กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤษภาคม ๒๕๖๕

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 07-05-2022, 19:31
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,524
ได้ให้อนุโมทนา: 215,913
ได้รับอนุโมทนา 736,895 ครั้ง ใน 35,896 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๖๕


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 46 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 07-05-2022, 22:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๗ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ บรรดาคณะกรรมการตรวจรับงานก่อสร้างพิพิธภัณฑ์วัดท่าขนุน ที่ฟังการพรีเซนต์จากบริษัทรับเหมาแล้วก็อย่าเพิ่งถอดใจ ถ้ารายละเอียดไม่มากขนาดนั้น เขาคงจะไม่เสียเวลาออกแบบถึง ๒ - ๓ ปี เพียงแต่ว่าการตรวจรับนั้นเป็นการตรวจรับตามงวดงาน จากที่ตกลงกันไว้ก็คือ ๑๙ งวด ถ้าหากว่าตรวจผ่านงวดที่ ๑ ถึง ๑๘ ต้องจ่ายให้เขางวดละ ๘ ล้านบาท งวดที่ ๑๙ งวดสุดท้าย ถึงจ่ายให้เขา ๑๑ ล้านบาท รวมแล้ว ๑๕๕ ล้านบาท..!

คราวนี้ในระหว่างนั้นก็คืองานที่คืบหน้าไปครั้งละประมาณ ๕ เปอร์เซ็นต์ ก็แปลว่ารายละเอียดจะไม่ได้มากมายมหาศาล เหมือนกับที่เขาใช้เวลาทั้งวันบอกให้พวกเรารู้ แล้วยังมีงานอีกหลายส่วนที่กระผม/อาตมภาพต้องทำเอง อย่างพระวิสุทธิเทพแก้วทั้งองค์ รูปหล่อหลวงปู่สาย หรือว่ารูปหล่อนักรบโบราณพร้อมเครื่องรางของขลัง ตรงส่วนนี้ยังเป็นรายจ่ายที่เกินไปจาก ๑๕๕ ล้านบาทอีกมาก

การตรวจงานของเราครั้งละ ๕ เปอร์เซ็นต์ ถ้าตรงไหนไม่เข้าใจก็สอบถาม ผู้รับเหมากับคอนซัลท์ฯ เขาจะจัดการให้ ดังนั้น...พวกเราแค่ดูความเรียบร้อยว่าเป็นไปตามงวดงานหรือเปล่า ? แล้วแจ้งให้ผมทราบ ถ้าคณะกรรมการทั้งหมดมีความเห็นร่วมกันว่าจ่ายเงินได้ ผมก็จะได้โอนเงินให้เขาไป

ก็แปลว่าตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป จะมีรายจ่ายประจำเดือนหนึ่งต่ำสุด ๘ ล้านบาท ยังไม่ต้องนับงวดละอีก ๒ ล้านกว่าของทางด้านตลาดชุมชนริมฝั่งแม่น้ำแควน้อย ก็คือตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ๒๕๖๕ นี้ สิ้นเดือนเมื่อไร ก็จะมีรายจ่ายเดือนหนึ่งเกิน ๑๐ ล้านบาท..!

แล้วเดือนนี้ยังต้องมอบทุนการศึกษาให้กับเด็กอีก ๓๐โรงเรียน จะว่าไปแล้วก็เท่ากับ ๓๑ โรงเรียน เพราะว่ามีทุนการศึกษาระดับอุดมศึกษาต่างหาก หรือถ้าหากว่านับทุนการศึกษาพระภิกษุสามเณรด้วยก็คือ ๓๒ โรงเรียนดี ๆ นี่เอง

คราวนี้ท่านทั้งหลายก็จะได้เห็นว่าอานุภาพพระคาถาเงินล้านที่แท้จริงเป็นอย่างไร เพราะว่าตอนนี้ผมมีเงินติดตัวอยู่ตั้งหลายพันบาท..! คาดว่าพอจ่ายให้เขาแน่นอน..ทุกท่านไม่ต้องกังวล..!!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-05-2022 เมื่อ 02:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 07-05-2022, 22:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อีกส่วนหนึ่งก็คือ แรลลี่ทัวร์ของเว็บเพจกิฟท์จังพลังเวทย์ที่มาในวันนี้ ยังไม่ใช่ส่วนที่ได้นัดกระผม/อาตมภาพเอาไว้ ที่เขามาก็คือเป็นแค่จุดเที่ยวที่เขาต้องเช็คอิน หรือว่าทำกิจกรรมตามโปรแกรมที่วางเอาไว้

แล้ววันนี้ที่ทางมัคคุเทศก์มาขอร้องให้ผมเลิกรับสังฆทานช่วงบ่าย แล้วไป ๆ เสียให้พ้น..! ก็เพราะว่าญาติโยมส่วนใหญ่พอเห็นอาตมภาพนั่งอยู่ ก็ไม่ยอมไปทำกิจกรรมตามโปรแกรมของเขา พูดง่าย ๆ ว่าลงทุนซื้อแรลลี่ทัวร์มาแล้ว ส่วนที่ต้องการให้คุ้มค่าที่สุดก็คือส่วนของการมาที่วัดท่าขนุนนี่เอง

วันนี้กระผม/อาตมภาพก็เลยเบี้ยวงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพราะว่าโยมเป็นคนขอร้องเอง แต่ว่าในส่วนของพรุ่งนี้นั้น ตามโปรแกรมที่เขาลงเอาไว้ก็คือ ฟังธรรมจากพระครูวิลาศกาญจนธรรม เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน แล้ววันพรุ่งนี้ กระผม/อาตมภาพก็ยังมีภารกิจที่อื่นด้วย ก็อาจจะฉวยโอกาสบันทึกเป็นเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนไปด้วยเลย ขอดูเวลาและสถานที่ก่อนว่าเหมาะสมหรือเปล่า ?

อีกส่วนหนึ่งที่ท่านทั้งหลายทำอยู่ ซึ่งกระผม/อาตมภาพอนุโมทนาด้วย และอยากจะเตือนให้ระมัดระวังก็คือส่วนของเวรยาม โดยเฉพาะเวรดึก บางทีง่วงมาก ๆ พวกเราอาจจะขอกระพริบตาทีหนึ่ง แล้วก็ได้ของแถมมาหลายชั่วโมง..! เหมือนอย่างที่กระผม/อาตมภาพเคยมาแล้ว

ช่วงนั้นไปถวายการรับใช้พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงที่บ้านสายลม ตั้งแต่ประมาณเที่ยงวันศุกร์ แล้วก็กลับบ้านประมาณ ๓ ทุ่มครึ่งถึง ๔ ทุ่มของคืนวันจันทร์ เหนื่อยมาหลายวัน แล้วก็ยังต้องโหนรถเมล์กลับบ้าน

ตอนนั้นรถเมล์ที่นั่งส่วนมากก็คือสาย ๓๘ กระผม/อาตมภาพต้องลงที่ปากซอยอ่อนนุช หรือถ้าชื่อเป็นทางการก็คือซอยสุขุมวิท ๗๗ เมื่อรถขึ้นสะพานลอยพระโขนง เหลืออีกครึ่งป้ายก็จะถึง ถ่างตามาหลายวัน เหนื่อยเต็มที ขอกระพริบตาทีเดียว ลืมตาขึ้นมาเห็นป้ายกรมอุตุนิยมวิทยาบางนา เป็นการกระพริบตาที่นานมาก ขอยืนยันว่ากระพริบตาทีเดียว นั่นคืออาการที่โบราณเขาเรียกว่า "หลับใน" ไม่รู้เหมือนกันว่าสติขาด ตัดหลับไปตอนไหน..!?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-05-2022 เมื่อ 02:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 07-05-2022, 22:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนั้นก็เลยยิ่งกลับบ้านดึกกว่าปกติ เพราะว่าต้องพยายามหารถเมล์รอบดึกย้อนกลับมาที่ปากซอยอ่อนนุชใหม่ ยังดีที่ตอนนั้นยังมีรถสองแถว สมัยนั้นยังเป็นรถสองแถว ไม่ใช่รถเมล์เล็ก ทุกคันก็พยายามที่จะแข่งขันกันทำมาหากิน แย่งผู้โดยสารกันบ้าง ปาดหน้ากันบ้าง รับประกันว่าถ้าใครเคยขึ้นรถสองแถวกรุงเทพฯ ยุคนั้น จะเข็ดไปตลอดชีวิต เหมือนอย่างที่กระผม/อาตมภาพเจอมา

ในชีวิตตั้งแต่บวชมา ๓๖ ปี ขึ้นรถเมล์ครั้งเดียวแล้วไม่ขึ้นอีกเลย ไปไหนเมื่อไร ถ้าไม่ใช่รถส่วนตัวก็ต้องแท็กซี่ ไม่ใช่หัวสูง ตอนนั้นกระผม/อาตมภาพลากลับบ้านครั้งแรกหลังจากที่บวชมา ๘ เดือน ก็คือบวชตั้งแต่วันที่ ๑๕ พฤษภาคม จนกระทั่งหลังรับกฐินแล้ว งานทุกอย่างเริ่มน้อยลง ก็ขออนุญาตกลับบ้าน ติดรถตู้ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อมาด้วย มาลงที่หน้าปากทางเข้าบ้านนายทหารอากาศดอนเมือง บริเวณนั้นไม่มีรถเมล์ใหญ่เลย มีแต่สองแถว

ตอนที่ก้าวขึ้นรถไป ยังไม่ทันจะเต็มตีน รถสองแถวก็กระชากออก กระผม/อาตมภาพหัวทิ่มใส่ผู้หญิงคนหนึ่งเต็ม ๆ..!!! หลังจากขอโทษขอโพยกันแล้ว ก็มีโยมเมตตาลุกให้พระนั่ง ปรากฏว่าพอถึงจุดที่จะลง เพิ่งจะลุกยืนขึ้นได้ครึ่งตัว กำลังจะเอื้อมมือไปจับราว ไอ้คนขับกระทืบเบรกอีก..!! กระผม/อาตมภาพหัวทิ่มเข้าใส่ผู้หญิงอีก..!! แล้วที่เจ้ากรรมที่สุดคือเป็นผู้หญิงคนเดิม..!! เหมือนกับเจตนาเลย ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ชีวิตนี้ไม่ขึ้นอีกเลย ไม่ว่าจะรถเมล์ประเภทไหน ไปไหนก็ใช้แท็กซี่ เพิ่งจะมาเปลี่ยนเป็นรถไฟฟ้าไม่กี่ครั้ง นอกนั้นก็รถส่วนตัวตลอด

ตรงจุดนี้ ถ้าหากว่าเวรดึกของเรา
กระผม/อาตมภาพว่าพวกท่านลืมไปแล้วว่าผมพูดเรื่องอะไร ถ้าหากว่าเวรดึกของเราง่วงมาก แล้วกระพริบตาทีเดียวก็อาจจะยันสว่าง ดังนั้น...ถ้าเป็นไปได้ก็คือ เราพยายามพักผ่อนให้มากไว้ พอถึงรอบเวรดึกก็ใช้วิธีเดินจงกรม ซึ่งจะเป็นการ "ป้องปราม" ที่ดีที่สุด ไม่ใช่การ "ปราบปราม" คนที่คิดจะทำอะไรทุจริต ถ้ายังมีคนอยู่ มีแสงสว่างอยู่ หรือมีเสียงดัง เขาจะไม่กล้า

สมัยที่อยู่วัดท่าซุง ถ้าหากดับไฟก่อนที่จะมองหน้าคนรู้เรื่อง หลวงพ่อท่านจะด่าทุกครั้ง ท่านบอกว่าอย่าประหยัด ให้เปิดไฟจนกว่าแสงเงินแสงทองขึ้นจนมองเห็นหน้าคนได้ชัดว่าใครเป็นใครแล้วค่อยปิด ท่านบอกว่าคนทุจริตกลัวอยู่ ๒ อย่าง คือกลัวแสงสว่างกับกลัวเสียงดัง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-05-2022 เมื่อ 02:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 07-05-2022, 22:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เพราะฉะนั้น...พวกท่านทั้งหลายจะเห็นว่าวัดท่าขนุนเรามีสัญญาณกันขโมย ถ้าเสียงดังเมื่อไร ตรงนั้นจะกลายเป็นจุดสนใจ แล้วเขาก็จะทุจริตไม่ได้ เมื่อเราเดินอยู่ นอกจากไม่ง่วงแล้ว ถ้าหากว่ามีใครที่คิดจะทุจริต อย่างน้อยก็ยังได้เห็นว่ามีพระเดินอยู่ เขาก็จะไม่กล้าลงมือ

เรื่องของการหลับตาแล้วได้ของแถมมามาก สมัยที่กระผม/อาตมภาพเข้าเวรอยู่ชายแดน อันตรายมาก เพราะว่าช่วงนั้นเรายังรบกับเขมรแดงของเฮง สัมริน ซึ่งมีทหารญวนคอยช่วยเหลืออยู่ แล้วทหารญวนจะมีหน่วยกล้าตายที่เรียกว่า แซปเปอร์ บุกเข้ามาเชือดยามทิ้งเป็นปกติ..!!

มีอยู่คืนหนึ่งกระผมเจอเวรดึก ก็คือตี ๒ ปรากฏว่าสะดุ้งตื่นขึ้นมาตอนตี ๓ เพราะว่าเป็นเวลากรรมฐาน นั่งงง ๆ ว่า นี่กูไม่ได้เข้าเวรนี่หว่า..? ก็เลยเรียกเพื่อน รู้ว่าก่อนหน้านี้เป็นเวรของเขา ถามว่า "ทำไมไม่เรียกกูวะ ?" เพื่อนบอกว่า "กูเรียกแล้ว..มึงก็ลุกขึ้นมาแล้วด้วย บอกให้กูไปนอนได้เลย"

เชื่อไหมว่าผมไม่มีความจำส่วนนั้นอยู่ในสมองเลย..? น่าจะประมาณว่าละเมอ หรือที่โบราณเรียกว่า "ไหล" ก็คือหลับไหล ไหลก็คือทำอะไรได้ทั้ง ๆ ที่หลับอยู่ บางคนลุกขึ้นมา หุงข้าว ต้มแกง ตักน้ำใส่ตุ่มเรียบร้อยทั้งบ้านแล้วไปนอนต่อก็มี ตื่นขึ้นมาถามคนอื่นว่าใครเป็นคนทำ..!??

เจ้ากรรมเถอะ...ผู้กองได้ยินเสียงพอดี เพื่อนก็เลยซวยตามผม เพราะว่าผู้กองท่านให้ทั้ง ๒ คนวิ่งแข่งกันขึ้นเนินแล้วก็วิ่งกลับมา ๕๐ รอบ ไอ้เนินนั่นก็คือเนินที่เราต้องอยู่เวร แล้วก็ยังโชคดีที่ว่าไม่มีแซปเปอร์หลุดเข้ามา ไม่อย่างนั้นเพื่อนฝูงอาจจะได้ตายกันอีกมาก..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-05-2022 เมื่อ 02:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 07-05-2022, 22:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เพราะฉะนั้น...ในเรื่องของการเหนื่อย ถ้าหากว่าสภาพจิตของเราไม่เข้มแข็งจริง ๆ ขอยืนยันว่าเอาไม่อยู่ เผลอแล้วก็มักจะตัดหลับไปเองเลย

ตรงจุดนี้เวรยามของเราที่เสียสละอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ก็ถือว่าเราได้ประกอบคุณงามความดี ในส่วนของการป้องกันรักษาของสงฆ์ ขณะเดียวกันก็ฉวยโอกาสฝึกฝนตนเองไปด้วย เหมือนที่กระผม/อาตมภาพสมัยที่ยังอยู่วัดท่าซุง ตอนนั้นนอนคืนหนึ่งประมาณ ๒ ชั่วโมงเท่านั้น ๒๒ ชั่วโมงที่เหลือ ทำงานพร้อมกับภาวนา ถ้าหากว่าพ้นจากงาน คราวนี้ก็เหลือแต่ภาวนาอย่างเดียว

ถ้าท่านทั้งหลายได้ยินได้ฟังแล้วอยากจะเลียนแบบปฏิปทานี้
กระผม/อาตมภาพก็ยินดีและโมทนาด้วย แต่ขอยืนยันว่ายาก เพราะว่าถ้าสมาธิไม่ดีพอ ไม่มีทางที่เราจะใช้เวลา ๒ ชั่วโมงพักผ่อนแล้วจะอยู่ได้ทั้งวัน

จึงขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๗ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-05-2022 เมื่อ 02:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 19:57



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว