กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมีนาคม ๒๕๖๕

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 15-03-2022, 19:58
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,523
ได้ให้อนุโมทนา: 215,909
ได้รับอนุโมทนา 736,865 ครั้ง ใน 35,895 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๖๕


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 16-03-2022, 00:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,963 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๑๕ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ เมื่อช่วงบ่ายพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัต พฺรหมฺคุตฺตมหาเถระ เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร กรรมการมหาเถรสมาคม มรณภาพ

แต่ส่วนที่กระผม/อาตมภาพหายไปเมื่อวานนั้น ไปงานศพเพื่อนก็คือท่านพระครูสุตาภรณ์พิสุทธิ์ (ชลอ เตชพโล ป.ธ.๔) ต้องบอกว่าเป็นเพื่อนที่คบหากันมายาวนานมาก ตั้งแต่ท่านยังเป็นพระครูปลัดชลออยู่ สมัยนั้นต้องบอกว่าเป็น "มือปืนรับจ้าง" ด้วยกัน

คำว่า "มือปืนรับจ้าง" ในที่นี้ก็คือ เวลามีงานอบรมสัมมนาอะไรก็ตาม เจ้านายท่านก็จะมองว่าใครเคยไป แล้วก็มักจะส่งไปแต่คนนั้น คราวนี้ทางจังหวัดสุพรรณบุรีก็มักจะส่งท่านอาจารย์ชลอ ที่พวกเรามักจะเรียกกันว่า "ป๋าลอ" ไป กาญจนบุรีก็มักจะส่งกระผม/อาตมภาพไป

ที่เรียกกันว่า "ป๋าลอ" จนกระทั่งติดปาก ก็เพราะว่าสมัยนั้นพันตำรวจโทชลอ เกิดเทศ ดังมาก จนกระทั่งเป็นพันตำรวจเอก พลตำรวจตรี พลตำรวจโท คนเขาเรียก "ป๋า" กันทั้งบ้านทั้งเมือง พวกเราก็เลยเรียก "ป๋าลอ" ไปด้วย เพราะว่าชื่อตรงกัน

คราวนี้ในงานอบรม ถ้าหากว่าจับคู่กับป๋าลอเมื่อไรก็เป็นอันว่าคนอื่นหนาว เพราะว่าโดน "คู่นรกแตก" ไล่ทุบเละคาเวทีมาเยอะแล้ว..! ต้องบอกว่าป๋าลอเป็นพระที่ปฏิภาณไหวพริบดีมาก ๆ ส่งลูกรับลูกอะไรให้ ท่านรับได้หมด ไม่เคยพลาดเลย ดังนั้น...ไม่ว่าจะมีลูกเล่นอะไรในเวลาอบรมสัมมนาก็ตาม ถ้าจับคู่กับป๋าลอขึ้นไป ก็เป็นอันว่ารายอื่นเตรียมตัวได้..โดนแน่นอน..!

หลังจากนั้น พอมีการเรียนประกาศนียบัตรบริหารกิจการคณะสงฆ์รุ่นแรกที่วัดไร่ขิง ก็ไปเรียนด้วยกัน จนกระทั่งปริญญาตรี ปริญญาโท เรียนด้วยกันมา แต่ป๋าลอจบปริญญาโทพร้อม ๆ กับอาการป่วยหนักปางตาย เหตุเพราะว่าตั้งแต่ตอนเรียนบาลีเมื่อยังเป็นสามเณร ป๋าลอก็สูบบุหรี่

แบบเดียวกับท่านเจ้าคุณอาจารย์มีชัย (พระธรรมวชิรเมธี) เจ้าคณะภาค ๑ ก็คือ คนเรียนบาลีมักจะเครียด แล้วยิ่งถ้ามีพื้นฐานสูบบุหรี่อยู่แล้วก็ยิ่งสูบหนักเข้าไปใหญ่ อย่างท่านเจ้าคุณอาจารย์มีชัย ท่านบอกว่า "ผมสูบบุหรี่วันละ ๒ ซองครึ่ง" ใคร ๆ ก็บอกว่า "มหามีชัย..มะเร็งกินตายแน่นอน"

แต่พอจบประโยค ๙ ภายใน ๘ ปี ท่านเจ้าคุณอาจารย์มีชัยก็เลิกบุหรี่ อาศัยวุฒิปริญญาตรีของเปรียญธรรม ๙ ประโยคมาเรียนปริญญาโท แล้วต่อปริญญาเอก ท่านเป็นอาจารย์แต่จบปริญญาเอกทีหลัง กระผม/อาตมภาพเป็นลูกศิษย์จบก่อน คือเป็นลูกศิษย์ที่ไม่ค่อยจะไว้หน้าอาจารย์
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-03-2022 เมื่อ 01:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 16-03-2022, 00:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,963 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อย่างท่านเจ้าคุณอาจารย์เฉลา (พระเทพวิสุทธิโสภณ ป.ธ.๙, ดร.) วัดราชคฤห์ ท่านเรียนปริญญาเอกอยู่ ๕ ปี ส่วนกระผม/อาตมภาพเรียนอยู่ ๒ ปีกว่า ก็เลยไปจบพร้อมกัน ทั้ง ๆ ที่ตอนเรียนปริญญาเอกท่านเจ้าคุณอาจารย์เฉลาเป็นอาจารย์สอนวิชากรรมฐานให้ ก็คือท่านสอนไปพร้อมกับเรียนปริญญาเอกไปด้วย แล้วก็จบพร้อมกับลูกศิษย์

คราวนี้ที่ป๋าลอสูบบุหรี่หนัก ก็เลยเป็นมะเร็งกล่องเสียง ต้องผ่าตัดกล่องเสียงทิ้ง ซึ่งโดยปกติแล้วก็คือหมดอนาคต แต่ป๋าลอเป็นคนที่มีความเพียรพยายามมาก ไม่มีกล่องเสียง แต่พยายามจนออกเสียงเป็นภาษาพูดได้ ดังนั้น..ถ้าใครเคยสนทนากับป๋าลอ จะรู้สึกว่าเสียงพูดของท่านแปลก ๆ เพราะไม่ใช่เสียงที่เกิดจากเส้นเสียงปกติ คล้าย ๆ กับเป็นเสียงที่เปล่งจากท้อง จากอกมาแทน แต่ก็ฟังรู้เรื่องดี แล้วเป็นพระที่อารมณ์ดีมาก ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็สามารถทำให้เพื่อนฝูง "เฮฮาปาร์ตี้" ได้ตลอด

แต่คราวนี้พอเรียนปริญญาโทแล้วทำวิทยานิพนธ์กันเครียดมาก ป๋าลอก็เลยอาการป่วยกำเริบ พวกเราหลายคน โดยเฉพาะอาจารย์ชิตวัฒน์ วัดทุ่งน้อย ช่วยป๋าลอทำวิทยานิพนธ์กัน โดยที่ป๋าลอจะนอนยาวอยู่บนพื้น แล้วก็บอกว่าเนื้อหาเป็นอย่างไร เพื่อนก็ช่วยกันพิมพ์ให้ มีความอดทนสุด ๆ เอาจบปริญญาโทจนได้ แล้วท่านก็บอกว่า "พี่เล็ก..ไปเรียนเอกเถอะ ผมไม่ไหวแล้ว ถ้าขืนไปเรียนเอก ผมเอาชีวิตไปทิ้งแน่นอน..!"


หลังจากนั้นท่านก็ไปเป็นเจ้าอาวาสวัดท่าจัด จากวัดท่าจัดมาเป็นเจ้าอาวาสวัดโพธิ์อ้น แล้วก็ลาออก เพราะว่าพระครูอนุกูลปัญญากร หรือที่พวกกระผม/อาตมภาพเรียกกันว่า "พี่สุชิน" เจ้าอาวาสวัดไผ่โรงวัว แบกภาระวัดใหญ่ขนาดนั้นไม่ไหว ก็ขอร้องเพื่อนก็คือป๋าลอ "ลาออกมาเป็นผู้ช่วยผมทีเถอะ..!"

คนทั่ว ๆ ไป ถ้าไม่รักเพื่อนจริง ๆ ตัวเองเป็นเจ้าอาวาสอยู่ แล้วให้ลาออกไปเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาส ก็คงไม่มีใครเขาทำกัน แต่ป๋าลอทำ ด้วยความรักเพื่อน เสียสละไปช่วยงาน ดูแลวัดไผ่โรงวัว จนกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิต

จะว่าไปแล้วท่านก็เกิดปีเดียวกัน ปีกุน พ.ศ. ๒๕๐๒ แต่ป๋าลออ่อนเดือนกว่า ท่านเกิดเดือนกันยายน เมื่อวานนี้ตอนไปงานศพก็เจอคุณแม่ช้วน ปิ่นวิเศษ โยมแม่ของป๋าลอ อายุ ๘๔ ปี แล้วยังแข็งแรงมาก
กระผม/อาตมภาพเข้าไปทักทาย พยายามพูดให้คลายกำลังใจว่า "โยมแม่ไม่ต้องเป็นห่วง พี่ชลอท่านไปดีแล้ว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-03-2022 เมื่อ 01:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 16-03-2022, 00:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,963 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เพราะว่าตอนที่เลี้ยวเข้าไปในวัดป่าเลไลยก์ กระผม/อาตมภาพไม่รู้ว่าเขาตั้งศพไว้ที่ศาลาไหน ป๋าลอมายืนกวักมือเรียก บอก "พี่เล็ก..ทางนี้" ก็เลยให้น้องเล็ก (จิราพร ซื่อตรงต่อการ) ขับรถตามที่ป๋าแกกวักมือเรียกไป เข้าจอดหน้าศาลาพอดีเลย วัดใหญ่ ๆ นี่ บางทีการตั้งศพ เราหาไม่เจอว่าอยู่ที่ไหน ถ้าไม่รู้เป้าหมายมาก่อน

แค่นั้นยังไม่พอ วันนี้ตอนเดินทางกลับ หลังจากเอารถเข้าศูนย์ ไม่ต้องสงสัยนะ..ระยะนี้เป็นระยะของการซ่อมรถ หายไปครึ่งวัน ไม่ต้องทำมาหากินอะไร เพราะว่าเอารถไปเข้าศูนย์ วิ่งกลับมาถึงแถว ๆ ทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ ป๋าลอก็โผล่หน้ามาบอกว่า "เขาเผาผมวันนี้" "เออ..เผาก็เผาไปเหอะ ผมไม่ไปหรอก จะกลับวัดแล้ว"

ปรากฏว่ากลับมาถึงวัด ทำงานทำการอะไรเสร็จสรรพเรียบร้อย เพื่อนฝูงก็ส่งข่าวในกลุ่มไลน์ว่าพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัต พฺรหฺมคุตฺตมหาเถระ วัดบวรนิเวศวิหาร มรณภาพด้วยอายุ ๘๕ ปี จะบอกว่าสมควรแก่เวลาก็ใช่ที่ เพราะว่าตั้งแต่ไหนแต่ไรมาที่
กระผม/อาตมภาพรู้จักท่านตั้งแต่ยังเป็นพระราชสุมนต์มุนี ท่านเป็นพระที่แข็งแรงมาก แม้กระทั่งตอนเป็นสมเด็จแล้ว เวลาไปวัดบวรนิเวศวิหารก็เหมือนกัน เจอหน้าท่านก็ยังคงเดินฉับ ๆ อยู่ ก็ไม่น่าเชื่อว่าแข็งแรงขนาดนั้น แล้วอยู่ ๆ เข้าโรงพยาบาลได้ไม่นานก็มรณภาพ

ต้องบอกว่าการที่ประเทศชาติของเราสูญเสียพระผู้ใหญ่ระดับนั้น นอกจากจะผ่อนเรื่องร้าย ๆ ทั้งหลายในประเทศให้เบาลงได้แล้ว ยังเป็นการผ่อนคลายสถานการณ์ร้าย ๆ ของโลกให้เบาลงได้เช่นกัน

เรื่องพวกนี้จะว่าไปแล้วเป็นเรื่องที่พิสูจน์ได้ยาก แต่ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายรู้จักสังเกต จะเห็นว่าเวลาบุคคลสำคัญ ถ้าหากว่ามรณภาพหรือว่าสิ้นชีวิต หรือถึงแก่ทิวงคต หรือสวรรคตลง สถานการณ์หนักหนาสาหัสในบ้านในเมืองของเราช่วงนั้นจะเบาลงทันตา

แล้วท่านทั้งหลายอย่าลืมว่า เราสูญเสียสมเด็จพระราชาคณะมา ๓ รูปติด ๆ กันแล้ว ก็คือพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณหลวงปู่สมเด็จพระญาณวชิโรดม วัดธรรมมงคล หลวงปู่อาจารย์ของ
กระผม/อาตมภาพเอง แล้วก็มาพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ วัดปากน้ำ แล้วนี่ก็มาพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัต วัดบวรนิเวศวิหาร เราจะเห็นว่าสถานการณ์ของประเทศชาติและของโลกนั้น ไม่ได้เบาลงสักเท่าไรเลย เพราะว่าวาระกรรมใหญ่ของคนส่วนมากเกิดขึ้น

ดังที่กระผม/อาตมภาพบอกกล่าวแก่ท่านทั้งหลายไปตั้งแต่ปีก่อนว่า เทเงินดอลล่าร์ทุกเซ็นต์จนหมดเกลี้ยง ตอนนั้นท่านทั้งหลายก็สงสัยว่าเททิ้งทำไม ? ระยะนี้ก็คงเริ่มเห็นแล้ว และคาดว่าอีกไม่นานก็จะเห็นชัดกว่านี้อีก..! ซึ่งบางเรื่องที่พูดหรือกระทำไป เป็นเรื่องที่พิสูจน์ได้ยาก จนกว่าเหตุการณ์ต่าง ๆ นั้นจะเกิดขึ้นเอง

เรื่องพวกนี้เราต้องถือหลักในเกสปุตตสูตร คือการอย่าเชื่อ ๑๐ ประการ ถ้าจะเชื่อก็ให้เชื่อคุณพระศรีรัตนตรัย เชื่อกรรม แต่ว่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น แม้แต่บุคคลผู้เป็นครูของเราบอกกล่าวมาก็ยังไม่ควรที่จะเชื่อ จนกว่าจะได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเรื่องทั้งหลายเหล่านั้นเป็นจริง

วันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา ตลอดจนกระทั่งบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๑๕ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-03-2022 เมื่อ 01:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 44 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 17:42



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว