กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนสิงหาคม ๒๕๖๕

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 02-08-2022, 19:17
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,594
ได้ให้อนุโมทนา: 216,253
ได้รับอนุโมทนา 739,434 ครั้ง ใน 36,046 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๒ สิงหาคม ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๒ สิงหาคม ๒๕๖๕


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 03-08-2022, 00:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,447
ได้ให้อนุโมทนา: 151,085
ได้รับอนุโมทนา 4,399,762 ครั้ง ใน 34,036 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๒ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ มีบางเรื่องที่อยากจะบอกกล่าวให้พวกเรารับรู้ ก็คือว่า เรื่องแรก กระผม/อาตมภาพให้ไอ้ตัวเล็กเปิดกระทู้ร่วมทอดผ้าป่าสร้างวิทยาลัยสงฆ์สุพรรณบุรี ซึ่งวิทยาลัยสงฆ์สุพรรณบุรีศรีสุวรรณภูมินั้น ต้องบอกว่าเกิดขึ้นในจังหวะที่ไม่ดีเอาเลย

เหตุที่เป็นเช่นนั้น อันดับแรกเลยก็คือว่าพระเดชพระคุณหลวงปู่พระธรรมพุทธิมงคล (สอิ้ง สิรินนฺโท ป.ธ.๘) ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๑๔ ช่วงนั้นท่านสร้างหลวงพ่ออู่ทององค์ใหญ่ที่หน้าผามังกรบิน เขาทำเทียม อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี

ด้วยบารมีของเจ้าคณะจังหวัดที่คนเคารพนับถือกันมาก ทุกคนก็ช่วยกันบริจาคเงินร่วมสร้างหลวงพ่ออู่ทององค์ใหญ่ ซึ่งมีสโลแกนว่า "หนึ่งเดียวในไทย ยิ่งใหญ่ในโลก" แม้แต่กระผม/อาตมภาพเองก็ร่วมสร้างกับท่านไป ๒ ครั้ง รวมแล้ว ๑ ล้าน ๒ แสนบาท ในเมื่อทุกคนทุ่มเทให้กับการสร้างหลวงพ่ออู่ทอง แล้วอยู่ ๆ วิทยาลัยสงฆ์สุพรรณบุรี จะสร้างขึ้นมา ใครจะยังเหลือเงินอีก ?

จังหวะต่อไปก็คือว่า เมื่อเปลี่ยนผ่านเจ้าคณะจังหวัดจากพระเดชพระคุณหลวงปู่พระธรรมพุทธิมงคล มาเป็นหลวงพ่อพระเทพปริยัติกวี (เชษฐา ฉินฺนาลโย ป.ธ.๙) วัดสุวรรณภูมิ ซึ่งหลวงพ่อท่านเป็นคนบอกเองว่า "ผมเป็นคนไม่มีกำลัง" ก็คือท่านไม่มีญาติโยมที่สนับสนุนมากมายเหมือนกับหลวงปู่พระธรรมพุทธิมงคล จึงทำให้การสร้างวิทยาลัยสงฆ์สุพรรณบุรี ไม่สามารถที่จะดำเนินการต่อไปได้

เมื่อท่านเกษียณอายุไปแล้ว พระครูวิบูลเจติยานุรักษ์ (ประไพ ปุญฺญกาโม ป.ธ.๓) ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมชั้น เรียนกับกระผม/อาตมภาพมา ตั้งแต่ยุคประกาศนียบัตรบริหารกิจการคณะสงฆ์ ปริญญาตรี ปริญญาโท แล้วพอมาถึงปริญญาเอก ท่านบอกว่าท่านเดินทางไม่ไหว เพราะว่าแต่ละปีค่าเดินทางมาเรียนก็หมดไปมหาศาลแล้ว จึงขอไปเรียนที่ใกล้บ้านตัวเองแทน มาตอนหลังท่านก็มารับหน้าที่ผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์สุพรรณบุรีศรีสุวรรณภูมิ

ท่านเองตั้งใจออกวัตถุมงคลเพื่อสร้างอาคารเรียนรวมให้เสร็จ แต่ก็ดวงแตกอีก พอปลุกเสกเสร็จ เชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ก็ระบาดตูมพอดี จนกระทั่งทุกวันนี้วัตถุมงคลก็ยังเหลืออยู่เยอะแยะบานเบิก..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-08-2022 เมื่อ 01:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 03-08-2022, 00:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,447
ได้ให้อนุโมทนา: 151,085
ได้รับอนุโมทนา 4,399,762 ครั้ง ใน 34,036 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพก็เคยถวายปัจจัยช่วยท่านไป ๑ ล้านบาท เพราะว่าวิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรีศรีไพบูลย์นั้น สร้างเสร็จก็ด้วยแบบที่ท่านเมตตาแบ่งปันมาให้ ก็คือแปลนเดียว แบบเดียวกัน ขนาดเดียวกัน กว้าง ๒๐ เมตร ยาว ๖๓ เมตร มี ๔ ชั้น ปรากฏว่าทางวิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรีที่กระผม/อาตมภาพเป็นประธานโครงการจัดหาเงินสร้าง สร้างทีหลังท่าน ๓-๔ ปี เสร็จก่อนไป ๒ ปีแล้ว ของท่านเองก็ยังไม่เสร็จ

เมื่อถวายเงินท่านไป ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท เพื่อช่วยสร้าง ท่านก็เกิดติดขัดในเรื่องของงบประมาณบริหารภายใน จึงขออนุญาตนำเงินนี้ไปใช้ก่อน ซึ่งใช้ได้แค่ ๒ เทอม ก็หมดไปแล้ว วันนี้ท่านขอความช่วยเหลือมาอีกครั้ง ซึ่งกระผม/อาตมภาพรู้ว่า เพื่อนคนนี้ถ้าไม่ใช่ลำบากสุดขีดจริง ๆ จะไม่เอ่ยปากขอให้ใครช่วย จึงให้ไอ้ตัวเล็กเปิดกระทู้ร่วมทอดผ้าป่าสร้างอาคารเรียนรวม วิทยาลัยสงฆ์สุพรรณบุรีศรีสุวรรณภูมิขึ้นมา

โดยนำเอาพระสมเด็จคำข้าว รุ่น ๒ วัดท่าซุง ซึ่งปิดทองและมีกล่องใส่เรียบร้อย จำนวน ๑๐๐ องค์ ไปลงในกระทู้ก่อน โดยออกในราคาแค่องค์ละ ๑,๐๐๐ บาทเท่านั้น เพราะว่าต้องการปัจจัยเร่งด่วน เนื่องจากว่าเขาจะทอดผ้าป่าในวันที่ ๑๙ นี้ กระผม/อาตมภาพให้ตัดยอดตามวันเวลาปกติของเว็บไซต์วัดท่าขนุน คือวันที่ ๑๕ ถ้าหากว่าช่วงนี้มีวัตถุมงคลอะไรเพิ่มเติมก็จะให้ลงไปทีหลัง

ในเรื่องของวัตถุมงคลของวัดท่าซุงนั้น โดยเฉพาะรุ่นหลัง ๆ อย่างพระสมเด็จคำข้าว พระสมเด็จหางหมาก หรือว่าพระสมเด็จองค์ปฐมลอยองค์ก็ตาม หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านทำเอาไว้ ส่วนหนึ่งก็คือตั้งใจเอาไว้รับภาวะสงคราม ซึ่งก็ยืดเยื้อมาจนป่านนี้ สัญลักษณ์ของสงครามใหญ่ที่จะเกิดอย่างแท้จริง ขอบอกพวกเราให้รู้ไว้เลยก็คือ ทางสหรัฐอเมริการและองค์การนาโต ส่งกองทัพอากาศเข้ารบกับรัสเซีย น่าจะเริ่มจากทางด้านประเทศโปแลนด์

แล้วทางฝั่งบ้านเรา ก็จะมีการปะทะกันระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน ซึ่งสหรัฐอเมริกาพยายามยั่วยุทุกวิถีทาง โดยอ้างว่าประธานรัฐสภาของตนมีสิทธิ์ที่จะไปเยือนไต้หวัน แต่ภาษิตโบราณเขาบอกว่า "อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่" ว่ามึงตั้งใจไปทำอะไร ถึงแม้ว่าประเทศจีนแสดงการคัดค้านอย่างรุนแรงแล้ว แต่ก็จะไป เพราะถ้าหากว่ารบกันเมื่อไร ตัวเองจะขายอาวุธได้อีกมาก..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-08-2022 เมื่อ 02:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 03-08-2022, 00:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,447
ได้ให้อนุโมทนา: 151,085
ได้รับอนุโมทนา 4,399,762 ครั้ง ใน 34,036 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แต่คราวนี้ถ้าเราสังเกตจะเห็นว่ารัสเซียนั้นพูดน้อยต่อยหนัก ส่วนประเทศจีนพูดมาก แต่ก็ต่อยหนักเหมือนกัน เพราะฉะนั้น...ถ้าหากว่าใครมีวัตถุมงคลอะไรที่ตัวเองมั่นใจ ก็หามาติดตัวแล้วภาวนาเอาไว้ทุกวัน หวังอยู่อย่างเดียวว่าอย่าถึงกับสิ้นสติใช้อาวุธนิวเคลียร์กัน แต่ถ้าต้องการชัยชนะอย่างเด็ดขาด อาจจะมีใครตัดสินใจกดปุ่มนิวเคลียร์ก่อน ก็เป็นเรื่องเท่านั้นเอง..!

ดังนั้น...ในเรื่องของพระสมเด็จคำข้าว นอกจากเรื่องของลาภผลแล้ว ยังช่วยในเรื่องของการป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ และขณะเดียวกัน ถ้าภาวนานึกถึงเป็นปกติ ใครคิดร้ายก็จะแพ้ภัยตัวเอง เรื่องพวกนี้ต้องบอกว่าแล้วแต่พระท่านจะสงเคราะห์ให้

แบบเดียวกับที่กระผม/อาตมภาพเอาข้าวปากหม้อมาเสก เพื่อทำผงสร้างตามที่พระท่านสั่ง ปรากฏว่าแม่ชีชื่น (อุบาสิกาชื่น ศรีสองแคว) ก็ดี พี่มุกดา (นางสาวมุกดา เพชรชื่นสกุล) ก็ดี ป้ามอย (นางสาวมณีวรรณ สัมฤทธิ์) ก็ดี ที่ไปช่วยกันตำผง บอกว่าปวดหัวแทบจะระเบิด ต้องบอกว่าสมควรตายเป็นอย่างยิ่ง..! คือถ้าจะทำในลักษณะอย่างนั้น เราต้องกราบขอขมาพระรัตนตรัย และกราบขออนุญาตก่อน หลังจากเสร็จงานแล้วยังต้องขอขมาซ้ำอีกรอบ ไม่ใช่นึกจะตำก็ตำเลย ก็ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่พวกเรา บางทีก็มองข้ามไป ในเมื่อมองข้ามไปก็ต้องรับรางวัลไปนิด ๆ หน่อย ๆ แบบนั้น..!

ส่วนอีกเรื่องหนึ่งก็คือว่า ระยะนี้พวกเรามีงานในด้านของการประชุมพระนวกะของอำเภอต่าง ๆ อีกไม่กี่วันก็จะมาลงที่อำเภอทองผาภูมิของเรา ซึ่งกองงานเลขานุการต้องไปเตรียมการก่อนล่วงหน้าให้เรียบร้อย ถึงเวลาถ้าไม่จำเป็นก็เดินทางไปกลับ ถ้าจำเป็น..อนุญาตให้ใช้สัตตาหกรณียะไปเพื่อทำงานนี้ได้

จะว่าไปแล้ว วัดปากลำปิล็อกก็ไม่ได้อยู่ใกล้ ไกลถึง ๒๐ กว่า ๓๐ กิโลเมตรเหมือนกัน แล้วถ้าหากว่างานต่อเนื่อง ก็อาจจะมีปัญหาเดินทางไป เดินทางกลับ ก็คือจะมีใครรับส่งหรือเปล่า ? นั่นอีกเรื่องหนึ่ง ถ้าหากว่าเป็นการทำงานเพื่อคณะสงฆ์ โดยเฉพาะการอบรมให้ความรู้แก่พระใหม่ ถึงแม้ว่าไม่ได้มีอนุญาตเอาไว้ก็เป็นเรื่องที่สมควรจะไปได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-08-2022 เมื่อ 02:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 03-08-2022, 00:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,447
ได้ให้อนุโมทนา: 151,085
ได้รับอนุโมทนา 4,399,762 ครั้ง ใน 34,036 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ส่วนเรื่องสุดท้ายที่อยากพูดในวันนี้ก็คือ กระผม/อาตมภาพเข้าร่วมอบรมสัมมนาในโครงการสร้างหลักสูตรต่อต้านการทุจริต คราวนี้มีพระท่านถามว่า "ถ้าหากว่าบอกบุญญาติโยมว่าเอาเงินมาสร้างโบสถ์ แต่พอดีต้นไม้ล้มทับศาลาการเปรียญ หลังคาพัง เราสามารถเอาเงินส่วนนี้ไปซ่อมศาลาก่อนได้หรือไม่ ?" ปรากฏว่า ในที่สัมมนาเขาตอบปัญหาไม่ชัดเจน เพราะว่าผู้ตอบมีฆราวาสอยู่ด้วย เขาก็เน้นไปเรื่องความโปร่งใสของบัญชี

ขอให้พวกท่านที่เป็นพระภิกษุสามเณรจำไว้เลยว่า สิ่งหนึ่งประการใดที่เราจะทำ ต้องระลึกถึงความเป็นพระเป็นเณรของเราก่อนเพื่อน ว่า ถ้าทำอย่างนั้นแล้ว ตัวเองจะโดนอาบัติปาราชิกหรือไม่ ? เพราะว่าพระเรามีราคาแค่ ๕ มาสก ซึ่งเขาตีราคาให้แค่ ๑ บาทเท่านั้น เจตนาทุจริตแม้เพียงบาทเดียว ก็ขาดจากความเป็นพระแล้ว..!

แต่คราวนี้ถ้าหากว่าสิ่งนั้นเราจำเป็นต้องทำ และทำไปโดยพลการ ก็อาจจะโดนปรับอาบัติอีก เพราะว่าไปทำศรัทธาไทยให้ตกไป ก็คือคนถวายเงิน ถ้ารู้เข้าก็เสียกำลังใจ เพราะว่าเขาต้องการจะสร้างโบสถ์ ไม่ได้ต้องการที่จะซ่อมศาลา..!


เพราะฉะนั้น...วิธีที่ปลอดภัยที่สุดก็คือ เจรจาทำความตกลงกับทางเจ้าภาพว่า ขออนุญาตนำเงินนี้ไปใช้ในกรณีเร่งด่วนนี้ก่อน หลังจากนั้นจะจัดการสร้างโบสถ์ให้โยมอย่างแน่นอน ถ้าเจ้าภาพตกลง เราถึงจะใช้ได้ ถ้าไม่ตกลงก็ใช้ไม่ได้ ต้องยอมนอนตากแดดตากฝนเพราะหลังคาพังไปก่อน

เรื่องพวกนี้ไม่ใช่เอากฎหมายเข้ามาจับ ไม่ใช่เอาหลักการทำบัญชีเข้ามาอ้าง แต่เราต้องระลึกถึงศีลของพระ คือพระวินัยไว้ก่อนเพื่อนเลย ในเมื่ออยู่ในลักษณะนี้ เราก็ต้องดูว่าถ้าทำแล้วจะขาดจากความเป็นพระหรือไม่ ? ถ้าทำแล้ว ทำให้ศรัทธาของโยมตกไปหรือไม่ ? จึงเอามาบอกเล่าให้พวกเราได้ฟังเอาไว้เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติ

เนื่องเพราะว่าบางทีฆราวาสก็ไปเน้นในความชำนาญของตัวเอง ก็คือถนัดในเรื่องบัญชีก็จะให้แยกแยะออกมาให้ชัดเจนว่า ยืมจากบัญชีนี้เท่าไร ไปใช้เรื่องนั้นเท่าไร ถึงเวลาต้องหามาคืนเท่าไร เรื่องนั้นไว้ทีหลัง เพราะว่าอาบัติพระ ทันทีที่ทำการสำเร็จ เราก็ขาดจากความเป็นพระเลย ซวยไม่รู้จบจริง ๆ เพราะฉะนั้น...ในเรื่องของการทำบัญชีวัด สำคัญที่สุดคือเราต้องมีความละอายชั่วกลัวบาป สำนึกถึงสมณภาวะของตนเอง ถ้าหากว่าขาดตรงนี้แล้วทำบัญชีเมื่อไร ก็เตรียมตัวตายได้เมื่อนั้น..!

โดยเฉพาะปัจจุบันนี้ กระผม/อาตมภาพเห็นมาเยอะมาก บางทีเพื่อนฝูงด้วยกันมอบหมายให้ช่วยทำหน้าที่ คุณรู้จักพระมาก ก็มอบซองปัจจัยเอาไว้เลย ถวายพระระดับนี้เท่านี้ ถวายพระระดับนั้นเท่านี้ แต่ที่
กระผม/อาตมภาพเห็นก็คือ พระท่านมาไม่ครบ พอถวายเสร็จสรรพเรียบร้อย เหลือกี่ซองท่านยัดใส่กระเป๋าตัวเอง แล้วแต่ละซองนั้นบาทเดียวเสียเมื่อไร มีโอกาสตายน้ำตื้นโดยคิดไม่ถึงเลยทีเดียว..!

ดังนั้น...เรื่องพวกนี้ท่านทั้งหลายต้องระวังสุดขีด ต้องรักความเป็นพระเป็นเณรของเราให้มากเข้าไว้ ทำอะไรต้องระลึกถึงเรื่องของธรรมเรื่องของวินัยก่อน ไม่เช่นนั้นแล้วโอกาสที่เราพลาดแล้วเสียชาติเกิดมีสูงมาก เพราะว่าถ้าโดนอาบัติปาราชิกไปก็ปิดมรรคปิดผลเลย ไม่ใช่แค่การบวชเป็นหมันอย่างเดียว ต่อให้สึกเป็นฆราวาสไป โอกาสที่จะเข้าถึงมรรคถึงผลก็ไม่มี

สำหรับวันนี้ ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๒ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-08-2022 เมื่อ 02:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 02:26



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว