กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนสิงหาคม ๒๕๖๕

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 12-08-2022, 19:43
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,598
ได้ให้อนุโมทนา: 216,274
ได้รับอนุโมทนา 739,799 ครั้ง ใน 36,062 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๕


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 12-08-2022, 22:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,179 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๑๒ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ เป็นวันแม่แห่งชาติ ทางวัดท่าขนุนของเราก็จัดงานปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

คราวนี้ในส่วนของการสร้างบุญสร้างกุศลอะไรต่าง ๆ ทั่วประเทศก็ทำกัน แต่ทองผาภูมิปีนี้มีงานเพิ่มขึ้นมา ความจริงก็เพิ่มมาตั้งแต่วันที่ ๑๐ แล้ว วันที่ ๑๐ สิงหาคมที่ผ่านมาเป็นวันกำนันผู้ใหญ่บ้าน ปรากฏว่าหลังพิธีสงฆ์แล้ว มีการอ่านสาส์นจากจุฬาราชมนตรีที่มีถึงกำนันผู้ใหญ่บ้านทั่วประเทศ

วันนี้เมื่อพิธีสงฆ์เสร็จเรียบร้อย ก็ยังมีพิธีกรรมทางศาสนาของ ๕ ศาสนา ก็คือพุทธ คริสต์ อิสลาม ฮินดูและซิกข์ เพียงแต่ว่าทองผาภูมิของเรานั้นไม่มีศาสนสถานของฮินดูและซิกข์ จึงมีพิธีแค่ ๓ ศาสนาคือพุทธ อิสลาม แล้วก็คริสต์

ที่กล่าวถึงตรงนี้ เพื่อบันทึกเอาไว้เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ส่วนหนึ่งว่า ขณะที่ศาสนาอื่นพยายามแสดงบทบาทให้เห็นอย่างเด่นชัดขึ้นเรื่อย แล้วศาสนาพุทธของเราได้ทำอะไร เพื่อให้ปรากฏอย่างชัดเจนต่อญาติโยมทั้งหลายบ้าง ?

หลายอย่างที่เกิดขึ้นในบ้านเราเมืองเรา ไม่ใช่เรื่องความเจริญในพระพุทธศาสนาเลย อย่างเช่นการขอพรท้าวเวสสุวรรณในปัจจุบันนี้ที่นิยมกันมาก แม้ว่าท้าวเวสสุวรรณจะเป็น ๑ ในท้าวจตุโลกบาล ซึ่งมีบทบาทในพระพุทธศาสนาไม่น้อยเลย แต่พระพุทธเจ้าของเราไม่ได้สอนให้คนเราร้องขอในลักษณะแบบนั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-08-2022 เมื่อ 01:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 12-08-2022, 22:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,179 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระองค์ท่านสอนเทวตานุสติ การระลึกถึงคุณงามความดีของเทวดาว่าประกอบไปด้วยหลักธรรมอะไรบ้าง แล้วให้พวกเราประพฤติปฏิบัติในหลักธรรมนั้น ก็สามารถที่จะเป็นเทวดา เป็นนางฟ้า เป็นพรหม หรือแม้กระทั่งเป็นเทวดาผู้บริสุทธิ์สิ้นเชิง คือพระวิสุทธิเทพ เข้าสู่พระนิพพานได้

ในเมื่อเป็นไปในลักษณะอย่างนี้ ความเจริญในพระพุทธศาสนาของเราก็จะเป็นไปในทางตกต่ำเสียมากกว่า เพราะว่าในพระพุทธศาสนานั้น สิ่งใดที่คุณร้องขอ จะเกิดผลก็ต่อเมื่อคุณสร้างเหตุไว้เพียงพอ เป็นเรื่องของเหตุและผลล้วน ๆ ไม่ใช่ว่าไม่ได้ทำอะไรเลยแล้วไปขอ แล้วก็จะสำเร็จอย่างที่ขอ

จะเห็นได้ว่าในปัจจุบันบ้านเราเมืองเรานั้น คนนับถือพระพุทธศาสนาในทางที่ผิด เกือบจะร้อยละแปดสิบเก้าสิบ..! เราจึงเห็นวัดวาอารามต่าง ๆ ช่วงสมัยก่อนก็สร้างท้าวมหาพรหม สร้างเจ้าแม่กวนอิม สร้างพระพิฆเณศวร์ ปัจจุบันนี้ก็สร้างท้าวเวสสุวรรณ ก่อนหน้าท้าวเวสสุวรรณอยู่พักหนึ่งอนาถกว่านั้นอีก..สร้างไอ้ไข่..! เจตนาชัดเจนเลยก็คือเพื่อดึงคนเข้าวัด

ทั้ง ๆ ที่พระพุทธศาสนาของเรานั้น ประกอบไปด้วยหลักธรรมที่มีคุณค่ามหาศาล แต่กลับไม่เอามาเป็นจุดขาย เอาเพียงเศษเสี้ยวของส่วนประกอบ อย่างเช่นเทวตานุสติ ขึ้นมาเป็นจุดขาย แล้วขายผิดด้วย..! ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เราจะไปหวังความเจริญรุ่งเรืองในพระพุทธศาสนาก็ย่อมเป็นไปไม่ได้

แม้กระทั่งพวกเราทั้งหมดที่มาปฏิบัติธรรม ส่วนหนึ่งก็ไม่ใช่ปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้น เพราะว่าผู้ที่มาปฏิบัติธรรมนั้น บางท่านก็บนเอาไว้ว่า "ถ้าสิ่งนั้นสิ่งนี้สำเร็จจะไปปฏิบัติธรรม" ได้ยินแล้ว "น้ำตาจิไหล..!"

บรรดาผู้ที่พยายามจะเชิดชูพระพุทธศาสนาให้ปรากฏ ก็ไปผิดที่ผิดทาง ที่ใช้คำว่าผิดที่ผิดทางก็เพราะว่า บางทีก็มีการเรียกร้องอย่างนั้นอย่างนี้ แต่เมื่อมีผู้เห็นต่าง ก็กลายเป็นทะเลาะเบาะแว้งกันเอง

อย่างปัจจุบันนี้ก็คือเรื่องการตั้งธนาคารพระพุทธศาสนา ที่งัดข้อกันไปเรียบร้อยแล้ว ทั้ง ๆ ที่คำสั่งจากรัฐบาลก็คือ มาพิจารณาร่วมกันในการจัดตั้งธนาคารพระพุทธศาสนา แต่บรรดาคณะกรรมการกลับมาตั้งคำถามว่า "ใช่กิจของสงฆ์หรือไม่ ?" เขาไม่ได้ให้คุณมาตั้งคำถาม เขาให้คุณมาช่วยจัดตั้งธนาคาร เขาเรียกว่าเล่นผิดบท คำถามนั้นต้องกองเอาไว้ก่อน..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-08-2022 เมื่อ 01:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 12-08-2022, 22:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,179 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แบบเดียวกับการยกหน่วยวิทยบริการคณะสังคมศาสตร์ ของ วัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) ขึ้นเป็นวิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาศรีทวารวดี แล้วคณะกรรมการก็มาตั้งสารพัดคำถาม อย่างเช่นว่า "เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่าเงินก้อนนี้ เมื่อคณะกรรมการกลับไปแล้วจะไม่โดนทางวัดดึงคืนไป ?"

ท้ายสุดกระผม/อาตมภาพก็เลยต้องยกมือ ขออนุญาตในที่ประชุม "ขอด่าหน่อย..!" การจัดตั้งวิทยาลัยสงฆ์ ถ้าสามารถจัดตั้งขึ้นมาได้ ผลประโยชน์ก็ตกแก่ส่วนกลาง ก็คือมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ที่เป็นมหาวิทยาลัยแม่ มีสิ่งใดที่เป็นที่ไม่ถูกต้องก็แนะนำมา เราจะได้ทำตาม ไม่ใช่มาอวดความรู้ มาตั้งแง่อย่างโน้นอย่างนี้ ไอ้อย่างนี้เขาถือว่าเล่นผิดบท..!

ถ้าหากว่าเป็นกระผม/อาตมภาพ จะถือว่าเป็น "ไอ้พวกโง่แล้วขยัน" อยากจะแสดงบทบาทให้คนอื่นเห็นว่าคุณมีความรู้ คุณเห็นจุดบกพร่อง แทนที่จะมาช่วยเขายกวิทยาลัยสงฆ์ คุณกลับมาเตะสกัด นั่นใช่หน้าที่ไหม ? นี่คือลักษณะของการหลงประเด็นในสังคมไทยของเรา ซึ่งมีเยอะมาก..!

โดยเฉพาะในปัจจุบันนี้ พวก "เกรียนคีย์บอร์ด" มีเยอะมาก มีข่าวพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๑๐ รับครูบาบุญชุ่มเป็นคนไข้ในพระบรมราชูปถัมภ์ ก็มีเกรียนคีย์บอร์ดเข้าไปคอมเมนต์ว่า "รับเฉพาะพระดัง ๆ เท่านั้นหรือ ? พระป่วยทั่วประเทศทำไมไม่รับ ?" อยากให้มาถามใกล้ ๆ เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน จะได้ตบให้หัวทิ่ม..!

แสดงว่าไม่ได้ติดตามข่าวคราวเลยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับอุปถัมภ์พระเถระที่อายุ ๘๐-๙๐ ทั้งประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของนิตยภัต ก็คือเรื่องของเงินอุดหนุน เรื่องของภัตตาหาร เรื่องของการรักษาพยาบาล เขาเรียกว่า คิดว่าตัวเองฉลาดแต่กลับแสดงออกได้โง่มาก..! ยังดีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระทัยกว้างมาก ไม่ถือสาหาความ ก็เลยทำให้คิดว่าตัวเองเก่ง ที่สามารถตั้งข้อสังเกตแบบนี้ขึ้นมาได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-08-2022 เมื่อ 01:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 12-08-2022, 22:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,179 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

คนประเภทนี้มีมากเกินไปจนถ่วงความเจริญของประเทศชาติ อะไรเกิดขึ้น แทนที่จะช่วยกันหนุน ช่วยกันนำไปในทางที่ถูก กลับทำในลักษณะมือไม่พาย แต่เอาตีนราน้ำ..! ถ้าไปเจอนายท้ายค่อนข้างใจร้อน ก็อาจจะโดนตัดตีนทิ้งน้ำ..! พวกเราอาจจะไม่เข้าใจสำนวน "มือไม่พาย เอาตีนราน้ำ" ก็คือนอกจากจะไม่ช่วยเขาพายเรือแล้ว ยังแหย่ตีนลงไปในน้ำ ทำให้เรือไปช้าอีก..!

เรื่องพวกนี้ควรจะมีให้น้อยลง ไม่เช่นนั้นแล้วบ้านเราเมืองเราเจริญยาก เพราะคนฉลาดแบบปทปรมะมีมากเกินไป การพัฒนาจะเป็นไปได้ยาก โดยเฉพาะการพัฒนาทางด้านจิตใจ เหมือนอย่างกับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจัดอาหารจำนวนมากมายถึง ๘๔,๐๐๐ รายการมาวางไว้ แทนที่จะรีบกินเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์แก่ตัวเอง กลับมาตั้งแง่ว่า "กินได้จริงไหม ?" ถ้าลักษณะอย่างนี้ก็ต้องปล่อยให้เกิดเสียให้เข็ด..!

วันนี้ตั้งใจพูดเรื่องอะไรก็ลืมไปแล้ว แทนที่จะไปวันแม่แห่งชาติ กลายเป็นพวกปทปรมะไปเรียบร้อย แล้วเดี๋ยวก็จะมีคนถอดคำพูดหลวงพ่อวัดท่าขนุนไปลงเพื่อให้เป็นประเด็นต่อ สร้างเวรสร้างกรรมกันไม่รู้จบอีก...!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๑๒ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-08-2022 เมื่อ 01:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 18:01



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว