กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๖ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมกราคม ๒๕๖๖

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 04-01-2023, 19:42
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 331
ได้ให้อนุโมทนา: 3,307
ได้รับอนุโมทนา 18,225 ครั้ง ใน 803 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๔ มกราคม ๒๕๖๖

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๔ มกราคม ๒๕๖๖



แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย พิชวัฒน์ : 04-01-2023 เมื่อ 21:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 04-01-2023, 23:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,125
ได้รับอนุโมทนา 4,405,159 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๔ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ กระผม/อาตมภาพได้เดินทางไปยังวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร ถนนมาลัยแมน หมู่ที่ ๒ ตำบลรั้วใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อถวายสักการะพระเดชพระคุณพระธรรมพุทธิมงคล (สอิ้ง สิรินนฺโท ป.ธ.๘) ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๑๔ ซึ่งทำบุญอายุวัฒนมงคล ๘๙ ปี เมื่อไปถึงพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านเห็นเข้าก็บอกว่า "ท่าขนุนมาจนได้ แบบนี้แปลว่ารักกันจริง..!"

เมื่อกระผม/อาตมภาพกราบถวายปัจจัยไทยธรรมแก่พระเดชพระคุณพระธรรมพุทธิมงคลแล้ว ก็อยู่ร่วมงานตักบาตรทำบุญอายุในช่วงเช้าของท่านจนเสร็จ โดยที่นั่งคุยอยู่กับพระเดชพระคุณพระราชวชิรโมลี (สมชาย พุทฺธญาโณ ป.ธ.๗) รองเจ้าคณะภาค ๑๔ วัดระฆังโฆสิตาราม วรมหาวิหาร กับท่านเจ้าคุณพระศรีธรรมภาณี (วัลลภ โกวิโล ป.ธ.๘), ดร. ซึ่งเป็นครูบาอาจารย์ของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เป็นนักพูดนักเทศน์ชื่อดังจากวัดประยุรวงศาวาส วรวิหาร

ท่านเจ้าคุณวัลลภได้ชื่นชมว่า กระผม/อาตมภาพออกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนได้เหมาะสมมาก เหตุเพราะว่าผู้คนในระยะหลังนี้ เวลาที่จะฟังธรรมมีไม่มากเหมือนก่อน แล้วขณะเดียวกัน เนื้อหา ถ้าหากว่าเป็นอรรถเป็นธรรมตรง ๆ ก็จะทำให้ขาดความน่าสนใจ แต่ว่าท่านอาจารย์พระครูสามารถที่จะเล่าเรื่องในชีวิตประจำวัน พร้อมกับแทรกธรรมะเข้าไปด้วย ถือว่าเป็นการเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่ดีมาก

ส่วนพระเดชพระคุณหลวงพ่อรองเจ้าคณะภาค ๑๔ นั้น ท่านได้กล่าวว่า ในเรื่องของการประชุมกรรมการในโครงการอบรมบาลีก่อนสอบของพรุ่งนี้นั้น ท่านเองต้องมีการประชุม ๒ รอบ ก็คือในรอบเจ้าคณะจังหวัดและรองเจ้าคณะจังหวัด ในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๔ แล้วถึงจะมาในรอบของเจ้าคณะอำเภอและรองเจ้าคณะอำเภอ ในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๔
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-01-2023 เมื่อ 02:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 04-01-2023, 23:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,125
ได้รับอนุโมทนา 4,405,159 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพก็ยังบอกว่าเป็นเรื่องที่ดีงาม เพราะว่าการประชุมบ่อย ๆ นั้น เป็น ๑ ในอปริหานิยธรรม ๗ ประการที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสเอาไว้ ว่าเป็นหลักธรรมที่ช่วยไม่ให้มีความเสื่อม ก็คือหมั่นประชุมกันเนืองนิตย์ พร้อมเพรียงกันประชุม พร้อมเพรียงกันเลิกประชุม เชื่อฟังพระเถระผู้เป็นประธานที่ประชุมนั้น เป็นต้น สิ่งทั้งหลายเหล่านี้พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติเอาไว้ให้กับเรามา ๒,๖๐๐ กว่าปีแล้ว

ในส่วนของการประชุมนั้น หลักใหญ่ก็คือทำความเข้าใจในเรื่องนั้น ๆ ให้ตรงกัน จะได้ดำเนินการไปในทิศทางเดียวกัน สนับสนุนซึ่งกันและกัน ซึ่งมีแต่จะช่วยให้หน่วยงานนั้นเข้มแข็ง ตลอดจนกระทั่งเจริญก้าวหน้าได้ง่าย

แต่ว่าพระสังฆาธิการของเราส่วนหนึ่งนั้นไม่ให้ความสำคัญกับการประชุม แต่ไปให้ความสำคัญกับกิจนิมนต์มากกว่า เพราะว่าการประชุมนั้นต้องเดินทางไกล ต้องเสียเวลา ตลอดจนกระทั่งไม่ได้รับปัจจัยไทยธรรมเพราะว่าเป็นหน้าที่ เมื่อมีกิจนิมนต์จึงละทิ้งการประชุม ไปรับกิจนิมนต์มากกว่า ยังดีที่ว่าคนทั้งหลายเหล่านี้เป็นแค่ส่วนน้อย ถ้าหากว่าเป็นส่วนมากแล้ว การคณะสงฆ์ของเราย่อมไปได้ไม่ถึงไหน

ดังนั้น..ในเรื่องของการประชุมจะเห็นว่าทางกระผม/อาตมภาพให้ความสำคัญอย่างที่สุด ดังที่ได้บอกกล่าวแก่ญาติโยมทั้งหลายแล้วว่า ถ้าหากว่าไม่ได้รับนัดหมายเอาไว้ก่อน ไปหากระผม/อาตมภาพที่วัดท่าขนุน โอกาสที่จะได้พบตัวนั้นน้อยมาก เพราะว่ากระผม/อาตมภาพให้ความสำคัญกับทางงานคณะสงฆ์มากกว่า

ดังนั้น..ถ้าหากว่ามีงานคณะสงฆ์ก็ดี มีการเรียนการสอนอย่างไรก็ตาม กระผม/อาตมภาพจะทิ้งกิจนิมนต์เพื่อที่จะไปในงานนั้น ๆ แทน เพราะว่าเป็นงานเพื่อส่วนรวม เพื่อความเจริญของคณะสงฆ์ เพื่อความมั่นคงและก้าวหน้าของทางคณะสงฆ์แทน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-01-2023 เมื่อ 02:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 04-01-2023, 23:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,125
ได้รับอนุโมทนา 4,405,159 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อช่วงวันปีใหม่ที่ผ่านมา กระผม/อาตมภาพเสียอ้อนวอนของลูกศิษย์ไม่ได้ ก็คือพระครูปัญญาวชิรกาญจน์ (ศักดิ์ดา ปญฺญาวชิโร, ป.ธ.๓) หรือว่าหลวงพ่อแหลม เจ้าอาวาสวัดใหม่รางวาลย์ เจ้าคณะตำบลพงตึก ที่ท่านจะหล่อสมเด็จองค์ปฐมทรงเครื่อง แล้วพยายามนิมนต์ให้กระผม/อาตมภาพไปร่วมงานทั้งที่เป็นวันอาทิตย์ โดยที่ท่านเองก็เป็นลูกศิษย์ มจร.มาก่อน แม้ว่าอายุกาลพรรษาของท่านจะมากกว่า ท่านก็ลดตัวลงมานิมนต์ในฐานะลูกศิษย์ กระผม/อาตมภาพจึงต้องสละเวลาในการปฏิบัติธรรมวิ่งไปให้

โดยที่อยากจะเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมทั้งหลายไว้ ณ ที่นี้ว่า สมเด็จองค์ปฐมนั้นไม่ใช่ลิขสิทธิ์ของหลวงพ่อเล็ก หรือว่าพระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุน ท่านจะสร้าง ท่านจะเสริมอย่างไรก็ตาม ท่านจะต้องทำการบวงสรวงบอกกล่าวด้วยตนเอง

ถ้าหากว่าจะนับว่าเป็นลิขสิทธิ์ ควรที่จะเป็นลิขสิทธิ์ของทางวัดท่าซุงมากกว่า เพราะว่าผู้ที่เปิดเผยเรื่องราวของสมเด็จองค์ปฐมให้ปรากฏต่อสาธารณชนนั้น พระเถระรูปแรกที่กล่าวถึงอย่างชัดเจนก็คือ พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุงนั่นเอง ครูบาอาจารย์ท่านอื่น ๆ ก็มักจะกล่าวว่าเป็นพระพุทธเจ้าองค์ต้นธาตุต้นธรรมบ้าง พระพุทธเจ้าองค์แรกของโลกบ้าง ซึ่งไม่ได้กล่าวตรง ๆ แบบนี้

ดังนั้น..เมื่อกระผม/อาตมภาพมาสร้างสมเด็จองค์ปฐม ก็คือสร้างตามปฏิปทาของพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ที่ต้องการยกย่องเกียรติคุณของหลวงพ่อสมเด็จองค์ปฐมให้ปรากฏชัดขึ้นในโลก ไม่ใช่เจ้าของลิขสิทธิ์ อยากจะทำ ไม่ต้องมาขออนุญาตทางวัดท่าขนุน หรือถ้าหากว่าอยากจะทำในแบบเดียวกันจริง ๆ โดยที่ไม่เปลี่ยนแปลงแบบเป็นอื่น ๆ ก็ให้ขออนุญาตไปทางวัดท่าซุงแทน

หวังว่าการบอกกล่าวในครั้งนี้คงจะชัดเจนเพียงพอ ขอทุกท่านอย่าได้เข้าใจผิดอีกว่าการสร้างสมเด็จองค์ปฐมนั้น ต้องขออนุญาตจากวัดท่าขนุน เป็นความเข้าใจผิดไปคนละโลกกับความเป็นจริงเลยทีเดียว..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-01-2023 เมื่อ 02:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 04-01-2023, 23:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,125
ได้รับอนุโมทนา 4,405,159 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลังจากที่ร่วมการตักบาตรทำบุญในช่วงเช้าสำเร็จเรียบร้อย ซึ่งบรรดาพระเถระที่มารับบาตรนั้น ส่วนใหญ่ก็เป็นเจ้าคณะอำเภอ รองเจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบลและเจ้าอาวาสในเขตจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งส่วนหนึ่งก็เป็นลูกศิษย์ที่กระผม/อาตมภาพเคยสอนมา ไม่ว่าจะที่วิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาศรีทวารวดีก็ดี หรือว่าวิทยาลัยสงฆ์สุพรรณบุรีศรีสุวรรณภูมิก็ตาม จึงไม่ได้รู้สึกแปลกแยกแม้แต่นิดเดียว

กระทั่งพิธีกรในงานซึ่งเป็นฆราวาส ก็ยังประกาศว่ากระผม/อาตมภาพนั้นได้ร่วมบุญกับทางด้านจังหวัดสุพรรณบุรีไปหลายล้านแล้ว ซึ่งการประกาศในลักษณะนี้อาจจะเป็นการ "หางานเพิ่ม" ให้กระผม/อาตมภาพก็เป็นได้..!

เมื่อกราบลาพระเดชพระคุณท่านแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ตรงไปยังวัดน้อย ซึ่งหลายคนใช้คำว่า "วัดหลวงพ่อเนียม" เพื่อที่จะเยี่ยมเยียนเพื่อนฝูงก็คือ พระครูใบฎีกาสามารถ ขนฺติวโร เจ้าอาวาสวัดน้อย เจ้าคณะตำบลโคกคราม เขต ๒ ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นพระอุปัชฌาย์

ท่านได้รับพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานตั้งสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตรที่พระครูขันติวรานุสิฐ ซึ่งท่านเองก็ดีอกดีใจมากที่กระผม/อาตมภาพในฐานะเพื่อนร่วมรุ่นและประธานของรุ่น อุตส่าห์ไปเยี่ยมเยียนจนถึงที่พัก โดยที่ไม่ได้นัดแนะเอาไว้ก่อน

หลังจากที่ถวายปัจจัยไทยธรรมแก่ท่านแล้ว ท่านก็ได้ถวายรูปของหลวงปู่เนียม วัดน้อย ซึ่งเป็นรูปแบบเก่าที่ใหญ่มาก ถ้าถามว่าใหญ่มากแค่ไหน ? กรอบด้านกว้างก็น่าจะถึง ๒๔ นิ้ว ด้านยาวน่าจะถึง ๓๐ นิ้ว เป็นต้น เพราะว่ากระผม/อาตมภาพเอาใส่มาในรถ ต้องบอกว่าเกือบจะเต็มคันรถพอดี..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-01-2023 เมื่อ 02:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 04-01-2023, 23:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,125
ได้รับอนุโมทนา 4,405,159 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อพูดคุยกันจนหายคิดถึง ไถ่ถามสารทุกข์สุขดิบที่ท่านไปผ่าตัดลำไส้มา ได้ยินว่าแข็งแรงขึ้นแล้ว แต่ว่ายังมีอาการแสบร้อนบริเวณบาดแผลอยู่ ซึ่งเป็นอาการปกติ เพราะว่าในบริเวณนั้น เส้นเลือดก็ดี เส้นประสาทก็ดี โดนผ่าตัดขาดไป เมื่อถึงเวลาเลือดลมวิ่งไปถึงจุดนั้น ไม่สามารถที่จะไปต่อได้ เกิดอาการอั้นขึ้นมาก็จะแสบร้อน แต่ว่าในช่วงนี้ยังไม่กระไรนัก ถ้าหากว่าช่วงอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ๆ จะรู้สึกเจ็บปวดแสบร้อนเป็นปกติ ซึ่งอาการทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าเราเห็นเป็นเรื่องปกติก็จบกัน แต่ถ้าเราเห็นไม่เป็นเรื่องปกติก็จะเครียดมาก

ท่านได้บอกว่าปัจจัยไทยธรรมที่กระผมถวายไปนั้น ท่านขอนำเข้ากองทุนสงฆ์อาพาธของทางวัดน้อย เพื่อเป็นการเลียนแบบปฏิปทาที่กระผม/อาตมภาพตั้งกองทุนรักษาพยาบาลรักษาพระภิกษุสามเณรวัดท่าขนุน

พวกเราได้เคยปรารภกันว่า ในเรื่องของการซ่อมก็ดี ในเรื่องของการสร้างก็ดี ในวัดวาอารามต่าง ๆ นั้น ถ้าหากว่าครูบาอาจารย์ที่ท่านมีชื่อเสียงเกียรติคุณ เป็นที่เคารพนับถือของประชาชน การหางบประมาณมาทำการนั้น ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ว่าพอไปถึงเจ้าอาวาสรูปถัดไป ก็มักจะเกิดปัญหา โดยเฉพาะถ้าหากว่าของเก่าสร้างเอาไว้มาก ของใหม่หรือเจ้าอาวาสใหม่นั้นก็จะต้องทำการบูรณปฏิสังขรณ์ เพื่อคงความเจริญรุ่งเรืองเอาไว้ให้เหมือนเดิม ซึ่งจำเป็นที่จะต้องใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก

ดังนั้น..เจ้าอาวาสเก่า ถ้าหากว่ามีชื่อเสียงเกียรติคุณมากพอ ก็ควรที่จะหากองทุนบูรณปฏิสังขรณ์วัดวาอารามทิ้งเอาไว้บ้าง เพื่อที่ให้ท่านที่มาทีหลังจะได้ไม่ต้องลำบากในการหาปัจจัยมาบูรณะวัดให้มั่นคงแข็งแรงเหมือนเดิม

หลังจากนั้นกระผม/อาตมภาพก็ได้ลาท่านออกมา กราบสังขารหลวงปู่เนียม วัดน้อย ซึ่งเป็นหุ่นขี้ผึ้ง เมื่อกราบครูบาอาจารย์รับพรจากท่านเรียบร้อยแล้ว ก็เดินทางกลับยังที่พัก

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๔ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-01-2023 เมื่อ 02:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 21:46



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว