กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านอนุสาวรีย์

Notices

เก็บตกจากบ้านอนุสาวรีย์ เก็บข้อธรรมจากบ้านอนุสาวรีย์มาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #61  
เก่า 10-02-2011, 15:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : อารมณ์ที่หยุดการปรุงแต่ง เป็นอารมณ์สังขารุเปกขาญาณ หรือว่าเป็นปัญญา ?
ตอบ : เป็นปัญญาในสังขารุเปกขาญาณ เพราะเห็นโทษของการปรุงแต่งแล้วว่าจะเป็นอย่างไร จึงเลิกทำ ตัวเห็นโทษนี่แหละ..จะทำให้ปัญญาของเราเกิดง่ายที่สุด ถ้าเรายังไม่เห็นโทษ เราก็ยังทำชั่วไปเรื่อย ๆ

ถาม : อย่างนี้เราก็พิจารณาไปเรื่อย ๆ ถึงโทษของการเกิด ก็เหมือนกับบังคับย้ำไปเรื่อย ๆ
ตอบ : แรก ๆ จะเป็นสัญญา (จำได้) ก่อน ต้องบังคับให้คิดก่อน พอท้าย ๆ แล้วจิตยอมรับก็จะเป็นปัญญา (ทำได้)

ถาม : อันนี้เป็นทางหนึ่ง ?
ตอบ : ไม่ใช่ทางหนึ่ง แต่เป็นจุดเริ่มต้นที่ต้องทำอย่างนี้ก่อน หลังจากที่ทำย้ำแล้วย้ำอีก ซ้ำแล้วซ้ำอีก คิดแล้วคิดอีก จนกระทั่ง สติ สมาธิ ปัญญา พอเพียง จิตก็จะยอมรับในความเป็นจริง แล้วเริ่มที่จะปล่อยวางได้ การปรุงแต่งก็น้อยลง จนในที่สุดก็เลิกการปรุงแต่งไปเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-02-2019 เมื่อ 17:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #62  
เก่า 10-02-2011, 16:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมเคยอ่านหนังสือของหลวงพ่อปาน เกี่ยวกับการสะเดาะกุญแจ ผมก็เลยลองซื้อลูกกุญแจมาสิบดอก แม่กุญแจตัวเดียว ในนั้นจะมีแม่กุญแจอันเดียวที่จะไขได้ ผมก็เดา พร้อมกับทายไพ่ พอทายไพ่จนถูก ผมก็เอามือไปหยิบกุญแจมาไข แล้วก็ไขออก ทำได้สองครั้งแล้ว..?
ตอบ : คนละเรื่องกันโว้ย..! คุณทายไพ่แล้วหยิบกุญแจนั่นเป็นทิพจักขุญาณ แต่ที่สะเดาะกุญแจเป็นกำลังของอภิญญา คนละอย่างกัน การใช้งานเป็นคนละแบบกัน

เรื่องของการทายไพ่แล้วหยิบกุญแจเพื่อเดาว่าเป็นดอกไหน แล้วทำได้ถูก ถ้าทำคล่องตัวมาก จะเป็นทิพจักขุญาณ เราสามารถรู้เรื่องอื่นได้ด้วย แต่ในเรื่องการสะเดาะกุญแจจะเป็นพื้นฐานของอภิญญา ต้องใช้กำลังสูงกว่านิดหนึ่ง

ถาม : ผมทำได้แค่สองครั้ง
ตอบ : ต้องทำให้ได้ทุกครั้ง ต้องได้เต็มร้อยจึงจะเชื่อได้ว่าเป็นของจริง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-02-2011 เมื่อ 18:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 171 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #63  
เก่า 10-02-2011, 16:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าให้ฟังว่า "เมื่อตอนที่อาตมาอยู่ที่เกาะพระฤๅษี เวลาออกไปตลาด มีอยู่อย่างหนึ่งที่ต้องซื้อคือขนมหมา ขนมชนิดนี้ทางเราเอาไว้เลี้ยงหมา ก็เลยเรียกขนมหมากันมาตลอด

พอทิดตู่ซึ่งตอนนั้นเป็นเณรอยู่ไปถึงร้านแล้ว ดันไปบอกกับคนขายว่า "เอาขนมหมา ๒๐ ถุง..!" อาตมาต้องรีบตะครุบปากเอาไว้ "คนอื่นเขากินกันนะมึง..ดันไปเรียกขนมหมา..!" ต้องคอยเตือนสติไว้ ไปเรียกต่อหน้าคนอื่น เดี๋ยวเขาจะด่าเอา"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-02-2011 เมื่อ 18:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 175 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #64  
เก่า 10-02-2011, 16:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าให้ฟังว่า "งานนิโรธกรรมของครูบาเหนือชัยครั้งนี้ ครูบาไปอยู่ในถ้ำสูงเกือบถึงยอดเขา อาตมาต้องปีนเขาและไต่เชือกขึ้นไปอีก ๒ ช่วง ช่วงสุดท้ายต้องปีนบันไดไม้ไผ่อีก พอไปถึง ครูบาท่านก็ดีใจบอกว่า "งานนี้น่วมเลย ตลอด ๗ วันมีแต่สารพัดไสยศาสตร์ เล่นจนเดี้ยงไปหมด"

ท่านกราบแล้วกราบอีก บอกว่า "พี่ไม่เคยทิ้งน้องเลยตลอด ๑๐ กว่าปีที่ผ่านมา" อาตมาก็บอกว่า "ก่อนหน้านี้อยู่เบื้องหลังก็สบายดีหรอก แต่ตอนนี้คุณถีบผมออกข้างหน้ามา ผมจะโดนอีกเท่าไรก็ไม่รู้ ?"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-02-2011 เมื่อ 18:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 183 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #65  
เก่า 10-02-2011, 16:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : แล้วเวลาท่านรักษาตัว นอกจากน้ำมนต์แล้ว ท่านมีอะไรป้องกันอีกหรือคะ ?
ตอบ : ตอนนี้ท่านอาศัยมีดหมอของหลวงพ่อวัดท่าซุงเป็นหลัก ครั้งแรกจริง ๆ ที่อาตมาไปพบท่าน ก็เพื่อเอามีดหมอของหลวงพ่อไปให้

ท่านให้ลูกศิษย์มาแจ้งว่า อาการอัมพฤกษ์เริ่มเกิดแล้ว เคลื่อนไหวแขนขาบางส่วนไม่ได้แล้ว เพราะว่าโดนไสยศาสตร์มากเกินไป ท่านอยากได้มีดหมอชาตรีของหลวงพ่อวัดท่าซุง ทราบว่าอาตมามีอยู่

อาตมาเอาไป ๒ เล่ม ไปให้ท่านเลือก ปรากฏว่าท่านเลือก Rambo III ไป เหมาะสมกับตัวท่านมากเลย หนังเรื่องแรมโบ้ภาค ๓ ที่มีดใหญ่ประมาณฝ่ามือและยาวเป็นศอก เล่มนั้นอาตมานำไปเข้าพิธีชาตรีครั้งแรก สั่งตรงมาจากอเมริกาเลยนะ เพราะเป็นของที่มีลิขสิทธิ์

นึกว่าเอามีดหมอไปให้แล้วจะจบ ท่านถอดประคำที่คอกับวัตถุมงคลมาอีกพวงหนึ่ง บอกว่า "หลวงพี่ช่วยเสกให้ผมด้วย" เราอุตส่าห์นั่งเสกให้ท่าน พอเสกเสร็จนึกว่าจะจบ "หลวงพี่ช่วยสอนมวยให้เณรด้วย..!"

ตอนช่วงนั้นมีเณรที่ร่วมเป็นร่วมตายอยู่กับท่านประมาณ ๓ - ๔ รูปเท่านั้น ทั้งวัดมีม้าอยู่แค่ ๕ - ๖ ตัวเท่านั้น ไม่ใช่ ๒๐๐ - ๓๐๐ ตัว เหมือนทุกวันนี้ ก็เลยบอกว่า "มวยที่ผมเรียนมา มีแต่ประเภททีเดียวอยู่นะ" ท่านบอกว่า "ถ้าอย่างนั้นแสดงท่าให้เขาดูก็แล้วกัน"

พอบอกให้เณรลงมือจริง ๆ เณรก็กลัว ๆ กล้า ๆ เกรงใจไม่กล้าเตะต่อย อาตมาจึงต้องบอกเณรให้ลงมือจริง ๆ ถึงจะรู้ว่า เวลาที่เขาแก้ไขปิดป้องแล้วตอบโต้จะต้องทำอย่างไร
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-02-2011 เมื่อ 18:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 181 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #66  
เก่า 10-02-2011, 16:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ในขณะที่ร่างกายเคลื่อนไหวในท่าของมวย การทรงอารมณ์นี่อยู่ที่จิตตลอดไหมคะ ?
ตอบ : ถ้าหากว่าสมาธิยิ่งคล่องตัวมากเท่าไร เราจะรู้เลยว่าจังหวะไหนควรจะทำอะไร และถ้าหากรู้ละเอียด จะรู้ด้วยว่าตอนนี้เขาจะมาท่าอะไร รู้ก่อนเดี๋ยวนั้นจะกันได้หมด แก้ได้หมด

แต่ไม่ต้องถึงระดับนั้นหรอก แค่รู้ว่าตัวเองควรจะเคลื่อนไหวอย่างไรจึงจะเหมาะสม ก็หาคนเล่นกับเรายากแล้ว

ถาม : ถ้าคนที่ไม่เคยฝึกในชาตินี้มาก่อนละคะ ?
ตอบ : ถ้าของเก่ามีเดี๋ยวก็มาเอง แต่ถ้ากำลังใจไปไม่ถึงระดับหนึ่ง ของเก่าก็ยังไม่ฟื้น

ถาม : ระดับหนึ่งที่ว่าคือระดับไหนคะ ?
ตอบ : ทรงฌานให้ได้คล่องตัวสักฌานหนึ่ง เอาแค่ปฐมฌานก็ได้ เพียงแต่ต้องให้เป็นฌานลักษณะใช้งานได้ ถ้าประเภทที่ต้องนั่งเฉย ๆ แล้วถึงจะทรงฌานได้ แบบนั้นยังใช้งานอะไรไม่ได้

ถาม : แค่ปฐมฌาน ของเก่าก็กลับมาแล้วหรือคะ ?
ตอบ : เราลองนึกถึงว่า เวลาเราทรงปฐมฌานละเอียด เราจะรู้ลมหายใจได้โดยอัตโนมัติ ไม่ต้องบังคับก็ภาวนาได้เอง ตอนนั้นสัญชาตญาณเดิมจะกลับมา เพราะว่าการฝึกอาวุธหรือการต่อสู้ต่าง ๆ ต้องมีสมาธิเป็นเครื่องรองรับ

ถ้าไม่มีสมาธิเป็นเครื่องรองรับ ใครจะเดินเข้าไปหาดาบขาววับของอีกฝ่ายหนึ่งเล่า ? ถ้ากำลังใจสู้กันไม่ได้ตั้งแต่แรกแล้ว เข้าไปก็ตายเปล่า..! เมื่อกำลังใจไปถึงช่วงนั้น ของเก่าก็จะคืนมา เพราะเราเคยฝึกมาแล้ว

ถาม : แล้วถ้าหากว่ากำลังใจเลยปฐมฌานละคะ ?
ตอบ : ก็ได้มากขึ้น ที่บอกว่าให้ได้ ก็คือให้ได้อย่างน้อยปฐมฌาน

ถาม : ที่มากขึ้นหมายถึงความละเอียดหรือคะ ?
ตอบ : สิ่งที่เรารับรู้มีมากขึ้น ของที่ได้คืนมาก็จะมากขึ้นไปด้วย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-02-2011 เมื่อ 18:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 172 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #67  
เก่า 10-02-2011, 16:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เรื่องบวงสรวงท้าวมหาราชที่ว่าต้องใช้หมูต้ม ถ้าหาหมูต้มไม่ได้ เอาหมูทอดได้ไหมครับ ?
ตอบ : อย่าแหกคอกมากจนเกินไป..! เรื่องของพรหมเทวดา ท่านขออะไรต้องใช้อย่างนั้นท่านจึงจะช่วยสงเคราะห์ ปกติเขาใช้หัวหมู ถ้าไม่ได้หัวหมู เขาจึงยอมให้ใช้หมูชิ้น แต่หมูชิ้นหนึ่งต้องไม่ต่ำกว่าครึ่งกิโล

ในเมื่อเอ็งเอามาทอดได้ แล้วทำไมทะลึ่งเอามาต้มไม่ได้วะ..!

ถาม : ไม่มีครัว และไปหาซื้อที่เขาต้มไม่ได้ แต่เขามีหมูทอดขาย
ตอบ : เจริญ..!

ถาม : พอจะได้ไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าสำหรับอาตมาได้ เพราะสมัยนี้หมูทอดก็ราคาแพง น้ำมันขึ้นราคา..! แต่สำหรับท้าวมหาราชท่านไม่ได้แน่...

ถาม : แล้วกรณีข้าวปากหม้อล่ะครับ ถ้าหากว่าหาไม่ได้ จะใช้ข้าวที่เขานึ่งขายเป็นถ้วย ๆ ใช้แทนได้ไหมครับ ?
ตอบ : จะทำอะไรทำให้ตรงไปตรงมา เรื่องของธรรมะเขาตรงไปตรงมา ถ้าจะแหกคอกต้องมีความสามารถพอหรือว่าเป็นที่เกรงใจพอ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวจะได้รางวัลโดยที่ไม่รู้ตัว..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-02-2011 เมื่อ 18:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 175 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #68  
เก่า 10-02-2011, 17:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อาตมาเคยเจอมาแล้ว บอกว่าเอาปลาช่อนแป๊ะซะ เขาเอาปลากะพงนึ่งมะนาวมาแทน ส่วนอีกที่หนึ่ง คือบ้านหนองบัว อาตมาสั่งหัวหมู ๓ หัว คุณรู้ไหมว่าจากหนองบัวต้องนั่งเรือไปขึ้นที่สองแคว เรือหางยาววิ่งไปครึ่งค่อนชั่วโมงกว่าจะถึงสองแคว แล้วต้องนั่งสองแถวอีกเป็นชั่วโมง เพื่อไปถึงเมืองมุด่ง แล้วจากมุด่งจะต้องต่อรถไปที่เมืองมะละแหม่ง จึงจะหาซื้อหัวหมูได้

เขาซื้อหัวหมูมา ๑ หัว ทั้ง ๆ ที่อาตมาให้เงินไปเหลือเฟือ อาตมาถามว่า "สั่งหัวหมู ๓ หัว ทำไมเอ็งเสือกทะลึ่งซื้อมาหัวเดียว ?" เขาบอกว่า "หัวเดียวก็พอกินแล้ว เอามาทำไมตั้ง ๓ หัว..!"

ครั้งที่ ๑ ผ่านไป อาตมาก็กัดฟัน เอาวะ..ใช้บวงสรวงชุดเล็กก็ได้ บอกกับเขาว่า ให้ผ่าหัวหมูแล้วต้ม ปรากฏว่าสักพักหนึ่งเดินลงไปดู เขาเผาซะดำปี๋เลย กำลังเอาช้อนขูด ๆ อยู่ อาตมาบอกว่า "ให้เอ็งต้มแล้วทำไมเสือกทะลึ่งเผา ?" เขาบอกว่า "เผาอร่อยกว่า" ตูไม่รู้จะร้องเพลงอะไรดีเลยตอนนั้น..!

เขารู้ดีกว่าทุกเรื่อง สั่งอะไรนี่ไม่ได้สักอย่างเลย แล้วท้ายสุด เขาถึงยอมไปต้มปลาช่อนให้ แต่เขาต้มซะเปื่อยจนแทบจะหลุดเป็นชิ้น ๆ หมดแล้ว จากนั้นยกข้าวปากหม้อขึ้นมา เพราะอาตมาจะเอาข้าวไปอัดใส่กรวยบายศรี ยกหัวหมูขึ้นมา ยกปลาช่อนขึ้นมา ยกไก่ขึ้นมา ก็ดันมีคนสงสัยตะโกนถามขึ้นมาว่า "เอาไปไสนะ ?" เขาบอกว่า "อาจารย์เพิ่นสิฉันมื้อแลง" คือ อาจารย์จะกินข้าวเย็น..! เขาเห็นว่ามีทั้งหมู ทั้งไก่ ทั้งปลา แถมข้าวอีกหม้อหนึ่ง เขาสรุปเสร็จสรรพว่าอาจารย์จะกินข้าวเย็น เจอเข้าไปแบบนี้ ไม่รู้จะตีหน้าอย่างไรเลย

ปรากฏว่างานบวงสรวงนั้นยังดี อุตส่าห์มีเทวดามาทั้งหมด ๑ องค์..! คือ ของบวงสรวงนอกจากจะไม่ครบแล้วยังผิดอีก

ถาม : เทวดามาแค่ ๑ องค์หรือคะ ?
ตอบ : ถ้าท่านไม่ได้เป็นเจ้าที่อยู่แถวนั้น ท่านก็คงไม่มาหรอก เป็นภาระที่ท่านเลี่ยงไม่ได้ ไม่ต้องสงสัยว่า พออาตมาเลิกช่วยแล้วทำไมวัดหนองบัวถึงได้โทรมทันตา ก็สั่งอะไรเขาไม่ทำตามสักอย่าง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย นายกระรอก : 23-03-2021 เมื่อ 00:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 177 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #69  
เก่า 13-02-2011, 08:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในส่วนของเครื่องบวงสรวงเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด ใช้ระยะเวลาเตรียมการนาน แต่เวลาใช้จริงน้อยนิดเดียว อาตมาบอกให้เตรียมเครื่องบวงสรวงก่อนเพื่อน ครูบาน้อยก็ "ครับ ครับ ครับ" อย่างเดียว แต่ไม่ได้ทำ จนกระทั่งใกล้เวลาบวงสรวงแล้ว อาตมายังต้องไปปีนต้นมะพร้าวเพื่อเก็บมะพร้าวอ่อนเอง เพราะถ้าเรายังไม่ปีน เขาก็คง "ครับ ครับ" อยู่นั่นแหละ

บางทีก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า เราบอกเขาไปแล้วทำไมเขาไม่ฟัง เขาคิดว่าเขาคิดได้ดีกว่าหรืออย่างไร ? เคยเจอรายหนึ่ง เครื่องบวงสรวงใช้หัวหมูเจและไก่เจ ที่ทำด้วยแป้งแล้วก็มีงา หน้าตาเหมือนหัวหมูดี ๆ นี่แหละ แต่เป็นแป้งโรยงา ไก่ก็ใช้แป้งอัดเป็นรูปไก่มาทั้งตัว

ถาม : ผลเป็นอย่างไรคะ ?
ตอบ : เทวดาที่ไหนเขาจะมา ? เพราะไม่ตรงกับกติกาที่ท่านกำหนดเอาไว้ การที่ทำอะไรตามใจตนเอง โดยที่ไม่ได้ยึดหลักที่ครูบาอาจารย์หรือบรรพบุรุษเขาทำสืบ ๆ กันมา ถึงเวลาแล้วพรหมเทวดาท่านไม่สงเคราะห์ ก็ไม่รู้จะไปโทษใคร เพราะตัวเองแหกคอกเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย นายกระรอก : 23-03-2021 เมื่อ 00:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 167 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #70  
เก่า 13-02-2011, 08:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ปัจจุบันนี้เครื่องบวงสรวงที่เห็น มีจำนวนมากต่อมากด้วยกันที่เกินมาเยอะ เกินจนอาตมาเองก็ยังงง ๆ ว่ามาจากไหน ? อย่างบนโต๊ะบวงสรวงมีทองหยิบ ฝอยทอง ขนมจีน น้ำพริก นั่นเป็นเครื่องบวงสรวงเฉพาะของเสด็จในกรมหลวงชุมพร

มีถั่วลาชมาศ นั่นเป็นเครื่องบวงสรวงที่ใช้เวลาเราตั้งศาลพระภูมิ เขาเคยได้ยินอะไรก็จับมาใส่หมด โดยเฉพาะขนมต้มขาว ขนมต้มแดง สมัยนี้ก็มั่วกันไปหมด มีอยู่รายหนึ่ง ขนมต้มขาวกับขนมต้มแดงเหมือนกัน ยกเว้นแต่แป้งที่ทำขนมต้มแดง เขาใส่น้ำหวานสีแดงผสมลงไปหน่อยหนึ่ง

บางที่เขาบอกว่าเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อ แต่ปรากฏว่าผลไม้บนโต๊ะกลับไม่ใช่กล้วยน้ำว้า มะพร้าวอ่อน ส้มโอ กลายเป็นผลไม้ ๙ อย่าง อาตมาก็ได้แต่นั่งเกาหัว ตกลงว่าตูจะทำให้ดีไหม ? เอาเป็นว่า ถ้าไปงานไหน เห็นอาตมายื่นไมค์ให้คนอื่น ก็แปลว่าใช่เลยว่า งานนั้นต้องมีอะไรบกพร่องเสียอย่าง แต่ถ้างานไหนยอมทำบวงสรวงให้เขา แปลว่ายังพอที่จะรับได้อยู่

ถาม : ถั่วลาชมาศ คือถั่วเขียวหรือเปล่าคะ ?
ตอบ : เป็นถั่วเขียวแกะเปลือก คำว่า ลาชะ คือข้าวตอก , มาศะ แปลว่าทอง ทีนี้ข้าวตอกทองนั้นไม่มี เลยใช้ถั่วเขียวแกะเปลือกแทน จะออกสีเหลือง ๆ คั่วให้สุก

ถาม : ก็คือต้องเอาถั่วเขียวมาคั่ว ?
ตอบ : ไปตลาดแล้วบอกว่า ขอซื้อถั่วที่ใช้ทำเต้าส่วน เขาจะกระเทาะเปลือกไว้ให้เราให้เรียบร้อยแล้ว เราแค่เอาไปคั่วหน่อยเดียว เพียงแต่ว่าคั่วไฟอ่อน ๆ ให้สุกเท่านั้น ถ้าหากว่าคั่วไฟแรงถั่วจะไหม้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-02-2011 เมื่อ 15:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 165 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #71  
เก่า 13-02-2011, 08:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ของบนโต๊ะบวงสรวง อย่างไข่บนโต๊ะบวงสรวงที่เขาแย่งกันกินว่าดี มีผลไหมคะ ?
ตอบ : อยู่ที่ความเชื่อและขณะเดียวกันก็อยู่ที่ตัวเราอธิษฐานด้วย ถ้าหากกำลังใจของเขามีความเชื่อมั่นสูง ก็มีผลตามนั้นเหมือนกัน

ถาม : คนอื่นเขาก็หยิบของบนโต๊ะบวงสรวงมาให้ เอามาให้เรากิน
ตอบ : บอกเขาไปว่า "ขอโทษ..ไม่อยากเป็นหนี้สงฆ์..!"

ถาม : เป็นหนี้สงฆ์ด้วยหรือคะ ?
ตอบ : ก็ใช่ของเราเสียเมื่อไร ของอยู่กับวัดนะจ๊ะ

ถาม : รอด..เพราะไม่ได้เอา
ตอบ : ถ้าใครเอามา ก็ไปชำระหนี้สงฆ์

ถาม : แม้กระทั่งตัวบายศรี ถ้าเอาก็ถือว่าเป็นหนี้สงฆ์ ?
ตอบ : ก็คนจะเอาเสียอย่าง ครั้งหนึ่งที่วัดท่าขนุน งานเป่ายันต์ที่ทำบายศรีเป็นรูปนาคคู่หรือนาคเกี้ยว เชื่อไหมว่านาคตัวใหญ่อย่างนั้นเขายังดึงไป แล้วก็ยกมาถามอาตมาว่าเอาไปทำอะไร ? ไม่รู้เรื่องแล้วดันทะลึ่งเอาไป เห็นคนอื่นเขาหยิบอย่างอื่นแล้ว เขาก็เอาบ้าง บายศรีเป็นรูปพญานาคตัวเบ้อเริ่มเลย อาตมาจึงบอกว่า "ให้เลี่ยมแขวนคอไว้..!"

ถาม : แต่ถ้าเป็นของบวงสรวงที่มีเจ้าภาพ แล้วทำในวัดละคะ
ตอบ : เจ้าภาพเขามอบให้วัดไปแล้ว

ถาม : ต้องขอก่อน ?
ตอบ : ต้องขอกับทางวัด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 13-02-2011 เมื่อ 13:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 164 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #72  
เก่า 13-02-2011, 08:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หยิบของจากโต๊ะบวงสรวง แล้วต้องไปชำระหนี้สงฆ์ ถือว่าผิดศีลข้อสองเลยใช่ไหมคะ ?
ตอบ : ผิดแน่นอน เพราะไม่ใช่ของเรา หยิบของที่เจ้าของไม่ได้ให้ เจ้าของเขายังไม่ได้อนุญาต

ถาม : ถือว่าเป็นการวิสาสะหยิบของคนอื่นได้หรือเปล่าคะ ?
ตอบ : ถ้าถือวิสาสะแบบพระก็คือ เมื่อเราเอามาแล้วเจ้าของยินดีที่จะให้ ในเมื่อเราไม่รู้ว่าเขาจะยินดีหรือเปล่า ก็เสี่ยงต่อการผิดศีล

ถาม : ถ้าทำกับฆราวาสด้วยกัน ก็นับว่าก้ำกึ่งใช่ไหมคะ ?
ตอบ : ไม่น่าจะก้ำกึ่งนะ น่าจะผิดเต็ม ๆ..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 13-02-2011 เมื่อ 13:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 162 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #73  
เก่า 13-02-2011, 08:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การจัดบวงสรวงที่บ้าน ของบวงสรวงก็ถือว่าเป็นของถวายพระด้วยเหมือนกันหรือคะ ?
ตอบ : เป็นของที่เราถวายเพื่อบูชาพระ แต่ยังเป็นของเราอยู่จ้ะ เราตั้งใจถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา แต่สิ่งทั้งหลายเหล่านั้น เราไม่ได้มอบถวายให้แก่พระสงฆ์ ก็เหมือนกับเราถวายข้าวพระที่บ้าน

ถ้าลามาก็ยังเป็นของเราอยู่ แต่ถ้าหากว่าเป็นของที่วัด กรณีนั้นเสี่ยงมาก พูดง่าย ๆ ว่าไม่คุ้มค่าเลย

ถาม : แล้วน้ำมนต์ที่ตัก ๆ กัน ถือว่า..?
ตอบ : ในส่วนของน้ำมนต์อาตมาตั้งใจให้ ใครตักน้อยจะมีโทษ..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-02-2011 เมื่อ 10:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 166 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #74  
เก่า 13-02-2011, 08:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลาตั้งเครื่องบวงสรวงพระนารายณ์ ได้ยินว่าคนที่มารับก็คือ ท่าน..ใช่องค์ที่มารับใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ใครก็ช่าง ขอให้เป็นพระนารายณ์แล้วกัน รู้ไปก็ไม่ช่วยให้หมดกิเลส แถมยังทำให้กิเลสมากขึ้น เพราะไปทะลึ่งคุยอวดกับคนอื่นว่ากูรู้ เลยเป็นปัญหาที่ไม่น่าตอบ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 13-02-2011 เมื่อ 10:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 161 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #75  
เก่า 13-02-2011, 08:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เมื่อวันอาทิตย์ฝึกมโนมยิทธิ ขึ้นไปยังพระนิพพาน หลวงพ่อท่านก็ให้เชิญท่านพ่อท่านแม่ในอดีตชาติของเรามา ในอารมณ์ตอนนั้นรู้สึกว่า มีท่านบางองค์ที่มาขนาบซ้ายขวา ก็ถามว่าขนาบเราทำไม ? จิตก็ไม่ได้คำตอบ รู้ว่าท่านพูด
แต่ว่าเราไม่ได้ยินค่ะ ขอความเมตตาท่านช่วยขยายความ
ตอบ : ไม่มีอะไรหรอก ท่านอาจจะเห็นว่าเราเดินไม่ค่อยตรงทาง ก็ต้องกระหนาบกันหน่อย

ถาม : เข้าใจแล้วค่ะ เพราะบางทีรู้สึกว่าเราพลาดหรือเราเลวหรือเปล่า จึงต้องโดนผู้ใหญ่ขนาบ ?
ตอบ : ถ้าท่านยังสงเคราะห์เราอยู่ ก็แปลว่าท่านยังรักและเมตตาเราอยู่ แต่ถ้าท่านปล่อยวางเมื่อไร คราวนี้เราต้องดิ้นรนเองแล้วจะสาหัส..!

ให้พยายามไปบ่อย ๆ อันดับแรก..กำลังใจที่ส่งออก จะทำให้เรามีความคล่องตัวในการทรงฌานทรงสมาธิ อันดับที่สอง..กำลังใจที่ท่องเที่ยวไปในภพต่าง ๆ รัก โลภ โกรธ หลงจะกินเราไม่ได้ และอันดับสุดท้าย..ถ้าหากว่าเราเกาะพระนิพพานเป็นที่สุด ถึงเวลาสภาพจิตที่เคยชินก็จะไปตรงนั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 13-02-2011 เมื่อ 10:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #76  
เก่า 13-02-2011, 08:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ในระหว่างวันที่ฝึก จับอยู่หน้าพระอย่างเดียว ดีกว่ามานั่งตัดสังโยชน์ไหมคะ ?
ตอบ : ถ้าหากว่าอยู่ต่อหน้าพระบนนิพพาน เท่ากับตัดสังโยชน์ไปในตัวอยู่แล้ว

ถาม : เป็นทางลัดแล้วใช่ไหมคะ ?
ตอบ : ไม่ใช่ทางลัด ไม่มีทางไหนตรงกว่าอีกนี้แล้วจ้ะ

ถาม : เคยอ่านเจอในคำถามเก่า ๆ ที่ท่านเคยเมตตาบอกไว้ ในการท่องคาถามหาลาภวันละ ๑๐๘ จบ อยากทราบอารมณ์ใจตอนนั้น เราต้องทำอารมณ์อย่างไร ? ทุกวันนี้พอจิตเริ่มฟุ้ง ก็จะแบ่งไปคิดเรื่องงานต่อ แล้วบางส่วนก็มาท่อง
ตอบ : ใช้เป็นคำภาวนาจะดีที่สุด ใช้ควบกับลมหายใจเข้าออกไป สมมติว่าเรามีเวลาภาวนาเฉพาะของเราวันละชั่วโมง เราก็ใช้ภาวนาคาถาเงินล้านแทน

ถาม : แล้วจะควบกับการดูลมอย่างไรเจ้าคะ เพราะคาถาเป็นบทเลย
ตอบ : ก็แบ่งเอาเองสิ จังหวะไหนที่เราหายใจสบายก็ว่าไปเรื่อย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-02-2011 เมื่อ 10:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #77  
เก่า 13-02-2011, 09:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : คนเราทำบุญอะไรมา จึงได้อะไรพิเศษกว่าคนอื่นเขา ?
ตอบ : ด้านไหนล่ะ ? ถ้าอย่างทั่ว ๆ ไป เช่น ทำบุญด้วยของที่ประณีตกว่าคนอื่นเขา ทำด้วยเจตนาที่ตั้งมั่นกว่าคนอื่นเขา แล้วก็ทำด้วยวัตถุที่คนอื่นเขาไม่มีหรือหาไม่ได้

มีเพลงอยู่เพลงหนึ่ง ไปหาเอานะ ไม่บอกว่าชื่ออะไร คนแต่งกับคนร้องเป็นคน ๆ เดียวกันที่เรานึกไม่ถึง เพลงขึ้นต้นว่า "คนเรามีกรรมสมคำพุทธภาษิต เราเกิดมาใช้หนี้ชีวิต ลิขิตไปตามบาปกรรมสร้างมา เกิดมาเป็นคน บ้างมีบ้างจนเป็นธรรมดา เหมือนดั่งสัญญา โลกเรานี่หนาดุจโลกละคร.." เขาแต่งเองร้องเอง เป็นนักธุรกิจระดับพันล้าน

ตรงที่ว่า..ลิขิตไปตามบาปกรรมสร้างมา.. นั่นแหละชัดเจนที่สุด ทำอะไรมาก็ได้อย่างนั้น

ถาม : ถ้าเราถวายของแปลกพิสดารละคะ ?
ตอบ : อาจจะได้อะไรที่พิสดารกว่าผู้อื่น อย่างเช่น คนอื่นเขาเกิดมาปกติธรรมดา เราอาจจะมีเขาด้วย..!

ถาม : เราอาจจะเห็นของนี้น่ารัก แต่คนอื่นเขาเห็นว่าไม่สวย
ตอบ : ลูขัง วา ปะณีตัง วา จะหยาบหรือประณีตก็ตาม ท่านบอกว่า เจตนาบริสุทธิ์ วัตถุทานบริสุทธิ์ ผู้ให้บริสุทธิ์ ผู้รับบริสุทธิ์

โดยเฉพาะก่อนให้ก็เกิดปีติว่า..เรามีโอกาสได้ให้ทาน ระหว่างที่ให้ก็เกิดปีติว่า..เราได้ให้ทาน ให้ไปแล้วก็เกิดปีติว่า..เราได้ให้ทานแล้ว คิดถึงเมื่อไรก็เกิดปีติว่า..เราได้ให้ทานในครั้งนั้นแล้ว ถ้าอย่างนั้นต้องการอะไรก็อธิษฐานเอาเถอะ ได้ไปเต็ม ๆ เลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 13-02-2011 เมื่อ 10:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 158 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #78  
เก่า 13-02-2011, 09:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าให้ของที่เขาชอบ กับให้ของที่เราชอบมาก ๆ
ตอบ : พระเวสสันดรท่านเคยให้สุราแก่พวกนักเลงสุรา ท่านตั้งใจว่า ท่านจะให้สิ่งที่ทุกคนเขาชอบใจ พระอานนท์ทูลถามพระพุทธเจ้าว่า การให้สุรามีอานิสงส์อย่างไร ? พระพุทธเจ้าตรัสว่า เป็นทานที่ไม่มีอานิสงส์ เพราะว่าเหมือนกับส่งเสริมเขาให้ศีลขาด แต่ที่ให้เพราะเห็นว่าเขาชอบใจอย่างนั้น
อยากให้ของที่เขาชอบ

ถาม : ไม่มีโทษหรือคะ ?
ตอบ : เราไม่ได้บังคับให้เขากิน เราให้เฉย ๆ เพราะเขาอยากได้ ส่วนเขาจะยินดีหรือยินร้ายเป็นเรื่องของเขา เราไม่เกี่ยวแล้ว

ถาม : ได้บารมีไหมครับ ?
ตอบ : ได้บารมีแต่อานิสงส์ไม่มี ได้ตรงที่ว่า ททมาโน ปิโย โหติ ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก บารมีจะออกไปทางด้านบริวารมาก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-02-2011 เมื่อ 10:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 155 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #79  
เก่า 13-02-2011, 09:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าทำบุญใหญ่จะตายจริงหรือเปล่าครับ ? มีคนทำบุญสร้างลูกนิมิตมาถวายวัด ทำเสร็จแล้วก็ตายเลย
ตอบ : ถึงวาระเขาพอดี อาตมาสร้างวัดมา ๗ - ๘ วัด โบสถ์อีก ๓ - ๔ หลังยังไม่เห็นตายเสียที..! กรณีนั้นอยู่ที่วาระเขาพอดี จริง ๆ แล้วถือว่าดีนะ เพราะใจเขาเกาะบุญอยู่ โอกาสไปดีมีสูงมาก สร้างลูกนิมิตยังไม่ถือว่าเป็นบุญใหญ่

ถาม : ใหญ่กว่านั้นยังมีอีกใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ต้องสร้างโบสถ์ทั้งหลัง..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-02-2011 เมื่อ 10:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 154 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #80  
เก่า 13-02-2011, 09:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หนูรับงานที่อินเดีย อยากให้การงานราบรื่น
ตอบ : ให้บนกับพระวิสุทธิเทพ ไม่ต้องไปบนถึงวัดท่าซุงหรอก จุดธูป ๕ ดอก บนท่านที่บ้านก็ได้ ถ้างานสะดวกราบรื่นทุกอย่าง เราต้องแก้บนด้วยการเจริญกรรมฐานพร้อมกับรักษาศีลแปด ๗ วัน

ในแต่ละวันเราอาจจะทำกรรมฐานตอนเช้าหนึ่งชั่วโมง ตอนเย็นหนึ่งชั่วโมง แต่ว่าการรักษาศีลแปดต้องให้ได้ทั้งวัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 13-02-2011 เมื่อ 10:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 157 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 17:15



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว