|
เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#61
|
||||
|
||||
พระอาจารย์เล่าว่า "ช่วงนี้เป็นช่วงคัดเลือกทหารเกณฑ์ ซึ่งมักจะมีทหารสวย ๆ เยอะมาก เมื่อวานมีคนส่งรูปน้องลูกเม่น (นายณริศรา โอนวัง) มาให้ดู นายคนนี้สวยจริง ถามว่าทำไมสวยจริง ? เพราะว่าเป็นธรรมชาติ ไม่ได้เสริม ไม่ได้แต่ง ไม่ได้สวยด้วยมีดหมอ
สมัยนี้ส่วนใหญ่ของการคัดเลือกทหาร มักจะมาสมัครกันเต็ม เพราะว่าตอนนี้เงินเดือนทหารไม่ขี้เหร่แล้ว พลทหารเริ่มต้นที่ ๙,๐๐๐ บาท ทหารใหม่ปีแรกเงินเดือน ๙,๐๐๐ บาท รุ่นของอาตมานี่ขนาดเป็นนักเรียนนายสิบยังแค่ ๗๐๐ บาท จบมาแล้วเงินเดือน ๑,๙๘๐ บาท แล้วก็มีช่วยเหลือค่าครองชีพเพิ่มอีก ๒๗๐ บาท รวมได้ประมาณ ๒,๒๕๐ บาท นั่นขนาดติดยศนายสิบรับราชการไปแล้ว แต่ว่าเงินเดือนสมัยนั้นกับเงินเดือนสมัยนี้ต่างกันมาก เพราะว่าสมัยโน้นเงินเดือน ๒ พันกว่าบาทซื้อทองได้หนึ่งบาท จำได้ว่าเงินเดือนออกครั้งแรก อาตมาซื้อทองให้แม่ ๑ บาท ยังเหลือเงินอีก ๒๐๐ กว่าบาท"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-04-2021 เมื่อ 10:28 |
สมาชิก 177 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#62
|
||||
|
||||
"สมัยนี้ถ้าจะให้เงินเดือนพอที่จะซื้อทองได้หนึ่งบาท ก็ต้องเกือบ ๓๐,๐๐๐ บาท แต่สมัยนั้นแค่ ๒,๐๐๐ กว่าบาท สมัยโน้นพอเป็นจ่าสิบเอกเต็มขั้นก็ได้เงินเดือน ๔,๘๐๐ บาท ก็เลยไม่มีใครอยากจะเป็นนายร้อยกัน เพราะว่าจ่าสิบเอกขั้น ๑๘ เป็นนายสิบอาวุโส ทำหน้าที่นายทหาร ได้เงินเดือน ๔,๘๐๐ บาท แต่พอขึ้นเป็นร้อยตรีต้องมารับเงินเดือนร้อยตรีขั้น ๓ ซึ่งอยู่ที่ ๒,๒๐๐ บาท ก็เลยไม่มีใครอยากจะเป็นนายร้อยกัน
ยกเว้นแค่ ๖ เดือนสุดท้ายก่อนเกษียณ ประมาณช่วงเดือนเมษายน ก็จะทำเรื่องขอยศร้อยตรีเพื่อที่จะได้เป็นเกียรติของวงศ์ตระกูล คือเงินเดือนไม่อยากได้แล้ว คราวนี้อยากได้กระบี่พระราชทาน เพราะว่านายร้อยจะต้องมีกระบี่พระราชทาน เพื่อเป็นเกียรติประวัติแก่วงศ์ตระกูลว่าเป็นนายทหารสัญญาบัตรเหมือนกัน ตอนนั้นจะเกษียณแล้ว จึงยอมรับเงินเดือนสองพันกว่าบาท คนที่เป็นนายสิบอาวุโสเงินเดือนเต็มขั้น ๔,๘๐๐ บาท ไม่มีใครอยากที่จะลงมาเป็นนายร้อย เพราะว่าส่วนใหญ่มีครอบครัว มีลูกมีเมีย ถ้าเงินเดือนหายไปตั้งครึ่งตั้งค่อน จะเอาอะไรไปเลี้ยงลูกเลี้ยงเมีย ? ก็เลยตัดสินใจเป็นแค่จ่าแก่ ๆ ไปก่อนดีกว่า"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-04-2021 เมื่อ 10:30 |
สมาชิก 175 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#63
|
||||
|
||||
"อย่างเพื่อนของอาตมาก็เหมือนกัน พรรคพวกไปพันโท พันเอกกัน จ่าสุรสิทธิ์ พอใจอยู่แค่จ่า บอกว่า "ผมส่งลูกสาวจบปริญญาโทแล้วครับหลวงพี่ ตอนนี้เกษียณแล้ว สบายใจแล้ว ลูกเขาหากินเองได้แล้ว" งวดก่อนมาชวนไปพบปะเพื่อนร่วมรุ่น อาตมาถามว่า "กี่โมง ?" คำตอบคือ "ห้าโมงเย็น" ก็บอกไปว่า "กูไม่ไปหรอก ชวนไปดูมึงกินกันนี่หว่า..!"
เพื่อนในรุ่นเดียวกันก็สูงสุดอยู่ที่พันเอก เพราะว่ามาจากนายสิบ ส่วนใหญ่แล้วเขาไม่ค่อยมีตำแหน่งว่างให้ ตำแหน่งว่างมาเมื่อไร ก็จะให้นายร้อย จปร. ก่อน หลังจากนั้นก็ให้นายร้อยสำรอง หลังจากนั้นถึงมาให้ นป. ซึ่งคือนายทหารที่มาจากชั้นประทวน (นายสิบ) ก็เลยทำให้ขึ้นไปตำแหน่งสูง ๆ กันยาก ฉะนั้น..ถ้าหากว่าขึ้นพันโทพันเอกแล้ว ส่วนใหญ่ก็ขอเกษียณอายุก่อนกำหนด เพื่อนคนหนึ่งก็คือพันโทประสิทธิ์ พุฒตาล ขอเกษียณอายุก่อนกำหนดตอนอายุ ๕๘ ปี ตอนนี้ก็สบายใจ มีบำนาญ มีสวัสดิการรักษาพยาบาล ครอบครัวก็สบาย เพราะว่าทางด้านภรรยาก็รับราชการ"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-04-2021 เมื่อ 10:32 |
สมาชิก 174 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#64
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "มีอยู่ข่าวหนึ่งที่น่าสนใจมากก็คือ การที่เรือยักษ์เอเวอร์ กิฟเว่น ของบริษัทเอเวอร์กรีน ไปโดนพายุแล้วขวางคลองสุเอซอยู่ ซึ่งเท่ากับว่าปิดคลองไปโดยปริยาย
เด็กรุ่นหลัง ๆ ไม่ค่อยได้เรียนภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ บางทีไม่รู้ว่าคลองสุเอซคืออะไร ? คลองสุเอซเป็นคลองที่มนุษย์ขุดขึ้นมาเพื่อเป็นทางลัด ทำให้เรือสินค้าไม่ต้องอ้อมแหลมกู๊ดโฮปทั้งแหลม ที่จะทำให้เสียเวลาในการเดินทางอีกครึ่งค่อนเดือน ยิ่งถ้าหากว่าเป็นเรือสมัยโบราณก็จะเสียเวลาไปอีกหลายเดือน ฟังแล้วก็ "น้ำตาจิไหล" เพราะว่านอกจากจะไม่รู้ว่าคลองสุเอซอยู่ที่ไหน ? ก็ยังไม่รู้อีกว่าแหลมกู๊ดโฮปคืออะไร..!??"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-04-2021 เมื่อ 10:33 |
สมาชิก 180 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#65
|
||||
|
||||
"เรือลำนี้ใหญ่มาก ความกว้าง ๔๙ เมตร ความยาว ๔๐๐ เมตร น้ำหนักบรรทุกเกือบ ๒๒๐,๐๐๐ ตัน เป็นเรื่องแปลก ตรงที่ว่าบริษัทญี่ปุ่นเป็นเจ้าของ บริษัทไต้หวันเช่าดำเนินการ จดทะเบียนเป็นเรือสัญชาติปานามา ดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่เยอรมัน ลูกเรือเป็นอินเดีย ฟังแล้วกูจะบ้า..! ถ้าไม่ใช่ความจำขนาดพระอาจารย์เล็ก จะจำได้ไหมว่ายุ่งขนาดไหน ?
เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะว่าทางด้านปานามานี่เขาเก็บภาษีน้อย เพราะฉะนั้น..เรือสินค้าส่วนใหญ่จะไปจดทะเบียนเป็นเรือสัญชาติปานามากัน จะชักธงปานามาขึ้น แต่ให้รู้ว่าเจ้าของเรือจริง ๆ เป็นญี่ปุ่น บริษัทที่เช่าเรือเพื่อเอาไปใช้งานก็คือบริษัทของไต้หวัน ก็คือเช่าเรือญี่ปุ่นเอาไปขนสินค้าหากำไรให้ตัวเอง ปรากฏว่าตอนนั้นเป็นช่วงจังหวะที่พายุทรายพัดเข้ามาพอดี แล้วเรือก็บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์เต็มเรือ ทำให้ต้านลมมาก ถูกพายุทรายพัดเอียง ขวางคลองเพราะว่าหัวท้ายไปเกยกับสันดอนทราย คราวนี้การที่คลองสุเอซอยู่ ๆ โดนปิดจนเรือสินค้าอื่น ๆ ผ่านไม่ได้ เขาบอกว่าค่าเสียหายในแต่ละวันเป็นหมื่นล้านดอลลาร์..! แล้วก็เกิดนักเลงดีสองประเทศ ก็คือจีนกับรัสเซีย แนะนำว่าให้ไปใช้เส้นทางทะเลเหนือดีกว่า ทะเลเหนือนี่ส่วนใหญ่แล้วเป็นน้ำแข็ง แต่ว่าช่วงปีที่ผ่านมาด้วยภาวะโลกร้อนทำให้น้ำแข็งละลาย ทางด้านเรือสินค้าของจีนกับรัสเซียวิ่งผ่านทะเลเหนือ เร็วกว่าผ่านคลองสุเอซมาก ค่าใช้จ่ายน้อยกว่า ก็เลยมีการโปรโมทเส้นทางทะเลเหนือกันขึ้นมา"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-04-2021 เมื่อ 10:35 |
สมาชิก 171 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#66
|
||||
|
||||
"พวกเราก็ไม่รู้อีกว่าทะเลเหนือ ทะเลบอลติกคืออะไร ? อาตมาก็ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้วว่ะ..! รุ่นอาตมานี่เด็กต้องหลับตาวาดแผนที่โลกได้ รุ่นนี้ไม่ได้ทำกัน..!
ที่พูดนี่เพราะว่าบ้านเราน่าจะขุดคอคอดกระมานานแล้ว ถ้าขุดคอคอดกระก็ไม่ต้องอ้อมแหลมมะละกา แบบเดียวกับที่ขุดคลองสุเอซก็ไม่ต้องอ้อมแหลมกู๊ดโฮป ประหยัดค่าใช้จ่ายไปมาก โดยเฉพาะการขนถ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงจากตะวันออกกลางเข้าทะเลจีนใต้ ไม่ว่าจะไปจีน ไปญี่ปุ่น ไปเกาหลี ประหยัดระยะเวลาไปเป็นอาทิตย์ แล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาเก็บค่าผ่านทางอย่างเดียวพอ แบบเดียวกับที่อียิปต์เก็บค่าผ่านทางคลองสุเอซ ปีหนึ่งเก็บได้หกแสนกว่าล้านดอลลาร์..! ของไทยเราไม่ต้องถึงระดับดอลลาร์หรอก ถ้าเป็นหกแสนล้านเงินบาทก็พอแล้ว ช่วยพัฒนาประเทศได้เยอะมาก"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-04-2021 เมื่อ 10:35 |
สมาชิก 175 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#67
|
||||
|
||||
"ประเทศจีนเต็มใจจะขุดให้ฟรี ๆ เพียงแต่ขอสัมปทานกี่ปี ๆ เพื่อที่จะเก็บค่าต๋ง อันนั้นก็แล้วแต่เขา แต่ว่าไทยเรามี ๒ สาเหตุด้วยกัน
สาเหตุแรกก็คือ กลัวว่าเป็นปัญหาแบ่งแยกดินแดน เพราะว่าพอขุดคอคอดกระแล้วพื้นที่ช่วงล่าง ตั้งแต่ระนองลงไปก็เท่ากับว่าขาดลอย แต่จริง ๆ แล้วไม่ได้ขาดหรอก ถ้าเป็นอาตมาก็ขุดอุโมงค์ใต้ดินเลย ประเภททำทางรถลอดใต้ทะเลไปสัก ๓ - ๔ เส้น แต่ละเส้นมี ๑๒ เลน ๑๘ เลนก็ไม่มีใครว่า ก็เท่ากับเชื่อมแผ่นดินเอาไว้ ส่วนอีกสาเหตุหนึ่งก็คือ มีคนอยากได้ผลประโยชน์มากกว่าที่เขาเสนอให้ แล้วส่วนใหญ่ผู้มีอำนาจในแผ่นดินของเรา ถ้าไม่คอรัปชั่นแล้วจะครั่นเนื้อครั่นตัว ไข้จะกิน...! ก็เลยตกลงกันไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่ไม่ต้องเสียอะไรเลย นอกจากให้สัมปทานเขา ซึ่งตกลงต่อรองกันได้ อย่างเช่นว่าเขาต้องการสัก ๓๐ ปี เราก็ต่อรองลงมาให้เหลือสัก ๒๐ ปี ให้เก็บสัมปทานไป ๒๐ ปี แล้วต่อมาถ้าหากว่าดำเนินการเก่ง ถึงเวลาเราอาจจะให้เขาเก็บสัมปทานส่งเรา แล้วเราค่อยตัดเปอร์เซ็นต์ให้เขา หรือเราจะเข้าไปเก็บเองก็ไม่มีใครว่า แต่บ้านเราอะไรที่สร้างความเจริญให้ เขาไม่ค่อยจะทำกัน เพราะว่าทำแล้วไม่มีเงินเข้ากระเป๋า ส่วนอะไรที่ทำแล้วมีเงินทอน เขาใช้คำว่าเงินทอน ซึ่งไม่น่าใช่ ต้องใช้คำว่ามีเงินเหลือ มีเงินเหลือเข้ากระเป๋ามาก ๆ เขาถึงจะทำกัน"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-04-2021 เมื่อ 10:37 |
สมาชิก 173 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#68
|
||||
|
||||
"เมื่อไปนึกถึงในหลวงรัชกาลที่ ๙ บุคคลที่มีกำลังใจทุ่มเทเพื่อประชาชนจริง ๆ แบบพระองค์ท่านมีน้อย ไม่ใช่ไม่มีนะ มีน้อย..ยังน้อยเกินไป ที่พระองค์ท่านมีพระราชดำรัสว่า ให้สนับสนุนให้คนดีมีอำนาจในการปกครองมากกว่า ก็จะช่วยให้ประเทศชาติเจริญได้ คราวนี้คนดีที่สนับสนุนขึ้นมา ก็เป็นดีของเขา ไม่ใช่ดีของเรา และไม่ใช่ดีของพระพุทธเจ้า ถ้าคนดีของพระพุทธเจ้านี่จะดีที่สุด
ก็เลยกลายเป็นปัญหาคาราคาซังกันอยู่ แม้กระทั่งการซื้อวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-๑๙ ก็ต้องมีการผูกขาด มีการเจรจาเก็บค่าต๋ง ซื้อวัคซีนของคุณกี่แสนโด๊ส ต้องให้ผมเท่าไร ? ถ้าบ้านเราปล่อยให้เอกชนนำเข้าวัคซีนได้ ป่านนี้วัคซีนท่วมประเทศไปแล้ว และก็อาจจะฉีดกันจนตายไปมากมายหลายศพแล้ว ไม่ใช่เอามาลองกับพระ ให้พระตายก่อน คุยมากแล้วเครียด.. เอาแค่นี้แหละ..!"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-04-2021 เมื่อ 10:38 |
สมาชิก 179 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#69
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "เขาส่งคลิปแฉกลโกงขโมยเงินในบัญชีจากสลิปธนาคารมาให้ดู พระอาจารย์เล็กสั่งปิดบัญชีทุกบัญชีที่ใช้บัตรเอทีเอ็ม ยกเลิกการใช้บัตรเอทีเอ็ม บอกทางธนาคารว่าจะไปเบิกเงินด้วยตัวเองอย่างเดียว
เจ้าหน้าที่ธนาคารบอกว่า "ไม่สะดวกนะครับ" "ไม่สะดวกนะคะ เพราะว่าหลวงพ่อจะใช้ไอแบงกิ้งไม่ได้" อาตมาบอกว่า "โยมทำมา ให้อาตมาใช้ไอแบงกิ้งให้ได้ ไม่อย่างนั้นจะย้ายไปฝากธนาคารอื่น" ก็เห็นว่าทำให้ได้..! ตอนแรกเขาบอกว่าไม่มีบัตรเอทีเอ็มแล้วจะใช้ไอแบงกิ้งไม่ได้ แต่พอจะย้ายธนาคารก็ทำได้เลย แสดงว่าที่เขาว่ามานั้นไม่จริง อาตมาก็แค่เข้าไปเช็คดูแค่นั้นเองว่า เงินเข้าเท่าไร เงินออกเท่าไร เวลาโยมโอนเงินเข้าบัญชีแล้วแจ้งยอดมา จำนวนเงินตรงหรือไม่ตรงกันอย่างไร ก็เท่านั้น ไม่ได้เบิก ไม่ได้โอน ไม่ได้อะไรทั้งนั้น ถ้าอยู่ ๆ เงินหายแสดงว่าธนาคารมีปัญหา ไม่ใช่อาตมา เพราะว่าทุกครั้งที่เบิกเงินจะไปเบิกด้วยตัวเอง"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-04-2021 เมื่อ 10:39 |
สมาชิก 171 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#70
|
||||
|
||||
"ถามว่าทำไมถึงเป็นอย่างนี้ ? เพราะว่าอาตมาบอกไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่า บ้านเรายังไม่มีความพร้อมในเรื่องของการใช้ไอแบงกิ้ง ยังสามารถที่จะขโมยเงินกันได้ง่าย ๆ เพราะว่าระบบป้องกันยังไม่ดีพอ
ล่าสุดที่ผ่านมาที่หลวงพ่อเจ้าอาวาสฝากเงินไว้ ลูกศิษย์เบิกไปเป็นล้าน ๆ เหลือให้หลวงพ่อ ๗๐ บาท..! ถามว่า "ทำไมทำได้ ?" ก็เพราะว่าตอนที่เปิดบัญชี ลูกศิษย์เอาบัตรประชาชนของหลวงพ่อไป ไปทำบัตรเอทีเอ็มและไอแบงกิ้ง แต่ไม่ได้บอกหลวงพ่อ บอกแค่ว่าใช้บัตรประชาชนเพื่อเปิดบัญชี พอได้บัตรมา ได้รหัสมา ลูกศิษย์ก็จัดการเองหมด หลวงพ่อมารู้ตอนจะจ่ายค่าแรงคนงาน เหลือเงินในบัญชีตั้ง ๗๐ บาท..! เรื่องแบบนี้ต้องบอกว่า เผชิญสถานการณ์แล้วสามารถระงับ รัก โลภ โกรธ หลง ได้ จึงกล่าวได้ว่าเป็นผู้มีศีล มีสมาธิ มีปัญญาอย่างแท้จริง ถ้าเจอสถานการณ์แล้วไม่สามารถระงับ รัก โลภ โกรธ หลง ได้ ก็ยังไม่มีศีล ไม่มีสมาธิ ไม่มีปัญญาอย่างแท้จริง เอวัง...ก็มีด้วยประการฉะนี้"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-04-2021 เมื่อ 10:40 |
สมาชิก 168 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#71
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "เมื่อครู่อาตมาเพิ่งจะเซ็นสัญญาจ้างบริษัทรับเหมา ทำทางเดินรอบทางรถไฟสายมรณะ พูดง่าย ๆ ว่าทางเดินชมนั่นแหละ เป็นเงิน ๕ ล้านบาท ตกตารางเมตรละ ๑๓,๐๐๐ บาท"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-04-2021 เมื่อ 10:41 |
สมาชิก 174 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#72
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "ช่วงนี้บ้านเราเข้าฤดูร้อน ซึ่งโดยปกติแล้วเขาบอกว่าเชื้อไวรัสโควิด-๑๙ ไม่ชอบอากาศร้อน แต่ไป ๆ มา ๆ ก็ดูท่าจะไม่จริง เพราะว่าประเทศในตะวันออกกลางที่ร้อนกว่าเรามาก ก็ยังมีเชื้อไวรัสแพร่ระบาดกันเป็นวงกว้าง
ในปัจจุบันมีวัคซีนหลายยี่ห้อที่ฉีดเพื่อป้องกันไวรัส แต่ปรากฏว่ายิ่งฉีดมากก็ยิ่งตายมาก เพราะว่าวัคซีนก็คือการรับเอาเชื้อโรคเข้าไปในร่างกาย เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาต่อสู้กับเชื้อโรค ถ้าภูมิคุ้มกันแข็งแรงกว่า เชื้อโรคก็ต้องถอยไป แต่เนื่องจากว่าวัคซีนได้รับการคิดค้นมาแบบเร่งด่วน ไม่ได้ผ่านขั้นตอนที่ควรจะเป็น ก็เลยทำให้มีข้อผิดพลาด ฉีดไปแล้วก็มีผู้เสียชีวิต และอาจจะเป็นสาเหตุให้โรคแพร่ระบาดหนักขึ้น เพราะไปเข้าใจผิดคิดว่าฉีดไปแล้วจะไม่ติดเชื้อไวรัสโควิด-๑๙"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-04-2021 เมื่อ 10:41 |
สมาชิก 171 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#73
|
||||
|
||||
"ในเรื่องของวัคซีน ถ้าจะให้มีผลก็ต้องฉีดให้ได้อย่างน้อย ๗๐ - ๘๐ เปอร์เซ็นต์ของประชากร ซึ่งถ้าหากว่าเป็นวัคซีนปัจจุบัน ก็คงจะตายกันอีกเยอะ โดยเฉพาะบ้านเราจะเปิดประเทศให้คนเข้ามาเที่ยวแล้ว ในขณะที่เชื้อโรคกลายพันธุ์ มีทั้งสายพันธุ์แอฟริกัน สายพันธุ์อเมริกา สายพันธุ์ญี่ปุ่น และปัจจุบันนี้คือสายพันธุ์ฟิลิปปินส์
ส่วนที่น่ากลัวกว่านั้นก็คือความที่ยุคประธานาธิบดีทรัมป์ ไปเรียกไวรัสอู่ฮั่นบ้าง ไวรัสจีนบ้าง ก็เลยทำให้กระแสรังเกียจคนเอเชียพุ่งขึ้นแรงมาก โดยเฉพาะในอเมริกา"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-04-2021 เมื่อ 10:42 |
สมาชิก 171 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#74
|
||||
|
||||
"ญาติโยมหลายท่านอาจจะรู้ว่า ช่วงที่อาตมาไปดูงานที่ยุโรป เคยอัดฝรั่งกองกับพื้นมาแล้ว ตอนแรกคิดว่าเขาล้อเล่น เหมือนกับหลายแห่งที่เห็นพระไทยเป็นพระวัดเส้าหลิน แต่อาตมาดูท่าแล้วว่าไม่ใช่ เพราะคนนี้ทำท่าเอาจริงแน่ อาตมามีเวลาตัดสินใจแค่ ๒ - ๓ วินาทีเท่านั้น โชคดีที่ตัดสินใจถูก ก็คือแทนที่จะลงมือยับยั้งเฉย ๆ ก็เอาจริงเลย แล้วมาเห็นชัดเจนตอนที่ว่า พอเขาลุกขึ้นมาได้แล้ว เขาวิ่งหนีเลย ถ้าหากเป็นคนที่ตั้งใจจะล้อเล่นจะไม่ทำอาการอย่างนั้น
ซึ่งความจริงในเรื่องกระแสรังเกียจคนเอเชียหรือว่าต่างชาติ มีมานานเนกาเลแล้ว เพราะว่าคนผิวขาวมักจะเห็นคนผิวดำหรือผิวเหลืองเป็นแค่ทาสเท่านั้น จนกระทั่งสมัยก่อนมีการค้าขายทาสกันเป็นปกติ จนกระทั่งมาถึงสมัยประธานาธิบดีลินคอล์น จึงสามารถที่จะเลิกทาสได้ แต่ก็เกิดสงครามกลางเมือง รบกันจนตายไปเป็นจำนวนมาก เพราะว่ามีคนรวยที่ไม่ต้องการจะเลิกทาส เนื่องจากว่าได้ประโยชน์จากบรรดาแรงงานทาสต่าง ๆ"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-04-2021 เมื่อ 10:43 |
สมาชิก 171 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#75
|
||||
|
||||
"เมื่อคนผิวขาวเห็นว่าตนเองเจริญกว่า ก็มักจะเห็นบุคคลอื่นล้าหลัง ต่ำต้อยกว่า แต่ว่าปัจจุบันนี้บุคคลที่ล้าหลังในความรู้สึกของเขา โดยเฉพาะบรรดาคนผิวดำ ประสบความสำเร็จมากกว่า เพราะว่ามีน้ำอดน้ำทน มีความขยันขันแข็งในการทำงานมากกว่า
แล้วพอทางด้านผิวเหลืองเข้าไป ไม่ว่าจะเป็นจีน เป็นเวียดนาม เป็นฟิลิปปินส์ หรือแม้กระทั่งคนไทย เข้าไปบ้านเขาแล้วไม่เกี่ยงงาน หนักเอาเบาสู้ โดยเฉพาะมีความอ่อนน้อมถ่อมตนเป็นปกติ ก็ทำให้นายจ้างรักแล้วก็มักจะจ้างงานมากกว่า ทำให้พวกเขารู้สึกว่าโดนแย่งงาน ก็เลยเกิดความรังเกียจ ถึงขนาดมีการลงมือทำร้ายกันอยู่เนือง ๆ เพียงแต่ว่ามาปะทุขึ้นในระยะนี้ โดยมีข้ออ้างว่าคนเอเชียเป็นคนแพร่เชื้อไวรัส ทั้ง ๆ ที่หลักฐานความชัดเจนยังไม่มี ว่าเชื้อไวรัสนี้เกิดขึ้นจากที่ใด ? จากการตรวจสอบพบว่า คนอเมริกันจำนวนมากมีภูมิคุ้มกันไวรัสตัวนี้อยู่ก่อนแล้ว แปลว่าอาจจะมีเชื้อโรคเกิดขึ้นทางด้านโน้นก่อนก็เป็นได้"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-04-2021 เมื่อ 10:43 |
สมาชิก 172 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#76
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "เรื่องของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-๑๙ เป็นเรื่องอัศจรรย์ เพราะนอกจากข่าวที่พระครูสิริธรรมภาณ เจ้าอาวาสวัดละหาร ติดเชื้อไวรัสแล้ว ก็ไม่มีข่าวว่าพระติดเชื้อไวรัสที่ไหนเลย แต่มามีข่าวว่าพระฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-๑๙ แล้วมรณภาพ และตอนนี้ก็ป่วยหนักเข้าโรงพยาบาลอีก ๓ ราย
พระในบ้านเราที่ติดโควิด-๑๙ มีน้อยมาก ไม่ได้แปลว่าที่อื่นจะไม่มี อย่างวัดไทยที่ลาสเวกัสติดเชื้อป่วยไปทั้งวัด แต่นั่นเป็นที่อเมริกา บ้านเราอยู่ในขนาดที่ว่ามีข่าวอยู่รายเดียวคือหลวงพ่อวัดละหาร ก็ต้องถือว่าค่อนข้างเป็นเรื่องอัศจรรย์ เพราะว่าประชากรพระไม่ใช่น้อย ๆ และโดยเฉพาะพระส่วนมากต้องไปอยู่ท่ามกลางผู้คน โอกาสติดเชื้อก็มีมาก แต่ก็ยังรักษาตัวรอดกันมาได้ จนมามรณภาพเพราะวัคซีน ก็ต้องบอกว่าเป็นเรื่องตลกที่หัวเราะไม่ออก"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-04-2021 เมื่อ 10:44 |
สมาชิก 177 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#77
|
||||
|
||||
ถาม : เมื่อเช้านี้โซ่ยกู๋เป็นสโตรก หนูก็เลยเอาปัจจัยมาถวายอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรของโซ่ยกู๋ แต่คราวนี้หนูมีความรู้สึกว่าที่โซ่ยกู๋เจ็บก็เป็นกรรมของโซ่ยกู๋ แล้วหนูรู้สึกสงสารเจ้ากรรมนายเวรของโซ่ยกู๋
หนูก็เลยตั้งใจมาทำบุญ หนูไม่ได้อยากให้โซ่ยกู๋หายหรือไม่หาย แต่หนูอยากทำบุญให้เจ้ากรรมนายเวรเขามากกว่า หนูไม่เข้าใจว่าทำไมอยู่ ๆ ถึงได้รู้สึกแบบนี้ แปลก ๆ หน่อย ๆ โซ่ยกู๋เป็นญาติที่เคารพกันอยู่แล้ว ไม่ได้มีอะไรผิดพ้องหมองใจกัน แต่หนูรู้สึกเฉย ๆ กับโซ่ยกู๋ ห่วงแต่ไม่ได้รู้สึกอยากให้หายหรือไม่อยากให้หาย หนูรู้สึกห่วงเจ้ากรรมนายเวรเขามากกว่า แปลกไปไหมคะ ? ตอบ : ว่าไปแล้วก็ปกติ เมื่อถึงเวลาเห็นเขาทวงหนี้ คนส่วนมากก็มักจะว่าเจ้าหนี้หน้าเลือด ทวงไม่เป็นเวล่ำเวลา ไม่ค่อยมีคนนึกถึงเจ้าหนี้หรอกว่าลำบากขนาดไหน ที่จะต้องไปทวงเงินคนที่ยืมแล้วไม่จ่าย ทีนี้ของเรามองไปถึงจุดนั้น ก็เลยกลายเป็นห่วงเจ้าหนี้ แทนที่จะห่วงลูกหนี้ ถาม : หนูเพิ่งเคยรู้สึกเป็นครั้งแรกก็หนนี้แหละค่ะ ? ตอบ : เป็นเรื่องธรรมดา ใครทำใครได้ เมื่อเขาทำเอาไว้เขาก็ต้องรับ ถ้าเรายอมรับว่าธรรมดาเป็นอย่างนี้ ก็จะเกิดอารมณ์อย่างนี้
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-04-2021 เมื่อ 15:00 |
สมาชิก 168 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#78
|
||||
|
||||
ถาม : (รายงานเรื่องน้ำหนักพระปางห้ามสมุทรทรงเครื่องจักรพรรดิเนื้อทองคำเเละเนื้อเงิน) คำนวณออกมาแล้วว่าเนื้อทองคำ ๓๕ กิโลกรัม เนื้อเงิน ๑๔๐ กิโลกรัมครับ
ตอบ : น้อยกว่าที่คิด ผมกะไว้ที่ ๓๖ กิโลกรัม สำหรับเนื้อเงินมีเกินแล้ว ส่วนทองคำยังขาดอยู่นิดเดียว ไปนึกถึงตอนหล่อพระปัจเจกพระพุทธเจ้า เล่นไปตั้ง ๗๐๐ กิโลกรัม พอคราวนี้บอกว่า ๑๔๐ กิโลกรัม เลยรู้สึกว่าหน่อยเดียว ถาม : หล่อวันลอยกระทง ? ตอบ : วันก่อนลอยกระทง ดูฤกษ์แล้ว..ดีจริง ๆ เป็นมหัทธโนฤกษ์ เหมาะมาก
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-04-2021 เมื่อ 15:00 |
สมาชิก 177 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#79
|
||||
|
||||
พระอาจารย์มหาเอ กราบอาราธนานิมนต์พระอาจารย์ไปอธิษฐานจิตปลุกเสกที่วัดท่ามะขาม
ตอบ : วัดท่ามะขามจริง ๆ แล้วเคยเสกของครั้งเดียว เสกหลวงพ่อพระพุทธมิ่งเมือง ถาม : พระพุทธมิ่งเมืองที่เป็นพระประธาน ? ตอบ : ใช่..พระประธานในโบสถ์ สมัยหลวงพ่อวัดท่ามะขามยังอยู่ ท่านปรารภว่าพระพุทธมิ่งเมืองเป็นพระสำคัญ ประมาณว่าคู่บ้านคู่เมืองเลย แล้วทำไมถึงทำให้ดังไม่ได้ ท่านก็เลยอยากจะสร้าง ถาม : แล้วเป็นอย่างไรครับ ? ตอบ : ก็เหมือนเดิม ถาม : ผมว่าจะให้เสกในโบสถ์เก่า ถือว่าเป็นการส่งงานบูรณะโบสถ์เก่าหลังนี้ไปในตัวเลยนะครับ ? ตอบ : เห็นด้วย กรกฎาคมใช่ไหม (พระอาจารย์ดูปฏิทิน) วันที่ ๑๑ ดีกว่า เป็นวันอาทิตย์
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-04-2021 เมื่อ 15:01 |
สมาชิก 171 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#80
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "เรื่องของเศรษฐกิจโลกกำลังจะไปได้ดี ก็เจอสหรัฐของขึ้น เที่ยวไปวางอำนาจใหญ่โต ยุ่งกับเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องในบ้านตัวเอง ต้องบอกว่าสหรัฐยังยึดติดอยู่กับภาพพจน์ความเป็นตำรวจโลกของตัวเอง ประเภทที่ตัวเองทำเท่าไรไม่ผิด แต่ถ้าคนอื่นทำแล้วจะผิด คล้าย ๆ รัฐบาลประเทศไหนใกล้ ๆ แถวนี้..!
เราจะเห็นว่าตอนนี้จีนก็ไม่ได้ลดราวาศอก การเจรจาช่วงที่ผ่านมา สหรัฐกล่าวหามาเมื่อไร จีนก็สวนกลับแค่นั้น แล้วยังมีการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนในประเทศสหรัฐเอง เพื่อแจงต่อชาวโลก ตอกย้ำให้ชัดเจนยิ่งขึ้นว่า สหรัฐเป็นประเทศที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนไม่ได้น้อยกว่าประเทศอื่นที่โดนกล่าวหา ลักษณะอย่างนี้แปลว่าจีนพร้อมรบ เพราะฉะนั้น..พวกเราก็แค่ตั้งหน้าตั้งตาภาวนา มีวัตถุมงคลอะไรที่มั่นใจก็พกพาเอาไว้ เรื่องแบบนี้จะช้าจะเร็วก็ต้องเกิด เพราะสหรัฐรู้ดีว่า นอกจากสงครามแล้วไม่มีอะไรหยุดประเทศจีนได้ แต่ว่าการที่รบกับจีนโดยตรงนั้น สหรัฐรับการสูญเสียไม่ไหว ก็เลยต้องอาศัยสงครามตัวแทน อย่างเช่นว่า ยุยงเกาหลีบ้าง ญี่ปุ่นบ้าง ไต้หวันบ้าง ให้สร้างปัญหา ถึงเวลาถ้ารบราฆ่าฟันกัน ก็จะได้ห่างไกลบ้านตัวเอง ความสูญเสียก็น้อย แถมยังขายของซึ่งก็คืออาวุธได้อีกด้วย เรื่องราวพวกนี้ประเทศสหรัฐอเมริกาจำเป็นต้องสร้างเรื่อง เพื่อที่จะเอาตัวรอดจากสภาพเศรษฐกิจที่ทรุดหนักของตัวเอง แต่ถ้าหากว่ามัวแต่จ้องประเทศจีนกับรัสเซียอยู่ แล้วลืมตะวันออกกลางไป ก็อาจจะโดนฉกฉวยโอกาสได้ เมื่อถึงเวลานั้น ต้องบอกว่านั่งร้องไห้ก็ไม่ทันแล้ว..!"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-04-2021 เมื่อ 15:03 |
สมาชิก 182 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
คำสั่งเพิ่มเติม | |
|
|