กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๔ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกันยายน ๒๕๖๔

Notices

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกันยายน ๒๕๖๔ เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกันยายน ๒๕๖๔

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 13-09-2021, 20:49
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,598
ได้ให้อนุโมทนา: 216,275
ได้รับอนุโมทนา 739,957 ครั้ง ใน 36,062 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๖๔

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๖๔


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 13-09-2021, 23:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๑๓ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๔ มีงานใหญ่ของชาวมหาจุฬาฯ ก็คือเป็นวันครบรอบ ๑๓๔ ปี การสถาปนามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตั้งแต่เช้ามืดมีแต่กิจกรรม แล้วก็เพิ่งจะมาจบลงตอนเกือบ ๕ โมงเย็น

คราวนี้จากหน่วยงานทั้งหมดที่เข้าไปร่วมงาน ปรากฏว่าวิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาศรีทวารวดี (วัดไร่ขิง) คว้าไป ๒ รางวัล ก็คือรางวัลที่ ๓ จำนวนบุคคลเข้าร่วมงานมากที่สุด กับรางวัลชนะเลิศการจัดการความรู้ หรือที่ตัวย่อว่า K.M. เราจะเห็นว่าวัดไร่ขิงนั้น จำนวนบุคลากรที่เข้าไปร่วมงานมีถึง ๕,๐๐๐ เศษ วิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรีของเรา ทั้งอาจารย์ทั้งนิสิตรวมกัน เพิ่งจะ ๓๘๕ รูป/คน จำนวนต่างกันเหมือนฟ้ากับเหว

แต่ว่าเรื่องนี้ก็ว่ากันไม่ได้ เพราะว่าทางด้านท่านอาจารย์พระมหาบุญเลิศ อินฺทปญฺโญ, ศ. ดร. ท่านเป็นบุคคลที่กล้าทำงานและกล้ารับผิด ในเมื่อเป็นเช่นนั้น โครงการต่าง ๆ ที่ท่านคิดขึ้นมา แม้ว่าบางอย่างจะเดินคาบเส้น ท่านก็จะไป..!

ในขณะเดียวกัน วิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรีศรีไพบูลย์ของเรา ผู้อำนวยการท่านรักษากฎหมายอย่างเคร่งครัด จึงต้องค่อยเป็นค่อยไป โตทีละนิด ๑๐ กว่าปีผ่านไป เพิ่งโตเข้ามาแค่ ๓๐๐ กว่ารูป/คน ส่วนทางด้านโน้นยังไม่ถึง ๑๐ ปี เตรียมจะขยับจากวิทยาลัยสงฆ์ขึ้นเป็นวิทยาเขตแล้ว

เราจะเห็นว่า เรื่องของภาวะผู้นำเป็นเรื่องสำคัญมาก ผู้นำไม่ใช่คิดได้อย่างเดียว ต้องกล้าตัดสินใจด้วย เราลองคิดดูว่า ถ้าเจ้าชายสิทธัตถะไม่ตัดสินใจออกมหาภิเนษกรมณ์ เราก็คงไม่มีพระพุทธเจ้า ไม่มีศาสนาพุทธมาจนทุกวันนี้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 14-09-2021 เมื่อ 18:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 13-09-2021, 23:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สิ่งที่พระองค์ท่านตัดสินใจไป ถ้าเป็นเราจะตัดขาดได้หรือเปล่า ? อันดับแรกก็คือครอบครัว ราชสมบัติรออยู่ ลูกก็เพิ่งจะเกิด อันดับที่สอง คือความเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ดังนั้น..ถ้าหากว่าเปรียบเทียบกับพวกเราเอง ก็จะเห็นว่ากำลังใจของพระองค์ท่านนั้นสุดยอดขนาดไหน เป็นปุถุชน ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ แต่ตัดสินใจได้เด็ดขาดถึงขนาดนั้น

ในเรื่องของการปฏิบัติธรรมก็เช่นกัน ถ้าไม่มีการตัดสินใจ ไม่มีทางที่จะได้มรรคได้ผล ยกตัวอย่างคนอื่นก็คงจะไม่ชัดเจน กระผม/อาตมภาพขอยกตัวอย่างตัวเอง ก่อนบวช ๒ ปี ได้ถวายการรับใช้พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงอยู่ที่บ้านสายลม วันหนึ่งในช่วงปฏิบัติพระกรรมฐานภาคค่ำ เมื่อปฏิบัติเสร็จเรียบร้อยแล้ว ท่านบอกว่า "พระพุทธเจ้าเสด็จมา บอกว่าทั้งหมดที่ปฏิบัติธรรมอยู่ในวันนี้ มี ๗๐ คนที่สามารถรักษาศีล ๘ ได้เลย"

ทันทีที่ได้ยิน กระผม/อาตมภาพตัดสินใจตรงนั้นเลยว่า "ข้าคือ ๑ ใน ๗๐ คนนั้น" แล้วตั้งแต่ตอนนั้นมา ความรู้สึกทุกอย่างเปลี่ยนหมด เหมือนอย่างกับว่า จากการที่เคยรักษาศีล ๕ กึ่ง ๆ ศีล ๘ เพราะว่าศีลอะไรในศีล ๘
ก็ไม่ขาดเลย ยกเว้นกินข้าวเย็นอย่างเดียว ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ก็เท่ากับแค่ตัดสินใจว่า "เราเลิกกินข้าวเย็น" ความรู้สึกก็คือ พอหลังเที่ยงเหมือนกับคอหอยตัน นอกจากน้ำแล้วก็ไม่อยากจะกินอะไรเลย

จากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็อยู่ในอาการเดียวกันมาตลอด ก็คือหลังเที่ยงแล้วไม่ต้องมาชวนกินอะไร บางทีพวกท่านพอถึงเวลาทำวัตรเย็นเสร็จสรรพ ญาติโยมถวายน้ำปานะ กี่ปีต่อกี่ปีที่ผ่านมา พวกท่านเคยเห็นผมหยิบสักถ้วยไหม ? ก็คือแม้ว่าจะเป็นน้ำ แต่ถ้าหากว่าเป็นน้ำหวานก็ไม่เอาเหมือนกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 14-09-2021 เมื่อ 18:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 13-09-2021, 23:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น...ในเรื่องของการปฏิบัติธรรม ถ้าเราขาดการตัดสินใจที่เด็ดขาด โอกาสเข้าถึงมรรคผลก็ไม่มี แล้วกว่าที่จะได้อย่างนั้นอีกทีหนึ่ง ก็ต้องรอวาระบุญวาระกรรมบรรจบครบรอบอีกครั้งหนึ่ง บางคนก็หลายปี บางคนก็หลายสิบปี ถ้าหากว่าเจอหลายปี หรือหลายสิบปีก็มีสิทธิ์ที่จะตายก่อน โดยที่ไม่ได้อะไรเลย..!

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายปฏิบัติธรรมไป เมื่อถึงเวลาแล้ว กำลังใจจะบอกเราเองว่าอะไรควร อะไรไม่ควร แบบเดียวกับคุณแม่จันทนา วีระผล ปฏิบัติธรรมไปถึงจุดหนึ่ง ญาณคือเครื่องรู้ก็เกิดขึ้น รายงานกับตัวเองว่า ถ้าหยุดกำลังใจไว้แค่นี้ จะมีชีวิตอยู่ต่อได้อีก ๑๒ ปี แต่ถ้าไม่หยุด ก็ตายภายใน ๗ วัน..!

คุณแม่จันทนาตัดสินใจว่า ในเมื่อไปได้แล้ว ทำไมต้องอยู่ทนลำบากไปอีก ๑๒ ปี ? ในเมื่อตัดสินใจแค่นั้น ก็แปลว่าทุกอย่างไม่เอาแล้ว แม้กระทั่งร่างกายของตนก็ไม่เอา คือชีวิตอีก ๑๒ ปีก็ไม่เอา ท่านจึงตายไปตามกฎเกณฑ์กติกา ก็คือพระอริยเจ้าระดับสูงขนาดนั้น อยู่ร่วมกับคนปกติไม่ได้ เพราะว่าจะเป็นทุกข์เป็นโทษแก่คนอื่นเขามาก เนื่องจากคนอื่นไม่รู้ว่าท่านเป็น ถึงเวลาล่วงเกินด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ ก็จะเกิดโทษสาหัสแก่เขา จึงกลายเป็นกฎเกณฑ์ที่ว่า ถ้าฆราวาสบรรลุมรรคผล ก็จะสิ้นชีวิตลงภายใน ๗ วัน

แต่ตามประสบการณ์ของครูบาอาจารย์ ตลอดจนของตัวกระผม/อาตมภาพเอง ยังไม่เคยเห็นใครอยู่ได้เกินวันเลย ถ้าได้กลางวัน ก็ไม่ได้เห็นพระอาทิตย์ตก ถ้าได้กลางคืน ก็ไม่ได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้น ถ้ากำลังใจไม่ถึง ก็จะรู้สึกว่าน่ากลัว แต่สำหรับคนที่กำลังใจถึงแล้ว กลับเป็นสิ่งที่ท่านปรารถนาอย่างยิ่ง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-09-2021 เมื่อ 02:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 13-09-2021, 23:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

จำไว้ว่า บุคคลที่เข้าถึงระดับนี้ ไม่ได้แสวงหาความตาย ไม่ได้อยากตาย แต่พร้อมเสมอที่จะตาย กำลังใจยอมรับทุกสิ่งทุกอย่างทั้งหมด อยู่ก็ได้ ตายก็ดี อยู่ก็ได้สร้างบุญบารมี ตายก็ไปพระนิพพาน

เพราะฉะนั้น...ใครที่คิดว่าตนเองปฏิบัติธรรมถึงระดับอยากตายแล้วดี กระผม/อาตมภาพขอยืนยันว่าไม่ได้เรื่อง..! เพราะว่าคนที่อยากตายกำลังใจจะเศร้าหมอง ตายตอนนั้น อาจจะลงอบายภูมิไปเลย..!

ย้ำอีกครั้งหนึ่ง ไม่ได้อยากตาย แต่พร้อมที่จะตาย อยู่ก็ได้ตายก็ดี อยู่ก็ได้สร้างบุญบารมี ตายก็ไปพระนิพพาน เก็บเอาไว้ใช้งาน กำลังใจทำถึงเมื่อไร จะเข้าใจว่าตรงนี้หมายถึงอะไร

ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา ตลอดจนกระทั่งบอกกล่าวให้ญาติโยมได้ทราบแต่เพียงเท่านี้


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๑๓ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๔
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-09-2021 เมื่อ 02:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:57



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว