กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนสิงหาคม ๒๕๖๕

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 05-08-2022, 19:29
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,529
ได้ให้อนุโมทนา: 215,924
ได้รับอนุโมทนา 736,924 ครั้ง ใน 35,904 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๖๕


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 05-08-2022, 23:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,368
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๕ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ กระผม/อาตมภาพไปตรวจเยี่ยมดูการจัดสถานที่สำหรับอบรมพระนวกะ ในเขตปกครองคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิที่วัดปากลำปิล็อก หมู่ที่ ๒ ตำบลห้วยเขย่ง อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรีมา คราวนี้ในส่วนที่ขอแสดงความชื่นชมก็คือว่า เลขาฯ บอส (พระสมุห์ณัฐพสิษฐ์ ปญฺญาคโม) นำเอาพรรคพวกเพื่อนฝูงจากวัดท่าขนุนหลายรูป ไปช่วยกันจัดสถานที่และทำความสะอาดวัดปากลำปิล็อก

ตรงจุดนี้ท่านทั้งหลายส่วนหนึ่งอาจจะเคยชินว่า รอให้กระผม/อาตมภาพสั่งงานแล้วถึงทำ ขอร้องว่าอย่าทำตัวแบบนั้น ท่านทั้งหลายจะสังเกตเห็นว่า กระผม/อาตมภาพนั้น ปล่อยให้ทุกคนทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ใครเห็นว่ามีอะไรดี สามารถนำเสนอได้ ถ้ายังไม่ดีพอในสายตาของกระผม/อาตมภาพ ก็จะทำการทักท้วง ปรับเปลี่ยน บางโครงการยังไม่เหมาะสมกับระยะเวลาก็ให้ชะลอเอาไว้ก่อน

เหตุที่เป็นเช่นนั้น เพราะว่าจากประสบการณ์ที่บวชมา ๓๗ ปี พบเห็นมาเยอะมากว่าวัดวาอารามทั่วไป ถึงเวลาสิ้นหลวงพ่อเจ้าอาวาส วัดก็โทรมทันตาเลย เพราะว่าไม่มีใครรับผิดชอบงานได้ แต่กระผม/อาตมภาพจัดระบบงานอยู่ในลักษณะที่ว่า ให้พวกท่านทั้งหลายบริหารกันเองเป็นส่วนใหญ่ โดยคอยดูแลอยู่ห่าง ๆ ถ้าลักษณะอย่างนี้ ต่อให้กระผม/อาตมภาพมรณภาพลงอย่างกะทันหัน วัดเราก็จะสามารถไปต่อได้

ดังนั้น...เรื่องพวกนี้ เราต้องกล้าคิด กล้าพูด กล้าทำ ไม่ใช่รอแต่นโยบายหรือรอให้สั่งงานอย่างเดียว พวกเราไม่ใช่หุ่นยนต์ ทุกสิ่งที่จะทำ อันดับแรกเลย ให้ยึดกรอบพระธรรมวินัยไว้ก่อน ถ้าไม่ผิดพระธรรมวินัย ก็พิจารณาต่อไปว่าเป็นประโยชน์ต่อวัดวาอาราม หรือว่าคณะสงฆ์ส่วนรวมหรือไม่ อย่าไปยึดติดว่าต้องเป็นวัดท่าขนุนเท่านั้น ท่านทั้งหลายจะเห็นว่ากระผม/อาตมภาพช่วยเขาทั่วประเทศ เพราะว่าสิ่งที่ทำทั้งหมด ก็เพื่อความเจริญของพระพุทธศาสนา

อย่าทำตัวเป็นคนสายตาคับแคบ มองแค่ตัวเอง หรือว่ากว้างขึ้นไปหน่อยก็มองแค่วัดตัวเอง จุดที่อยากจะให้มองแคบที่สุดก็คือ อย่างน้อยต้องมองถึงคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิ หลังจากนั้นก็เป็น คณะสงฆ์จังหวัดกาญจนบุรี คณะสงฆ์ภาค ๑๔ คณะสงฆ์หนกลาง แล้วก็คณะสงฆ์ไทย หลังจากนั้นแล้วค่อยมองไปทั่วโลก ก็แปลว่าต่ำสุด ควรที่จะมองอย่างน้อยก็เป็นเรื่องของคณะสงฆ์อำเภอ ไม่ใช่มองแค่วัดตัวเอง หรือว่ามองแค่ตำบลตัวเองเท่านั้น

เรื่องพวกนี้ บรรดานักเรียนทั้งหลายก็เหมือนกัน ก่อนหน้านี้ พวกเรายังไม่มีโครงการก็เข้าวัดกันน้อย แต่คราวนี้ถ้าหากว่าอย่างของทางโรงเรียนอนุบาลทองผาภูมิ ตั้งแต่รุ่นท่านผู้อำนวยการสนิท ทรัพย์วารี เป็นต้นมา ปัจจุบันนี้มาถึงท่านผู้อำนวยการศราวุฒิ วงษ์เอก นั่นเป็นโรงเรียนวิถีพุทธ ทำโครงการต่าง ๆ ร่วมกับวัด ถือว่าทำตามหน้าที่ แม้ว่าปัจจุบันนี้จะมีโครงการนำนักเรียนเข้าโครงการทุกวันพระ ก็ยังถือว่าทำตามหน้าที่ของโรงเรียนวิถีพุทธ เพราะว่าถ้าไม่ทำ ก็อาจจะไม่ผ่านการประเมิน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 06-08-2022 เมื่อ 09:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 05-08-2022, 23:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,368
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แต่โรงเรียนทองผาภูมิวิทยาของเรา ภายใต้การนำของท่านผู้อำนวยการยงยุทธ สงพะโยม ทำโครงการนำนักเรียนบ้านไกลที่อยู่ในหอพัก เข้าวัดทุกวันพระ นี่ต้องถือว่ามีเจตนาดีต่อเด็กทุกคน แต่คราวนี้พวกเราส่วนใหญ่แล้วอยู่ในช่วงวัยรุ่น บางทีอาจจะยังไม่เห็นเจตนาดีของครูบาอาจารย์ รู้สึกว่าเวลาที่ควรพักผ่อน ทำไมต้องมาอยู่วัด ? ทำไมต้องมาปฏิบัติธรรม ? ทำไมต้องมาสวดมนต์ทำวัตร ? ทำไมต้องมาฟังเทศน์ที่น่าเบื่อ ?

ถ้าหากว่านักเรียนทุกคนดูตัวอย่างหลวงพ่อเอง ตั้งแต่เรียนชั้นประถมมายันปริญญาเอก แทบจะไม่เคยพลาดจากที่ ๑ เลย เพราะว่ามีพื้นฐานมาตั้งแต่เด็ก เพิ่งจะรู้ภาษา พ่อก็นำสวดมนต์ไหว้พระทุกวัน ไปโรงเรียนเริ่มเข้าชั้น ป.๑ สวดมนต์ไหว้พระได้ ครูก็ให้เป็นหัวหน้าชั้นเรียน สมัยนั้นโรงเรียนแรกที่เข้ามีถึงแค่ชั้นประถมปีที่ ๔ พอถึงชั้นประถมปีที่ ๓ หลวงพ่อก็เป็นประธานนักเรียนแล้ว ต้องช่วยครูดูแลเพื่อนทั้งโรงเรียน..!

เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า หลวงพ่อฝึกฝนการสวดมนต์ ไหว้พระ ทำสมาธิภาวนามาตั้งแต่เด็ก ถึงได้มีกำลังใจที่จะแบกงาน ที่จะสู้งานระดับนั้นได้ และโดยเฉพาะการเรียน ไม่เคยตกเลย ถ้าไม่ได้ที่ ๑ นี่จะเป็นเรื่องที่แปลกมาก เรื่องที่พวกเรามาทำกันทุกวันพระ ทีละเล็กทีละน้อย พอรวมกันเหมือนน้ำทีละหยด รวมแล้วก็กลายเป็นลำห้วยลำธาร ก่อประโยชน์ให้กับหมู่คณะได้มาก

คราวนี้รุ่นของพวกเราต้องบอกว่าอยู่ในช่วงยากลำบาก เพราะว่ากระแสสังคมนิยมการบริโภค พ่อแม่ไม่มีเวลาทำตัวเป็นตัวอย่าง ก็ต้องให้คุณครูนำเข้าวัด อย่าลืมว่าแม่คือ ๑ พ่อคือ ๒ ครูที่ ๓ พระคุณที่สามงดงามแจ่มใส แต่ว่าใครหนอใคร เปรียบเปรยครูไว้ว่าเป็นเรือจ้าง น่าเศร้าใจนะ..!

ในเมื่อสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ คุณครูเห็นประโยชน์ แล้วก็ทำเพื่อพวกเรา ทำอย่างไรที่พวกเราจะได้รับประโยชน์นั้นอย่างแท้จริง ? เรื่องของบุญ เรื่องของกุศล สร้างผลให้เราในด้านดีอย่างเดียวเท่านั้น แต่ไอ้ที่ดีบ้าง ชั่วบ้าง เพราะว่าพวกเราไปทำทั้งบุญทั้งบาปผสมปนเปกันไป ในเมื่อเป็นเช่นนั้น มีวิธีทางใดบ้างที่พวกเราจะสร้างบุญให้ต่อเนื่องกันได้ ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-08-2022 เมื่อ 02:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 05-08-2022, 23:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,368
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ตรงจุดนี้ อยากให้ดูตัวอย่างพี่น้องมอญพม่า ทุกคนเข้าวัดทำบุญ เหมือนกับที่พวกเราไปเดินห้าง ไปเที่ยวคาราโอเกะ ที่เที่ยวของเขาคือวัด ไปกันเป็นปกติ เพราะว่าพ่อแม่นำไป ถ้าสังเกตที่วัดท่าขนุนแห่งนี้ เราจะเห็นว่าเวลามีงาน ไอ้ตัวเล็กเพิ่งจะ ๓ วัน ๗ วัน ตัวยังแดง ๆ ลืมตายังไม่ขึ้น พ่อแม่เอาห่อผ้าอุ้มมาวัดแล้ว ไอ้ที่ยังต้องอุ้มอยู่ก็มี ไอ้ที่ต้องจูงก็มี จนกระทั่งไปถึงเด็กโตหน่อย ไปถึงวัยรุ่น ไปถึงหนุ่มสาว ไปถึงวัยกลางคน ไปถึงคนแก่ คนทุกระดับอายุเข้าวัดกันหมด ก็มีตัวอย่างให้พวกลูกหลานดูแล้วก็ทำตาม

คราวนี้รุ่นของพวกเราไม่มีตัวอย่าง ถ้าเป็นคนไทย พ่อแม่น้อยคนที่จะพาเข้าวัด ต้องบอกว่าเสียชาติเกิดมากเลย..! เราต้องดิ้นรนขวนขวายมาด้วยตัวเอง หรือว่าต้องรอคุณครูพาเข้าวัด มาแล้วได้อะไรก็ยังไม่รู้ ?

อย่าลืมว่าทุกวันเราฟุ้งซ่านอยู่กับ รัก โลภ โกรธ หลง บางทีก็ทำผิดศีล ๕ เป็นปกติ มาวัดถึงอยากจะทำผิดก็ทำไม่ได้ เพราะอยู่ในวัด ก็แปลว่าเราบังคับกายได้แล้ว จะด่าเพื่อน จะโกหก ก็ยากอีก เพราะว่าอยู่ในวัด ต้องเกรงใจพระ เราก็คุมวาจาได้อีกอย่างหนึ่ง ต่อให้ใจเราคิดชั่ว อยากจะทำโน่นทำนี่แบบชั่ว ๆ บ้างก็ช่างมัน

กาย วาจา ใจ ๓ ส่วน เราชนะไปแล้ว ๒ ตรงนี้แหละที่เป็นบุญเป็นกุศล เว้นการทำชั่วด้วยกาย เว้นการทำชั่วด้วยวาจา พยายามขัดเกลาใจตัวเอง เรื่องพวกนี้เป็นบุญใหญ่มาก

ถ้าเอาการทำบุญหลัก ๆ ในพระพุทธศาสนาคือการให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ของพวกเราอยู่ในระดับศีลและภาวนา เพราะว่าต้องบังคับกาย วาจาให้เรียบร้อย นี่ถือว่าอยู่ในระดับของศีล ต้องอยู่ในกฎ อยู่ในระเบียบ ถึงเวลาต้องสวดมนต์ ต้องฟังเทศน์ นี่เป็นส่วนของสมาธิ ถ้าสมาธิไม่ดี เผลอมองอย่างอื่น เผลอคิดอย่างอื่น ก็สวดมนต์ผิดอีก ก็แปลว่าพวกเรามีศีล มีสมาธิ โดยที่จะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม

แต่สิ่งทั้งหมดนี้เมื่อรวมกันมากเข้าแล้ว ต่อไปถ้าจำเป็นต้องไปแข่งขันกันในการดำเนินชีวิต ผลบุญตรงนี้จะช่วยให้เรามีความสะดวกและคล่องตัวกว่าคนอื่นเขา บางคนเขาบอกว่า "ดวงดี" บางคนพูดตรง ๆ ว่า "บุญดี" ดวงดีอย่างเช่นว่าสมัครงานแล้ว ผ่านสัมภาษณ์เข้าทำงานได้เลย บอกว่าบุญดี ทำงานที่ไหนเจ้านายรัก เพื่อนฝูงรัก นี่ไม่ใช่เรื่องของดวงดี แต่เป็นเรื่องของบุญดี
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-08-2022 เมื่อ 02:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 05-08-2022, 23:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,368
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

บุญส่งผลให้เราในด้านดีเสมอ จนพระพุทธเจ้าตรัสว่า สุโข ปุญฺญสฺส อุจฺจโย การสั่งสมบุญย่อมนำมาซึ่งความสุข เพียงแต่ว่าถ้ายังน้อยอยู่ ก็ต้องพากเพียรพยายาม เหมือนกับเราทำงานเก็บเงิน กว่าที่จะมีฐานะดีพอที่จะซื้อหาสิ่งที่เราต้องการได้อย่างใจทุกอย่าง ก็ต้องเพียรพยายามอยู่หลายปี หรือว่าหลายสิบปี แต่ถ้าหากว่าเรามีความพยายามมาก สั่งสมบุญได้มาก ก็เหมือนกับคนขยันทำงานมาก เก็บเงินได้มาก เราก็จะสบายเร็วกว่าคนอื่นเขา การดำเนินชีวิตของเราก็จะไม่ยากเหมือนกับคนอื่นเขา

ดังนั้น...ในส่วนนี้ ถ้าหากว่านักเรียนทั้งหลายเห็นประโยชน์ ก็ไม่ต้องรอครูพามา วัดท่าขนุนเปิดอยู่ตลอดเวลา วัดนี้ไม่มีประตู พวกเราจะสังเกตว่าซุ้มประตูก็มีไว้เฉย ๆ ไม่มีบานประตู สามารถเข้าวัดได้ทุกทิศทุกทาง จะเข้ามาเวลาไหนให้ระวังหมาหน่อยก็แล้วกัน

ตรงนี้อย่ารอให้ครูหรือพ่อแม่นำแล้วเราค่อยเข้าวัด หลวงพ่อเข้าวัดมาตั้งแต่เด็ก จนป่านนี้ก็ยังอยู่ในวัด ไม่ได้ไปไหน แล้วทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำ ก็สะดวกสบายง่ายดายกว่าคนอื่นเขา จนกระทั่งมีคนมาขอความช่วยเหลือทั่วประเทศ ก็เพราะเรื่องของบุญที่สร้างสมมาตั้งแต่เด็ก ๆ และทำมาอย่างจริงจังสม่ำเสมอ

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมทั้งหลายที่ฟังอยู่แต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๕ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-08-2022 เมื่อ 02:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 00:25



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว