กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมีนาคม ๒๕๖๕

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 08-03-2022, 20:15
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,598
ได้ให้อนุโมทนา: 216,269
ได้รับอนุโมทนา 739,755 ครั้ง ใน 36,062 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๘ มีนาคม ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๘ มีนาคม ๒๕๖๕


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 09-03-2022, 00:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,079 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๘ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ มีหลายเรื่องที่สมควรพูดถึง แต่ในเวลาโดยประมาณที่เหลือ ได้แค่ไหนก็เอาแค่นั้น

เรื่องแรกก็คือ พระครูพนมปรีชากร, ดร. หรือ พระครูไก่ เลขานุการเจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมวรวิหาร และผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมวรวิหาร ถูกหวย ๑๘ ล้านบาท แล้วท่านก็แจกจ่ายทำบุญจนหมด ซึ่งตรงส่วนนี้แล้ว คนส่วนใหญ่ก็อนุโมทนาด้วย แต่ว่าความจริงแล้วก็คือ ท่านทำผิดคำสั่งของสังฆมนตรี..!

สังฆมนตรีในสมัยนั้นมีอำนาจมากกว่าสมเด็จพระสังฆราช เพราะว่าพระราชบัญญัติสงฆ์ปีพุทธศักราช ๒๔๘๔ กำหนดให้สมเด็จพระสังฆราชเปรียบเสมือนกับองค์พระบิดาของคณะสงฆ์ไทย เป็นตำแหน่งลอยอยู่เฉย ๆ ไม่ได้มีอำนาจอะไร แล้วแบ่งการปกครองคณะสงฆ์ออกเป็น ๓ ส่วนก็คือสังฆสภา มีหน้าที่ออกกฎระเบียบต่าง ๆ สังฆมนตรี มีหน้าที่ในการปกครอง และคณะวินัยธร มีหน้าที่ในการตัดสินคดีความต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในคณะสงฆ์

องค์สังฆมนตรีในสมัยนั้น คือพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ญาณวรมหาเถร) วัดเทพศิรินทราวาส มีคำสั่งห้ามพระภิกษุสามเณรเล่นหวย ซื้อหวย ถ้าจำไม่ผิดตั้งแต่วันที่ ๒๑ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๔๗๐ คำสั่งนี้เท่ากับเป็นกฎหมายคณะสงฆ์อย่างหนึ่ง ไม่ได้มีการยกเลิก

แบบเดียวกับที่สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ ทรงมีคำสั่งห้ามพระภิกษุในสังกัดคณะสงฆ์ไทย ทำการบวชสามเณรีหรือภิกษุณีในประเทศไทย ก็คือไม่ได้ยกเลิกคำสั่งนี้ คำสั่งนี้ยังมีผลในการบังคับใช้อยู่ ดังนั้น...ถ้าหากว่าถือคำสั่งของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ( ญาณวรมหาเถร) องค์สังฆมนตรีในสมัยนั้น ท่านพระครูไก่ที่ซื้อหวย ถ้ามีคนเอาเรื่องขึ้นมาจริง ๆ มีสิทธิ์โดนจับสึกได้เลย..!

เพราะฉะนั้น...ท่านทั้งหลายที่เป็นพระภิกษุสามเณร ซึ่งฟังอยู่ที่นี่ หรือว่าที่อื่นก็ตาม โปรดทราบว่าในความเป็นพระเป็นเณรของเรา ก็คือ ต้องพยายาม ลด ละ เลิก กิเลส ให้เหลือน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ การซื้อหวย แปลว่าต้องหวังรวย ในเมื่อหวังรวย แปลว่าความโลภยังมีเต็มอยู่ในหัวใจ..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-03-2022 เมื่อ 03:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 43 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 09-03-2022, 00:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,079 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุงเคยเล่าให้ฟังว่า ท่านเคยถูกหวยรางวัลที่ ๑ เหตุที่ถูกหวยเพราะท่านฝันว่าตกส้วมหลุม จมมิดหัวเลย เมื่อไปเล่าถวายหลวงปู่ปาน หลวงปู่ท่านบอกว่า โบราณเชื่อกันว่า ถ้าฝันว่าโดนคนฟันหัวขาดอย่างหนึ่ง หรือว่าฝันว่าตกส้วมจมมิดหัวอย่างหนึ่ง จะถูกรางวัลที่ ๑

พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านต้องการพิสูจน์ตรงนี้ หลังจากที่บิณฑบาต ฉันเช้าเสร็จเรียบร้อย ท่านจึงนั่งเรือแดงลงมากรุงเทพฯ เพื่อที่จะซื้อหวย ซึ่งก็คือล็อตเตอรี่นั่นแหละ สมัยนั้นล็อตเตอรี่ใบละ ๑ บาท ถ้าหากว่าขายได้มาก อัตราส่วนในการที่แบ่งสันปันส่วนเป็นเงินรางวัลก็จะมาก ถ้าขายได้น้อย อัตราส่วนในการที่แบ่งสันปันส่วนรางวัลก็จะน้อยลงไปด้วย เขาถึงได้เรียกว่าสลากกินแบ่งรัฐบาล แต่ว่าสมัยนี้สลากกินแบ่งนั้นมีโควตา เมื่อถึงเวลาออกมาก็มีผู้รับไปจำหน่ายทั้งหมด อัตราส่วนรางวัลจึงแน่นอน ไม่เหมือนกับสมัยโน้น

สมัยโน้นเมื่อซื้อหวยแล้ว ต้องมีการลงลายมือชื่อไว้ที่ต้นขั้ว ถึงเวลาเขาประกาศออกวิทยุ จะอ่านลายมือชื่อเจ้าของที่ลงชื่อไว้ด้วย พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านบอกว่า พอรุ่งขึ้นหวยออก ท่านถูกรางวัลที่ ๑ ได้เงิน ๘,๐๐๐ บาท เราต้องนึกถึงสมัยก๋วยเตี๋ยว ๒ ชาม ๕ สตางค์ ๑๐ ชามก็ ๕๐ สตางค์ ก๋วยเตี๋ยว ๒๐ ชาม เท่ากับ ๑ บาท ตีเสียว่าอย่างไม่มี ๆ สมัยนี้ชามละ ๒๐ บาทก็พอ คูณกันไปเท่าไรก็จะทราบว่า ๘,๐๐๐ บาทสมัยโน้นเป็นเงินเท่าไรของสมัยนี้

หลวงพ่อวัดท่าซุงแจ้งต้นขั้วกับหมายเลข แล้วก็ฝากสลากให้โยมไปเบิก เอาเงินมาถวายหลวงปู่ปานทั้งหมด หลวงปู่ปานถามว่า "แกจะไม่เก็บเอาไว้ใช้เองบ้างหรือ ?" พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ กราบเรียนว่า "เงินระยำแบบนี้ผมไม่เอาครับ ผมบวชมาเพื่อละกิเลส ไม่ได้บวชมาเพื่อเพิ่มกิเลส แต่ว่าที่ผมไปซื้อหวย เพราะอยากพิสูจน์ว่าสิ่งที่ครูบาอาจารย์บอกนั้นถูกต้องหรือเปล่าครับ" แล้วพวกท่านก็ไม่ต้องเสียเวลา ประเภทหาข้ออ้างไปซื้อหวยกันนะ เพราะว่ากระผม/อาตมภาพก็ไม่ซื้อเหมือนกัน

สมัยที่
กระผม/อาตมภาพมาทองผาภูมิใหม่ ๆ เดินเข้าไปในตลาด แม่ค้าเรียกซื้อหวย กระผม/อาตมภาพก็หัวเราะ บอกว่า "ซื้อไม่ได้หรอกโยม ถ้าซื้อ..เจ้าอาวาสไล่ออกจากวัดเลย" ตอนนั้นแม่ค้ายังไม่รู้จักกระผม/อาตมภาพเหมือนสมัยนี้ ก็ถามว่า "ท่านอาจารย์อยู่วัดไหน ? ทำไมเจ้าอาวาสถึงได้ดุขนาดนั้น ?"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-03-2022 เมื่อ 03:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 09-03-2022, 00:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,079 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถ้าถามว่าสมัยฆราวาสกระผม/อาตมภาพเคยซื้อหวยไหม ? เคย..ถูกมากด้วย แล้วก็เกิดความสงสัยใคร่รู้ กราบเรียนถามพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ ว่า "ซื้อหวยผิดศีลไหมครับ ?" พระเดชพระคุณหลวงพ่อตอบว่า "ไม่ผิด..แต่มันร้อน..!" พอได้ยินแล้วกระผม/อาตมภาพถึงกับสะดุ้ง เพราะรู้สึกว่าเป็นเรื่องร้อนจริง ๆ เนื่องจากว่าก่อนหวยออกก็คิดพล่านไปหมด ว่าถ้าถูกหวยได้เท่าโน้น ได้เท่านี้ เราจะเอาเงินไปทำอะไรบ้าง ในเมื่อท่านชี้ทางออก บอกทางถูกให้ จึงตัดใจเลิกเล่นหวยตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา

ดังนั้น...ในส่วนนี้ ถ้าหากว่าในเรื่องของทางโลก พระครูไก่ท่านทำผิดคำสั่งของสังฆมนตรี ถ้าหากว่าในเรื่องของทางธรรม ท่านผิดในฐานะที่เป็นพระภิกษุสงฆ์แล้วเกิดความโลภในใจไปซื้อหวย แม้ว่าท่านถูกรางวัลที่ ๑ แล้ว จะมีกุศลจิตทำบุญจนหมดก็ตาม เรื่องตรงนี้เราต้องแยกแยะให้ชัดเจนว่าเรื่องของความผิดก็คือความผิด เรื่องของส่วนที่ถูกก็คือส่วนที่ถูก

ประการที่สองก็คือเรื่องของดาราตกน้ำตาย เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา กระผม/อาตมภาพเข้าไปฟังรายการเสียงธรรมจากมหาจุฬาอาศรม ปรากฏว่าท่านพระครูปลัดอุทัย พลเทโว, ดร. พิธีกรผู้ดำเนินรายการ พอเห็นก็นิมนต์ให้กล่าวถึงประเด็นนี้ โดยกำหนดแนวทางคร่าว ๆ มาว่า อันดับแรก...ในเรื่องนี้พระอาจารย์สงสารใคร ? ประการที่สอง...ใครผิด ? ประการที่สาม...ในสถานการณ์แบบนี้ เราควรจะใช้หลักธรรมอะไรในพระพุทธศาสนาเข้ามาช่วย ?

จึงได้แสดงความเห็นไปว่า ในเรื่องนี้ที่น่าสงสารที่สุดคือกระผม/อาตมภาพเอง รับแต่ข่าวที่เหมือนกับขยะเน่าเหม็นเข้ามาอยู่ทุกวัน ประการที่สอง คนผิดก็คือดาราที่ตกน้ำตาย เพราะว่าได้สร้างกรรมเก่าที่เป็นปาณาติบาตหนักไว้ในอดีต เมื่อมาถึงชาติปัจจุบันนี้ กรรมส่วนนั้นตามมาทัน ไม่ได้รับการแก้ไขที่ถูกต้อง วาระกรรมจึงทำให้เสียชีวิตทั้ง ๆ ที่ยังไม่ทันจะหมดอายุ ถ้าหากว่าสามารถแก้ไขได้ถูกต้องอย่างเรื่องอายุวัฒนกุมาร ก็จะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีกระยะหนึ่ง

ส่วนในเรื่องต้องใช้หลักธรรมอะไรในพระพุทธศาสนาเข้ามาแก้ไขตรงจุดนี้หลัก ๆ เลยก็คือ ทุกคนต้องมีสติ ต้องมีสมาธิ ต้องมีปัญญาสติ คือระลึกรู้อยู่เสมอว่าเราเป็นพุทธบริษัท หน้าที่ของเราก็คือทำตามโอวาทปาฏิโมกข์ ที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเอาไว้ ก็คือละเว้นจากความชั่วทั้งปวง ทำความดีให้ถึงพร้อม ชำระจิตใจของตนให้ผ่องใสจากกิเลส

การที่เราจะชำระจิตใจของตนให้ผ่องใสจากกิเลสได้ อย่างน้อย ๆ ต้องทรงระดับอัปปนาสมาธิตั้งแต่ระดับปฐมฌานละเอียดขึ้นไป แล้วใช้ปัญญาแยกแยะ โดยการสำรวม ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ไม่ไปรับเอาขยะเข้ามาไว้ในใจ..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 09-03-2022 เมื่อ 10:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 09-03-2022, 00:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,079 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สมมติว่าเราขับรถสวย ๆ อยู่ ๆ ก็โดนน้ำสกปรกสาดใส่ทั้งถัง เราก็ต้องรีบล้างรถของเราให้สะอาด แต่นี่สื่อโซเชียลต่าง ๆ สาดขยะใส่ใจของเราอยู่ทุกวัน หน้าที่ของเราก็คือชำระใจให้ผ่องใสจากกิเลส แทนที่จะรีบขัดถูรักษาใจของเราให้ดี กลับไปกอบโกยเอาขยะเหล่านี้เข้ามาในใจอยู่ทุกวัน แล้วหลายท่านก็พลอยมีอารมณ์ร่วม รัก โลภ โกรธ หลง ตามไปอีกด้วย

ดังนั้น...ในเรื่องทั้งหลายเหล่านี้เราต้องมีปัญญา มองเห็นทุกข์เห็นโทษของการเกิด ว่าถ้าเราจะตัดข้ามกระแสแห่งห้วงทุกข์นี้ไปได้ ก็ต้องพยายามสำรวม กาย วาจา ใจ ของเราให้ดี รักษากำลังสมาธิที่เราทำไว้ได้ อย่าให้รั่วออกทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ จนหมด ซึ่งถ้าหากว่ารั่วหมด โอกาสที่เราจะนำกำลังสมาธิไปใช้ในการตัดกิเลสก็ไม่มีทางสำเร็จได้ เพราะว่าทำมาเท่าไรก็รั่วเกลี้ยง ไม่เหลืออะไร กี่ปี ๆ กำลังก็ไม่พอในการตัดกิเลส

จึงเป็นเรื่องที่พุทธบริษัททั้งหลายจักพึงสังวรเอาไว้ว่า การที่เราจะทำหน้าที่พุทธบริษัทให้ดี ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการชำระใจของตนให้ผ่องใสจากกิเลส เป้าหมายแรกเลยก็คือ เพื่อหลุดพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพาน เป้าหมายรอง ๆ ลงไปก็คือ ถ้าหากว่ามีเรื่องไม่ดีไม่งามเกิดขึ้นในพระพุทธศาสนา เราจะได้เป็นผู้ยืนยันว่าพระพุทธศาสนาของเราเป็นของดี เป็นของจริง เป็นของแท้ สามารถท้าพิสูจน์ด้วยการปฏิบัติจนเห็นผลได้

เรื่องที่พูดไปในรายการเสียงธรรมจากมหาจุฬาอาศรม ไม่มีพวกเราได้ยิน เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะว่าโดนรับเชิญกะทันหัน จึงได้แสดงความคิดเห็นไปพอสมควร เห็นว่าบางเรื่องเหมาะสมกับยุคสมัย จึงควรที่จะนำมากล่าวไว้ในที่นี้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-03-2022 เมื่อ 03:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 09-03-2022, 00:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,079 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องที่สาม ก็คือเรื่องของสงครามรัสเซียกับยูเครน ซึ่งปัจจุบันนี้ภาพก็เริ่มชัดแล้ว แม้ว่าทางโลกตะวันตกจะพยายามปิดข่าว แล้วออกข่าวโจมตีรัสเซียโดยฝ่ายเดียว ทุกคนก็รู้อยู่แล้วว่าใครเป็นคนค้าสงคราม แต่ว่าสิ่งที่เกิดผลกระทบก็คือข้าวของทุกอย่างแพง โดยเฉพาะน้ำมันเชื้อเพลิง

ทุกท่านต้องไม่ลืมว่าปัจจุบันนี้ยังมีการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ อยู่ และระบาดหนักด้วย ถ้าดูจากบทเรียนในอดีต หลังโรคระบาดทุกครั้งจะเกิดข้าวยากหมากแพง เพราะว่าผู้คนเจ็บป่วยล้มตาย โอกาสที่จะมีกำลังในการผลิตข้าวปลาอาหารก็น้อยลง

หลังสงครามหรือระหว่างสงครามทุกครั้งจะเกิดข้าวยากหมากแพง เพราะผู้คนมัวแต่วุ่นวายกับสงคราม ไม่มีเวลาทำมาหากินเช่นกัน ตรงจุดนี้พวกเราจึงควรที่จะสังวรระวังว่า เมื่อเห็นสถานการณ์ชัดเจนขึ้นแล้ว ควรที่จะประพฤติปฏิบัติตนอย่างไร

เรื่องสุดท้ายก็แจ้งผ่านแฟนเพจกิฟท์จังพลังเวทย์ว่า เจ้าของเพจมาขอความกรุณาให้สรรหาวัตถุมงคล สำหรับบุคคลที่ร่วมแรลลี่ทัวร์ครั้งนี้ด้วย โดยตั้งเป้าเอาไว้ว่าอยู่ที่รถจำนวน ๓๐ คัน จำนวน ๖๐ คน ซึ่ง
กระผม/อาตมภาพได้รับปากไปแล้ว และกำลังสรรหาวัตถุมงคลที่เหมาะสมให้อยู่ แปลว่าใครก็ตามที่ซื้อแรลลี่ทัวร์ผ่านเพจกิฟท์จังพลังเวทย์ นอกจากมีโอกาสได้พบเจ้าอาวาสวัดท่าขนุนแล้ว ยังมีโอกาสได้รับวัตถุมงคลเป็นที่ระลึกอีกต่างหาก

ได้รบกวนเวลาทุกท่านมามากแล้ว สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๘ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-03-2022 เมื่อ 03:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 49 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 06:31



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว