอยู่ ถ้ายังโกรธก็โกรธให้พอ แล้วรีบจบ โกรธวันนี้จบวันนี้ อย่าเหลือให้ถึงพรุ่งนี้ ใครเหลือข้ามคืนถือว่าใช้ไม่ได้..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-06-2023 เมื่อ 02:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 21 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 31-05-2023, 23:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,152 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แล้วหลังจากนั้นเราค่อยไปพินิจพิจารณา อันดับแรก คนที่ทำให้เราโกรธเขารู้เรื่องหรือเปล่า ? เราฟุ้งซ่านไปเองคนเดียวใช่ไหม ? คนอื่นเขายังไม่ทันจะรู้สึกอะไรเลย เราโกรธเป็นวรรคเป็นเวรไปแล้ว

อันดับที่สอง ถ้าหากว่าเขาไม่รู้เรื่องเลยว่าสิ่งที่เขาทำ ขัดหูขัดตาขัดใจ แล้วทำให้เราโกรธ เขายังไม่รู้เลย แล้วเราจะโกรธไปทำไม ? ก็ให้อภัยเขาหน่อย

อันดับต่อไปก็คือ คนทั้งหลายเหล่านี้เป็นครู เขาสอนให้เรารู้ว่าเราเองยังไม่ดี ยังมีความโกรธอยู่เต็ม ๆ หัวใจเลย ในเมื่อเขาเป็นครูสอนก็ยกมือไหว้ไปเถอะ ยกมือไหว้สาธุ ทำได้ไหม ? ถ้ายกมือไหว้สาธุ แล้วต่อว่า "มึงไปไกล ๆ ตีนกูเลย..!" ถ้าแบบนี้ได้ก็ยังดี อย่างน้อย ๆ ก็มีคำดีว่าสาธุอยู่บ้าง

เรื่องของกิเลสไม่ใช่ตัดทีเดียว เราไม่เก่งขนาดนั้น ถ้าเก่งขนาดนั้นไม่มานั่งอยู่ตรงนี้หรอก พระพุทธเจ้าพาไปหมดแล้ว ในเมื่อเรารู้ตัวว่าไม่เก่งขนาดนั้น ก็เหลืออยู่แค่ว่า เราต้องขยัน

ขยันในที่นี้คืออะไร ? ก็คือ
วิริยะ..พากเพียร
ขันติ..อดทน
สัจจะ..มั่นคง จริงจัง จริงใจ


ขยัน อดทน มั่นคง ถึงจะสู้กิเลสได้ ขยัน..ไม่อดทน..ก็ท้อถอย ขยัน..อดทน..ไม่มั่นคง..ก็เป็นพวกประเภทหลักลอย ถอนตามน้ำไปเสียก่อน ต้องมั่นคงด้วย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-06-2023 เมื่อ 02:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 19 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 31-05-2023, 23:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,152 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เดี๋ยวพวกเราก็ได้ปฏิบัติธรรมกัน คราวนี้ในช่วงที่เราเดิน เราต้องการความพร้อมเพรียง เราก็เดินแบบสติปัฏฐานหกระยะ ซ้ายย่างหนอ..ขวาย่างหนอ หรือ ยกหนอ..ย่างหนอ..เหยียบหนอ แล้วแต่ว่าเป็นระยะไหน แต่เวลานั่งนี่เราภาวนาตามแบบที่เราถนัด

ส่วนที่พวกเราชอบที่สุดก็อาจจะเป็นช่วงเช้ามืดที่หลวงพ่อมานั่งนำให้ นั่นถือว่าเป็นกำไรเฉพาะตัว ใครมาช้าก็นั่งร้องไห้ไป ถึงเวลาตะเกียกตะกายหากินเอาเอง ที่จะมีคนป้อนให้ถึงปากนั้นหายากแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-06-2023 เมื่อ 02:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 22 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 02-06-2023, 00:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,152 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ก่อนสวดมนต์เย็นถวายหลวงปู่สาย วันพฤหัสบดีที่ ๑๓ เมษายน ๒๕๖๖

ส่วนที่จะว่าต่อก็คือเรื่องของน้องเบลล์ (นางสาวจิรัฏฐญา ทองจำรูญ) เมื่อวานเกือบจะโบ๊ะให้..! ยายหนูนี่หลวงพ่อบอกแล้วว่า "ไม่มีเงินก็ไปวัดได้ เพราะว่าถ้าไม่มีค่ารถก็หาค่ารถไปให้ถึงวัด เดี๋ยวที่เหลือหลวงพ่อรับผิดชอบให้เอง" น้องเบลล์มาวัดแล้วบอกว่า "ขออนุญาตไม่ค้างในวัด เพราะตอนนี้กำลังใจแย่มาก สู้กิเลสไม่ได้" ช่างเป็นคนดีเหลือเกิน สมควรโดนโบก..!

พวกเราส่วนใหญ่ร้อยละ ๙๙.๙๙ เป็นเหมือนกันหมด พอทำอะไรชั่ว ๆ มา ก็อายพระ ไม่กล้าไปหา รอจนกระทั่งกำลังใจดีคืนมาเมื่อไร แล้วค่อยไปหาพระ ถามหน่อยเถอะ..แล้วตอนนั้นจะไปหาทำอะไร ? ตอนกำลังใจเฮงซวยที่สุด ควรที่จะเป็นเวลาที่ไปหาพระ เพื่อที่ให้ท่านช่วยประคับประคองกำลังใจของเรากลับมามั่นคงเข้มแข็งใหม่ ตอนดีแล้วจะไปทำซากอะไร..!

จำไว้ว่า..ถ้าเราทำชั่วแล้วตอนนั้นยังไม่รู้สึกอาย ตอนที่พยายามไปหาพระก็ไม่ต้องอาย เพราะว่าพระที่แท้จริงนั้น ท่านไม่ได้มาดูว่าเราทำชั่วอะไรมา หากแต่ท่านดูว่าจะช่วยเหลือเราได้อย่างไร ดูถ้างวดหน้าไอ้พวกชั่ว ๆ มากันเต็มวัดแน่เลย..!

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ขอฝากเอาไว้เป็นข้อคิด ที่ว่าฝากเอาไว้เป็นข้อคิดก็คือว่า เวลาที่เราไม่ไหว รัก โลภ โกรธ หลง ตีเราหนักมาก ให้รีบเข้าวัดไว้ หน้าด้านหน้าทนเข้าไว้ แล้วจะได้ดีเร็วมาก

สิ่งทั้งหลายที่ญาติโยมเป็น กระผม/อาตมภาพเป็นมาหมดแล้ว บางวันคิดชั่ว ฟุ้งซ่าน จนกระทั่งกำลังใจอะไรก็ไม่เอา ภาวนาก็ไม่ได้ อาตมานั่งอยู่หน้าพระประธาน นั่งมอง อตีตังสญาณเข้าไม่ได้..ช่างหัวมัน อนาคตังสญาณไม่ได้..ก็ช่างมัน ปัจจุปบันนังสญาณไม่ได้..ก็ช่างมัน จุตูปปาตญาณไม่ได้..ก็่ช่างมัน เจโตปริยญาณไม่ได้..ก็ช่างมัน ปุพเพนิวาสนุสติญาณไม่ได้..ก็ช่างมัน

แต่กูจะนั่งอยู่ตรงนี้ มึงอาจจะทำให้กูคิดชั่วได้ ทำให้กูพูดชั่วได้ แต่มึงบังคับกูไปทำชั่วไม่ได้ เพราะกูนั่งอยู่ตรงนี้ นั่งอยู่ตรงหน้าพระนี่แหละ นั่งให้ตายไปเลย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-06-2023 เมื่อ 02:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 12 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 02-06-2023, 00:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,152 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อย่างน้อย ๆ กูก็ชนะไป ๑ ใน ๓ กาย วาจา ใจ ไม่ได้ชั่วทั้งหมด ถ้าห้ามปากตัวเองได้ด้วยกูก็ชนะไปสอง ก็เหลืออย่างเดียวก็คือใจอยากคิด ปล่อยให้คิดไป เราตามดูไปเรื่อย ๆ อยากจะคิดได้นานแค่ไหน ? กำลังใจของเราเหมือนกับกลัวคนรู้ทัน พอตามดูว่ามึงจะชั่วได้เท่าไร ก็ไปได้แค่พักเดียว หมดอารมณ์ ยอมให้เราดึงกลับมาอยู่กับการภาวนา

ดังนั้น..เวลาที่เรากำลังชั่วเป็นเวลาที่ควรเข้าวัดมากที่สุด อย่ารอให้ดีแล้วค่อยมา เพราะว่าดีแล้วค่อยมา พระก็ไม่รู้ว่าจะช่วยตรงไหน เพราะว่าเราดีแล้ว

ราคะ โลภะ โทสะ โมหะ เป็นธรรมดาของโลก ทุกคนมีอยู่แล้ว เพียงแต่ทำอย่างไรจะตีกรอบให้ทำอันตรายเราให้ได้น้อยที่สุด ถ้าหากว่าพลาดก็เริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ เหมือนอย่างที่กระผม/อาตมภาพเคยบอกเอาไว้เสมอว่า ถ้าคนสองคนเดินมาพร้อมกัน หกล้มพร้อมกัน คนหนึ่งลุกขึ้นแล้วเดินต่อไปเลย อีกคนหนึ่งมัวแต่นั่งคร่ำครวญอยู่นั่นแหละ เจ็บเหลือเกิน ปวดเหลือเกิน เดินมาตั้งไกลไม่น่าจะล้มเลย สองคนนี้ใครจะไปถึงที่หมายก่อนกัน ? ก็คือบุคคลที่ล้มแล้วลุกไปต่อเลย

ก็แปลว่า แม้แต่การทำดีเรายังต้องหน้าด้าน หน้าทน สู้ทำไป อย่าไปเศร้าหมองกับสิ่งทั้งหลายที่เป็นธรรมดาโลก ไม่มีใครที่ไม่เคยทำผิด แต่ผิดแล้วรีบแก้ไขให้ถูก ผิดแล้วรีบตั้งหน้าตั้งตาเริ่มต้นใหม่

พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนให้เราโกรธใคร เกลียดใคร แต่ท่านสอนธรรมเพื่อนำเราให้พ้นทุกข์ ท่านไม่ได้มีหน้าที่มาตราหน้าว่าเราชั่วเหลือเกิน เพราะว่าในสายตาของพระ ไม่มีคนดี ไม่มีคนชั่ว มีแต่คนที่กำลังเป็นไปตามกรรม
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-06-2023 เมื่อ 02:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 12 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #7  
เก่า 02-06-2023, 00:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,152 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เหมือนอย่างกับกระแสสองสายวิ่งคู่ขนานกัน ใครอยู่ในกระแสสีขาวก็โดนดึงขึ้นข้างบน ใครอยู่ในกระแสสีดำก็โดนดึงลงข้างล่าง สำคัญตรงที่ว่าถ้าเราอยู่ผิดกระแส ก็ต้องรีบหาทางตัดข้ามมากระแสสีขาวให้เร็วที่สุด ส่วนคนที่อยู่ในกระแสสีขาวแล้วก็อย่าได้ประมาท เร่งรัดตัวเองเพื่อไปให้ถึงจุดหมายปลายทางให้เร็วที่สุดเช่นกัน อย่างนี้เขาถึงเรียกว่าผู้ปฏิบัติธรรม

ไม่อย่างนั้นแล้วอย่างที่พวกเราทำอยู่เขาไม่เรียกว่าปฏิบัติธรรม เขาเรียกว่าทำตัวเป็นทาสกิเลส รู้จักทาสหมา ทาสแมวไหม ? ทาสกิเลสก็พอกันนั่นแหละ ก็คือพอถึงเวลากิเลสจะจูงไปทางไหนก็ไป พอจูงเราไปทำชั่ว ๆ แล้วก็จูงเราไปห่าง ๆ วัด เราก็ดันตามไปอีก ! อย่างนี้เขาเรียกว่า "โง่สองชั้น"..!

เพราะฉะนั้น..กิเลสจูงเราไปทำชั่วได้ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ตราบใดที่ สติ สมาธิ ปัญญา ยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ โอกาสที่จะทำผิดทำพลาดย่อมมี แต่พลาดแล้วรีบแก้ไข อาศัยความผิดเป็นครู คราวหน้าจะได้ไม่ผิดตรงนั้นอีก สมัยนี้ผิดจนเป็นศาสตราจารย์ด็อกเตอร์กันไปตาม ๆ กัน ไม่ใช่ครูธรรมดานะ ครูมีตำแหน่งวิชาการสูงสุดด้วย..!

สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ที่เกิดขึ้น สาเหตุใหญ่ก็คือเรายังไม่เข็ด ไม่เกิดภยตูปัฏฐานญาณ คือยังมองไม่เห็นความน่ากลัวในวัฏสงสารนี้ ว่าการเวียนว่ายตายเกิดนั้น สร้างทุกข์สร้างโทษให้แก่เราแต่ละชาติมากเท่าไร

ตูว่าเดี๋ยวพวกที่ฟังบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ถ้าหากว่ามาได้ฟังตรงนี้ต่อ มีหวังคงด่าเอาแน่ ๆ เลยว่า "ที่ดีแบบนี้ทำไมไม่พูดให้ฟัง" จะไปยากอะไร อยากฟังก็มาฟังที่วัด..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-06-2023 เมื่อ 02:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 13 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #8  
เก่า 03-06-2023, 00:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,152 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ท่านที่เข้าไปฟังเสียงธรรมจากวัดท่าขนุน กรุณาทนฟังโฆษณาด้วยนะจ๊ะ เพราะถ้าไม่ดูโฆษณาวัดจะไม่ได้สตางค์ ยกเว้นท่านที่ทำพรีเมี่ยมไว้ ถึงจะไม่มีโฆษณาโผล่มา ทุกวันนี้ทุกหนึ่งพันยอดเข้าชม ทางวัดท่าขนุนจะได้ ๕ ดอลลาร์ เดี๋ยวดอลลาร์กลายเป็นแบงค์กงเต็ก ยังไม่รู้ว่าเขาจะจ่ายอะไรให้แทน จะว่าไปแล้วเขาค่อนข้างจะเอาเปรียบนะ เพราะว่านั่นเท่ากับโฆษณาตั้ง ๑ พันครั้ง..!

เรื่องของธุรกิจก็ต้องยอม ๆ เขาไป เพราะว่าไม่ได้ตั้งใจไปเอาสตางค์ หากแต่ตั้งใจว่าให้ญาติโยมที่อยู่ไกลได้มีโอกาสฟังบ้าง

ระยะหลังตั้งแต่ปิดบ้านเติมบุญไป ก็ไม่มีการรับสังฆทานอีก แต่ญาติโยมส่วนใหญ่เคยชินกับการถวายสังฆทานออนไลน์แล้ว รายรับที่ได้มาก็เพียงพอกับค่าน้ำค่าไฟ ค่ารถค่าราของวัดเราอยู่แล้ว อีกส่วนหนึ่งก็คือที่กระผม/อาตมภาพได้รับมาจากกิจนิมนต์ต่าง ๆ ระยะหลังค่าตัวค่อนข้างจะสูง ก็เลยทำให้มีเงินพอที่จะบริหารวัดได้

คราวนี้ก็เหลืออยู่อย่างเดียวว่าจะต้องหาทางเก็บทุนสำรองเอาไว้ให้วัดสักก้อนหนึ่ง ซึ่งต้องรอให้การสร้างพิพิธภัณฑ์เสร็จเรียบร้อยก่อน เพราะตอนนี้เพิ่งจ่ายไป ๘ งวด งวดละ ๘ ล้านบาท ทั้งหมดต้องจ่าย ๑๘ งวด ส่วนงวดที่ ๑๙ ต้องจ่าย ๑๑ ล้านบาท รวม ๆ แล้วไม่มากหรอก แค่ร้อยกว่าถึงสองร้อยล้านเอง..! เท่าที่เขาทำมานั้น กรผม/อาตมภาพดูแล้ว ราคาประมาณ ๒๐ ล้านเท่านั้นแหละ แต่คิดเราซะหูตูบเลย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-06-2023 เมื่อ 01:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 12 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #9  
เก่า 03-06-2023, 00:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,152 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ส่วนที่ทำเอาไว้ก็มี พิพิธภัณฑ์ ๓๑ ภพภูมิ แล้วก็ห้องหลวงปู่สาย ห้องในหลวงรัชกาลที่ ๙ กับห้องวัตถุมงคล ส่วนที่อยากโชว์จริง ๆ ก็คือ ๓๑ ภพภูมิ กับพระนิพพาน ว่าถ้าใครทำความชั่วแล้วจะเจออะไร ใครทำความดีแล้วจะได้ไปภพภูมิไหนบ้าง

ตอนนี้ที่เริ่มประกอบเข้าไปก็คือนรกภูมิ น่ากลัวมาก น่ากลัวตรงที่ว่า ถ้าหินงอกหินย้อยหล่นใส่กบาล นักท่องเที่ยวตายแน่..! หนักทับคนตายได้จริง ๆ ถึงได้เตือนช่างว่าให้หาทางฝังราวเหล็กไว้ ถึงเวลาให้ติดน็อตหรือติดกาวหรืออะไรให้แน่นหนาหน่อย ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวจะกลายเป็นว่า "นักท่องเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์วัดดัง ตกนรกสมใจนึก" เพราะว่าไปโดนนรกทับตาย..!

เดี๋ยวนี้ผู้สื่อข่าวล้วนแล้วแต่พาดหัวไป ไอ้โน่นก็วัดดัง ไอ้นี่ก็วัดดัง กระผม/อาตมภาพอ่านเสร็จด่าไปยัน ๑๘ ชั่วโคตรเลย "ดังอย่างไรวะ ? ไอ้เราเองเป็นพระแท้ ๆ ยังไม่รู้จักวัดนี้เลย" ก็คือดังเอาไว้ก่อน เขาจะขายข่าว ก็ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ตราบใดที่สังคมของเรา ข่าวร้ายลงฟรี ข่าวดีต้องเสียเงิน ก็จะอยู่ลักษณะอย่างนี้กันต่อไป บรรดาสถาบันข่าวอย่าง "ทิศทางไทย" ก็ต้องบอกว่ามีน้อย

ผู้สื่อข่าวสมัยก่อนมีจรรยาบรรณสูงมาก แต่ละคนได้รับการอบรมมาว่า การเสนอข่าวต้องเป็นไปในลักษณะอย่างไร ก็คือเอาความจริงเป็นหลัก ในสมัยนั้นเขาบอกว่า ถ้าหากว่าเนื้อข่าวนั้นคือซุงท่อนหนึ่ง

ถ้าคุณอ่าน "หัวเขียว" ก็จะได้เรือสุพรรณหงส์ ๑ ลำ
ถ้าอ่าน "หัวสีบานเย็น" คุณก็จะได้เรือพายแข่ง ๑ ลำ
ถ้าหากว่าอ่าน "หัวสีส้ม" คุณก็จะได้เรืออีโปง ๑ ลำ
แต่ถ้าหากว่าอ่านอีก ๑ ฉบับเขาบอกว่าคุณจะได้ซุงไปทั้งท่อน
ความจริงแล้วซุงทั้งท่อนนั่นแหละคือสิ่งที่ชาวบ้านต้องการ

เพียงแต่ว่าการเสพข่าวก็เปลี่ยนแปลงไปเรื่อย สมัยนี้การเขียนข่าวชวนให้คนเปิดเข้าไปดูเพื่อเอายอดรับชม เนื้อหาข่าวไม่ได้มีอะไรเลย พาดหัวให้น่าตกใจ "สั่งไรเดอร์ซื้อก๋วยเตี๋ยวผัด ถึงเวลาเปิดห่อออกมาแล้วกำหมัดแน่นมาก" ข่าวแบบนี้ก็ขายได้นะ..? อ่านแล้วเครียดกันบ้างไหม ? หลวงพ่อเครียดอยู่คนเดียว อ่านแล้วกำหมัดแน่นมาก..!

ยุคสมัยเปลี่ยนแปลงไป การเสพข่าวก็เปลี่ยนแปลงไปด้วย เพียงแต่ว่าทำอย่างไรที่เราจะดึงตัวเองออกมาเป็นผู้ดู อย่าลงไปเล่นด้วย ก็คืออย่าไปยินดียินร้ายด้วย บางทีข่าวคราวเกิดขึ้น ทางด้านตัวต้นเหตุยังไม่ทันจะรู้เรื่องอะไรเลย คนลงนรกไปครึ่งประเทศแล้ว เพราะว่าไปเกิดอารมณ์ร่วม แล้วก็ไปคอมเม้นต์กันกระจาย จึงเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังกันเป็นอย่างสูง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-06-2023 เมื่อ 01:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 11 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #10  
เก่า 03-06-2023, 00:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,152 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

นักปฏิบัติธรรมของเราหน้าที่หลัก ๆ ก็คือดูใจตัวเอง มีความชั่วอยู่ในใจหรือไม่..? ถ้ามีให้เร่งขับไล่ออกไป มีความดีอยู่ในใจหรือไม่..? ถ้าไม่มีให้รีบสร้างขึ้นมา ถ้ามีอยู่แล้ว..ก็เร่งทำให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป หน้าที่ของเรามีแค่นี้เอง

แต่เราเองนอกจากไม่ขับไล่ความชั่วออกไปแล้ว ยังกอบโกยเข้ามาอีก ไปยินดียินร้ายกับสิ่งรอบข้างมาก ตัวเราก็เดือดร้อน เหมือนอย่างกับกินส้มตำใส่พริก ๓๐ เม็ด เผ็ดจนแทบจะหุบปากไม่ลง แต่ก็จะกิน รู้ว่ากินเข้าไปตัวเองต้องเผ็ดร้อน ลงไปในท้องก็ปวดท้องปวดไส้ ตอนเข้าส้วมยิ่งเดือดร้อนหนัก แต่ก็จะกิน..! ถ้าอย่างนั้นก็คงต้องสมน้ำหน้ากันแล้วกระมัง ?

เพื่อนฝูงในกลุ่มไลน์บอกว่า "ตอนนี้เฟซบุ๊กโดนแฮก ถ้าเขาใช้ชื่อผมไปขออะไร กรุณาอย่าให้นะครับ ไม่ใช่ผมแน่" เสียท่าพระอาจารย์เล็กอยู่อย่างก็คือ เจ้าอาวาสวัดท่าขนุนไม่มีเฟซบุ๊ก มีเฟซบุ๊กเป็นชื่อตัวเองอยู่หลายเฟซฯ แต่ไม่เคยเล่นเลย เพราะว่าเล่นไม่เป็น..!

ในเมื่อเล่นไม่เป็น คงไปขออะไรใครไม่ได้หรอก ไลน์ก็ได้แต่ดู พอถึงเวลาคนขอแอดไลน์ ได้แต่บอกไปว่า "ทำไม่เป็น" คนที่อยากได้จริง ๆ ก็ส่งโทรศัพท์ไปให้แล้วบอกว่า "มึงทำเองก็แล้วกัน กูใช้เป็นอย่างเดียว" เป็นคนโลว์เทคแบบนี้ก็ดีนะ โดนหลอกยาก..!

วันก่อนมีโทรศัพท์เข้ามา "ธนาคารกสิกรไทยสำนักงานใหญ่ค่ะ บัญชีของท่านมีการถอนเงินในลักษณะผิดปกติ กรุณารีบติดต่อศูนย์ประสานงานด่วน กด ๙" ก็บอกไปว่า "แล้วจะกดอย่างไรวะ ?"

ทางโน้นก็ตอบมาว่า "ธนาคารกสิกรไทยสำนักงานใหญ่ค่ะ...ฯลฯ" ซ้ำอีก ผ่านไป ๗ - ๘ ครั้ง ก็เลยบอกกับเขาว่า "กูไม่เคยเปิดบัญชีกับธนาคารกสิกรไทยเลย แล้วกูจะกดตรงไหนวะ !?" เขาคงไม่นึกว่าพระอาจารย์เล็กจะโง่ขนาดไม่มีบัญชี..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-06-2023 เมื่อ 01:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 11 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #11  
เก่า 03-06-2023, 00:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,152 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พวกนี้บางทีมาก็คุยกับเขาไปเรื่อยเลย เขาอยากจะหลอกก็ปล่อยให้เขาหลอกสักหน่อย เขาโทรมาบอกว่า "ตรวจสอบว่าท่านมีพัสดุที่ส่งของผิดกฎหมายมา ให้รีบติดต่อด่วน"

ก็ถามไปว่า "มีของอะไรบ้าง ? ราคาประมาณเท่าไร ? แล้วจะปรับอาตมาสักเท่าไร ? จะให้รีบโอนวันนี้เลยไหม ? รอได้หรือเปล่า ?" สนุกจะตาย ก็คุยกับเขาไปเรื่อย ๆ ก็เขาเหงา หาคนคุยด้วยไม่ได้ สงสารเขา..!

บางทีสี่ทุ่มห้าทุ่ม กริ๊งงง "ขอคุยด้วยได้ไหม..เหงา"
เน้นเสียงบอกเขาไปว่า "นี่วัดท่าขนุนครับ"
เขาก็ยืนยันว่า "ขอคุยด้วยหน่อย..กำลังเหงา" เขาเอาจริงแฮะ ! ที่อาตมาเลิกใช้โทรศัพท์ไปเลยก็เพราะเขานี่แหละ เหงาก็โทรไปหาคนอื่นสิวะ..!

เพื่อนกันก็เจอ มหาสุรินทร์ ปัจจุบันคือพระครูวัชรกาญจนาภรณ์ รองเจ้าคณะอำเภอท่าม่วง โทรศัพท์ดัง กริ๊งงง
ท่านก็รับ "ฮัลโหล"
เท่านั้นแหละ... "ไอ้เหี้ย..อยู่ไหนวะ ? เหล้าจืดหมดแล้ว !"
มหาสุรินทร์ก็เอ๋อรับประทาน "กูอยู่วัด"
เขาก็บอกว่า "แล้วมึงไปทำห่าอะไรที่นั่น ?"
"ก็กูเป็นเจ้าอาวาส"
"ตายห่า..พระนี่หว่า..!"
มหาสุรินทร์นั่งตาปริบ ๆ "กูยังไม่ทันทำอะไรเลย โดนทั้งเหี้ยทั้งห่า เอาไปฝูงหนึ่งเลย..!"

โทรผิด แต่ไม่ฟังเสียงอะไรเลย พอรับปุ๊บก็ด่าเลย อาตมาก็เจอ กริ๊งงง..กดรับสายเท่านั้นแหละ เขาไม่ฟังอะไรเลย "เฮีย..ห้องที่บุ๊กไว้ขอคอนเฟิร์มนะ" ก็เลยตอบไปว่า "เออได้..เดี๋ยวจัดการให้" ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจัดการหรือเปล่า ? กูบอกไปแล้วก็จบกันแค่นี้..!

ท้ายสุดต้องเลิกรับโทรศัพท์ ไม่เลิกก็ไม่ได้ เขาไม่นอนก็คิดว่าเราไม่นอนด้วย แล้วอาตมาเองถ้าหากว่าเกินทุ่มครึ่งไปแล้ว มาลาเรียจะขึ้น ไม่มีอารมณ์จะมาคุยกับเขาหรอก..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-06-2023 เมื่อ 01:21
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 12 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #12  
เก่า 04-06-2023, 01:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,152 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลังทำวัตรเช้า วันศุกร์ที่ ๑๔ เมษายน ๒๕๖๖

วันนี้หลังฉันเช้าแล้วจะมีการปลุกเสกพระสมเด็จคำข้าววัดท่าขนุน เนื่องจากว่าทางโรงงานสร้างเสร็จแล้ว ส่งมาถึงวัดเมื่อวานนี้

วันนี้พอดีเป็นวันศุกร์ ๙ ค่ำ ซึ่งเป็นฤกษ์ที่ดีที่สุด ก็เลยฉวยโอกาสปลุกเสกไปเลย จะได้มอบให้กับท่านทั้งหลายที่จองเอาไว้ด้วย ดาวศุกร์เป็นดาวเงินดาวทอง ศุกร์ ๙ ค่ำเป็นศุกร์ที่หายากมาก ถ้าใครจะร่วมพิธี เดี๋ยวหลังจากกินอาหารเช้าแล้ว ให้ไปหาที่นั่งรอบโบสถ์กัน

เมื่อวานด้วยความที่ไม่ทันสังเกต เห็นกิ่งไม้แห้งตกมาคาต้นไม้ ก็เลยไปดึงออก ปรากฏว่าลากเอาผึ้งลงมาทั้งรัง..! หล่นเต็มหัวเลย ยังโชคดีที่เกิดมาเป็นมิตรกับสัตว์ทุกชนิด ก็เลยไม่โดนอะไร

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-06-2023 เมื่อ 01:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 12 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #13  
เก่า 04-06-2023, 01:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,152 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ก่อนทำวัตรเย็น วันศุกร์ที่ ๑๔ เมษายน ๒๕๖๖

พรุ่งนี้นอกจากทำบุญเช้าแล้ว ก็มีงานพิเศษคือสรงน้ำพระ ปีนี้อาตมาจะนั่งให้ทุกคนสรงน้ำ ปกติให้พระ เณร กับแม่ชีเท่านั้น ส่วนพวกเราไปสรงตอนอุ้มพระ แต่ปีนี้แผลที่ผ่าตัดยังไม่หายดี ก็เลยคาดว่าให้สรงเฉพาะมือก็พอ ตอนอุ้มพระให้ไปอุ้มรูปอื่นก็แล้วกัน

พรุ่งนี้ทางด้านเทศบาลคาดว่าจะแห่หลวงพ่อทองคำมาถึงหน้าวัดประมาณ ๑๒.๓๐ น. ก็แปลว่าพวกเราทั้งหมดเมื่อเสียงตามสายจบ ก็ออกไปรวมกันที่หน้าวัด หรือว่าออกไปก่อนหน้านั้นก็ได้ เพราะว่าห้องใหญ่ใต้ฐานสมเด็จองค์ปฐม ๒๑ ศอกไม่ร้อน ยิ่งถ้าเปิดพัดลมดูดอากาศยิ่งไม่ร้อนใหญ่เลย

ที่ติดพัดลมดูดอากาศเนื่องจากเป็นโรงพยาบาลสนาม หลายท่านที่เคยเข้าไปก็จะสงสัยว่าทำไมมีห้องเล็กห้องน้อย ห้องเหล่านั้นสร้างเพิ่มขึ้นมาสำหรับหมอและพยาบาล นอกจากคอยดูอาการผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-๑๙ แล้ว ยังต้องเข้าไปดูแลรักษาด้วย ก็จะใส่ชุดป้องกัน PPE เข้าไปเต็มที่ ก็เลยต้องมีห้องกักเชื้อโรค ทางด้านขวามือจะเป็นห้องเข้าไปแต่งตัว เปิดทะลุออกไปหาผู้ป่วย ปฏิบัติหน้าที่เสร็จ วนเข้าอีกฝั่งหนึ่ง ถอดชุดทิ้งไว้เพื่อให้เขาเก็บไปเผา แล้วตัวเองก็ไปอาบน้ำสระผม เสร็จแล้วถึงจะกลับเข้าที่ทำงานได้

กาญจนบุรีมีศูนย์พักคอยทั้งหมด ๘๗ แห่ง มีเฉพาะของวัดท่าขนุนเท่านั้นที่เป็นโรงพยาบาลสนาม เพราะว่าของเรานอกจากมีเตียงสนาม มีเครื่องออกซิเจนแล้ว ยังมีแพทย์พยาบาลอยู่ประจำด้วย คนป่วยทุกคนอยากจะมาอยู่ที่นี่

คนป่วยอยากจะมาอยู่เพราะบอกว่าเป็นศูนย์ที่เย็นมาก ที่อื่นร้อนตับแตก ส่วนหมอพยาบาลที่อยากจะมาอยู่ อาตมภาพก็เพิ่งจะรู้ว่าเบี้ยเลี้ยงแพงมาก ขนาดลูกจ้างชั่วคราวหนึ่งเดือนยังฟาดไปเป็นหมื่นเลย เพราะฉะนั้น..หมอพยาบาลน่าจะได้มากกว่า ก็ยังสงสัยว่าทำไมแย่งกันมา ? นึกว่าใจดีมาช่วยงานหลวงพ่อ อ๋อ..ที่แท้ก็เบี้ยเลี้ยงสูงนี่เอง

โรงพยาบาลสนามของเราก็เพิ่งจะปิดไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นไปตามที่พระท่านบอก ก็คือพอสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ให้เลิกใส่หน้ากากได้ ตอนที่อาตมภาพประกาศ คนอื่นก็ว่าอาตมาบ้า แต่อาตมภาพฟันธงเลยว่าทองผาภูมิของเราจะต้องคอยจนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ ปรากฏว่าช่วงกฐิน ประมาณปลายตุลาคม ถึงต้นพฤศจิกายน ๒๕๖๕ เชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ระบาดหนักอีกรอบหนึ่ง เพราะว่าไปประมาทไม่สวมหน้ากาก ติดกันยกวัด ยกหมู่บ้านเลย แม้กระทั่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลก็ติดไปด้วย..!

จึงหายสงสัยว่าขณะที่คนอื่นเขาเลิกใส่หน้ากากกันแล้ว ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปี ๒๕๖๕ ทำไมพระท่านถึงสั่งว่าของเราให้เลิกสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ เพราะว่าจะรอระลอกสุดท้ายให้หายก่อนนี่เอง ส่วนปัจจุบันนี้ที่ใส่ก็เพื่อกันไข้หวัดใหญ่ สายพันธ์เอ

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
ปกิณกธรรมช่วงบวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรม สงกรานต์ ๒๕๖๖ ณ วัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๑๓ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๖ - วันจันทร์ที่ ๑๗ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย ทะเล)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-06-2023 เมื่อ 01:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 14 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 13:17



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว