กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๕

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 15-02-2022, 20:57
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,596
ได้ให้อนุโมทนา: 216,268
ได้รับอนุโมทนา 739,709 ครั้ง ใน 36,060 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 15-02-2022, 23:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,400,034 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๕ อีกสักครู่ก็จะมีการเทศน์สอนนาค อยากจะบอกว่าบรรดานาคทั้งหลายนั้นต้องสร้างบุญเก่ามาอย่างมหาศาล ถึงจะมีโอกาสอยู่รอดมาจนบวชได้

อย่าลืมว่าคนเรานั้นตายง่ายมาก หายใจเข้าไม่หายใจออกก็ตายแล้ว หายใจออกไม่หายใจเข้าก็ตายอีกเช่นกัน แล้วแต่ละวันเราหายใจกี่ครั้ง ? อยู่รอดมาอย่างน้อยก็ ๒๐ ปี ถึงจะมีสิทธิ์บวชพระได้ แล้วนาคของเราก็มีอายุเกิน ๖๐ ปีอีกด้วย

ตรงจุดนี้จะว่าไปแล้ว ก็ขึ้นอยู่กับวาระบุญวาระกรรมของแต่ละคนเช่นกัน ทำไมบางท่านบวชตั้งแต่เป็นสามเณร แล้วต่อยาวมาเป็นพระเลย จนกระทั่งมรณภาพในผ้าเหลือง ขณะที่บางท่านมาบวชเอาตอนแก่ชรามากแล้ว อยู่ได้พรรษาสองพรรษาก็มรณภาพ ก็เพราะว่าขึ้นอยู่กับบุญเก่ากรรมเก่าที่เราทำมา

ถ้ากระแสบุญแรงกว่า มากกว่า ก็ดึงเราเข้าหาในส่วนของความดีได้เร็วกว่า แต่ถ้าหากว่ากระแสบาปมีมากกว่า ก็ลากเราวนเวียนไปเรื่อย เราจะเห็นว่าสมัยนี้โอกาสที่จะบวชมีน้อยมาก เพราะว่าคนเรายุคนี้สร้างกรรมมากกว่าสร้างบุญ

กระผม/อาตมภาพขอยืนยันว่า ถ้าไม่มีบุญ ท่านทั้งหลายไม่ได้มานั่งอยู่ตรงนี้ อาจจะตกสู่อบายภูมิที่ใดที่หนึ่งไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นนรก เปรต อสุรกาย หรือว่าสัตว์เดรัจฉาน แต่นี่เราได้ชาติกำเนิดเกิดเป็นมนุษย์ เป็นบุรุษ มีอาการครบ ๓๒ ไม่เป็นผู้บกพร่อง สามารถที่จะอุปสมบทได้ตามกฎเกณฑ์กติกา ดำรงชีวิตมาอยู่จนครบถ้วน ๒๐ ปี อยู่ในครอบครัวที่เป็นสัมมาทิฐิ ไม่ขัดขวางการบรรพชาอุปสมบทของเรา และที่สำคัญที่สุดก็คือมีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา พร้อมที่จะรับการบรรพชาอุปสมบท ทุกเรื่องที่ว่ามานั้นยากสุด ๆ เพราะว่ากิเลสคอยมีแต่จะดึงเราให้ห่างจากความดีไปเรื่อย น้อยคนนักที่จะมีข้อยกเว้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-02-2022 เมื่อ 03:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 16-02-2022, 00:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,400,034 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ตัวกระผม/อาตมภาพเองถือว่าเป็นข้อยกเว้นพิเศษ ก็คือ "ชิงหมาเกิด"..! นี่พูดเรื่องจริง เพราะว่าขอลงมาเกิดก่อนเวลา ในเมื่อเป็นเช่นนั้นก็ต้องมีข้อตกลง ต้องมีผู้ควบคุมความประพฤติไม่ให้ออกนอกลู่นอกทาง

ตั้งแต่เด็กเพิ่งจะรู้ภาษา พอจำความได้ ก็โดนพ่อแบกคอพับคออ่อนหลับอยู่กับไหล่ สวดมนต์ทุกคืน ฟังสวดมนต์ทุกคืนจนจำได้หมด โดยที่ไม่รู้ว่านั่นเป็นการฝึกสมาธิอย่างหนึ่ง

พอเข้าเรียนสามารถสวดมนต์ได้ ครูก็ให้เป็นหัวหน้าชั้นแล้ว สมัยนั้นเข้าเรียนช้า ก็คืออย่างต่ำสุด ๗ ขวบ โดยปกติคือ ๘ ขวบ เริ่มเข้าเรียนชั้น ป.๑ แต่ว่ากระผม/อาตมภาพเข้าเรียนชั้น ป.๑ โดยมีเพื่อนที่เรียนซ้ำชั้นอายุ ๑๗ - ๑๘ ปีจำนวนมาก พูดง่าย ๆ ก็คือ ไปก็แทบจะเป็นลูกชายของเพื่อน แต่ว่าเพื่อนทุกคนต้องยอมให้ เพราะว่าเรียนเก่ง เขาต้องอาศัยเรา

ดังนั้น...แทนที่จะรังแกก็เลยต้องกลายเป็นองครักษ์ประจำตัวไป เพราะว่าถ้าเอ็งไม่ช่วยข้า ถึงเวลาสอบข้าก็ไม่ช่วยเอ็ง..! แม้พยายามจะหัดในสิ่งที่ไม่ดีก็หัดไม่สำเร็จ

สมัยก่อนการสูบบุหรี่เขาถือว่าเท่มาก โดยเฉพาะบุหรี่มวน ไม่ใช่ใบจากหรือใบตองที่มวนกันเอง ขโมยพ่อมาได้ตัวหนึ่ง ไปแอบสูบอยู่ในป่า ได้ไม่ถึงครึ่งตัวก็เมาน้ำลายยืด เข็ดไปตลอดชีวิต..!

เห็นผู้ใหญ่เขากินเหล้ากัน ท่าทางสนุกสนานน่าอร่อย พอได้
กลิ่นกระผม/อาตมภาพก็หงายท้องตึง กินไม่ได้ ผู้ใหญ่เขาแนะนำว่าให้ไปกินเบียร์ เพราะว่ารสชาติอ่อนกว่า กินหลายขวดก็ยังไม่เมา พอได้กลิ่นเบียร์ก็หงายท้องเหมือนกัน เพราะว่าสมัยก่อนมีการถักแหถักอวน แล้วต้องไปถากเปลือกไม้มาต้ม เพื่อย้อมแหย้อมอวนให้เส้นด้ายมีความคงทน พอทิ้งเอาไว้นาน ๆ หลายวัน เปลือกไม้ต้มส่งกลิ่นบูดเน่า กลิ่นเดียวกับเบียร์เลย..! ก็เลยทำให้กินเบียร์ไม่ได้อีก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 16-02-2022 เมื่อ 06:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 16-02-2022, 00:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,400,034 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ตอนเป็นทหาร เพื่อนชวนไปเที่ยวซ่อง อยากจะไปกับเขาบ้าง แต่คราวนี้ทหารถึงเวลาไปก็ไปกันทั้งกองร้อย..! ถ้าไปตามเวลาของเขา เขาก็ไม่ต้องทำมาหากินกันพอดี ก็ต้องไปนอกเวลา ประมาณบ่าย ๒ บ่าย ๓ รถจีเอ็มซีวิ่งเข้าไป นั่นเป็นเวลานอนพักของเขา พอโดนบรรดาพ่อเล้าแม่เล้าลากตัวออกมา แต่ละคนหัวเป็นกระเซิง หน้าซีดเหมือนผีตายซาก เพราะว่ายังไม่ได้แต่งหน้าแต่งตัวอะไรเลย กระผม/อาตมภาพเห็นเข้าก็หมดอารมณ์ สรุปว่าอะไรที่เพื่อนทำ กระผม/อาตมภาพทำไม่ได้สักอย่าง ก็คือประเภทที่โดนตีกรอบมาแล้วว่าเรื่องประเภทนั้นห้ามเด็ดขาด..!

และโดยเฉพาะเกิดในครอบครัวคนจีน เฉพาะโยมแม่คนเดียวมีลูก ๑๓ กระผม/อาตมภาพเป็นคนที่ ๑๐ มีน้องอีก ๓ คน แต่ขอโทษ...พี่ที่เหลืออยู่ ๘ คน (เนื่องจากว่าตายไปคนหนึ่ง) หาหลานมาให้เลี้ยง ๓๒ คน..! เลี้ยงหลานจนเข็ด นี่เป็นประการที่หนึ่ง

ประการที่สองก็คือ บังเอิญรู้ว่าตัวเองต้องบวช ถึงขนาดสมัยก่อน เขาไม่มีเฟซบุ๊ก ไม่มีสไกป์ ไม่มีอินสตาแกรมเหมือนสมัยนี้ สมัยโน้นอย่างดีก็มีแค่สมุดเฟรนด์ชิป ส่วนใหญ่ที่เขียนลงไปก็คือ ชื่ออะไร นามสกุลอะไร วันเดือนปีเกิดอะไร อดีตเป็นอะไร ปัจจุบันเป็นอะไร อนาคตเป็นอะไร ก็เขียนให้เพื่อนไป

กระผม/อาตมภาพเขียนไว้ตั้งแต่เรียนชั้น ป.๗ จบใหม่ ๆ ว่า อนาคต "ดำเนินตามรอยบาทพระศาสดา" ทำให้ไม่กล้ามีครอบครัว เพราะเหตุว่าถ้ามีครอบครัวก็ต้องรับผิดชอบ เดี๋ยวบวชไม่ได้ประการหนึ่ง อีกประการหนึ่งคือเลี้ยงหลานจนเข็ด ถ้าให้ตัวเองต้องไปเลี้ยงแบบนั้นอีกก็คงจะไม่เอาแน่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 17-02-2022 เมื่อ 07:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 16-02-2022, 00:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,400,034 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อพยายามจะทำอะไรก็ไม่ได้สักอย่าง เพราะว่าโดนตีกรอบในลักษณะอย่างนี้ ก็ต้องถือว่าเป็นเรื่องนอกเหตุเหนือผล ไม่เหมือนกับคนทั่วไปที่ต้องอาศัยวาระบุญ วาระกรรมในการที่เข้ามาบรรพชาอุปสมบท

ส่วนของกระผม/อาตมภาพนั้นโดนต้อนให้มา ขนาดพยายามดิ้นหนีสุดชีวิตแล้ว ไปไม่รอด เพราะว่าทันทีที่อายุครบ ๒๐ ปี โยมแม่ก็ถามทุกวันทุกคืนก็ว่าได้ ว่าเมื่อไรจะบวชให้แม่สักที ต้องผลัดไปเรื่อยจนกระทั่งอายุ ๒๗ ปี คราวนี้คนถามไม่ใช่โยมแม่แล้ว แต่กลายเป็นหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ท่านถามว่า "ข้าต้องการพระบวชแก้บน ๓ องค์ แกจะบวชให้ข้าได้ไหม ?"

ขนาดแค่บวชแก้บน ยังอุตส่าห์กราบเรียนถามกลับคืนไปว่า "หลวงพ่อต้องการกี่วันครับ ?" ท่านก็หัวเราะ..บอกว่า "บวชแก้บนใครเขาเอานานกัน เอาแค่ ๗ วันก็พอ" กระผม/อาตมภาพก็เพิ่งจะรู้เหมือนกันว่า ทุกคนก็มีอยู่แค่ ๗ วัน ไม่ได้เกินนั้นหรอก มีใครลองนับได้เกิน ๗ วันดูบ้างไหม ?

ปกติแล้วถ้าหากว่าเป็นพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านถามอะไร ต้องตัดสินใจเด็ดขาด เอาคือเอา ไม่เอาคือไม่เอา แต่งานนั้นอุตส่าห์ผัดผ่อนว่า "ขออนุญาตคิดดูก่อนครับ" ก็คือพยายามจะดิ้นหนีให้ได้ ปรากฏว่าไม่สำเร็จ เพราะมาคิดดูว่า เราเองก็มีใจมาทางด้านนี้ตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าจะสวดมนต์ไหว้พระ คาถาอาคมอะไร ก็ร่ำเรียนเอาไว้เสียเต็มตัวไปหมดแล้ว แม่ก็ชวนแล้วชวนอีกว่าเมื่อไรจะบวชให้ท่านเสียที เพราะว่าบรรดาพี่ ๆ ได้บวชกันไป
แล้วทุกคน

เหตุที่ผลัดแล้วผลัดอีกก็เพราะว่าศีลพระมีมาก แล้วก็ดันรู้มาก ก็คือเห็นนรกมาตั้งแต่อายุก่อนครบ ๒๐ ปี..! เห็นว่าในนรกนั้นนักบวชอยู่กันแน่นไปหมด เปรียบเทียบไม่ถูก ประมาณว่าเปิดกล่องไม้ขีดแล้วเห็นหัวไม้ขีดไฟ เรียงกันแน่นขนาดไหนก็นึกเอา

ในเมื่อกลัวตกนรกก็เลยไม่กล้าบวช แต่พอมานั่งตรองดู แม่ก็อยากให้บวช หลวงพ่อท่านก็อุตส่าห์เมตตาชวนบวช และที่สำคัญที่สุดก็คือ ปัจจุบันนี้ศีลพระมีไม่ครบ ๒๒๐ ข้อแล้ว เหตุที่ใช้คำว่า ๒๒๐ เพราะว่าอธิกรณสมถะ ๗ ข้อนั้นเป็นวิธีการจัดการกับปัญหา ไม่ใช่ข้อห้าม แต่ว่าโบราณาจารย์ท่านจับยัดเข้ามารวมกัน ก็เลยกลายเป็นศีล ๒๒๗ ข้อ

เราลองมานึกดูว่าปัจจุบันนี้เรื่องของการทำเครื่องใช้ไม้สอย ไม่ว่าจะเป็นจีวร เป็นอาสนะ เป็นอะไรก็ตาม เราไม่ต้องทำเอง เพราะฉะนั้น...เรื่องของการที่จะโดนอาบัติ เพราะทำเกินประมาณก็ดี เก็บสิ่งของเอาไว้เกินระยะเวลาที่กำหนดก็ตาม ไม่มีแล้ว

โดยเฉพาะศีลที่เกี่ยวกับภิกษุณี เก็บใส่กระเป๋าเป็นกำไรได้เลย บริสุทธิ์บริบูรณ์ทุกข้อ เพราะว่าไม่มีภิกษุณีแล้ว ในเมื่อได้กำไรศีลตั้งหลายสิบข้อแล้ว สมัยก่อนพระท่านมีศีลครบ ๒๒๐ ข้อ ก็ยังบวชจนกระทั่งสำเร็จมรรคสำเร็จผลไปตาม ๆ กัน ของเราเองศีลเหลืออยู่แค่นี้ ถ้าไปไม่รอดก็ยอมลงนรกละวะ..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 17-02-2022 เมื่อ 07:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 16-02-2022, 00:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,400,034 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น...เมื่อพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านกลับมาจากนิวซีแลนด์ กระผม/อาตมภาพไปรับท่านที่สนามบินดอนเมือง ท่านถามว่า "ตัดสินใจว่าอย่างไร ?" ก็กราบเรียนท่านบอกว่า "บวชครับ หลวงพ่อจะให้ไปวัดเมื่อไรครับ ?" ท่านบอกว่า "วันนี้เลยก็ได้" ก็โดดขึ้นรถตู้ของท่านไปวัดเลย..!

โดยปกติแล้วกระผม/อาตมภาพก็ไปวัดเป็นงานหลัก ทำงานเป็นงานรอง แต่ว่าจะไปขนาดไหนก็ตาม ก็คือเวลาวัดมีงานเท่านั้น หรือว่าเวลาที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านลงมารับสังฆทานที่บ้านสายลม ถ้าเป็นการรับสังฆทานก็จะลางานวันศุกร์ครึ่งวัน กลับมาทำงานอีกทีก็เช้าวันจันทร์ ถ้าหากว่าเป็นงานวัดท่าซุง ก็ไปก่อนงาน ๒ วัน เพื่อช่วยเตรียมงาน แล้วกลับหลังงาน ๑ วัน ก็คือเมื่อเก็บงานเรียบร้อยแล้ว

ปรากฏว่าผู้ที่รู้ใจลูกก็คงจะไม่มีใครเกินแม่ หายจากบ้านไป ๕ วัน วันที่ ๖ โยมแม่หอบเครื่องบวชตามไปวัดท่าซุง ไม่ต้องบอกว่าจะบวช..แม่รู้เอง เอาเครื่องบวชไปถวายหลวงพ่อ บอกว่า "ดิฉันขอบวชลูกชายเจ้าค่ะ" หลวงพ่อท่านบอกว่า "อย่าตั้งกำลังใจแบบนั้น งานนี้เป็นงานบวชหมู่ ให้โยมตั้งใจว่าบริขารทั้งหมดนี้ เราขอเป็นเจ้าภาพบวชพระทุกรูป" โยมแม่ก็ตัดสินใจตามนั้น สรุปว่าได้บวชลูก ๑ รูป พร้อมกับเพื่อนลูกอีก ๓๕ รูป เพราะรุ่นของ
กระผม/อาตมภาพบวช ๓๖ รูป จากที่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านต้องการแค่ ๓ รูปเท่านั้น

เพราะฉะนั้น...ตรงนี้ที่ท่านทั้งหลายมีโอกาสบวช กระผม/อาตมภาพถึงได้ยืนยันว่าเป็นเรื่องของคนมีบุญเท่านั้น ส่วนของกระผม/อาตมภาพเองเป็นคนมีกรรม เพราะว่าดันไปเซ็นสัญญา ทำ MOU เอาไว้ก่อนที่จะลงมา ก็เลยโดนตีกรอบ ทำอะไรไม่ได้สักอย่างนอกจากงานวัด..!

แต่ว่าสำคัญที่สุดก็คือว่าการบวชนั้นไม่ยาก มีพระอุปัชฌาย์อาจารย์ คู่สวด พระอันดับครบถ้วน ก็บวชได้แล้ว แต่ไปยากตอนที่จะอยู่เป็นพระ เพราะว่าเราเคยชินกับการทำอะไรตามใจตนเอง แล้วอยู่ ๆ ก็โดนตีกรอบด้วยศีล ๒๒๐ บวก ๗ ข้อ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-02-2022 เมื่อ 03:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #7  
เก่า 16-02-2022, 00:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,400,034 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพเคยเปรียบเทียบเอาไว้ว่า ชีวิตฆราวาสเหมือนอย่างกับปล่อยเราไว้ในป่ากับเสือตัวหนึ่ง บางทีเดินทั้งปีก็ยังไม่เจอเสือตัวนั้น แต่ชีวิตของนักบวช โดยเฉพาะพระภิกษุสงฆ์ เขาเอาเสือตัวนั้นยัดไว้ในกรงแคบ ๆ กับเรา กรงนั้นก็คือศีล ๒๒๐ บวก ๗ ข้อ เสือจึงฟัดเราอยู่ทุกวัน ต้องใช้ความอดทนอดกลั้นเป็นอย่างยิ่ง โบราณเขาถึงให้ "บวช" ก่อนแล้วค่อย "เบียด"

โดยเฉพาะสมัยก่อนนิยมบวชเอาพรรษา ถ้าสามารถทนอยู่ในกฎเกณฑ์กติกาที่บีบคั้นทั้งร่างกายและจิตใจขนาดนั้นได้ครบพรรษา แปลว่าเรามีวุฒิภาวะทางอารมณ์มั่นคงพอที่จะไปเป็นหัวหน้าครอบครัวได้

สมัยที่กระผม/อาตมภาพยังไม่ได้บวช โดยเฉพาะตอนอยู่ต่างจังหวัด ถ้าลูกบ้านไหนแหกพรรษา ก็คือสึกก่อนออกพรรษาหรือก่อนรับกฐิน..หาเมียไม่ได้..! ไม่มีบ้านไหนยอมให้ลูกสาวแต่งงานด้วย เพราะถือว่า "แค่บวช ๓ เดือน มึงยังอดทนไม่ได้ แล้วจะมีปัญญาเลี้ยงลูกเลี้ยงหลานกูให้ตลอดรอดฝั่งได้อย่างไร ?" ผู้ใหญ่เขาจะว่าอย่างนั้น มีทางเดียวก็คือต้องย้ายหนีไปต่างถิ่น ไม่ให้คนรู้ประวัติ ไม่อย่างนั้นก็เหี่ยวแห้งหัวโต..ชาตินี้หาคู่ไม่ได้..!

ตรงจุดนี้ที่อยากเตือนนาคทั้งหลายก็คือ การบวชนั้นไม่ยาก แต่การอยู่เป็นพระนั้นยากมาก กระผม/อาตมภาพเองฝึกในเรื่องของศีล ของสมาธิ ของปัญญาเอาไว้มากมายมหาศาล มั่นใจว่าเรื่องของสมาธิสมาบัติไม่แพ้ใคร ท้าดวลได้ทั้งประเทศ ขนาดนั้น ๒ - ๓ พรรษาแรก ยังอยากจะสึกวันหนึ่งเป็นร้อยเป็นพันครั้ง เพราะว่ากิเลสชวนสึก ต้องอดทนเท่านั้นถึงจะอยู่ได้

เพราะฉะนั้น...บวชเข้ามา อย่าคิดว่าจะบวชแล้วจะไม่สึก แต่เราต้องตั้งใจว่า "มีโอกาสเมื่อไรกูจะสึกทันที..!" ถ้าลักษณะนั้นเราจะได้ไม่บีบคั้นตนเอง เพราะว่าเปิดช่องเอาไว้รอบทิศทางแล้ว

วันนี้รบกวนเวลาพวกเรามามากแล้ว จึงขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา บอกกล่าวแก่พ่อนาคและญาติโยมทั้งหลายแต่เพียงเท่านี้


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 17-02-2022 เมื่อ 01:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 16:26



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว