กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๕

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 02-11-2022, 18:32
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,596
ได้ให้อนุโมทนา: 216,268
ได้รับอนุโมทนา 739,704 ครั้ง ใน 36,060 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๕


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 03-11-2022, 00:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,399,996 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๒ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ ตั้งแต่เช้ามืดกระผม/อาตมภาพที่ไม่ได้ออกบิณฑบาต เนื่องเพราะว่ามีภารกิจด่วน ต้องไปดูแลห้องอบรมนักธรรมชั้นโทและนักธรรมชั้นเอกก่อนสอบ เนื่องจากว่ามีพระของวัดท่าขนุนไปเป็นวิทยากรประจำวัน จึงใช้เวลาที่เหลือก่อนที่จะได้อรุณ ขึ้นยอดเขาพระพุทธเจติยคีรี เพื่อทำภารกิจ "ตามล่าหาทะเลหมอก" ซึ่งคราวก่อนนั้นพลาดไป แต่ว่าระยะนี้เป็นช่วงปลายฝนต้นหนาว ทำให้มีหมอกลงหนักอยู่ทุกวัน

หลังจากนั้นแล้วก็ลงมาฉันเช้า และเดินทางไปยังวัดไชยชุมพลชนะสงคราม (พระอารามหลวง) ไปถึงตรงเวลาเปิดการอบรมประจำวันพอดี ในฐานะพระเถระซึ่งทุกคนให้ความเกรงใจและเคารพนับถือ เขาจึงนิมนต์ให้เป็นประธานนำบูชาพระรัตนตรัย และให้โอวาทประจำวัน แล้วมอบหมายให้กับพระมหาอินทรปกรณ์ ฐิตสุโภ ป.ธ.๔ เลขานุการเจ้าคณะตำบลลิ่นถิ่นเขต ๒ และพระสมุห์ณัฐพสิษฐ์ ปญฺญาคโม เลขานุการรองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ ซึ่งทั้ง ๒ รูปเป็นพระภิกษุของวัดท่าขนุน ทำหน้าที่เป็นวิทยากรประจำวัน แต่ก็ต้องคอยเพิ่มเติมข้อมูล เพื่อให้เกิดความชัดเจนมากขึ้น

เนื่องเพราะว่าทางกองธรรมสนามหลวงนั้น ไม่ได้ออกปัญหา "แบบเด็ก ๆ" วันนี้เป็นการอบรมวิชาอนุพุทธประวัติ หรือถ้าในรุ่นของกระผม/อาตมภาพเรียนอยู่ก็คือวิชาพุทธานุพุทธประวัติ แปลว่าสามารถออกได้ทั้งพุทธประวัติที่เรียนมาในระดับนักธรรมชั้นตรี และอนุพุทธประวัติ ซึ่งเรามาเรียนกันในระดับนักธรรมชั้นโท ส่วนนักธรรมชั้นเอกนั้น เขาเรียนเตรสสาวิกา ก็คือประวัติของภิกษุณีผู้ใหญ่ ๑๓ องค์

คราวนี้ในการเรียนนั้น ส่วนใหญ่แล้วคำถามไม่ได้ถามตรง ๆ แต่ถามตะแคงข้างไป อย่างเช่นว่า ที่นี่วุ่นวายหนอ ที่นี่ขัดข้องหนอ เป็นคำพูดก่อนอุปสมบทของพระเถระรูปใด ? บรรลุธรรมด้วยธรรมะหมวดใด ? และได้รับการยกย่องให้เป็นเอตทัคคะทางด้านใด ?
เป็นต้น

ในเมื่อไม่ได้ถามตรง ๆ ว่าพระยสกุลบุตรกล่าวว่า "ที่นี่วุ่นวายหนอ ที่นี่ขัดข้องหนอ" แล้วได้พบกับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่งตรัสว่า "ที่นี่ไม่วุ่นวาย ที่นี่ไม่ขัดข้อง เธอจงเข้ามาฟังธรรมเถิด" แล้วก็ได้กล่าวอนุปุพพิกถา จนกระทั่งรอบแรกพระยสะสำเร็จพระโสดาบัน พอกล่าวซ้ำให้กับบิดามารดาและภรรยาของท่านฟังอีกรอบหนึ่ง ก็ได้สำเร็จอรหัตผล ในเมื่อไม่ได้ถามตรง ๆ นักเรียนทุกรูปจึงต้องระมัดระวังอ่านหนังสือให้ครบ ไม่เช่นนั้นแล้วก็ไม่สามารถที่จะตอบได้

หรือตัวอย่างว่า โลกคือหมู่สัตว์อันชรานำไปไม่ยั่งยืน โลกคือหมู่สัตว์ไม่มีผู้ป้องกัน ไม่เป็นใหญ่เฉพาะตน โลกคือหมู่สัตว์ไม่มีอะไรเป็นของตน จำต้องละในสิ่งทั้งปวง โลกคือหมู่สัตว์พร่องอยู่เป็นนิจ ไม่รู้จักอิ่ม เป็นทาสแห่งตัณหา เป็นคำกล่าวของพระเถระองค์ใด ? กล่าวกับผู้ใด ? สิ่งที่กล่าวมานี้เรียกว่าอะไร ? พระเถระผู้กล่าวได้รับเอตทัคคะทางใด ? เป็นต้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-11-2022 เมื่อ 02:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 27 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 03-11-2022, 00:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,399,996 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถ้าท่านศึกษามาไม่ครบ มัวแต่ไปรอเขาถามว่า พระรัฐบาลเถระเป็นเอตทัคคะทางด้านใด ? ได้กล่าวธัมมุทเทส ๔ กับพระมหากษัตริย์รูปใด ? เป็นต้น ถ้าอย่างนี้เขาถือว่าคำถาม "แบบเด็ก" หลักสูตรนักธรรมชั้นโทเป็นหลักสูตรของอาจารย์คู่สวด ซึ่งท่านทั้งหลายต้องเป็นผู้สวดกรรมวาจานุสาวนาจารย์ในการอุปสมบทพระภิกษุ ก็แปลว่าภูมิรู้ของท่านทั้งหลายจะต้องแน่นเพียงพอ ต้องรู้ให้ครบถ้วนสมบูรณ์ เป็นต้น

หรือไม่ก็อย่างคำถามประเภทที่ว่า พระเถระรูปใดเปรียบดังมารดาผู้ให้กำเนิด ? พระเถระรูปใดเปรียบดังนางนมผู้เลี้ยงดูทารกจนเติบใหญ่ ? พระเถระทั้ง ๒ รูปนี้มีความสำคัญต่อพระพุทธศาสนาอย่างไร ? จงอธิบายมาพอสมควร

เขาไม่ได้ถามเราตรง ๆ ว่า พระสารีบุตรเปรียบดังมารดาผู้ให้กำเนิดเพราะอะไร ? พระโมคคัลลานะเปรียบดังนางนมที่เลี้ยงดูทารกนั้นจนเติบโตเพราะอะไร ? พระโมคคัลลานะและพระสารีบุตรเถระนั้นมีความสำคัญต่อพระพุทธศาสนาอย่างไร ?

ในเมื่อไม่ได้ถามตรง แต่เป็นคำถามที่ตะแคงข้างไป จึงเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่งที่เราต้องอ่านหนังสือให้ครบถ้วน ถ้าเป็นรุ่นของกระผม/อาตมภาพที่เรียนนั้น พวกเราจะโดนบังคับให้ท่องได้ทั้งเล่ม

ดังนั้น..ท่านทั้งหลายจะเห็นว่าสิ่งที่กระผม/อาตมภาพกล่าวไปนั้นมาตามตำรา มาจนกระทั่งแทบจะลอกมาทุกคำพูด เพราะว่าโดนบังคับให้ท่องมา ส่วนรุ่นหลัง ๆ เรียนง่ายขึ้นมาก ไม่ได้ท่องตำรามากมาย แถมยังใช้การเก็งข้อสอบด้วย

ลักษณะการเก็งข้อสอบในอนุพุทธประวัติก็คือว่า พระเถระรูปใดมีความสำคัญ ? อย่างเช่นว่า พระอัครสาวกเบื้องซ้ายเบื้องขวาอย่างพระโมคคัลลานะ พระสารีบุตร

พระเถระผู้เป็นประธานในการสังคายนาพระธรรมวินัยอย่างพระมหากัสสปเถระ

พระเถระผู้เป็นกำลังสำคัญที่สุดในการการสังคายนาพระธรรมวินัยอย่างพระอานนท์

ท่านทั้งหลายเหล่านี้ก็จะอยู่ในการเก็งของครูบาอาจารย์ว่า "มาแน่" แต่จะมาในแง่ไหน มุมไหนเท่านั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-11-2022 เมื่อ 02:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 27 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 03-11-2022, 00:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,399,996 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

โดยเฉพาะในส่วนของเอตทัคคบุคคลนั้น ในอสีติมหาสาวก คือพระสาวกผู้ใหญ่ที่ได้รับการนำประวัติมาให้ศึกษาทั้ง ๘๐ รูป มีเพียง ๔๑ รูปที่ได้เอตทัคคะ คือเป็นผู้ที่ได้รับการยกย่องว่ามีความสามารถยอดเยี่ยมในทางใดทางหนึ่ง และมีเพียง ๒ รูปที่ได้เกินกว่า ๑ อย่าง

รูปแรกคือพระสุภูติเถระ ได้เอตทัคคะ ๒ ประการ คือเป็นเอตทัคคะในการอยู่อรณวิหาร ก็คือการอยู่โดยปราศจากกิเลส และเอตทัคคะทางทักขิเณยยบุคคล คือเป็นบุคคลที่คู่ควรแก่การนำข้าวของมาถวายมาทำบุญด้วย เพราะว่าการอยู่อรณวิหารหรือการอยู่โดยปราศจากกิเลสนั้น คือการเข้านิโรธสมาบัติ ในเมื่อเป็นผู้เข้านิโรธสมาบัติ ย่อมเป็นบุคคลที่ควรแก่การทำบุญด้วย

อีกผู้หนึ่งก็คือพระอานนทเถระนั่นเอง ได้เป็นเอตทัคคะยอดเยี่ยมใน ๕ ประการ คือเป็นผู้มีสติ เป็นผู้มีคติ เป็นผู้มีความเพียร (ธิติ) เป็นผู้มีความทรงจำเป็นเลิศ (พหูสูตร) เป็นพุทธอุปัฏฐาก เหล่านี้เป็นต้น

ดังนั้น..สิ่งที่เราต้องจดจำ ถ้าหากว่ารู้จักแยกแยะก็จะจำง่ายขึ้น แล้วขณะเดียวกัน เราต้องเข้าใจว่า คำว่า อนุ ในที่นี้แปลว่า ตาม พุทธะแปลว่า รู้ ก็คือรู้ตามที่พระพุทธเจ้าสอน ได้แก่ พระอรหันต์

เนื่องเพราะว่าพุทธะนั้น อรรถกถาจารย์ท่านแยกออกเป็น ๔ อย่างด้วยกัน ก็คือ

๑) สัมมาสัมพุทธะ เป็นผู้ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง

๒) ปัจเจกพุทธะ เป็นผู้ที่ต้องการรู้ถ้วนในหลักธรรมทุกประการ แต่ไม่ต้องการสอนใคร ต้องการรู้เฉพาะตนเท่านั้น

๓) อนุพุทธะ เป็นผู้รู้ตามที่พระพุทธเจ้าสั่งสอน ก็คือพระอรหันต์

๔) สุตพุทธะ เป็นผู้รู้ในการทรงจำพระธรรมพระวินัย อย่างที่ประเทศพม่าในปัจจุบันนี้มีผู้ทรงจำพระไตรปิฎก คือสามารถท่องจำพระไตรปิฎกได้ทั้ง ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ ท่านทั้งหลายเหล่านี้จะเรียกว่าสุตพุทธะ ถ้าแปลตรง ๆ คือผู้รู้ในพระสูตร แต่ถ้าจะแปลให้ครบถ้วนก็คือผู้ทรงจำได้ซึ่งพระธรรมวินัย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-11-2022 เมื่อ 02:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 03-11-2022, 00:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,399,996 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

คราวนี้การ "จำได้" ไม่ได้แปลว่า "ทำได้" ก็แปลว่าในพุทธะ ๔ ที่อรรถกถาจารย์กล่าวมานั้น เป็นผู้บริสุทธิ์สิ้นเชิงแค่องค์พระสัมมาสัมพุทธะ องค์พระปัจเจกพุทธะ และองค์อนุพุทธะ แต่ว่าองค์สุตพุทธะนั้น ไม่แน่ว่าจะบรรลุธรรม ดังนั้น..จึงกล่าวได้ว่า สุตพุทธะทุกรูปไม่แน่ว่าจะบรรลุธรรม แต่ผู้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ จัดเป็นสุตพุทธะได้ทุกรูปทุกองค์ ฟังดูแล้วก็อาจจะงง ๆ อยู่นิดหน่อย

ในเรื่องของพุทธประวัติหรือว่าในเรื่องของเถรประวัติก็ดี ถ้าหากว่าต้องการรายละเอียด ท่านทั้งหลายสามารถหาอ่านได้ในขุททกนิกาย อรรถกถา พุทธวงศ์ จะมีรายละเอียดเกี่ยวกับการสร้างบารมีเพื่อความเป็นองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และถ้าต้องการจะทราบประวัติพระอสีติมหาสาวก คือพระสาวกผู้ใหญ่ทั้ง ๘๐ รูป เราก็ไปดูในเอตทัคคะปาลิ ซึ่งจะกล่าวถึงบุคคลผู้ได้รับเอตทัคคะ คือความเป็นผู้ยอดเยี่ยมทางด้านใดด้านหนึ่งตามที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงยกย่อง

พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุงบอกกับกระผม/อาตมภาพว่า "ถ้าแกยังบวชอยู่ ขอให้อ่านพระไตรปิฎกให้ได้ปีละจบ เพราะว่าข้าเองก็อ่านปีละจบ ถึงได้มีเนื้อหาเรื่องราวต่าง ๆ มาเทศน์ให้ญาติโยมฟังได้โดยไม่รู้เบื่อ"

แต่ว่าคำสั่งนี้ จนป่านนี้กระผม/อาตมภาพยังไม่สามารถที่จะทำได้สำเร็จ เหตุเพราะว่า ๓๘ ปีผ่านไป เพิ่งจะอ่านพระไตรปิฎกได้ ๗ - ๘ จบ เนื่องจากว่าเป็นบุคคลที่ตีความหลักธรรมตามพระไตรปิฎกแล้ว ถ้าไม่เข้าใจแจ่มแจ้งก็จะไม่ปล่อยผ่าน ทำให้เกิดความยากลำบากอย่างสาหัสในการอ่านพระอภิธรรมปิฎกทั้ง ๔๒,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ กว่าจะผ่านตาได้แต่ละรอบ เลือดตาแทบกระเด็น..!

แต่ว่าถ้าหากท่านใดต้องการที่จะอ่านพระไตรปิฎกให้ได้ปีละจบ กระผม/อาตมภาพขอแนะนำพระไตรปิฎกฉบับแก่นธรรม ของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ที่ได้ย่อเอาเนื้อหาพระไตรปิฎกลงมาอยู่ใน ๒ เล่มใหญ่ ๆ จาก ๔๕ เล่มที่เคยเป็น

แต่ต้องระมัดระวังไว้นิดหนึ่งว่า เจ้าของลิขสิทธิ์เดิมก็คือมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัยนั้น ได้พิมพ์พระไตรปิฎกฉบับอรรถกถา ๙๑ เล่ม กล่าวถึงบรรดาพระสูตรต่าง ๆ ด้วยการจัดทำของบรรดาพระเถระในสมัยสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส

ในเมื่อทางด้านมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยมาสร้างพระไตรปิฎกบ้าง จึงต้องหลีกเลี่ยงกัน ทำให้บางสูตรบางอย่างนั้นไม่เหมือนกัน อย่างเช่นว่า ถ้าเราจะไปเสาะหาอปริหานิยธรรม ๗ โดยตรงแล้ว เปิดหาให้ตายก็ไม่เจอ แต่ถ้าท่านไปเปิดพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ต้องเปิดหาคำว่าปฐมสัตตกสูตร เหล่านี้เป็นต้น

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๒ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-11-2022 เมื่อ 09:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 11:31



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว