กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เทศน์ในวาระสำคัญต่าง ๆ

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 15-04-2022, 18:03
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,529
ได้ให้อนุโมทนา: 215,924
ได้รับอนุโมทนา 736,963 ครั้ง ใน 35,904 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default ปกิณกธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๔ เมษายน ๒๕๖๕

ปกิณกธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๔ เมษายน ๒๕๖๕

__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 15-04-2022, 23:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,050 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๑๔ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ ตรงกับวันขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือน ๕ ปีขาล จุลศักราช ๑๖๘๓ เป็นวันสุดท้ายของจุลศักราช ๑๖๘๓ พอพรุ่งนี้ก็เปลี่ยนศกใหม่ เป็นจุลศักราช ๑๘๖๔

จุลศักราช บางคนเรียกง่าย ๆ ว่า ศักราชพม่า เกิดจากการที่พระเจ้าอโนรธามังช่อ หรือที่คนไทยเรียกว่า พระเจ้าอนุรุทธมหาราช ผู้ก่อตั้งอาณาจักรพุกาม แสดงพระราชอำนาจด้วยการลบศักราช ก็คือ "ของเก่าคุณจะใช้อะไรมาก็ช่าง ของใหม่ผมจะเอาอย่างนี้" ถ้าหากว่าไม่ใช่บุคคลที่มากบุญมากบารมีจริง ๆ จนเป็นที่ยอมรับนับถือของประเทศอื่น ๆ ก็จะไม่มีใครยอมใช้ตาม

แต่คราวนี้พระเจ้าอนุรุทธมหาราชสามารถขยายอาณาจักรพุกามได้ใหญ่โตมโหฬาร แล้วก็ยึดอาณาจักรสุธรรมวดี ที่คนพม่าเรียกว่า "ตะโทง" ของมอญ ซึ่งมีพระเจ้ามนูหะเป็นผู้ครองอาณาจักร ไปอยู่ใต้ขอบขัณฑสีมา

ความจริงแล้วพระเจ้าอนุรุทธมหาราชไม่ได้ต้องการที่จะยึดอาณาจักรมอญ พระองค์เห็นว่าอาณาจักรมอญนั้น เจริญรุ่งเรืองด้วยศิลปะวัฒนธรรมต่าง ๆ ประชาชาติอยู่กันสงบสุขร่มเย็น เพราะว่ามีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ เป็นหลักยึด เป็นแนวทางในการประพฤติปฏิบัติ จึงมีพระราชสาส์นถึงพระเจ้ามนูหะ ขอพระไตรปิฎกและพระสงฆ์ไปช่วยเผยแผ่พระพุทธศาสนาในจังหวัดพุกามด้วย

ไม่ทราบว่าพระเจ้ามนูหะดูถูกว่า "ชาวเผี่ยว" หรือที่คนไทยอ่านว่า "พยู" PYU พม่าอ่านว่าเผี่ยว เมื่อสักครู่นี้ออกเสียงภาษาอังกฤษแบบพม่า สำเนียงแบบนี้ใครเก่งภาษาอังกฤษไปใหม่ ๆ ก็ใบ้รับประทาน อาตมาไปถึงอาทิตย์หนึ่งยังคิดว่า "กูรู้ภาษาอังกฤษหรือเปล่าวะ ? ทำไมฟังไม่รู้เรื่องเลย" ภาษาอังกฤษแบบพม่าเขียนอย่างหนึ่ง อ่านอย่างหนึ่ง แล้วเขาก็ดันมั่นใจเสียด้วยว่าของเขานั้นถูก

พระเจ้ามนูหะดูถูกว่าชาวเผี่ยวรวมตัวขึ้นมาจากชาวป่าชาวเขา เป็นคนบ้านนอกคอกนา จะบังอาจมาเทียบกับชาวมอญที่ศิวิไลซ์ได้อย่างไร ก็เลยไม่ยอมให้ พระเจ้าอนุรุทธโกรธ พระองค์มีสิทธิ์ที่จะโกรธได้ เพราะว่าพระองค์ท่านไม่มีหลักธรรมในพระพุทธศาสนาไว้ปฏิบัติ ไม่ต้องมีความอดทน อดกลั้น อดออม จึงยกทัพไปเหยียบอาณาจักรสุธรรมวดีกระจายเลย แล้วก็กวาดต้อนช้างม้าวัวควาย ผู้คน ตลอดจนอัญเชิญพระไตรปิฎก นิมนต์พระเจ้าพระสงฆ์ขึ้นไปอาณาจักรพุกาม ตั้งแต่นั้นมา พุกามก็มีพระพุทธศาสนาเป็นแนวทางในการประพฤติปฏิบัติ แล้วก็นิยมสร้างพระเจดีย์แข่งกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-04-2022 เมื่อ 05:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 26 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 16-04-2022, 00:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,050 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เพราะฉะนั้น..ใครที่เคยไปเที่ยวเมืองพุกาม ทุกคนจะต้องไปชมอาณาจักรพระเจดีย์ ๔,๐๐๐ องค์ ริมฝั่งแม่น้ำเอยาวดี ที่คนไทยเรียกว่า อิระวดี เป็นเจดีย์ใหญ่โตมโหฬารเหมือนกับเมืองทั้งเมือง เพราะว่าเป็นเจดีย์ใหญ่โตมหึมา มีกำแพงล้อมรอบ มีประตูเข้า ๔ ทิศ เหมือนเมืองเลย แล้วก็ไม่ได้มีแค่องค์เดียว มีหลายต่อหลายองค์ด้วยกัน

อย่างเช่น พระมหาเจดีย์อะนันดา พระมหาเจดีย์มิงกะลา พระมหาเจดีย์ธัมมะยันจี พระมหาเจดีย์สุระมณี พระมหาเจดีย์กะเด๊าะปะลิน เป็นต้น แล้วก็มีเจดีย์องค์เล็ก ๆ ถ้าเราไปยืนก็สูงประมาณแค่หัว ก็คือทั้งใหญ่ทั้งเล็ก แล้วแต่ว่าเจ้าภาพที่สร้างจะลงทุนไปมากน้อยเท่าไร

พระเจ้าอนุรุทธมหาราช เมื่อสามารถตีอาณาจักรมอญ ที่ถือว่าตอนนั้นเจริญรุ่งเรืองที่สุด ยิ่งใหญ่ที่สุด แล้วจับเอาพระเจ้ามนูหะกับพระนางสัจจาเทวีไปคุมขังไว้ที่เมืองพุกาม ทุกคนก็ยอมรับในพระราชอำนาจ เมื่อท่านประกาศลบศักราช ของเก่าเคยใช้อะไรก็ไม่รู้..ลืมถามไป หันมาใช้จุลศักราชใหม่ จากวันนั้นถึงวันนี้ ก็ ๑๖๘๓ ปีเต็ม พรุ่งนี้จะขึ้นปีที่ ๑๖๘๔ แล้ว

ดังนั้น...เราจะเห็นว่าการเปลี่ยนศักราช ถ้าไม่ใช่พระมหากษัตริย์ที่ทรงกฤษดาภินิหาร ประกอบด้วยบุญญาบารมี เป็นที่หวั่นเกรงของประเทศต่าง ๆ ก็ไม่สามารถที่จะทำได้

ประวัติศาสตร์ชาติไทยต้องบอกว่ายังไม่มี แต่ในเขตประเทศไทย ซึ่งเคยมีอาณาจักรหริภุญไชยเคยมีมาแล้ว ก็คือในสมัยของพระแม่เจ้าจามเทวี บรมราชนารีศรีสุริยวงศ์ องค์บดินทร์ปิ่นธานีหริภุญชัย ชื่อยาวมาก แม่ไม่บอกให้ก็จำไม่ได้หรอก ..(หัวเราะ)...

พระแม่เจ้าจามเทวีทรงลบศักราช แจ้งบรรดาอาณาประชาราษฎร์ หัวเมืองใหญ่น้อยต่าง ๆ ให้เปลี่ยนศักราชใหม่ เพื่อหลอกขุนหลวงวิลังคะ พญาลัวะ ลัวะหรือละวะ ซึ่งเป็นคนป่าคนดอยเหมือนกัน แต่ว่ารบเก่งมาก มีฤทธิ์มีอำนาจมาก มาขอแต่งงานกับพระแม่เจ้าจามเทวี โดยไม่ได้สนใจว่าพระแม่เจ้าแต่งงานแล้วกับพระเจ้ารามราชของกรุงละโว้ แถมยังมีพระราชกุมาร ๒ พระองค์แล้ว พูดง่าย ๆ ก็คือ "สวยถูกสเป็ค จะมีลูกกี่คนผมก็ไม่ถือ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 16-04-2022 เมื่อ 12:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 16-04-2022, 00:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,050 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระแม่เจ้าจามเทวีจึงต้องผลัดผ่อนว่าถึงวันนั้น เดือนนั้น ปีนั้น ให้ส่งขบวนขันหมากมาขอ จะยินดีแต่งงานด้วย ช่วงนี้ขอจัดกิจการบ้านเมืองให้เรียบร้อยเสียก่อน เพราะว่าถ้าแต่งงานแล้วก็ต้องไปอยู่กับขุนหลวงวิลังคะ กลัวว่าทางด้านนี้บ้านเมืองจะไม่สงบเรียบร้อย

ถึงเวลาขุนหลวงวิลังคะ พญาลัวะ กลับไปเตรียมขันหมาก พระแม่เจ้าจามเทวีก็ทรงประกาศลบศักราช เลื่อนเวลาเร็วขึ้น ๒ เดือน ประกาศให้ประเทศใหญ่น้อยต่าง ๆ รวมทั้งละโว้บุรี ลวะบุรีหรือลพบุรีนั่นแหละ ซึ่งเป็นเมืองของพระราชสวามีได้รู้ด้วย ทุกคนก็เปลี่ยนศักราชตาม

พอถึงเวลาขุนหลวงวิลังคะมาสู่ขอ พระแม่เจ้าจามเทวีก็บอกว่า "เป็นกษัตริย์แล้วทำไมถึงได้ไม่ทำตามสัญญา เลยเวลามาตั้ง ๒ เดือนแล้วค่อยมา ในเมื่อท่านผิดคำพูด เราก็ไม่แต่งงานด้วย" ขุนหลวงวิลังคะงงมาก ต่อให้กูหลับแล้วฝันไป ก็ไม่น่าที่จำผิดถึงขนาดนี้ ไปเที่ยวไล่ถามชาวบ้าน เมืองเล็กเมืองน้อยที่ไหนเขาก็ยืนยันว่าเลยเวลาที่นัดมา ๒ เดือนแล้ว

เพราะฉะนั้น...ญาติโยมทั้งหลาย ถ้าหากว่าเราไปเที่ยวลอยกระทงทางภาคเหนือซึ่งเป็นเดือน ๑๒ ภาคเหนือเขาจะบอกว่าเป็นเดือนยี่ ก็คือยี่เป็ง เลยเดือน ๑๒ ไปสองเดือน นั่นคือฝีมือท่านแม่เลยแหละ...! ฉะนั้น...เดือนทางเหนือที่โดนลบศักราชจึงคลาดเคลื่อนกับทางใต้อย่างเรา ๒ เดือน

คราวนี้บ้านเราเมืองเราก็รับเอาแบบธรรมเนียมพม่ามามาก ไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่ยุคพม่ายึดครองภาคเหนือของเรา ประเภทว่าเป็นข้าขอบขัณฑสีมาก็ดี ยึดเป็นเมืองขึ้นก็ตาม รวม ๆ แล้วประมาณ ๒๐๐ ปี จนกระทั่งพระเจ้าเมกุฏิ เจ้าเมืองเชียงใหม่ ยังกลายเป็นเทพอารักษ์องค์หนึ่งของพม่าที่เขาเคารพนับถือ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-04-2022 เมื่อ 05:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 16-04-2022, 00:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,050 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แบบธรรมเนียมทั้งหลายของพม่าก็เลยตกมาถึงประเทศไทย โดยเฉพาะด้านโหราศาสตร์ส่วนหนึ่ง ดังนั้น...การใช้วิชาโหราพยากรณ์ ถ้าจะเอาให้แม่นจริง ๆ เขาจะคิดตามจุลศักราช อย่างเช่นวันนี้ เดี๋ยวอีกสักครู่หนึ่ง พระอาทิตย์ก็จะโยกย้ายเข้าสู่ราศีเมษ ตอนนี้ยังอยู่ราศีปลาคู่อยู่ คือราศีมีน ใครชื่อน้องมีนา แปลว่าน้องปลา ขึ้นสู่ราศีเมษ ดาวหัวแกะ เวลา ๙ โมง ๔๕ นาที ๔๖ วินาที เดี๋ยวพวกเราช่วยกันจับเวลาด้วย

ตรงจุดนี้โหราจารย์สมัยก่อนก็มักจะใช้การคำนวณต่าง ๆ ตามหลักจุลศักราชเป็นใหญ่เพื่อความแม่นยำ แต่ว่าของเราก็มีพระโหราจารย์ที่ทรงความสามารถ ถึงขนาดคำนวณย้อนหลังไปได้ว่าพระเจ้าประสูติวันไหน ขึ้นกี่ค่ำ แรมกี่ค่ำ ปีอะไร ย้อนหลังไป ๒,๐๐๐ กว่าปี

เพราะฉะนั้น...ใครเกิดปีจอให้รู้ไว้ด้วยนะ ปีจอ วันศุกร์ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ เป็นวันประสูติของพระพุทธเจ้า อาตมาเกิดช้ากว่าพระพุทธเจ้าเดือนหนึ่ง เพราะว่าเกิด ๑๕ ค่ำเดือน ๗ สี่ปีถึงจะได้ฉลองปีเกิดทีหนึ่ง วิสาขบูชาเดือน ๗ ประมาณ ๓ - ๔ ปีถึงจะมาครั้งหนึ่ง

วันนี้ไม่มีอะไร เห็นกำลังจะเปลี่ยนศักราชก็เลยบ่นให้พวกเราฟังไปเรื่อย ๆ ตอนนี้ขอจบลงเพียงเท่านี้ก่อน


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
ปกิณกะธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๑๔ เมษายน ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-04-2022 เมื่อ 05:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 06:32



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว