กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๖ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนสิงหาคม ๒๕๖๖

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 29-08-2023, 18:25
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,530
ได้ให้อนุโมทนา: 216,747
ได้รับอนุโมทนา 743,668 ครั้ง ใน 36,232 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๖๖

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๖๖


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 30-08-2023, 00:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,566
ได้ให้อนุโมทนา: 151,678
ได้รับอนุโมทนา 4,410,912 ครั้ง ใน 34,156 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๒๙ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ ช่วงเช้า กระผม/อาตมภาพภาวนาพระคาถาเงินล้านไป ๑๐๘ จบ หลังจากนั้นก็ออกเดินทางไปยังวัดทองทั่ว หมู่ที่ ๔ ตำบลคลองนารายณ์ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ซึ่งห่างจากที่พักแค่ ๑๐ กว่ากิโลเมตรเท่านั้น

เมื่อไปถึง ปรากฏว่าทางวัดได้จัดเตรียมนิทรรศการต่าง ๆ เอาไว้ ให้ทางคณะตรวจประเมินได้ดูงาน ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องของเบญจศีลและเบญจธรรม โดยเฉพาะทางด้านเทศบาลพลับพลานารายณ์ ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่นั้น สนับสนุนให้ชาวบ้านมีอาชีพต่าง ๆ โดยเฉพาะเกี่ยวกับด้านสมุนไพร ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของน้ำมันนวด ลูกประคบ ตลอดจนกระทั่งครีม ซึ่งนอกจากรักษาโรคแล้ว ยังถนอมผิวอีกด้วย และยังมีข้าวปลาอาหารต่าง ๆ ซึ่งเป็นของพื้นที่ มีชื่อเสียง อย่างเช่นว่าหมูชะมวง เป็นต้น

ส่วนที่เห็นแล้วประทับใจเป็นอย่างยิ่ง ก็คือการตอกเส้นด้วยไม้ชองระอา ความจริงไม้ชองระอานั้น ตามหลักของไสยศาสตร์เขาเชื่อกันว่าสามารถที่จะถอนพวกไสยศาสตร์ต่าง ๆ ได้ แต่ว่าแพทย์แผนไทยทางด้านนี้ นำมาใช้ในการตอกเส้น รักษาอาการเส้นยึด เส้นจม ซึ่งช่วยให้หายเป็นปกติได้ แล้วก็ยังมีการเหยียบไฟรักษาโรค เหล่านี้เป็นต้น

แต่ว่าส่วนที่ประทับใจมากก็คือ บรรดามัคคุเทศก์น้อยจากโรงเรียนทองทั่ว บ้านเพนียด ทางด้านวัดทองทั่วนั้นมีพิพิธภัณฑ์บ้านเพนียดโบราณ ซึ่งเป็นลักษณะของเมือง
ขอมโบราณ ซึ่งสถานที่นั้นก็อยู่ใกล้เคียงกับทางด้านวัดทองทั่วนี้เอง แต่ว่าทางวัดนำเอาพวกวัตถุโบราณชิ้นเล็กชิ้นน้อยต่าง ๆ มาจัดแสดงไว้ในพิพิธภัณฑ์ แล้วฝึกเด็ก ๆ ให้เป็นมัคคุเทศก์น้อย ในการให้ข้อมูลต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับชิ้นส่วน หรือว่าอายุ ตลอดจนกระทั่งขนาดของเมืองโบราณเพนียด

แต่เมื่อกระผม/อาตมภาพแกล้งถามในส่วนที่เกินจากความรู้เด็ก ปรากฏว่ายังไม่สามารถที่จะตอบได้ หรือว่าให้รายละเอียดได้ อย่างเช่น เด็ก ๆ อธิบายว่านี่คือแหวนโบราณที่ได้มาจากเมืองโบราณเพนียด คนโบราณตัวใหญ่ แหวนจึงวงใหญ่มาก

กระผม/อาตมภาพชี้ให้ดูคนโทน้ำใบเล็ก ถามว่า "ในเมื่อแหวนวงใหญ่ขนาดนั้น ทำไมคนโทน้ำใบนี้จึงได้เล็กมาก ?" เด็ก ๆ ยังขาดจินตนาการที่จะตอบ จึงได้สอนให้ว่า เราต้องคิดว่าคนโบราณก็มีลูกมีหลานเหมือนกัน ถึงเวลาก็ปั้นของเอาไว้ให้ลูกเล่น ของพวกนี้จึงเป็นของเด็กเล่น ไม่ใช่ของใช้งานจริงของผู้ใหญ่ เป็นต้น

แล้วขณะเดียวกัน ก็สอนให้รู้ว่า ส่วนใดเรียกว่าเสานางเรียง ส่วนใดคือโคปุระ ส่วนใดคือทับหลัง อะไรที่เรียกว่าบราลี เป็นต้น ด้วยความประทับใจเด็ก ๆ ที่รับผิดชอบหน้าที่การงานได้แข็งขันมาก จึงได้มอบรางวัลให้ไปคนละ ๕๐๐ บาท สรุปว่าเจอมัคคุเทศก์น้อยอย่างเดียว กระผม/อาตมภาพหมดไป ๗,๐๐๐ บาทถ้วน..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-08-2023 เมื่อ 00:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 30-08-2023, 00:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,566
ได้ให้อนุโมทนา: 151,678
ได้รับอนุโมทนา 4,410,912 ครั้ง ใน 34,156 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลังจากนั้นก็ลงมาเดินดูอาหารต่าง ๆ ซึ่งเป็นของพื้นถิ่น มีทั้งขนมครกไข่นกกระทา มีทั้งกล้วยปิ้ง แต่ที่นี่เรียกว่า "กล้วยย่าง" เป็นเรื่องตลกที่ว่าทั่วประเทศไทยเรียกว่า "กล้วยปิ้ง" แต่ว่าที่บ้านเพนียดนี้เรียกว่ากล้วยย่าง โดยเฉพาะเต้าหู้ทอด ซึ่งใคร ๆ ก็เรียกว่า "เต้าหู้ทอด" แต่ทางด้านนี้เรียกว่า "ตะกั๋วทอด" ซึ่งกระผม/อาตมภาพฟังแล้ว ก็น่าจะมาจากภาษาจีนว่า "เต้ากัว" แต่ว่าออกเสียงแบบภาษาไทย ก็เลยกลายเป็น "ตะกั๋ว" ไป ซึ่งเรื่องพวกนี้ ถ้าหากว่าเรามีพื้นฐานของภาษาท้องถิ่นอยู่บ้าง ก็จะทำให้เราสามารถที่จะเข้าใจว่า คำทั้งหลายเหล่านั้นมาจากไหน ?

แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า ตั้งใจจะไปให้หมอตอกเส้น รักษาอาการออฟฟิศซินโดรม แต่ปรากฏว่าคนเข้าคิวเยอะมาก และโดยเฉพาะมาถึงก็ลงไปนั่งเลย คนมารยาทดีอย่างกระผม/อาตมภาพก็ได้แต่นั่งตาปริบ ๆ รอว่าเมื่อไรจะว่างสักที

จนกระทั่งพระคุณพระเทพปวรเมธี, รศ., ดร. (ประสิทธิ์ พฺรหฺมรํสี, ป.ธ.๙) ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ หน (กลาง) เดินทางมาถึง จึงได้พากันเข้าไปกราบหลวงพ่อทอง ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่ชาวบ้านเชื่อกันว่า สร้างขึ้นเมื่อตอนสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชมาตีเมืองจันทบุรี ดูจากพระพุทธรูปแล้ว ลักษณะเหมือนกับติดฝีมือช่างล้านช้างมาด้วย เพราะว่าหน้าตักค่อนข้างกว้าง แล้วเกศาเป็นแบบหนามขนุน แต่ว่าพระพักตร์ของพระพุทธรูปนั้นยิ้มอบอุ่นมาก รู้สึกว่าเห็นแล้วจะชอบใจมาก

พวกเราทั้งหมดซึ่งส่วนใหญ่แล้วฉันเพลมาจากที่พัก มีกระผม/อาตมภาพคนเดียวที่มาชิมภัตตาหารที่ทางด้านนี้จัดเป็นของดีของพื้นเมืองของเขา แล้วก็เลยเข้ามาร่วมสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์และชมนิทรรศการพร้อมกับคณะอีกรอบหนึ่ง แต่เนื่องจากว่ารายละเอียดของนิทรรศการมีมากจนน่าชื่นใจ เพราะว่าทางด้านนี้มีการสนับสนุนเกี่ยวกับสมุนไพรและแพทย์แผนไทยต่าง ๆ จำนวนมากต่อมากด้วยกัน ทำให้เวลาผ่านไปนานมาก จนกระทั่งถึงบ่าย ๒ โมง จึงต้องขึ้นไปทำพิธีเปิดการตรวจประเมินก่อน

กระผม/อาตมภาพแจ้งแก่บรรดาผู้มาร่วมงานว่า สถานที่นี้มีสิ่งที่ให้เราตรวจนั้นมากกว่าที่กำหนดเอาไว้ และเป็นหมู่บ้านเดียวที่ได้คะแนนสูงสุดจากการตรวจประเมินทั้งหมดในปีนี้จากกระผม/อาตมภาพ ซึ่งเป็นกรรมการเจ้าปัญหา ให้คะแนนยากมาก..!

ขอยืนยันว่าสิ่งที่ทางด้านบ้านเพนียดและวัดทองทั่วมีอยู่นั้น สมบูรณ์ดีแล้ว เพียงแต่ว่าขอให้ทางด้านเจ้าอาวาส คือพระครูจารุเขมากร, ดร. ประสานกับทางด้านศิลปากรเขต ส่งเจ้าหน้าที่มาอบรมมัคคุเทศก์น้อย เพิ่มเติมความรู้ด้านต่าง ๆ เกี่ยวกับเมืองโบราณบ้านเพนียด เพื่อที่ถึงเวลาแล้ว เด็ก ๆ จะได้มีความรู้มากกว่าที่ตนเองท่องจำเอาไว้ ซึ่งจะสามารถสร้างความประทับใจให้แก่บุคคลที่มาเยือน และบอกกันปากต่อปาก ช่วยให้มีรายได้เข้าสู่หมู่บ้านของเราเพิ่มขึ้นอีกมาก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-08-2023 เมื่อ 00:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 30-08-2023, 00:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,566
ได้ให้อนุโมทนา: 151,678
ได้รับอนุโมทนา 4,410,912 ครั้ง ใน 34,156 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อเสร็จสรรพเรียบร้อยจากการประเมิน และการถ่ายรูปหมู่แล้ว กระผม/อาตมภาพไม่ได้ตามคณะเข้าไปชมพิพิธภัณฑ์วัดทองทั่ว เนื่องเพราะว่าเข้าไปชมก่อนคนอื่นแล้ว หากแต่ว่าเดินทางไปยังที่พักในคืนนี้เลย แล้วก็จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนในขณะเดินทางอีกตามเคย เหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่ากว่าจะถึงที่พักในจังหวัดระยองนั้น ก็อาจจะเลยเวลาบันทึกเสียงธรรมไปมากแล้ว

โดยเฉพาะในส่วนของนิทรรศการต่าง ๆ ของวัดทองทั่วนั้นน่าชมมาก อย่างเช่นว่า ถ้าผิดศีลข้อไหน แล้วมีการลงโทษอย่างไร ถึงขนาดมีคนลงมานั่งอยู่ในกระทะ แล้วก็มีควันจากน้ำแข็งแห้งประกอบ อยู่ในลักษณะของการตกนรกเพราะการผิดศีลข้อที่ ๓ เป็นต้น

ส่วนการผิดศีลข้อที่ ๕ นั้น ก็มีมอเตอร์ไซค์เก่า ๆ พัง ๆ พร้อมกับบุคคล ๒ คนที่มีผ้าพันแผล ทั้งมือ ทั้งเท้า ทั้งศีรษะ พร้อมกับมีแต้มยาแดงเอาไว้ให้ดูด้วยว่า ถ้าเมาแล้วขับก็จะมีโทษอย่างนี้ ซึ่งนอกจากเรียกเสียงหัวเราะได้แล้ว ยังเห็นอย่างชัดเจนว่า ถ้าท่านผิดศีลแล้วจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง..!?

เรื่องพวกนี้ ถ้าหากว่าการจัดนิทรรศการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ในช่วงปลายปีทั้งประเทศที่วัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) แล้วนำไปจัดในลักษณะอย่างนี้ คาดว่าไม่ยากเลยที่บ้านเพนียดนี้มีโอกาสจะขึ้นเป็นหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ต้นแบบในระดับภาค หรือว่าในระดับประเทศทีเดียว เนื่องเพราะว่ามีแนวคิดในการนำเสนอที่เห็นเป็นรูปธรรมอย่างยิ่ง

ในส่วนที่เบาใจได้เลยก็คือว่า ทางเทศบาลตำบลพลับพลานารายณ์ก็ดี ทางด้านหมู่บ้านก็ตาม มีการสนับสนุนเกี่ยวกับงานอาชีพต่าง ๆ โดยเฉพาะด้านแพทย์แผนไทย ด้านผลิตภัณฑ์สมุนไพรต่าง ๆ ที่ทำให้ชาวบ้านมีอาชีพ มีการค้าขายทั้งทางออนไลน์และทางด้านหน้าร้าน ทุกคนมีรายได้เข้ากระเป๋า จึงทำให้มีอารมณ์ในการที่จะเข้าวัดปฏิบัติธรรม เพราะว่าถ้าท้องอิ่ม มีเงินจ่าย ก็จะทำให้ทุกคนตั้งใจที่จะหาความสงบทางใจ ด้วยการเข้าวัดปฏิบัติธรรมกันเอง

โดยเฉพาะท่านพระครูจารุเขมากร, ดร. เจ้าอาวาสวัดทองทั่วนั้น จบปริญญาเอกสาขาพัฒนาสังคมมา จึงทำให้ท่านใช้ความรู้ความสามารถในการพัฒนาท้องถิ่นของตนเอง จนกระทั่งทุกอย่างดีงามสมบูรณ์อย่างที่คณะกรรมการทุกคนได้เห็นและชื่นชมไปตาม ๆ กัน

อยากจะให้ทุกที่ได้มีการสนับสนุน ไม่ว่าจะทางด้านบ้าน วัด โรงเรียน ราชการ หรือว่าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันแบบทางด้านบ้านเพนียด วัดทองทั่วแห่งนี้ เชื่อว่าถ้าทุกที่เป็นในลักษณะอย่างนี้ โครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ของเรา จะมีความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมให้เห็นได้ทั่วประเทศอย่างแน่นอน

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๒๙ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-08-2023 เมื่อ 00:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 18:21



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว