กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมกราคม ๒๕๖๕

Notices

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมกราคม ๒๕๖๕ เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมกราคม ๒๕๖๕

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 08-01-2022, 21:31
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,598
ได้ให้อนุโมทนา: 216,275
ได้รับอนุโมทนา 739,957 ครั้ง ใน 36,062 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๘ มกราคม ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๘ มกราคม ๒๕๖๕


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 09-01-2022, 00:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๘ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ วันเสาร์ที่สองของเดือนมกราคมคือวันเด็กแห่งชาติ แต่ว่าปีนี้เด็กเฉาไปหน่อย เพราะว่าเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ รอบใหม่ โดยเฉพาะเชื้อโอไมครอนกำลังระบาดแรง ทำให้บรรดาโรงเรียนต่าง ๆ ต้องงดจัดกิจกรรมวันเด็ก เพียงแต่ว่าที่โรงเรียนทองผาภูมิวิทยานั้น กระผม/อาตมภาพต้องไปมอบอาคารหอพักนักเรียนบ้านไกล ๒ ชั้นให้กับทางโรงเรียน ก็เลยมีกิจกรรมเล็ก ๆ เพราะว่าที่มาร่วมงานก็คือ คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานของโรงเรียน กับเด็กนักเรียนที่จะมาพักในหอพักนั้นเท่านั้น

หลังจากนั้นกระผม/อาตมภาพก็วิ่งยาวไปโน่นเลย MCC Hall เดอะมอลล์งามวงศ์วาน เพื่อไปรับรางวัลครุฑสุบรรณกายกับรางวัลเพชรรัตนชาติ แม้ว่าช่วง ๒ ปีที่ผ่านมา แต่ละปีรับอยู่ประมาณ ๘ รางวัล ๑๐ รางวัล แต่ปีนี้ยังสงสัยอยู่ว่า ๒ รางวัลนี้มาอย่างไร ?

ปรากฏว่าไปเจอบุคคลคุ้นเคยเข้า ก็คือ ดร.เอกกฤต นารายณ์รักษา ที่เคยพาคณะมาทำบุญที่วัดท่าขนุนแห่งนี้ ปรากฏว่าท่านเป็นหนึ่งในคณะกรรมการคัดเลือกผู้เข้ารับรางวัล ก็ถึงได้เข้าใจว่าทำไมรางวัลนี้จึงตกมาถึง เพราะเท่ากับว่าหนึ่งในคณะกรรมการได้เดินทางมาดูถึงสถานที่จริงแล้ว แล้วก็ยังทำให้เด็กของโรงเรียนทองผาภูมิวิทยาอีกคนหนึ่ง ก็คือ น้องบัว (นางสาวอัจฉานันท์ วงศรีรัตนชัย) ก็พลอยได้รางวัลครุฑสุบรรณกาย สาขาเยาวชนดีเด่นไปด้วย

รางวัลสองรางวัลนี้น่ารักมาก เนื่องเพราะว่าผู้จัดนำไปให้หลวงปู่พัฒน์ วัดห้วยด้วน (พระราชมงคลวัชราจารย์) ทำการปลุกเสกมาก่อน เพราะฉะนั้น...ถ้าหากว่าใครได้รางวัลนี้ไปก็ "กระดี๊กระด๊า" น่าเสียดายที่รางวัลที่งามสุด ๆ อย่างรางวัลครุฑสุบรรณกาย และได้รับการปลุกเสกมาจากพระเถระระดับหลวงปู่พัฒน์นั้น มีผู้ได้รับทั่วประเทศแค่ ๙๘ รูป/คน

ส่วนรางวัลรางวัลเพชรรัตนชาติ ก็ได้รับอยู่ ๑๓๘ คน ถ้าหากว่ามีการประกาศล่วงหน้าก่อนว่ามีรางวัลปลุกเสก น่าจะมีคนส่งประวัติขอรับกันมากกว่านี้ แต่ก็เป็นเรื่องยาก เพราะถ้าประกาศล่วงหน้าก่อนว่าจะเอารางวัลเข้าพิธี เพื่อที่หลวงปู่พัฒน์ท่านเสกให้ เกิดหลวงปู่ท่านไม่ว่างขึ้นมา หรือสุขภาพไม่ดีพอ เจ้าภาพก็จะ "เสียรังวัด" ไปอีก ก็ถือว่าเป็นความโชคดีของบุคคลที่ได้รับรางวัลไปก็แล้วกัน

ตัวกระผม/อาตมภาพเองก็เพิ่งรู้ว่าตัวเองมีชื่อเสียงขนาดนั้น เพราะว่าบรรดาผู้ที่เข้ารับรางวัล ทั้งพระทั้งโยม มาทักทาย มาขอถ่ายรูป พูดง่าย ๆ ว่ามากจนเวียนหัว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-01-2022 เมื่อ 03:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 09-01-2022, 00:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แต่คราวนี้ในส่วนของรางวัลนั้น เนื่องจากว่าตัวประธานผู้มอบรางวัล ก็คือ ม.ล.วันชัย นวรัตน เลขาธิการสมาคมผู้ผลิตและดำเนินรายการวิทยุและวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย มาช้า อาจจะติดงานที่อื่น หรือไม่ก็รถติด เนื่องจากว่าสถานที่บริเวณนั้นยังมีการจัดงานวันเด็กอยู่ แต่มีการคัดกรองที่เข้มงวดมาก แม้ตัวกระผม/อาตมภาพฉีดวัคซีนมาแล้ว ๓ เข็ม ก็ยังต้องไปลงทะเบียน ไปให้เขาตรวจสอบ มีพยาบาลมารอตรวจด้วยชุดเครื่องมือ ATK อยู่ ก็ต้องบอกว่าทางเจ้าภาพจัดงานได้ค่อนข้างจะเข้มงวด

และที่น่าชมเชยอย่างยิ่งก็คือทั้ง ๒ รางวัลนั้น ให้พระภิกษุรับต่อเนื่องกันไปเลย คำว่ารับต่อเนื่องกันไปเลยก็คือ ไม่ว่าจะเป็นรางวัลครุฑสุบรรณกายหรือว่ารางวัลเพชรรัตนชาติ ถ้ารอโยมที่รวม ๆ กันแล้วเป็นร้อยรับไปตามลำดับ แล้วค่อยขึ้นรับรางวัลใหม่ ก็น่าจะเสียเวลาอีกเป็นชั่วโมง แต่ว่าทางผู้จัดให้พระรับทั้ง ๒ รางวัลไปก่อนเลย ก็คือใครได้รับรางวัลครุฑสุบรรณกายก็รับไป ใครได้รับรางวัลเพชรรัตนชาติก็ต่อแถวรับไป มีกระผม/อาตมภาพคนเดียวที่วิ่ง ๒ รอบ ก็คือจากที่นั่งหมายเลข ๗ ที่กลายเป็นหมายเลข ๑ ของครุฑสุบรรณกาย ก็วิ่งไปนั่งที่หมายเลข ๕ ของเพชรรัตนชาติอีกรอบ

เหตุที่หมายเลข ๗ เป็นหมายเลข ๑ ก็เพราะว่าบรรดาท่านทั้งหลายที่รับ ๖ อันดับแรกของรางวัลครุฑสุบรรณกายนั้น ส่วนใหญ่เป็นพระราชาคณะผู้ใหญ่ แล้วก็ไม่ได้ส่งตัวแทนมา คาดว่าทางผู้จัดคงต้องนำไปถวายถึงวัด แต่ตัวกระผม/อาตมภาพเอง มีนิสัยอยู่อย่างหนึ่งว่า เมื่อคนอื่นให้รางวัลเรา เราต้องไปรับด้วยตัวเอง

ตรงจุดนี้บางคนก็คิดไม่เหมือนกัน ที่คิดไม่เหมือนกันก็คือ ไปรับรางวัลเอง เสียเวลาด้วย รถติดด้วย เหนื่อยมากด้วย อย่างครูตูน (นางวารุณี พรมฝ้าย) ที่พาน้องบัวไปรับรางวัล จนกระทั่งกระผม/อาตมภาพเดินทางกลับ ถามน้องบัวว่าได้กินข้าวกลางวันหรือยัง ? ก็ยังไม่ได้กินเลย เพราะว่าไปถึงก็ประมาณเที่ยง รีบไปลงทะเบียนแล้วก็ไปนั่งรอ บ่ายสองกว่ายังไม่ได้กินข้าวกลางวัน ไม่ทราบเหมือนกันว่าจะเป็นลมไปก่อนหรือเปล่า ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 13-01-2022 เมื่อ 17:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 43 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 09-01-2022, 00:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ตรงจุดนี้แสดงออกให้เห็นว่า ในส่วนของการรับรางวัลนั้น คนอื่นให้เกียรติเรา เห็นคุณค่าในสิ่งที่เราทำและมอบรางวัลให้มา เราก็ควรที่จะให้เกียรติเขาในลักษณะของ วนฺทโก ปฏิวนฺทนํ ก็คือผู้ไหว้ควรที่จะได้รับการไหว้ตอบ

ปกติแล้วปีนี้มีอีกรางวัลหนึ่งที่จะได้รับ แต่ว่าต้องเดินทางลงไปรับถึงจังหวัดชุมพร กระผม/อาตมภาพถึงได้ปฏิเสธทางเจ้าภาพไปว่า ปีนี้ติดงานช่วงรับรางวัล ขออนุญาตผ่านไปก่อน เพราะว่ามีนิสัยก็คือ ถ้าเขาให้ เราควรที่จะไปรับด้วยตนเอง แล้วก็มีงานอื่นคาอยู่ เดินทางไปถึงชุมพรกลับขึ้นมาไม่ทันงานเขาแน่ จึงต้องปฏิเสธไป ถ้าหากว่าปีอื่น ๆ คุณเห็นว่าสมควรให้มา แล้วตรงกับระยะเวลาที่ว่าง ก็จะลงไปรับด้วยตนเอง

อีกรางวัลหนึ่งที่เขาจะให้ ถ้าหากว่าการพิจารณาของปีนี้ผ่าน ก็คือรางวัลเพชรราชธานีของมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี รางวัลนี้คาดว่า ถ้าหากว่าตรงกับงานอื่นก็อาจจะต้องส่งตัวแทน หรือไม่ก็แจ้งให้เขามอบให้คนอื่นแทน

บุคคลเราไม่จำเป็นต้องไปแสดงให้คนอื่นเขาเห็นว่าสูงศักดิ์ มีศักดิ์ศรี มีราคา เพราะโบราณบอกว่า ข้าวเม็ดลีบ รวงมักจะตั้งตรง แต่ว่าข้าวที่เป็นเมล็ดสมบูรณ์ รวงจะอ่อนค้อมลงเสมอ ก็คือลักษณะของการที่สอนให้พวกเราอย่าได้ยึดถือในสักกายทิฐิ ความเป็นตัวกูของกู และมานะ ยึดมั่นว่ากูดีกว่า กูเก่งกว่า เป็นต้น เนื่องเพราะว่าบุคคลใดบุคคลหนึ่งก็ตาม ไม่ช้าก็เร็ว จะต้องแสดงศักยภาพความสามารถของตนเองในด้านใดด้านหนึ่งออกมา

ตรงจุดนี้สมัยที่
กระผม/อาตมภาพรับราชการทหารอยู่ ขออนุญาตเอ่ยปากเลย ก็คือสิบตรีสำอางค์ นันมี เพื่อนทหารทุกคนเรียกว่า "ไอ้มึน" ที่เรียกว่า "ไอ้มึน" เพราะแต่ละวัน แกก็มักจะนั่งตาลอยอย่างกับคนหิวกัญชา ไม่กระตือรือร้นอะไรกับชีวิตเลย

ดังนั้น..เมื่อมีการบรรจุทหารลงหน่วยงาน รายชื่อสิบตรีสำอางค์ส่งไปถึงใครก็โดนปฏิเสธหมด พอมาถึงกระผม/อาตมภาพเห็นเข้าก็เอาตัวมา เนื่องเพราะว่าการดูแลทหารในช่วงนั้น ยังอยู่ในระดับผู้บังคับหมู่ หนึ่งหมู่ประกอบไปด้วย ผู้บังคับหมู่ รองผู้บังคับหมู่ พลทหารสื่อสาร พลทางสาย พลเครื่องยิงลูกระเบิด แล้วที่เหลือก็เป็นพลปืนเล็ก

กระผม/อาตมภาพจะยัดตำแหน่งอื่นให้ก็ใช่ที่ เพราะโดยเฉพาะพวกพลสื่อสารต่าง ๆ ซึ่งสำคัญสุด ๆ ถ้าการสื่อสารโดนตัดขาด มีสิทธิ์ "ละลาย" ทั้งหมู่ คำว่าละลายก็คือ โดนข้าศึกโจมตีเข่นฆ่าจนกระทั่งไม่เหลือใครเลย..! จะให้ตำแหน่งพลปืนเล็กก็ไม่ได้ เพราะว่าในหน่วยทหารระดับหมู่ ซึ่งถือว่าเป็นหน่วยรบที่เล็กที่สุด มีความคล่องตัวที่สุดและสำคัญที่สุดนั้น

พลปืนเล็กก็คือบุคคลที่ถือไรเฟิลจู่โจม เป็นกำลังที่สำคัญที่สุด ถือว่าเป็นกำลังหลักในการปะทะกับข้าศึก ดังนั้น...ก็มีอยู่ตำแหน่งเดียวที่ควรจะให้ลงก็คือพลเครื่องยิงลูกระเบิด ถ้าไม่ใช่ประเภทที่หนักหนาสาหัสจริง ๆ ตำแหน่งนี้ไม่มีโอกาสได้ลงไม้ลงมือกับใคร
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 13-01-2022 เมื่อ 17:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 09-01-2022, 00:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ระเบียบของทหารนั้นเข้มงวดมาก ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์เฉพาะหน้าได้ ต้องรอคำสั่งผู้บังคับบัญชาอย่างเดียว คนยิงเครื่องยิงลูกระเบิดจะยิงได้ก็ต่อเมื่อผู้บังคับบัญชาอนุญาตเท่านั้น ซึ่งตรงจุดนี้เป็นจุดอ่อนที่ใหญ่หลวงมาก มัวแต่รอให้อนุญาต อาจจะโดนข้าศึกรุมตีตายกลายเป็นศพแล้ว..!

ดังนั้น...เมื่อรับเอาตัวของสิบตรีสำอางค์ นันมีมา แล้วบรรจุลงตำแหน่งพลเครื่องยิงลูกระเบิด พูดง่าย ๆ ก็คือให้เขามีที่ลง ไม่ได้หวังการช่วยเหลือจากเขาเลย ปรากฏว่าปีนั้นจำเป็นต้องเข้าฝึกหมู่ ตอน หมวด ก็คือการบังคับบัญชาหน่วยทหารตั้งแต่ระดับหมู่ ระดับตอนที่ใหญ่กว่าหมู่ และระดับหมวด ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นหน่วยรบหลักของกองทหาร และเป็นการฝึกโดยใช้อาวุธจริง..!

ทหารเราจะมีการฝึกโดยใช้อาวุธจริงทุกปี อันดับแรกก็คือให้เกิดความเคยชินว่า เวลารบจริง ๆ แล้วเป็นอย่างไร อันดับที่สองก็คืออาวุธกระสุนที่จะหมดอายุ ก็จะได้ "จำหน่าย" ได้ ใช้ไปในการฝึกซ้อม ไม่ต้องทิ้งให้เสียเปล่า

อย่าถามว่ามีตายไหม ? ตายทุกปี..! ถ้าหากว่าคุณปฏิบัติได้ถูกต้องตามที่ฝึกมา ก็แปลว่าปลอดภัย แต่ถึงปฏิบัติถูกต้อง ถ้ามีอุบัติเหตุก็ตายได้อีก อย่างเช่นรุ่นน้องชื่อ พลทหารสมพงษ์ พินิจมนตรี เจอเอ็ม. ๖๐ เข้าที่ไหล่ ทะลุตลอดลำตัว ขาดสะพายแล่งอย่างกับขวานจาม..!

ถ้าอยากรู้ว่าเอ็ม. ๖๐ หน้าตาเป็นอย่างไร ? ก็คือปืนกลที่มีกระสุนเป็นสาย ๆ ที่ "ไอ้แรมโบ้" ถืออยู่นั่นแหละ เพราะว่าเป็นการฝึกลอดวิถีกระสุน ซึ่งเป็นการใช้กระสุนจริง แล้วการใช้กระสุนจริง เขาจะตั้งปากลำกล้องสูงจากพื้นประมาณ ๓๐ เซนติเมตร พูดง่าย ๆ ก็คือมีที่ให้ไปได้

แต่ว่าพลทหารสมพงษ์ พินิจมนตรี น่าจะถึงฆาต เพราะว่าการที่จะบุกฝ่าเข้าไปจนถึงรังปืนกลนั้น ตลอดระยะทางจะมีระเบิดอยู่ตลอดแนว ปรากฏว่าการกดระเบิดตูมหนึ่ง ตอนที่พลทหารสมพงษ์เข้าไปใกล้ ไม่มีอันตรายจากระเบิด แต่มีงูแมวเซาตัวหนึ่งพุ่งพรวดออกจากรูมาตรงหน้า พลทหารสมพงษ์ตกใจงู จึงผวาลุกขึ้น..หงายตึงไปเลย..! เพราะว่าปืนยิงอยู่ตลอดเวลา นั่นก็คือถึงปฏิบัติถูกต้องตามหลักการฝึกแล้วก็จริง ก็ยังมีดวงซวยพาให้ตายได้..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-01-2022 เมื่อ 03:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 09-01-2022, 00:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อข้าศึกสมมติเข้าตีหนัก กระผม/อาตมภาพก็สั่ง "ยิงฉาก" คำว่ายิงฉากนี่ ทหารทุกนายจะมีจุดยิงของตนเองโดยเฉพาะ ยิงเฉพาะเป้าหมายจุดนั้น ต่อให้ข้าศึกโผล่มาข้างตัวก็ไม่ใช่หน้าที่เรา นั่นเป็นหน้าที่ของเพื่อน เพราะว่าถ้าหากว่าเราหลุดจากการยิงฉากของตนเอง อาจจะเป็นช่องว่างให้ข้าศึกบุกเข้ามาได้

ปรากฏว่าเสียงเครื่องยิงลูกระเบิดรัวเหมือนกับปืนระบบยิงออโตเมติก เพราะว่าทันทีที่สั่งยิงฉาก สิบตรีสำอางค์ นันมี ซึ่งพกเครื่องยิงลูกระเบิดและมีกระสุนอยู่ ๓ สาย สายละ ๖ นัด คือ ๑๘ นัด แปลว่ามีระเบิดอยู่ในมือ ๑๘ ลูก..! หมู่สำอางค์ยิงอย่างไรไม่รู้ เหมือนระบบออโตเมติก กระสุนตกอยู่หน้าแนว บึม ๆ ๆ ๆ แทบจะไม่ขาดเสียงเลย ไม่มีข้าศึกคนไหนฝ่าแนวเข้ามาได้เลย หมู่ปืนเล็กของเราคว้าเอารางวัลที่ ๑ ในการฝึกมาได้ เพราะฝีมือของหมู่สำอางค์ที่ใคร ๆ ก็ไม่ต้องการและเรียกว่า "ไอ้มึน"..!

กระผม/อาตมภาพไปแอบถามทีหลังว่า "ทำไมมึงถึงใช้เครื่องยิงลูกระเบิดได้ขนาดนี้วะ ?" เขาบอกว่า "ผมเล่น "อีโบ๊ะ" มาก่อนครับ" คำว่า "อีโบ๊ะ" คือปืนลูกซองตราควายที่คนไทยเราผลิตกันเอง ระบบเหมือนกับเปี๊ยบเลย เพียงแต่เครื่องยิงลูกระเบิดนั้นใหญ่ขึ้นมาอีกหน่อย ประมาณกระบอกข้าวหลาม และใส่ลูกกระสุนขนาดประมาณถ่านไฟฉาย ๓ ท่อน นั่นกลายเป็นความชำนาญเฉพาะตัวที่ไม่มีใครสามารถเลียนแบบได้ หลังจากนั้นมาสิบตรีสำอางค์ก็เปล่งประกาย กลายเป็นคนที่ทหารทั้งหน่วยแย่งกันดึงตัว แต่เขาไม่ไปกับใคร จะไปกับกระผม/อาตมภาพเท่านั้น เพราะว่าก่อนหน้านี้ไม่มีใครต้องการเขาเลย

ตรงจุดนี้ที่เล่าให้ฟังก็คือว่า คนเราทุกคนมีคุณค่าอยู่ในตัว แต่อยู่เมื่อไรที่คุณค่านั้นจะแสดงออกมา จึงก็ต่อเมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่เหมาะสมเท่านั้น เพราะฉะนั้น...ใครที่รู้สึกน้อยใจ เสียใจ ทำอะไรไม่ประสบความสำเร็จสักที เราต้องมาคิดว่ายังไม่ใช่เวลาของเรา น้ำค่อย ๆ หยดทีละหยด ๆ กว่าที่จะเต็มตุ่มเต็มไห บางทีก็นานมาก

ผมมักจะยกตัวอย่างเสมอ ก็คือหลวงปู่พูล (พระมงคลสิทธิการ) วัดไผ่ล้อม จังหวัดนครปฐม ท่านเกิดผิดยุค มีความสามารถเท่าไร ยุคที่ท่านเพิ่งบวชใหม่ ๆ ก็หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม ผงาดทั้งประเทศ ไม่ใช่แค่จังหวัด และที่ใกล้เคียงกัน ความสามารถเป็นที่ยอมรับพอกัน ก็หลวงพ่อน้อย วัดธรรมศาลา หลวงพ่อน้อย วัดศีรษะทอง หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม

ถัดจากรุ่นนั้นมาก็ยังมีหลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ หลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม กว่าจะมาถึงยุคของท่านนี่ก็อายุ ๙๐ ปี ก็คือท่านอายุยืนมาก จนท่านอื่นมรณภาพกันหมดแล้ว มีระยะช่วงเวลาสั้น ๆ แค่ ๓ - ๔ ปี "ดังระเบิดเถิดเทิง" กลายเป็นพระเกจิอาจารย์ในฝันของคนทั้งประเทศเลย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-01-2022 เมื่อ 03:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #7  
เก่า 09-01-2022, 00:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เพราะว่าท่านมรณภาพลงไป ไม่ว่าจะเป็น วัน เดือน ปี ในการมรณภาพ เวลาในการมรณภาพ หมายเลขรถที่ขนสังขารท่านกลับวัด แม้กระทั่งหมายเลขฝาโลง หวยออกหมดเลย..! ทุกวันนี้ส่วนหนึ่งไปกราบสังขารหลวงพ่อพูลนั้น ไปเพื่อไปขอหวยกัน..!

แล้วไปนึกถึงหลวงปู่ทอง วัดพระธาตุศรีจอมทอง (พระพรหมมงคล) ท่านอายุ ๙๐ กว่า เกือบร้อยนะครับ ท่านให้ข้อคิดว่า "อดได้ ทนได้
รอได้ เย็นได้ ดีได้" ลองดูว่าพวกเราจะอายุยืนขนาดหลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม หรือว่าหลวงปู่ทอง วัดพระธาตุศรีจอมทองหรือเปล่า ? แต่ละท่านอยู่ ๙๐ กว่าปีทั้งนั้น แล้วสิ่งที่สรุปมาก็คือประสบการณ์ชีวิตของท่านแท้ ๆ "อดได้ ทนได้ รอได้ เย็นได้ ดีได้"

ที่เรียนบอกกับพวกเราตรงนี้ก็เพราะว่า สิ่งต่าง ๆ ที่
กระผม/อาตมภาพทำมา ก็ต้องบอกว่าค่อนชีวิต เริ่มมาผลิดอกออกผลในช่วงนี้ ก็เลยทำให้หน่วยงานต่าง ๆ มอบรางวัลให้มากในระยะนี้ และขณะเดียวกัน บุคคลที่รู้จักก็มากขึ้นทุกที ตรงจุดนี้มีทั้งสิ่งที่ดีและไม่ดี

สิ่งที่ดีก็คือ เรื่องราวดี ๆ ต่าง ๆ จะเข้ามาในชีวิตได้ง่ายขึ้น ส่วนที่ไม่ดีก็คือตกเป็นเป้าสายตาคนอื่น ขยับตัวลำบากมาก เดี๋ยวนี้ไม่ว่าจะแวะเข้าห้องน้ำที่สถานีบริการน้ำมันไหน ต้องมีคนรู้จักวิ่งมากราบ วิ่งมาไหว้ บางคนถึงกับขนาดออกปากว่า "ไปวัด ๓ ครั้ง ๔ ครั้ง ไม่เคยเจอหลวงพ่อเลย โชคดีจริง ๆ ที่ได้มาเจอที่นี่"
กระผม/อาตมภาพเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไร "กูปวดฉี่จะราดอยู่แล้ว ยังต้องรอมึงกราบก่อนอีก..!" เป็นต้น

จึงขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๘ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 12-01-2022 เมื่อ 15:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 45 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 23:18



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว