กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๕

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 19-02-2022, 19:58
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,524
ได้ให้อนุโมทนา: 215,914
ได้รับอนุโมทนา 736,912 ครั้ง ใน 35,896 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 19-02-2022, 23:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๕ ระยะนี้ดินฟ้าอากาศก็ค่อนข้างวิปริต ก็คือถ้าจะว่าไปแล้ว ช่วงนี้ก็ยังเป็นฤดูหนาวอยู่ แต่ก็มีฝนตกลงมาติดกันหลายวัน ซึ่งตรงส่วนนี้ก็มีความดีอยู่ที่ว่า ถ้าหากว่าจะมีคนเผาป่า ไฟก็ไม่สามารถที่จะลามไปได้มาก เพราะว่ามีความชื้นสูง

การเผาป่านั้นต้องบอกว่าเป็นความมักง่ายที่ขาดจิตสำนึกเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่าการเผาป่านั้น อันดับแรกก็คือ ทั้งสัตว์และต้นไม้จำนวนมากต้องตายลงไป ประการต่อไปก็คือ ดินที่ถูกความร้อนก็จะแข็งเป็นอิฐ ฝนตกลงมาไม่สามารถที่จะดูดซับน้ำได้ ก็จะเกิดน้ำหลากเป็นอุทกภัยได้ง่าย

โดยเฉพาะบุคคลที่เผาป่านั้นมีหลายประเภทด้วยกัน ประเภทแรกก็คือ ต้องการที่จะหักล้างถางพง ทำความสะอาดไร่ของตนเอง แล้วไฟก็ลามเข้าพื้นที่ป่าไป

ประเภทที่สองก็คือเผาป่าเพราะต้องการจะให้มีเห็ด เนื่องจากว่าเห็ดบางประเภท อย่างเช่นเห็ดเผาะ จะเกิดจากขี้เถ้า ถ้าไม่เผาป่า เห็ดก็ไม่เกิด

ประการต่อไป พวกล่าสัตว์ เผาป่าแล้วก็ไปรออยู่ทางลำห้วยลำธาร พวกสัตว์ต่าง ๆ ต้องหนีลงไปลำห้วย ถึงจะรอดจากเปลวไฟได้ พวกพรานก็ล่าเอาตามสบาย โดยเฉพาะที่น่าสงสารที่สุดคือพวกเต่า พอถึงเวลาเดินหล่นตุ๊บลงไปในลำธาร คนก็เอากระสอบไปตามเก็บเอาเลย

อีกพวกหนึ่งเผาป่าเพื่อให้เกิดหญ้าใหม่ ที่เรียกว่าระบัด ซึ่งเป็นอาหารของบรรดาสัตว์กินพืช ไม่ว่าจะเป็นเก้ง กวาง หรือกระทิง วัวแดง ถึงเวลาระบัดขึ้นใหม่ ๆ ถ้าไปซุ่มอยู่อย่างไรก็มีสัตว์มาให้ยิง

ส่วนประเภทสุดท้าย สมควรโดนประหารชีวิตที่สุด เป็นสันดานที่เห็นต้นไม้ใบหญ้าแห้ง ๆ ไม่ได้ ต้องจุด ประมาณว่าไม่มีอะไรจะทำ เผาป่าเล่น..สนุกดี..!

ตรงจุดนี้ต้องบอกว่าความขาดจิตสำนึก อาจจะเป็นเพราะว่าในครอบครัวไม่มีการบ่มเพาะมาก่อน ไปถึงครูบาอาจารย์ก็ไม่ได้เน้นในด้านนี้ กว่าที่จะไปบวชได้ก็แก่เกินแกง แก้ไขนิสัยอะไรไม่ได้แล้ว

แบบเดียวกับวันนี้ที่กระผม/อาตมภาพนั่งรับสังฆทานอยู่ มีแม่พาลูกชาย จะว่าวัยรุ่นก็ไม่ได้ ดูลักษณะหน้าตาก็เกิน ๒๐ ไปมากแล้ว มาแล้วก็กระโดกกระเดก อยู่นิ่งไม่ได้ แล้วแม่ก็สรุปว่าลูกยังเป็นวัยรุ่นอยู่ ซึ่งตรงนั้นไม่ใช่ข้อแก้ตัว ถ้าหากว่าได้รับการอบรมมาดี ต่อให้เป็นเด็ก ก็จะมีกิริยามารยาทที่เรียบร้อยกว่านั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-02-2022 เมื่อ 01:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 19-02-2022, 23:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องพวกนี้ที่น่าเป็นห่วงเพราะว่าพื้นฐานของการอยู่ร่วมในสังคม นอกจากมีจิตสำนึกต่อส่วนรวมแล้ว ยังต้องมีมารยาทในสังคมด้วย เราจะเห็นว่าเด็กรุ่นใหม่ ๆ ส่วนใหญ่แล้วขาดมารยาทในสังคมมาก ไม่ต้องไปคิดถึงรุ่นปู่ย่าตายาย เอาแค่รุ่นของพวกเราทั้งหลายนี่ก็พอ

จะเห็นว่าเด็กสมัยนี้ พูดจาไม่มีหางเสียง จะ "ครับ" หรือ "คะ ขา" ไม่ค่อยเป็น ไหว้คนไม่ค่อยเป็น ทั้ง ๆ ที่การไหว้นั้นเป็นการแสดงออกในการทักทายที่ดีที่สุด เพราะว่าการไหว้ของเรานั้นมีหลายระดับ อย่างที่เวลาฝึกเด็กก็สอนว่า "อัญชลี วันทา อภิวาท" เป็นต้น แล้วเท่านั้นยังไม่พอ กิริยามารยาทต่าง ๆ ก็ไม่ได้รับการขัดเกลามา

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ก็เลยทำให้เด็กสมัยนี้อยู่ในอาการน่าเป็นห่วง เนื่องเพราะว่าไปสนใจ ใส่ใจกับสื่อโซเชียลมากไป จนกระทั่งขาดมารยาทในสังคม ขาดจิตสำนึกเพื่อส่วนรวม เด็กสมัยนี้จะไม่รู้สึกผิด ถ้าวิธีนั้นสามารถหาเงินได้..!

เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า ขาดการอบรมจากทางบ้านยังไม่พอ โรงเรียนก็ยังไม่ได้ใส่ใจตรงจุดนี้ ซึ่งเป็นการทำลายความดีความงามตั้งแต่ฐานราก จนจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ต่อไปในอนาคต เพราะว่าเด็กรุ่นหลัง ๆ นี่จะระงับอารมณ์ไม่เป็น ไม่รู้จักอดทนอดกลั้น จะมีอะไร จะได้อะไร ต้องเดี๋ยวนั้น ถ้าหากว่าโดนขัดขวาง ก็แสดงออกอย่างก้าวร้าวและรุนแรง

สาเหตุที่เป็นเช่นนั้น นอกจากขาดการขัดเกลาอบรมแล้ว อีกสาเหตุหนึ่งก็คือความรักของคนเป็นพ่อเป็นแม่ พอรู้ตัวว่าท้องก็ประเดประดังสารพัดอาหารบำรุง จนกระทั่งกลายเป็นล้นเกิน เด็กที่เกิดมาก็อยู่ในลักษณะของบุคคลประเภท "ไฮเปอร์แอคทีฟ" อยู่นิ่งไม่ได้ เพราะว่าพลังงงานล้นเกิน แต่สติสมาธิก็คือเด็ก จึงเกิดอาการสมาธิสั้น พูดประโยคแรกไม่ทันจะจบ ไปสนใจเรื่องอื่นแล้ว

ดังนั้น....ถ้าจะให้พ่อแม่สมัยนี้แก้ไข วิธีที่ดีที่สุดก็คือจับลูกฝึกนั่งสมาธิตั้งแต่เด็ก ๆ แต่ก็เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงว่า แม้แต่พ่อแม่ก็นั่งสมาธิไม่เป็น แล้วจะไปสอนลูกได้อย่างไร ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-02-2022 เมื่อ 01:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 19-02-2022, 23:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อีกไม่กี่วันทางวัดท่าขนุนก็จะมีการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน ซึ่งเด็ก ๆ ที่เข้ามาบวชนั้น ไม่เกิน ๓ วันก็เรียบเป็นผ้าพับไว้ แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า ทางบ้านและทางโรงเรียนไม่สามารถที่จะต่อยอดได้ เด็ก ๆ อยู่ที่นี่กินอาหารเอง ล้างถ้วยจานเอง ซักผ้าเอง ถูศาลาเอง กวาดทำความสะอาดวัดเอง แต่พอกลับบ้านไป ด้วยความรักของคนเป็นพ่อเป็นแม่ก็ไปทำแทนอีก ซึ่งโดยวิสัยคนเราก็คือรักความสบาย ในเมื่อมีคนทำให้ก็รับไว้ด้วยความยินดี ท้ายที่สุดก็กลับไปเหมือนเดิมทุกประการ

ดังนั้น...บางท่านที่หวังว่าเอาลูกมาบวชเพื่อขัดเกลา ทางวัดช่วยเหลือขัดเกลาให้ได้ แต่ว่าทางบ้านต้องต่อยอดให้ได้ด้วย ไม่เช่นนั้นแล้วสิ่งที่ทำไปก็เสียเปล่าปีแล้วปีเล่า เหตุที่เป็นเช่นนั้น ก็เพราะว่าพ่อแม่ไม่กล้าลงโทษลูกตัวเอง บางทีสามเณรทะเลาะกัน กระผม/อาตมภาพตีเสียทั้งคู่ คนเป็นพ่อเป็นแม่ยืนน้ำตาไหล บอกว่า "ดีแล้วครับที่หลวงพ่อตี ถ้าให้ผมตี ผมก็ไม่กล้า" ตรงนี้จะออกไปในแนว "พ่อแม่รังแกฉัน" ก็คือมีอะไรก็รักลูกจนเกินไป ให้ท้ายทุกเรื่อง จนกระทั่งท้ายสุด เด็กซึ่งชินกับการโดนพะเน้าพะนอมาตลอดชีวิต ใครก็ขัดใจไม่ได้

จึงขอฝากเป็นการบ้านให้กับคนเป็นพ่อเป็นแม่ว่า ถ้าจะแก้ไขลูก ๆ ของตนเองต้องแก้ตั้งแต่เด็ก โดยเฉพาะหัดให้สวดมนต์ ทำวัตร หัดให้นั่งสมาธิ ไม่เช่นนั้นแล้ว วิธีอื่นล้วนแล้วแต่แก้ไขลำบาก เพราะว่าเมื่อจิตใจไม่สงบ การแสดงออกทาง กาย วาจา ก็เป็นไปตามนั้นด้วย

เราจะเห็นว่าเด็กสมาธิสั้นมีมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะฉะนั้น..คนเป็นพ่อเป็นแม่อย่ารักลูกมากจนเกินไป เพราะว่าบรรดาสิ่งของต่าง ๆ ที่ขายมาเพื่อบำรุงคนเป็นแม่และเด็ก สมัยกระผม/อาตมภาพยังเล็ก ๆ อยู่ไม่มี แล้วก็ไม่ตาย แถมยังฉลาดเกินมนุษย์มนาด้วย แปลว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านั้นขาดได้ แค่กินอาหารให้ครบ ๕ หมู่ก็พอ

วันนี้จึงขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเราและบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-02-2022 เมื่อ 01:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:03



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว