กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนสิงหาคม ๒๕๖๕

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 07-08-2022, 19:15
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,581
ได้ให้อนุโมทนา: 216,249
ได้รับอนุโมทนา 739,383 ครั้ง ใน 36,033 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๖๕


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 08-08-2022, 00:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,699 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๗ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ ตั้งแต่เช้ามากระผม/อาตมภาพก็ออกบิณฑบาต โดยเฉพาะรับบาตรตามโครงการ "หิ้วตะกร้า นุ่งผ้าซิ่น นั่งแคร่ไม้ ใส่บาตรพระทุกวันอาทิตย์" ซึ่งอาทิตย์นี้คนมากันมากเป็นพิเศษ แล้วฝนก็ซ้ำเติมตั้งแต่ต้นทางจนปลายทาง

หลังจากนั้นแล้วก็ต้องมาบรรยายธรรมให้กับคณะแรลลี่ทัวร์ เที่ยวชุมชน ยลวิถี จากเว็บเพจกิฟท์จังพลังเวทย์ ต่อด้วยการจับสลากหาผู้โชคดี รับรางวัลวัตถุมงคลจากการที่ร่วมขบวนแรลลี่ทัวร์มา แล้วก็ต่อด้วยการดูงานภาคสนามของโครงการมัคคุเทศก์น้อยออนทัวร์นานาชาติพันธุ์ แค่นี้ก็หมดไปแล้วครึ่งวัน..!

หลังเที่ยงแล้วก็มามอบยาห้าราก ยาฟ้าทะลายโจร แล้วก็เจลแอลกอฮอล์ล้างมือให้กับคณะ อสม.ตำบลท่าขนุน เพื่อเอาไปใช้ป้องกันและรักษาผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ซึ่งต้องบอกว่าทองผาภูมิของเรา การติดเชื้อยังรุนแรงมาก แต่คนกลับไม่กลัวกัน มีแต่คนที่ติดแล้วมีอาการยาวมาเป็นเดือน ที่เขาเรียกกันว่า Long COVID นั่นถึงจะรู้รสชาติของชีวิต ว่าการปล่อยให้ติดเชื้อโควิด ๑๙ แล้วเป็นอย่างไร !?

หลังจากนั้นก็มาทำพิธีปิดโครงการ แล้วมอบวุฒิบัตรให้กับมัคคุเทศก์น้อยออนทัวร์นานาชาติพันธุ์ ยังไม่ทันจะเสร็จดี ก็ต้องวิ่งไปงานปฐมนิเทศเปิดสำนักเรียนพระปริยัติธรรมแผนกธรรมที่วัดปรังกาสี ซึ่งพระครูวรกาญจนโชติ เจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ ได้รวมเอานักเรียนจากเขตตำบลลิ่นถิ่นเขต ๒ ตำบลหินดาด ตำบลสหกรณ์นิคม ตำบลท่าขนุนเขต ๑ และตำบลท่าขนุนเขต ๒ รวมทั้งสิ้น ๕ ตำบลมาเรียนรวมกัน ก็ยังมีนักเรียนแค่ไม่ถึง ๓๐ รูป

เมื่อเสร็จพิธีปฐมนิเทศ ก็เป็นการมอบตำราเรียนให้กับคณะสงฆ์ตำบลต่าง ๆ เพื่อนำไปใช้ในการสอนนักธรรมชั้นตรี ชั้นโทและชั้นเอก กระผม/อาตมภาพยังได้มอบปัจจัยร่วมพิมพ์หนังสือสวดมนต์ของคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิ จำนวน ๒๓,๐๐๐ บาทให้แก่ท่านเจ้าคณะอำเภอ นี่คืองานที่ยังไม่หมด

ในส่วนนี้เราจะเห็นว่า เรื่องของงานนั้น ถ้าเราตั้งใจทำให้ดี ไม่ว่างานจะมากแค่ไหน เราก็ทำได้ แต่ถ้าหากว่าเราขาดความตั้งใจ ขาดความพยายาม โอกาสที่จะทำทุกอย่างให้ดีก็เป็นไปได้ยาก โดยเฉพาะถ้าเป็นผู้ขาดไหวพริบปฏิภาณด้วย ก็จะยิ่งลำบากมาก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-08-2022 เมื่อ 02:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 08-08-2022, 00:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,699 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อย่างเมื่อเช้านี้ การรับบาตรตามโครงการ "หิ้วตะกร้า นุ่งผ้าซิ่น นั่งแคร่ไม้ ใส่บาตรพระทุกวันอาทิตย์" บรรดานาคที่ไปช่วยเก็บกับข้าว และสิ่งของที่ญาติโยมใส่บาตร ขาดความคล่องตัวอย่างมาก คือสำหรับคนอื่น แค่มองดูก็รู้ว่าต้องทำอะไร แต่ว่าบรรดานาคทั้งหลายกลับทำอะไรไม่ถูก

มีบางคนก็รอให้กระผม/อาตมภาพเป็นคนเก็บกับข้าว เก็บข้าวของออกไปใส่กระสอบเอง เมื่อ
กระผม/อาตมภาพลองยืนรอดูว่าจะมีไหวพริบพอที่จะหยิบเองไหม ? พวกคุณก็ยืนรอกระผม/อาตมภาพเสียอีก หรือไม่บางคนทั้ง ๆ ที่คนเตือนแล้วว่าบังกล้อง แต่ก็ระวังแค่ ๒ วินาที วินาทีที่ ๓ กูก็บังต่อไป..!

หรือไม่ก็อย่างแถวพระกำลังจะข้ามถนน เหลียวดูเพื่อให้รู้ว่ามีรถมาหรือเปล่า ? แต่เหลียวไปทีไร พวกนาคก็บังทางจนหมด ตกลงว่าพระต้องเสี่ยงดวงข้ามถนนให้รถชนตายเอาเอง เพราะว่ามองอะไรไม่เห็น..!

เรื่องพวกนี้ถ้าคนมีไหวพริบปฏิภาณ ไม่จำเป็นต้องพูดถึงเลย แต่ปรากฏว่าพวกเราทำได้ในลักษณะที่เรียกว่าย่ำแย่สุด ๆ ถ้าไปเจอคนปากร้าย เขาก็จะบอกว่า "ฉลาดกว่าควายก็แค่ยืนสองขาได้เท่านั้น..!"

เรื่องพวกนี้ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่สอนกันยาก เหตุที่สอนกันยาก เพราะถ้ายกตัวอย่างกระผม/อาตมภาพเอง เข้าไปทำงานในบริษัทหลังพระครูแสง น้องชายถึง ๓ ปี แต่ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งปี ก็มีความก้าวหน้าในการงานมากกว่าคนที่ทำมาแล้วถึง ๓ ปี

เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่ากระผม/อาตมภาพจะมองงานว่าลำดับต่อจากนี้ไป เราต้องทำอะไร ในเมื่อเราคำนวณได้ว่าจะต้องทำอะไร ก็ต้องเตรียมการสำหรับสิ่งนั้นไว้ให้เรียบร้อย เมื่อถึงเวลาต้องทำ ทุกอย่างก็พร้อมสมบูรณ์ แต่พวกเราส่วนหนึ่งมองงานล่วงหน้าไม่เป็น แก้ไขหน้างานไม่เป็น การแก้ไขหน้างานคือ มีปัญหาอะไรที่ทำงานให้งานต้องสะดุด ต้องขาดความคล่องตัว เราจะแก้ไขอย่างไรให้ทันกับเหตุการณ์

เมื่อเป็นเช่นนี้ สำหรับพวกเราก็ไม่ต้องไปพูดถึงในเรื่องของการคาดคำนวณถึงเรื่องต่าง ๆ ที่จะมีขึ้นต่อไปในภายภาคหน้า ไม่ว่าจะเป็นอาทิตย์หน้า เดือนหน้า ปีหน้า เพราะว่าแค่ตรงหน้าก็ยังไปไม่เป็นแล้ว ส่วนอื่นจึงไม่ต้องพูดถึง..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-08-2022 เมื่อ 02:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 08-08-2022, 00:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,699 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น...ในเรื่องของการทำงาน ไหวพริบปฏิภาณเป็นสิ่งสำคัญที่สุด โดยเฉพาะความละเอียดรอบคอบ แต่พวกเราพอละเอียดก็จะช้าทันที ถ้าหากว่าปล่อยให้เก็บกับข้าวกันเอง คัดแยกกันเอง รับประกันได้ว่ายันฉันเพลก็ยังบิณฑบาตไม่เสร็จ..!

แล้วพรุ่งนี้ถึงเวลาตามพระออกบิณฑบาต ก็ไม่ใช่ตะบี้ตะบันตามไปทั้งหมด ไปทำอะไรให้เกะกะเสียเปล่า ไปอย่างเต็มที่ก็ไม่เกิน ๓ คน ถ้าเป็นกระผม/อาตมภาพเอง คนเดียวก็พอแล้ว คนแรกเก็บกับข้าวเสร็จ ก็ไปต่อท้ายแถวให้คนที่สองมาเก็บต่อ คนที่สองเก็บแล้วก็ไปต่อท้ายแถวให้คนที่สามขึ้นมาแทน หมุนเวียนกันไป..ง่าย ๆ แค่นี้เอง

ก่อนที่จะเก็บกับข้าวก็โปรดพิจารณาด้วยว่า ไอ้ตอนที่เราเอื้อมมือไปเก็บ จะไปขวางคนอื่นเขาหรือเปล่า ? เขาใส่บาตรได้ไหม ? ถ้าหากว่าใส่บาตรรูปแรกได้ แล้วถ้ามือเราเอื้อมไปขวางอยู่ เขาจะใส่รูปที่สองได้ไหม ?

เชื่อไหมว่าเรื่องทั้งหมดนี้ กระผม/อาตมภาพไม่เคยต้องรอให้ใครสอนเลย อยู่กับหลวงพ่อวัดท่าซุงก็ไม่เคยให้ใครสอนงาน เข้าไปถึงตรงไหนก็ทำหน้าที่ไปได้เลย คอยสังเกตเอา แล้วก็ปรับตัวตามหน้างาน แล้วก็เป็นเรื่องอัศจรรย์ว่า ลูกศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุงในยุคนั้นเป็นแบบนี้เกือบทุกคน ไปวัดก็มองหางานเอง ได้งานแล้วก็พิจารณาดูว่าต้องร่วมงานกับใคร ถ้าหากว่างานเกินกำลังตัวเอง ต้องอาศัยใครมาแก้ไข ทุกคนสามาถทำงานได้เองโดยไม่ต้องเสียเวลาไปให้ใครต้องมาปากเปียกปากแฉะ จ้ำจี้จ้ำไช

แล้วทำไมแค่ไม่กี่ปี พอมาถึงยุคพวกเรา บอกว่าอย่าบังกล้อง ๒ วินาทีต่อมาก็บังอีกแล้ว..!? บอกว่าให้ยืนเยื้องไปข้างหลังแล้วเก็บกับข้าว ๒ วินาทีต่อไปก็ยืนบังหน้าอีกแล้ว จะเป็นเรื่องที่น่าเหนื่อยใจเกินไปไหม ? ถ้าหากว่าครูบาอาจารย์จะต้องมาจ้ำจี้จ้ำไชอยู่ทุกวัน ต่อให้มึงฟังแล้วไม่เบื่อ กูก็เบื่อที่จะพูด..!

ดังนั้น...ลองดูว่าก่อนที่จะถึงวันที่ ๑๐ ช่วงบ่าย พวกเรายังมีเวลาแก้ตัว ดูว่าจะจัดสรรกำลังพลอย่างไร ใครจะตามพระ ใครจะอยู่ทำความสะอาดวัด ใครจะอยู่ช่วยเหลืองานในโรงครัว ถ้าคนแค่นี้แบ่งกันไม่ได้ ก็ไม่ต้องไปทำมาหากินอะไรแล้ว..!

ถ้าหากว่านับว่า ดี ๑ ประเภท ๑ ก็คือบรรดาท่านทั้งหลายที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโปรดในสมัยพุทธกาล หลังจากนั้นความสามารถก็ค่อย ๆ ลดน้อยถอยลงไปเรื่อย แต่เหลือเชื่อแค่ว่ายุคที่กระผม/อาตมภาพถวายการรับใช้หลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุงอยู่ มาจนถึงปัจจุบันนี้ แค่ไม่กี่ปี ความสามารถในการคิดงานทำงานของพวกเราจะย่ำแย่ลงไปได้ขนาดนี้..!

ถ้ารู้สึกว่าความสามารถยังไม่พอ ก็บวชอยู่ต่อไปให้นานหน่อย ดูว่าจะขัดเกลาตัวเองได้สักเท่าไร ถ้าแก้ไขได้ก็ถือว่าเป็นคุณแก่ตัว ถ้าแก้ไขไม่ได้ก็อย่าไปมีลูกมีเมียกับใครเลย สงสารเด็กที่จะเกิดมา..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๗ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-08-2022 เมื่อ 02:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 14:05



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว