กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านเติมบุญ

Notices

เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #121  
เก่า 26-04-2019, 21:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,250 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีผู้สูงอายุมา "นึกถึงพระเรวตะเถระ อย่าลืมว่าท่านเป็นเด็ก ๗ ขวบ เห็นคุณยายอายุ ๑๒๐ ปีมาอวยพรนี่ใจหายเลย หนีออกบวชเลย ไม่อยู่แล้ว เห็นภัยในวัฏฏะสงสารจริง ๆ เพราะเจ้าสาวข้างหน้าตัวเอง เพิ่งจะ ๗ ขวบ ส่วนคุณยาย ๑๒๐ ปี หลังก็โก่ง ฟันก็หลุด เดินตัวสั่นงันงกมา ถามญาติว่า “เจ้าสาวของผม ถ้าอยู่อายุถึงขนาดนี้ก็แบบนี้ใช่ไหม ?” พอญาติบอกว่าใช่ ท่านตัดสินใจเลย บวชแน่นอน

บุญเก่าท่านสร้างไว้มหาศาลจริง ๆ เด็ก ๗ ขวบ เห็นไกลขนาดนั้น ต้องมีปัญญาขนาดไหน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-04-2019 เมื่อ 03:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #122  
เก่า 26-04-2019, 21:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,250 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ก่อนหน้านี้พอเขาเรียก "หลวงพ่อ" อาตมาก็สะดุ้งเหมือนกัน ไป ๆ มา ๆ พอแก่ได้ที่ก็ชิน เกณฑ์การเรียกหลวงปู่หลวงพ่อ ส่วนใหญ่แล้วสมัยก่อนถืออายุ ๖๐ ปี เรียกหลวงพ่อ ๗๐ ปีขึ้นไปเรียกหลวงปู่ ส่วนใครบวชตอนแก่เขาเรียกหลวงตา

ทีนี้เกณฑ์มีอีกอย่างว่า ถ้าเป็นพระอุปัชฌาย์เรียกหลวงพ่อได้ เพราะว่าเป็นพ่อผู้ให้กำเนิดพระเณร อาตมาก็เลยกลายเป็นหลวงพ่อก่อนอายุ ๖๐ เสียหลายปี เพราะว่าเป็นพระอุปัชฌาย์ก่อน

ครึ่งเดือนที่แล้วไปเป็นประธานยกฉัตรที่วัดบ้านไร่ (ห้วยเขย่ง) เจอแม่ของทิดแดง "อ้าว...โยมมาเหมือนกันหรือ ?" ที่ขำที่สุดก็คืออาตมาอายุ ๖๐ ปี เดินลัดป่าปีนเขาขึ้นไปที่เจดีย์ ส่วนบรรดาพระอายุ ๓๐ - ๔๐ ปี หกล้มหกลุกกลิ้งตามไป เขาอ้างว่าเพิ่งฉันเพลมาใหม่ ๆ ไม่มีแรงเดิน อาตมาก็นั่งงง กูก็ฉันกับมึงนั่นแหละ ฉันมาพร้อมกัน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-04-2019 เมื่อ 03:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 158 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #123  
เก่า 26-04-2019, 21:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,250 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "วันก่อนมีโยมขอบูชาสมเด็จองค์ปฐมรุ่น ๒ ของวัดท่าซุง อาตมามีติดตัวอยู่องค์เดียว เขาก็อ้อนแล้วอ้อนอีกจะเอาให้ได้ ท้ายสุดให้มา ๒๐๐,๐๐๐ บาท อาตมาก็ว่า เออ...เอาวะ ของกูนี่ใครซื้อไม่ได้ ถ้าเงินไม่มากพอ ...(หัวเราะ)...

ของใช้ติดตัวอยู่ยังมาตื๊อเอา เขาบอกว่าเขามีศัตรูปองร้าย ปกติอาตมามีทั้งรุ่น ๑ รุ่น ๒ รุ่น ๑ ตัดใจให้เขาไป ใช้รุ่น ๒ เพราะว่าสมเด็จองค์ปฐมรุ่น ๒ คือรุ่นที่หลวงพ่อวัดท่าซุง เรียกว่ารุ่นยันกลับ หรือรุ่นปืนแตก

พวกจะขายของไปว่าโน่น...รุ่นสี่เหลี่ยมเป็นรุ่นยันกลับ รุ่นสี่เหลี่ยมนั่นเป็นของที่เขาเอาเข้าพิธี โดยที่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านไม่ได้ทำบวงสรวงเต็มพิธี เพราะว่าท่านทำแค่พุทธาภิเษกพระพุทธรูป โดนท้าวมหาชมพูเล่นงานจน
ท่านแทบจะต้องคลานออกมา ท่านบอกให้เอาไปเข้าพิธีใหม่ พวกนี้กลัวขายของไม่ได้ ก็ไปมั่วเรียกรุ่นยันกลับ ถ้าพวกนี้มาอยู่ใกล้ ๆ อาตมาจะยันให้สักที...! คิดจะขายของอย่างเดียว แล้วก็ใส่ประวัติมั่วไปเรื่อย

ถึงได้บอกว่า ถ้าหากว่าเล่นวัตถุมงคลเครื่องรางของขลังให้เล่นด้วยตา อย่าไปเล่นด้วยหู ถ้าเล่นด้วยหู ฟังเขาเล่านิทาน เจอพวกไร้ศีลไร้ธรรมเข้าก็ว่านิทานน่าสนใจไปเสียเยอะแยะ พอเราเกิดศรัทธาบูชาก็เสร็จโจร"

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-04-2019 เมื่อ 03:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 155 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #124  
เก่า 26-04-2019, 21:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,250 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "หลวงพ่อทองคำตั้งแต่หล่อ ส่งกลับโรงงานเพื่อไปตกแต่ง จนกระทั่งเสร็จ อัญเชิญกลับวัดท่าขนุน ขึ้นประดิษฐานบนมณฑปใช้เวลาทั้งหมด ๙ วัน ที่อื่นเขาแต่งกันเป็นเดือน ของท่านติดสมบูรณ์ แทบจะไม่ต้องแต่ง เลยใช้เวลานิดเดียว

ทางด้านเทศบาลจะจัดแห่ "หลวงพ่อ...เกศหลวงพ่อทองคำหนักกี่บาท ผมจะได้ระวังไว้" "อย่าถามว่ากี่บาท ให้ถามว่ากี่กิโลฯ..!" เพราะว่าส่วนยอดมหามงกุฎใหญ่เกือบ ๆ แขนของเรา ไปถามเป็นบาท ต้องถามเป็นกิโลกรัม"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย นายกระรอก : 29-04-2019 เมื่อ 11:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 155 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #125  
เก่า 26-04-2019, 22:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,250 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “ช่วงนี้เป็นช่วงที่เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายกำลังระดมความรู้ความสามารถทุกอย่าง ในการทำให้พระราชพิธีบรมราชาภิเษกผ่านไปด้วยความสมบูรณ์ที่สุด เมื่อวานอาตมาไม่ได้ไปร่วมงานตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่กาญจนบุรี แต่ว่าพรรคพวกเขาส่งวิดีโอมา ขบวนเรืออลังการมาก ใช้เรือเกือบ ๓๐ ลำ

ก็ถือว่าทุกฝ่ายทุ่มเทเพื่อแสดงออกซึ่งความจงรักภักดี ซึ่งปัจจุบันของเรานี้ ความสามัคคีกลมเกลียวเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในประเทศชาติ เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องมี บ้านเมืองของเราบอบช้ำพอแล้ว ล้าหลังพอแล้ว ตามใครไม่ทันสักประเทศในโลกแล้ว ส่วนจะเป็นฝีมือของใคร..ช่างมัน ให้เริ่มต้นนับหนึ่งใหม่เสียตั้งแต่บัดนี้

แต่เกรงอยู่อย่างเดียวว่า เรามีใจที่จะให้ประเทศชาติ แต่คนอื่นไม่มี คือคนเราถ้ามีแก่ใจให้ประเทศชาติอย่างแท้จริง ใครจะบริหารก็ได้ แต่ถ้าหากว่า “ต้องกูเท่านั้น” ละก็ ต่อให้เป็นคนดีเท่าไร ก็ไม่มีใครเขาเชื่อคุณหรอก..!”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-04-2019 เมื่อ 03:21
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 153 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #126  
เก่า 26-04-2019, 22:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,250 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลังจากบวงสรวงทำบุญบ้านเติมบุญ พระอาจารย์กล่าวว่า “เมื่อครู่นี้ตอนบวงสรวง สมเด็จองค์ปฐมท่านมาแวบหนึ่ง..เกือบ ๓ วินาที ปกติพระองค์ท่านเสด็จยากมาก มาให้ ๓ วินาทีนี่ ถ้าเป็นปกติอย่างดาราปรากฏตัว ก็คงต้องจ่ายกันเป็นล้าน ถึงได้บอกว่า ใครไม่รับน้ำมนต์งวดนี้ถือว่าเสียโอกาสในชีวิตเลย ช่วงที่ผ่านมาพระองค์ท่านมาตอนหล่อพระพุทธรูปทองคำ อยู่นานวันกว่าเกือบสองวันเต็ม เวลาของพระองค์ท่านห่างกับเราเยอะ มาแค่ครู่เดียวของท่านนี่เกือบ ๒ วันของเรา

ปกติแล้วบุคคลที่ได้มโนมยิทธิ เรื่องพวกนี้ต้องซักซ้อมอยู่เสมอ เพื่อที่ถึงเวลาจะได้รู้ว่าพระ หรือพรหม หรือเทวดา ครูบาอาจารย์ หรือแม้กระทั่งผี ที่จะมาปรากฏตัวเป็นใคร มาจากไหน มีธุระอะไร นี่เป็นกติกาข้อหนึ่งของบุคคลที่ครอบครูเพื่อเป็นอาจารย์เป่ายันต์เกราะเพชร กติกาข้อนี้หลวงพ่อวัดท่าซุงกำหนดลงมาเลย ทำตามพระสั่งอย่างเดียว ถ้าใครใช้กำลังสมาธิตัวเอง จะทำได้ไม่ถึง ๒ เปอร์เซ็นต์ เพราะฉะนั้น..จำเป็นที่จะต้องมีความชัดเจนแจ่มใสในมโนมยิทธิอย่างมาก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-04-2019 เมื่อ 03:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 163 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #127  
เก่า 26-04-2019, 22:09
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,250 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"คราวนี้ความชัดเจนแจ่มใสในมโนมยิทธินั้นมี ๒ ประการด้วยกัน ประการแรกคือขยันฝึกซ้อม เรื่องนี้ไม่ต้องห่วง อาตมาขยันสุด ๆ สมัยก่อนช่วยงานอยู่ข้างองค์หลวงพ่อวัดท่าซุงที่บ้านสายลม ซักซ้อมทรงอารมณ์อยู่ตลอดเวลา ญาติโยมมาถวายอะไร กระทั่งจำนวนเงินในซองเท่าไรก็ยังรู้

มีบางท่านพอวางซองลง อาตมาแจกแหนบหลวงพ่อให้ แล้วหยิบซองฉีกโยนลงถังขยะไปเลย เล่นเอาลุงเอี๊ยงที่อยู่ใกล้ ๆ ตาเหลือก รีบตะครุบขึ้นมาดู บอกไปว่า “เขาเอากระดาษใส่มา” ลุงก็พลิกขึ้นมาดู เจอกระดาษหนังสือพิมพ์เก่า ๆ ยัดมาในซอง เขาอยากได้วัตถุมงคลแต่ไม่อยากทำบุญ เพราะฉะนั้น..ต้องซ้อมให้ได้ขนาดนั้น

แต่ว่าพวกเราส่วนใหญ่แล้วมักจะเบื่อ ขณะเดียวกันก็หน้าบาง ถ้าหน้าบางนี่อย่าหวังว่าจะปฏิบัติอะไรแล้วสำเร็จง่าย ๆ คำว่าหน้าบางในที่นี้ก็คือ พอผิดแล้วอาย จำไว้ว่า..ทำความดีต้องหน้าด้าน ยิ่งถ้าเป็นลูกศิษย์วัดท่าขนุน หน้าไม่ด้านพอไม่ต้องมา เพราะว่าเจ้าอาวาสด่ากระจาย..! ผิดอย่ากลัว โบราณเขาบอกว่า “ผิดเป็นครู” ผิดแล้วจำไว้ว่าเราวางอารมณ์อย่างไรแล้วผิด ถ้าถูกให้จำว่าเราวางอารมณ์อย่างไรแล้วถูก ซักซ้อมบ่อย ๆ เราจะจำได้เองว่าถ้าอารมณ์นี้ก็ใช่แน่

ในเมื่อเป็นอยู่ในลักษณะอย่างนี้ บางทีญาติโยมก็คงจะผิดจนเป็นศาสตราจารย์ ดร. จนหมดแล้ว ไม่ได้ผิดแค่เป็นครูเฉย ๆ ผิดบ่อยเหลือเกิน..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-04-2019 เมื่อ 03:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 158 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #128  
เก่า 26-04-2019, 22:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,250 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"มโนมยิทธิสามารถใช้ได้ทุกโอกาส ขับรถนี่ดีนัก โดยเฉพาะทางไกล อาตมาถึงเวลาวันหยุดยาว ๆ จะเดินทางกลับ รถข้างหน้าเยอะเหลือเกิน จะแซงก็ไม่กล้า ไม่รู้ว่ามีรถสวนมาเท่าไร..แบบนั้นซ้อมได้ ถ้าพลาดก็ไปพระนิพพานตอนนั้นแหละ..! แต่ว่าอาตมายังไม่เคยพลาด

พอถึงเวลาก็ “ขึ้น..แซงได้สามคันแล้วรีบเข้า” ...(หัวเราะ)... “ไปยาวได้เลย..ว่างเกือบสองกิโลฯ” ทำแบบนั้นโปรดเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม ก็คือต้องพร้อมมอบกายถวายชีวิต..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-04-2019 เมื่อ 03:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 155 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #129  
เก่า 26-04-2019, 22:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,250 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"เมื่อเกือบ ๓๐ ปีที่แล้ว มีท่านผู้อำนวยการวิทยาลัยครูพระนครศรีอยุธยา เป็นสุภาพสตรี หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ไปสอนให้ด้วยตัวเอง คืออาจารย์ท่านน้อยใจว่าตัวเองมีภาระมาก อยากไปวัดท่าซุงก็ไม่ได้ไป อยากฝึกมโนมยิทธิก็ไม่ได้ฝึก

พอวันหนึ่ง..หลังจากที่กรำงานทุกอย่างจนดึกแล้วนอน มีความรู้สึกว่าหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค มาหา ท่านบอกว่า “ลุก” และสั่งให้ทำโน่นทำนี่ ทำแบบบ้า ๆ อย่างเช่นว่า เปิดหน้าต่าง ปิดหน้าต่าง เปิดประตูส้วม เปิดพัดลมระบายอากาศ เดินลงชั้นล่าง วนรอบบ้านหนึ่งรอบ กลับขึ้นมาใหม่ ท่านทำตามทุกอย่าง

ในเมื่อทำตามทุกอย่าง หลวงปู่ปานสั่งว่า “ขับรถไปวัดท่าซุงเดี๋ยวนี้” โอ้พระเจ้า..เที่ยงคืนกว่าจะตีหนึ่งอยู่แล้ว แต่อาจารย์ท่านไปแฮะ ผู้หญิงนะนั่น วิ่ง ๆ ไปปรากฏว่าฝนตกหนัก คำสั่งหลวงปู่ก็คือ “เร่งความเร็วเพิ่มขึ้นให้ได้ ๑๒๐” กลางคืน..เที่ยงคืนกว่า ฝนตกหนัก มองทางเกือบไม่เห็น “เอ้า..หักขวาหน่อย กลับเข้าซ้าย แตะเบรกนิดหนึ่ง ขวา..ตรงไปข้างหน้า เอ้า..เข้าซ้ายได้”

อาจารย์ท่านบอกว่า ท่านเหลือบเห็นแค่ไฟแดง ๆ เหมือนกับไฟท้ายรถแวบผ่าน แสดงว่าท่านแซงรถคันอื่นทั้ง ๆ ที่ตัวเองมองอะไรไม่เห็น ท้ายสุดก็ “หักซ้ายหมด ลงข้างทางไปเลย” โครมเดียวไปอยู่กลางนาโน่น..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-04-2019 เมื่อ 03:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 153 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #130  
เก่า 26-04-2019, 22:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,250 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"หลวงปู่ปานถามว่า “ลูก..เชื่อพ่อขนาดนี้เลยหรือ ?” ท่านบอกว่าเชื่อ หลวงปู่บอกว่า “ถ้าอย่างนั้นขับรถกลับขึ้นถนน” แปลกมาก..รถไม่มีเสียหายอะไรเลย ลุยในนาเป็นเกวียน กลับขึ้นถนนแล้วกลับบ้าน ไปถึงบ้านอาบน้ำอาบท่า เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จสรรพเรียบร้อย ไปห้องพระ ท่านบอกว่า กราบพระยังไม่ทันครบ ๓ ครั้งเลย หลวงปู่ปานดึงไปแล้ว ท่านบอกว่า “จำไว้ นี่แหละคือมโนมยิทธิ” มโนมยิทธิต้องเชื่ออารมณ์แรกเท่านั้น และเชื่อแบบมอบกายถวายชีวิต ผิดเป็นผิด ตายเป็นตาย พวกเรายังทำแบบนั้นไม่ได้กันหรอก

น่าเสียดาย..ท่านเองเสียชีวิตไปแล้ว ไม่อย่างนั้นจะให้พวกเราไปถามดูว่า คุณยายทำอย่างไร ? เกือบ ๓๐ ปีที่แล้ว ลองคิดดูว่า ตอนนั้นท่านก็ใกล้เกษียณแล้วนะ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-04-2019 เมื่อ 03:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 157 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #131  
เก่า 26-04-2019, 22:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,250 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ดังนั้น..เรื่องของมโนมยิทธิ อันดับแรกเลย..ต้องขยัน ขยันซ้อม พร้อมที่จะตาย และพยายามพิจารณาตัดร่างกายไว้บ่อย ๆ จนสภาพจิตเคยชิน ไม่ยึดติดกับร่างกาย จะไปได้ง่าย เพราะว่ามโนมยิทธิ จิตต้องออกจากร่างไป

ส่วนใหญ่พวกเรายึดติดมาก อาตมาเองนี่แหละตัวยึดเลย นั่ง ๆ ใช้มโนมยิทธิอยู่ กำลังเพลิน ๆ หูได้ยินเสียงแกรก ๆ แวบเดียวตอนไหนก็ไม่รู้ จิตกลับมาอยู่ที่ร่างแล้ว ห่วงร่างกายขนาดนั้น ปรากฏว่าเพื่อนพระชักลูกประคำอยู่ เห็นอาตมานั่งกรรมฐาน ท่านตื่นขึ้นมา ท่านก็ภาวนาบ้าง แต่ดันชักลูกประคำเสียงแกรก ๆ ได้ยินแค่นั้นจิตก็กลับแล้วนะ..ไม่ได้ตั้งใจด้วย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-04-2019 เมื่อ 03:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 155 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #132  
เก่า 26-04-2019, 22:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,250 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ดังนั้น..ใครที่คิดว่า ถ้าฝึกมโนมยิทธิกลัวว่าไปแล้วจะกลับไม่ได้ โปรดทราบ..ไม่ใช่ว่ากลัวไปแล้วกลับไม่ได้ กลัวไปไม่ได้ดีกว่า ส่วนกลับไม่ได้นี่ยังไม่เคยเจอ เพราะว่าไม่ทันจะตั้งท่าเลยก็กลับแล้ว

อาตมาฝึกใหม่ ๆ เหมือนกัน ขึ้นพระนิพพานไปได้ ๑-๒ วินาทีก็ลงมาแล้ว อะไรวะ..เมื่อกี้ยังอยู่ข้างบนเลย..!? สงสัยอยู่นาน ท้ายสุดก็เข้าใจว่า จิตห่วงร่างกายนี้ ก็เลยกลับเอง ก็ต้องหาเคล็ดลับว่า ทำอย่างไรที่เราจะอยู่ให้นานที่สุด เพราะว่าเราตัดร่างกายได้ไม่เด็ดขาดจริง ๆ จึงอยู่นานไม่ได้ ก็หางานให้จิตทำ

บังเอิญว่าอาตมาสวดมนต์ได้มาก บทยาว ๆ อย่างอาทิตตปริยายสูตร อนัตตลักขณสูตร ธัมมจักกัปปวัตนสูตร อะไรก็สวดได้หมด จึงขึ้นไปสวดมนต์ถวายพระข้างบน มึงอยากห่วงดีนักก็หาห่วงให้มึง ก็คือสภาพจิตจะห่วงว่ายังมีงานอยู่ ในเมื่อยังมีงานอยู่ งานไม่หมดก็ยังไม่กลับลงมา"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-04-2019 เมื่อ 03:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 156 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #133  
เก่า 26-04-2019, 22:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,250 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ดังนั้น..เคล็ดลับพวกนี้ญาติโยมต้องไปฝึกซ้อมเอง อาตมาบอกได้ เล่าได้ แต่ว่านิสัยและความชอบพอแต่ละคนไม่เท่ากัน ในเมื่อนิสัยและความชอบพอของแต่ละคนไม่เท่ากัน เราอาจจะมีเคล็ดลับที่เราชอบ ซึ่งจะต้องฝึกซ้อมค้นหาด้วยตัวเอง

แบบที่อาตมานำกรรมฐานที่วัดช่วงปฏิบัติธรรม ให้เรากำหนดภาพพระ แผ่ขยายพระรัศมีของท่านออกไปแทนพระเมตตา แผ่ออกไป กลับเข้ามา แผ่ออกไป กลับเข้ามา ลักษณะอย่างนี้เขาเรียกว่า “กีฬาสมาธิ” เป็นการสลับฌาน บางทีเราไม่รู้ตัวหรอก บอกให้ทำก็ทำไปเรื่อย กว่าจะรู้ก็โดนหลอกไปถึงไหนแล้วไม่รู้..!?”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-04-2019 เมื่อ 03:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #134  
เก่า 27-04-2019, 18:55
นายกระรอก's Avatar
นายกระรอก นายกระรอก is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2014
ข้อความ: 442
ได้ให้อนุโมทนา: 88,664
ได้รับอนุโมทนา 83,889 ครั้ง ใน 1,594 โพสต์
นายกระรอก is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “ปัจจุบันนี้บ้านเมืองของเราต้องการความสามัคคีมาก แต่เป็นที่น่าเสียดาย แม้แต่ในวงการสงฆ์ของเราก็มีการชิงดีชิงเด่นกัน อาตมาเองก็โดนโจมตีบ่อย อย่างเช่นว่า ถ้าหากว่าภาพการทำบวงสรวงออกไป ก็จะกลายเป็นว่า พระอาจารย์เล็กกลายเป็นพราหมณ์ไปแล้ว

การบวงสรวงแต่เดิมเป็นเรื่องของศาสนาพราหมณ์ เขาทำขึ้นเพื่อร้องขอต่อพระเจ้าของเขา พอมาเป็นพุทธ เราก็ดัดแปลงมาเป็นเครื่องบูชาพระ ต่างกันตรงนี้ แต่ไม่ได้หรอก กูเห็นเครื่องบวงสรวง กูก็เหมาเอาไว้ก่อน ขอให้โจมตีไว้ก่อน

แม้กระทั่งลูกศิษย์สายหลวงพ่อวัดท่าซุงด้วยกัน เห็นอาตมาบวงสรวงด้วยตัวเอง ก็บอกว่าวัดรอยเท้าหลวงพ่อ รู้ไหมว่าตั้งแต่ออกจากวัดปีแรก อาตมาเปิดเทปบวงสรวง เสียงท่านด่าใส่หูมาชัด ๆ เลย บอกว่า "พวกเอ็งใช้ข้าจนตาย นี่ตายแล้วยังจะใช้ต่ออีกหรือ..?" ตั้งแต่วันนั้นมาจนถึงวันนี้ อาตมาบวงสรวงด้วยตนเองมาตลอด พ่อด่าแล้ว ประเภทว่าโตเองได้แล้ว..ประมาณนั้น

เพราะฉะนั้น..ใครจะว่าวัดรอยเท้าพ่อก็ช่างเถอะ ถ้าไม่พยายามวัดแล้วจะรู้ไหมว่าทำได้อย่างพ่อหรือเปล่า ? ต้องบอกว่าไอ้พวกประเภทมีหัวไว้คั่นใบหู ไม่ค่อยจะได้มีสมอง ความสามารถตัวเองไม่พอ แต่ดันทะลึ่งไปว่าคนอื่นเขา ถ้าประเภทนี้มีอย่างเดียวก็คือริษยา แสดงว่ากำลังใจต่ำมาก ไม่ควรค่าแก่การเหลือบแล ปล่อยให้โง่ต่อไป..!”

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-04-2019 เมื่อ 19:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 148 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นายกระรอก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #135  
เก่า 27-04-2019, 18:57
นายกระรอก's Avatar
นายกระรอก นายกระรอก is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2014
ข้อความ: 442
ได้ให้อนุโมทนา: 88,664
ได้รับอนุโมทนา 83,889 ครั้ง ใน 1,594 โพสต์
นายกระรอก is on a distinguished road
Default

“ดังนั้น..ในเรื่องของความสามัคคีเมื่อจะเกิดขึ้น แต่ก็มีคนกวนน้ำให้ขุ่น ในเมื่อมีคนคอยกวนน้ำให้ขุ่น อาตมาถึงได้ข้อสรุปกับตัวเองมาตั้งแต่ ๒๐ กว่าปีที่แล้วว่า ใครวางก่อนสบายก่อน แต่ต้องวางด้วยปัญญาจริง ๆ ไม่ใช่วางใส่หัวชาวบ้านเขา มีคนตำหนิ มีคนว่า แสดงว่าเราต้องมีข้อบกพร่อง พยายามพิจารณาดูว่าบกพร่องตรงไหน แล้วแก้ไขไป คนที่จะยอมสละตัวเองเป็นกระจก ให้เราเห็นใบหน้าที่น่าเกลียดน่าชังนั้นหายาก เพียงแต่ว่าถ้าส่องกระจก ก็ส่องให้ครบ ๖ ด้าน พยายามปรับปรุงแก้ไขให้ดีที่สุด

ส่วนใหญ่แล้วพวกเราเตือนตัวเองไม่เป็น เตือนเป็นก็ด่าตัวเองได้ไม่แสบพอ ก็เลยยังเอาดีไม่ได้สักทีหนึ่ง ต้องด่าตัวเองให้เจ็บ ๆ ถึงจะรู้สำนึก ไม่อย่างนั้นแล้วส่วนใหญ่ถึงเวลาก็ไหลตามกิเลสไป เกรงใจ..อยู่กับกิเลสมานับชาติไม่ถ้วนแล้ว อยู่ ๆ จะมาละทิ้งกัน ทำใจไม่ได้ เพราะว่าเราเป็นคนดี เรารักเพื่อน เพื่อนที่หน้าตาเหมือนกิเลสนี่ไม่น่ารักหรอก..!”

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-04-2019 เมื่อ 19:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 144 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นายกระรอก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #136  
เก่า 27-04-2019, 18:59
นายกระรอก's Avatar
นายกระรอก นายกระรอก is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2014
ข้อความ: 442
ได้ให้อนุโมทนา: 88,664
ได้รับอนุโมทนา 83,889 ครั้ง ใน 1,594 โพสต์
นายกระรอก is on a distinguished road
Default

“ต้องรู้จักด่าแรง ๆ โบราณเขาบอกว่า "จงเตือนตนของตนให้พ้นผิด ตนเตือนจิตตนได้ใครจะเหมือน ตนเตือนตนไม่ได้ใครจะเตือน อย่าแชเชือนเร่งเตือนตนให้พ้นภัย" หลวงปู่มหาอำพันท่านท่องกลอนให้ฟังว่า "ผิดหนึ่งพึงจดไว้ในสมอง เร่งระวังผิดสองภายหน้า สามผิดเร่งคิดตรองจงหนักเพื่อนเอย ถึงสี่อีกทีห้าหกซ้ำอภัยไฉน" ฝรั่งเขาบอกว่า "I will not make a bit mistake twice." เราจะไม่ทำความผิดซ้ำสอง "But I do it five or six times to be make sure." ...(หัวเราะ)... เขาบอกว่าเราจะไม่ทำความผิดแค่ ๒ ครั้งหรอก ต้องสัก ๕-๖ ครั้งถึงจะมั่นใจว่าผิดจริง เออ..เข้าท่า..!

อย่าลืมนะ "Do it five or six times to be make sure." ...(หัวเราะ)... แต่รู้สึกว่าของพวกเรานี่จะเป็นร้อยเป็นพันครั้งแล้วกระมัง..?”

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-04-2019 เมื่อ 19:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 140 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นายกระรอก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #137  
เก่า 27-04-2019, 19:05
นายกระรอก's Avatar
นายกระรอก นายกระรอก is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2014
ข้อความ: 442
ได้ให้อนุโมทนา: 88,664
ได้รับอนุโมทนา 83,889 ครั้ง ใน 1,594 โพสต์
นายกระรอก is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “พูดภาษาอังกฤษอย่าไปห่วงไวยากรณ์ เอาแค่รู้เรื่อง ถ้าไม่รู้เรื่องก็ตีใบ้เพิ่มเข้าไป..! หน้าด้านพูดบ่อย ๆ เดี๋ยวก็เก่งไปเอง ถ้ามัวแต่ห่วงไวยากรณ์อยู่ ชาตินี้เราจะพูดไม่ได้หรอก เพราะว่าส่วนใหญ่โดยสัญชาตญาณของเราก็คือ ฟังแล้วแปลเป็นไทย แปลแล้วเราจะตอบอย่างไร คิดเป็นภาษาไทย แล้วค่อยกลับประโยคเป็นภาษาอังกฤษ ถ้าอย่างนั้นไม่ทันรับประทานหรอก ประโยคที่ ๒๐ ของเขามาแล้ว ประโยคแรกของเรายังคิดไม่เสร็จเลย

วัดท่าขนุนได้เปรียบที่ฝรั่งเข้ามาเยอะ วันก่อนน้องเล็กลดราคาหลวงพ่อนากของอาตมาเหลือแค่คอปเปอร์..! อาตมาบอกว่า "บ้า..คอปเปอร์ได้อย่างไร ? ต้องพิงค์โกลด์ต่างหาก..!" ...(หัวเราะ)... เล่นเอา ๓๗.๕ กิโลกรัมของตูออก เหลือแต่คอปเปอร์เลย แต่ก็ยังดีที่ฝรั่งเขาพยักหน้าหงึก ๆ ว่า "I see." มึง see จริงหรือเปล่าก็ไม่รู้..!?

คงจะเห็นว่ามีโกลเด้น มีซิลเวอร์ ก็เลยต้องมีคอปเปอร์ใช่ไหม ? ไอ้นั่นหุ่นอภินิหาร..! สมัยอาตมายังแก้ผ้าวิ่งอยู่เลย หนังหุ่นยนต์ญี่ปุ่นเรื่องแรก ๆ ที่เข้ามาประเทศไทย มีหุ่นอยู่ ๓ ตัว ตัวพ่อชื่อโกลด้า ตัวแม่ชื่อซิลเวอร์ ส่วนลูกชายชื่อคอปเปอร์ เล่นเอาพิงค์โกลด์ของอาตมากลายเป็นคอปเปอร์ หมดราคาเลย ๔๓ ล้านกว่าลงมาเหลือแค่ร้อยเดียว..!

แต่ว่าไม่เป็นไร เราต้องกล้า รู้ไม่รู้ให้พูดไว้ก่อน แบบเดียวกับสะพานแขวนหลวงปู่สาย ว่ากันตามศัพท์คือ Suspension bridge ไม่ต้องหรอก ใช้ Hanging bridge หมดเรื่องเลย สะพานแขวน..เขาเห็นเขาก็รู้เองแหละ ไม่ต้องไปเล่นศัพท์เป็นทางการมากเกิน พวกศัพท์เทคนิคทางการ อาตมาไม่ค่อยรู้หรอก”

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-04-2019 เมื่อ 19:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 140 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นายกระรอก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #138  
เก่า 27-04-2019, 19:12
นายกระรอก's Avatar
นายกระรอก นายกระรอก is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2014
ข้อความ: 442
ได้ให้อนุโมทนา: 88,664
ได้รับอนุโมทนา 83,889 ครั้ง ใน 1,594 โพสต์
นายกระรอก is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “เห็นหลวงพ่อทองคำสวย ท่านอาจารย์มหาเอก็เลยออกความคิดว่าควรที่จะทำเป็นพระบูชา คราวนี้สมเด็จองค์ปฐมขนาดบูชาหน้าตัก ๑๐ นิ้วของเรามีแล้ว ก็เลยว่าเอาสัก ๕ นิ้วก็พอ ว่าจะทำสัก ๓ องค์ ๕ องค์ให้แย่งกัน คงมีรายการฆ่ากันตาย มีขายใบจองแน่นอน..!

เดี๋ยวพอคำนวณวัสดุและราคาได้แล้วค่อยเปิดจอง ก็ให้ท่านกำหนดยอดเอาเองแล้วกันว่าจะเอากี่องค์ ถ้าเป็นอาตมาทำก็ ๓ องค์ ๕ องค์อย่างที่ว่านั่นแหละ ...(หัวเราะ)...”

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-04-2019 เมื่อ 19:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 147 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นายกระรอก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #139  
เก่า 27-04-2019, 19:16
นายกระรอก's Avatar
นายกระรอก นายกระรอก is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2014
ข้อความ: 442
ได้ให้อนุโมทนา: 88,664
ได้รับอนุโมทนา 83,889 ครั้ง ใน 1,594 โพสต์
นายกระรอก is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “วันที่ ๑๕ เมษายน เวลา ๑๐.๓๐ น. มีงานแห่หลวงพ่อสมเด็จองค์ปฐมทองคำที่วัดท่าขนุน จะเป็นงานประจำทุกปี เพราะว่าได้คุยกับท่านนายกเทศมนตรีไว้ตั้งแต่ปี ๒๕๕๕ บอกว่าวัดจะลงทุนหล่อพระให้ ส่วนทางเทศบาลก็ลงทุนจัดการขบวนแห่ปีละครั้ง มองเอาไว้ ๒ วาระด้วยกัน วาระหนึ่งก็คือลอยกระทง อีกวาระหนึ่งก็สงกรานต์ ปรากฏว่าท่านบอกว่าสงกรานต์ดีกว่า ชาวบ้านจะได้สรงน้ำพระด้วย

อาตมาเองว่าจะเอาพระบรมธาตุเขี้ยวแก้วออกมาให้ญาติโยมสรงน้ำ แต่ว่าทำสถานที่ไม่ทัน เพราะว่าตั้งใจให้เขาเอาสแตนเลสทำเป็นกรงรูปพระปฐมเจดีย์ แล้วก็ต่อท่อให้สรงน้ำ ช่างเขาทำไม่ทัน ดูก่อนว่าปีหน้าจะทันไหม จะได้กลายเป็นงานประจำปีไปเลย”

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-04-2019 เมื่อ 19:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 140 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นายกระรอก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #140  
เก่า 27-04-2019, 19:18
นายกระรอก's Avatar
นายกระรอก นายกระรอก is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2014
ข้อความ: 442
ได้ให้อนุโมทนา: 88,664
ได้รับอนุโมทนา 83,889 ครั้ง ใน 1,594 โพสต์
นายกระรอก is on a distinguished road
Default

“ตอนแรกก็กะว่าจะไปร่วมขบวนแห่นิดหนึ่ง แล้วก็กลับมาเทศน์ ปรากฏว่าท่านนายกเทศมนตรีท่านขยับเวลาไปเป็น ๑๐.๓๐ น. รอให้เทศน์ที่วัดท่าขนุนและเจริญพระพุทธมนต์เสร็จ ประมาณสิบโมงนิดหน่อย เดินทางไปถึงสำนักงานเทศบาลก็น่าจะ ๑๐.๓๐ น. พอดี ก็เคลื่อนขบวนได้

ใครไปปฏิบัติธรรมช่วงสงกรานต์ก็ไปเข้าขบวนด้วยกัน เขาบอกว่า ขอให้แต่งโจงกระเบนกับเสื้อลาย เสื้อลาย ๆ ประเภทฮาวายตอนสงกรานต์นั่นแหละ โจงกระเบนเดี๋ยวนี้ก็เป็นโจงกระเบนสำเร็จรูป ใส่เป็นกางเกงเลย

เดี๋ยวจะไปประสานกับทางควาญช้าง ปีหน้าขอยืมช้างสัก ๙ เชือก แห่รถแล้วก็แห่ช้างดูบ้าง แต่จริง ๆ อยากได้โขลงที่กำลังอาละวาดอยู่ ๓๐ กว่าตัว..ไม่ใช่เชือกนะ อยู่ที่ป่าทองผาภูมิเลย ตอนนี้คณะติดตามเขาจำหน้าได้ทุกตัวแล้ว แล้วก็มีเจ้างาเล็กที่กำลังรอทางกรมคชบาลไปดูว่า เป็นช้างเผือกอีกเชือกหรือเปล่า แต่ว่าถ้าอาตมาดูเองแล้ว งาเล็กสู้เอกชัยไม่ได้ เอกชัยงายาวตั้ง ๒๘ นิ้ว”

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-04-2019 เมื่อ 19:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 140 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นายกระรอก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 09:00



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว