กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤษภาคม ๒๕๖๕

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 07-05-2022, 19:31
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,598
ได้ให้อนุโมทนา: 216,275
ได้รับอนุโมทนา 739,967 ครั้ง ใน 36,062 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๖๕


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 46 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 07-05-2022, 22:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,234 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๗ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ บรรดาคณะกรรมการตรวจรับงานก่อสร้างพิพิธภัณฑ์วัดท่าขนุน ที่ฟังการพรีเซนต์จากบริษัทรับเหมาแล้วก็อย่าเพิ่งถอดใจ ถ้ารายละเอียดไม่มากขนาดนั้น เขาคงจะไม่เสียเวลาออกแบบถึง ๒ - ๓ ปี เพียงแต่ว่าการตรวจรับนั้นเป็นการตรวจรับตามงวดงาน จากที่ตกลงกันไว้ก็คือ ๑๙ งวด ถ้าหากว่าตรวจผ่านงวดที่ ๑ ถึง ๑๘ ต้องจ่ายให้เขางวดละ ๘ ล้านบาท งวดที่ ๑๙ งวดสุดท้าย ถึงจ่ายให้เขา ๑๑ ล้านบาท รวมแล้ว ๑๕๕ ล้านบาท..!

คราวนี้ในระหว่างนั้นก็คืองานที่คืบหน้าไปครั้งละประมาณ ๕ เปอร์เซ็นต์ ก็แปลว่ารายละเอียดจะไม่ได้มากมายมหาศาล เหมือนกับที่เขาใช้เวลาทั้งวันบอกให้พวกเรารู้ แล้วยังมีงานอีกหลายส่วนที่กระผม/อาตมภาพต้องทำเอง อย่างพระวิสุทธิเทพแก้วทั้งองค์ รูปหล่อหลวงปู่สาย หรือว่ารูปหล่อนักรบโบราณพร้อมเครื่องรางของขลัง ตรงส่วนนี้ยังเป็นรายจ่ายที่เกินไปจาก ๑๕๕ ล้านบาทอีกมาก

การตรวจงานของเราครั้งละ ๕ เปอร์เซ็นต์ ถ้าตรงไหนไม่เข้าใจก็สอบถาม ผู้รับเหมากับคอนซัลท์ฯ เขาจะจัดการให้ ดังนั้น...พวกเราแค่ดูความเรียบร้อยว่าเป็นไปตามงวดงานหรือเปล่า ? แล้วแจ้งให้ผมทราบ ถ้าคณะกรรมการทั้งหมดมีความเห็นร่วมกันว่าจ่ายเงินได้ ผมก็จะได้โอนเงินให้เขาไป

ก็แปลว่าตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป จะมีรายจ่ายประจำเดือนหนึ่งต่ำสุด ๘ ล้านบาท ยังไม่ต้องนับงวดละอีก ๒ ล้านกว่าของทางด้านตลาดชุมชนริมฝั่งแม่น้ำแควน้อย ก็คือตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ๒๕๖๕ นี้ สิ้นเดือนเมื่อไร ก็จะมีรายจ่ายเดือนหนึ่งเกิน ๑๐ ล้านบาท..!

แล้วเดือนนี้ยังต้องมอบทุนการศึกษาให้กับเด็กอีก ๓๐โรงเรียน จะว่าไปแล้วก็เท่ากับ ๓๑ โรงเรียน เพราะว่ามีทุนการศึกษาระดับอุดมศึกษาต่างหาก หรือถ้าหากว่านับทุนการศึกษาพระภิกษุสามเณรด้วยก็คือ ๓๒ โรงเรียนดี ๆ นี่เอง

คราวนี้ท่านทั้งหลายก็จะได้เห็นว่าอานุภาพพระคาถาเงินล้านที่แท้จริงเป็นอย่างไร เพราะว่าตอนนี้ผมมีเงินติดตัวอยู่ตั้งหลายพันบาท..! คาดว่าพอจ่ายให้เขาแน่นอน..ทุกท่านไม่ต้องกังวล..!!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-05-2022 เมื่อ 02:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 07-05-2022, 22:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,234 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อีกส่วนหนึ่งก็คือ แรลลี่ทัวร์ของเว็บเพจกิฟท์จังพลังเวทย์ที่มาในวันนี้ ยังไม่ใช่ส่วนที่ได้นัดกระผม/อาตมภาพเอาไว้ ที่เขามาก็คือเป็นแค่จุดเที่ยวที่เขาต้องเช็คอิน หรือว่าทำกิจกรรมตามโปรแกรมที่วางเอาไว้

แล้ววันนี้ที่ทางมัคคุเทศก์มาขอร้องให้ผมเลิกรับสังฆทานช่วงบ่าย แล้วไป ๆ เสียให้พ้น..! ก็เพราะว่าญาติโยมส่วนใหญ่พอเห็นอาตมภาพนั่งอยู่ ก็ไม่ยอมไปทำกิจกรรมตามโปรแกรมของเขา พูดง่าย ๆ ว่าลงทุนซื้อแรลลี่ทัวร์มาแล้ว ส่วนที่ต้องการให้คุ้มค่าที่สุดก็คือส่วนของการมาที่วัดท่าขนุนนี่เอง

วันนี้กระผม/อาตมภาพก็เลยเบี้ยวงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพราะว่าโยมเป็นคนขอร้องเอง แต่ว่าในส่วนของพรุ่งนี้นั้น ตามโปรแกรมที่เขาลงเอาไว้ก็คือ ฟังธรรมจากพระครูวิลาศกาญจนธรรม เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน แล้ววันพรุ่งนี้ กระผม/อาตมภาพก็ยังมีภารกิจที่อื่นด้วย ก็อาจจะฉวยโอกาสบันทึกเป็นเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนไปด้วยเลย ขอดูเวลาและสถานที่ก่อนว่าเหมาะสมหรือเปล่า ?

อีกส่วนหนึ่งที่ท่านทั้งหลายทำอยู่ ซึ่งกระผม/อาตมภาพอนุโมทนาด้วย และอยากจะเตือนให้ระมัดระวังก็คือส่วนของเวรยาม โดยเฉพาะเวรดึก บางทีง่วงมาก ๆ พวกเราอาจจะขอกระพริบตาทีหนึ่ง แล้วก็ได้ของแถมมาหลายชั่วโมง..! เหมือนอย่างที่กระผม/อาตมภาพเคยมาแล้ว

ช่วงนั้นไปถวายการรับใช้พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงที่บ้านสายลม ตั้งแต่ประมาณเที่ยงวันศุกร์ แล้วก็กลับบ้านประมาณ ๓ ทุ่มครึ่งถึง ๔ ทุ่มของคืนวันจันทร์ เหนื่อยมาหลายวัน แล้วก็ยังต้องโหนรถเมล์กลับบ้าน

ตอนนั้นรถเมล์ที่นั่งส่วนมากก็คือสาย ๓๘ กระผม/อาตมภาพต้องลงที่ปากซอยอ่อนนุช หรือถ้าชื่อเป็นทางการก็คือซอยสุขุมวิท ๗๗ เมื่อรถขึ้นสะพานลอยพระโขนง เหลืออีกครึ่งป้ายก็จะถึง ถ่างตามาหลายวัน เหนื่อยเต็มที ขอกระพริบตาทีเดียว ลืมตาขึ้นมาเห็นป้ายกรมอุตุนิยมวิทยาบางนา เป็นการกระพริบตาที่นานมาก ขอยืนยันว่ากระพริบตาทีเดียว นั่นคืออาการที่โบราณเขาเรียกว่า "หลับใน" ไม่รู้เหมือนกันว่าสติขาด ตัดหลับไปตอนไหน..!?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-05-2022 เมื่อ 02:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 07-05-2022, 22:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,234 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนั้นก็เลยยิ่งกลับบ้านดึกกว่าปกติ เพราะว่าต้องพยายามหารถเมล์รอบดึกย้อนกลับมาที่ปากซอยอ่อนนุชใหม่ ยังดีที่ตอนนั้นยังมีรถสองแถว สมัยนั้นยังเป็นรถสองแถว ไม่ใช่รถเมล์เล็ก ทุกคันก็พยายามที่จะแข่งขันกันทำมาหากิน แย่งผู้โดยสารกันบ้าง ปาดหน้ากันบ้าง รับประกันว่าถ้าใครเคยขึ้นรถสองแถวกรุงเทพฯ ยุคนั้น จะเข็ดไปตลอดชีวิต เหมือนอย่างที่กระผม/อาตมภาพเจอมา

ในชีวิตตั้งแต่บวชมา ๓๖ ปี ขึ้นรถเมล์ครั้งเดียวแล้วไม่ขึ้นอีกเลย ไปไหนเมื่อไร ถ้าไม่ใช่รถส่วนตัวก็ต้องแท็กซี่ ไม่ใช่หัวสูง ตอนนั้นกระผม/อาตมภาพลากลับบ้านครั้งแรกหลังจากที่บวชมา ๘ เดือน ก็คือบวชตั้งแต่วันที่ ๑๕ พฤษภาคม จนกระทั่งหลังรับกฐินแล้ว งานทุกอย่างเริ่มน้อยลง ก็ขออนุญาตกลับบ้าน ติดรถตู้ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อมาด้วย มาลงที่หน้าปากทางเข้าบ้านนายทหารอากาศดอนเมือง บริเวณนั้นไม่มีรถเมล์ใหญ่เลย มีแต่สองแถว

ตอนที่ก้าวขึ้นรถไป ยังไม่ทันจะเต็มตีน รถสองแถวก็กระชากออก กระผม/อาตมภาพหัวทิ่มใส่ผู้หญิงคนหนึ่งเต็ม ๆ..!!! หลังจากขอโทษขอโพยกันแล้ว ก็มีโยมเมตตาลุกให้พระนั่ง ปรากฏว่าพอถึงจุดที่จะลง เพิ่งจะลุกยืนขึ้นได้ครึ่งตัว กำลังจะเอื้อมมือไปจับราว ไอ้คนขับกระทืบเบรกอีก..!! กระผม/อาตมภาพหัวทิ่มเข้าใส่ผู้หญิงอีก..!! แล้วที่เจ้ากรรมที่สุดคือเป็นผู้หญิงคนเดิม..!! เหมือนกับเจตนาเลย ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ชีวิตนี้ไม่ขึ้นอีกเลย ไม่ว่าจะรถเมล์ประเภทไหน ไปไหนก็ใช้แท็กซี่ เพิ่งจะมาเปลี่ยนเป็นรถไฟฟ้าไม่กี่ครั้ง นอกนั้นก็รถส่วนตัวตลอด

ตรงจุดนี้ ถ้าหากว่าเวรดึกของเรา
กระผม/อาตมภาพว่าพวกท่านลืมไปแล้วว่าผมพูดเรื่องอะไร ถ้าหากว่าเวรดึกของเราง่วงมาก แล้วกระพริบตาทีเดียวก็อาจจะยันสว่าง ดังนั้น...ถ้าเป็นไปได้ก็คือ เราพยายามพักผ่อนให้มากไว้ พอถึงรอบเวรดึกก็ใช้วิธีเดินจงกรม ซึ่งจะเป็นการ "ป้องปราม" ที่ดีที่สุด ไม่ใช่การ "ปราบปราม" คนที่คิดจะทำอะไรทุจริต ถ้ายังมีคนอยู่ มีแสงสว่างอยู่ หรือมีเสียงดัง เขาจะไม่กล้า

สมัยที่อยู่วัดท่าซุง ถ้าหากดับไฟก่อนที่จะมองหน้าคนรู้เรื่อง หลวงพ่อท่านจะด่าทุกครั้ง ท่านบอกว่าอย่าประหยัด ให้เปิดไฟจนกว่าแสงเงินแสงทองขึ้นจนมองเห็นหน้าคนได้ชัดว่าใครเป็นใครแล้วค่อยปิด ท่านบอกว่าคนทุจริตกลัวอยู่ ๒ อย่าง คือกลัวแสงสว่างกับกลัวเสียงดัง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-05-2022 เมื่อ 02:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 07-05-2022, 22:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,234 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เพราะฉะนั้น...พวกท่านทั้งหลายจะเห็นว่าวัดท่าขนุนเรามีสัญญาณกันขโมย ถ้าเสียงดังเมื่อไร ตรงนั้นจะกลายเป็นจุดสนใจ แล้วเขาก็จะทุจริตไม่ได้ เมื่อเราเดินอยู่ นอกจากไม่ง่วงแล้ว ถ้าหากว่ามีใครที่คิดจะทุจริต อย่างน้อยก็ยังได้เห็นว่ามีพระเดินอยู่ เขาก็จะไม่กล้าลงมือ

เรื่องของการหลับตาแล้วได้ของแถมมามาก สมัยที่กระผม/อาตมภาพเข้าเวรอยู่ชายแดน อันตรายมาก เพราะว่าช่วงนั้นเรายังรบกับเขมรแดงของเฮง สัมริน ซึ่งมีทหารญวนคอยช่วยเหลืออยู่ แล้วทหารญวนจะมีหน่วยกล้าตายที่เรียกว่า แซปเปอร์ บุกเข้ามาเชือดยามทิ้งเป็นปกติ..!!

มีอยู่คืนหนึ่งกระผมเจอเวรดึก ก็คือตี ๒ ปรากฏว่าสะดุ้งตื่นขึ้นมาตอนตี ๓ เพราะว่าเป็นเวลากรรมฐาน นั่งงง ๆ ว่า นี่กูไม่ได้เข้าเวรนี่หว่า..? ก็เลยเรียกเพื่อน รู้ว่าก่อนหน้านี้เป็นเวรของเขา ถามว่า "ทำไมไม่เรียกกูวะ ?" เพื่อนบอกว่า "กูเรียกแล้ว..มึงก็ลุกขึ้นมาแล้วด้วย บอกให้กูไปนอนได้เลย"

เชื่อไหมว่าผมไม่มีความจำส่วนนั้นอยู่ในสมองเลย..? น่าจะประมาณว่าละเมอ หรือที่โบราณเรียกว่า "ไหล" ก็คือหลับไหล ไหลก็คือทำอะไรได้ทั้ง ๆ ที่หลับอยู่ บางคนลุกขึ้นมา หุงข้าว ต้มแกง ตักน้ำใส่ตุ่มเรียบร้อยทั้งบ้านแล้วไปนอนต่อก็มี ตื่นขึ้นมาถามคนอื่นว่าใครเป็นคนทำ..!??

เจ้ากรรมเถอะ...ผู้กองได้ยินเสียงพอดี เพื่อนก็เลยซวยตามผม เพราะว่าผู้กองท่านให้ทั้ง ๒ คนวิ่งแข่งกันขึ้นเนินแล้วก็วิ่งกลับมา ๕๐ รอบ ไอ้เนินนั่นก็คือเนินที่เราต้องอยู่เวร แล้วก็ยังโชคดีที่ว่าไม่มีแซปเปอร์หลุดเข้ามา ไม่อย่างนั้นเพื่อนฝูงอาจจะได้ตายกันอีกมาก..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-05-2022 เมื่อ 02:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 07-05-2022, 22:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,234 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เพราะฉะนั้น...ในเรื่องของการเหนื่อย ถ้าหากว่าสภาพจิตของเราไม่เข้มแข็งจริง ๆ ขอยืนยันว่าเอาไม่อยู่ เผลอแล้วก็มักจะตัดหลับไปเองเลย

ตรงจุดนี้เวรยามของเราที่เสียสละอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ก็ถือว่าเราได้ประกอบคุณงามความดี ในส่วนของการป้องกันรักษาของสงฆ์ ขณะเดียวกันก็ฉวยโอกาสฝึกฝนตนเองไปด้วย เหมือนที่กระผม/อาตมภาพสมัยที่ยังอยู่วัดท่าซุง ตอนนั้นนอนคืนหนึ่งประมาณ ๒ ชั่วโมงเท่านั้น ๒๒ ชั่วโมงที่เหลือ ทำงานพร้อมกับภาวนา ถ้าหากว่าพ้นจากงาน คราวนี้ก็เหลือแต่ภาวนาอย่างเดียว

ถ้าท่านทั้งหลายได้ยินได้ฟังแล้วอยากจะเลียนแบบปฏิปทานี้
กระผม/อาตมภาพก็ยินดีและโมทนาด้วย แต่ขอยืนยันว่ายาก เพราะว่าถ้าสมาธิไม่ดีพอ ไม่มีทางที่เราจะใช้เวลา ๒ ชั่วโมงพักผ่อนแล้วจะอยู่ได้ทั้งวัน

จึงขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๗ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-05-2022 เมื่อ 02:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 06:50



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว