กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านเติมบุญ

Notices

เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #121  
เก่า 27-10-2019, 21:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ความจริงปีหน้ามีอยู่งานหนึ่งที่ไม่มีใครนึกถึงแต่อาตมาอยากจัด ก็คืองานทำบุญถวายพระครูประโชติรัตนานุรักษ์ (ท่านอาจารย์สว่าง) วัดรัตนานุภาพ (โคกโก) ที่โดนผู้ก่อการร้ายยิงตาย เพราะว่าคบหาสมาคมทำงานพระศาสนามาด้วยกัน ๒๖ ปี แล้วท่านเป็นน้องเล็กที่สุดในคณะ

ตอนนั้นในคณะ ๖ รูปอาตมาแก่ที่สุดเพราะว่าตอนนั้นได้ ๘ พรรษา หลวงพ่อนิลได้ ๖ พรรษา อาจารย์สว่าง ๒ พรรษา อะไรจะใจถึงปานนั้น ไปปฏิญาณตนว่าจะทำหน้าที่เพื่อพระศาสนาแม้ต้องมอบกายถวายชีวิตก็ยอม ตอนนี้หมดไปแล้ว ๔ รูป เหลืออาตมากับหลวงนิลอยู่ ๒ คน คราวนี้ท่านมรณภาพวันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๖๒ พวกเราเองก็จัดสวดคาถาเงินล้านวันที่ ๑๙ มกราคม ๒๕๖๓ กำลังคิดอยู่ว่าจะติดป้ายว่าอุทิศส่วนกุศลให้ท่านด้วย หรือว่าจะจัดงานต่างหากดี ?"


__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-10-2019 เมื่อ 15:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 131 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #122  
เก่า 27-10-2019, 21:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "มีเพื่อนพระด้วยกันท่านบอกว่า ถ้าเจอพระวัดหนึ่งต้อนรับขับสู้ดี โอภาปราศรัยดี ชักชวนในการทำบุญงานต่าง ๆ อยู่เสมอ กับไปอีกวัดหนึ่งพระท่านไม่ค่อยจะพูดจาด้วย แล้วก็มักจะเน้นแต่การปฏิบัติธรรม ไม่เน้นเรื่องการสร้างบุญ เราควรที่จะไปทำบุญที่วัดไหนระหว่าง ๒ วัดนี้ ?

อาตมาบอกว่าไปทั้ง ๒ วัดนั้นแหละ ถึงเวลาไปวัดนี้ชอบทำบุญเราก็ทำด้วย ไปวัดโน้นชอบปฏิบัติธรรมเราก็ปฏิบัติด้วย จะได้ทั้ง ๒ อย่าง มัวแต่ไปเลือกที่รักมักที่ชังอยู่ ก็ไม่ต้องทำอะไรกันพอดี"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-10-2019 เมื่อ 15:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 131 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #123  
เก่า 27-10-2019, 21:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ในงานเมื่อเช้าได้เจอหลวงพ่อพระธรรมพุทธิมงคล บางคนเรียกว่า หลวงพ่อเล็ก วัดป่าเลไลยก์ ที่ท่านสร้างพระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ หรือหลวงพ่ออู่ทองแกะสลักที่หน้าผามังกรบิน ภายใต้สโลแกนที่ว่า “หนึ่งเดียวในไทย ยิ่งใหญ่ในโลก มรดกคู่ฟ้าดิน”

อาตมาถวายเงินร่วมสร้างตอนนั้นหนึ่งล้านบาท ถึงเวลาท่านเจอหน้า ท่านก็บอกว่า ท่านไปหาหลวงพ่อฤๅษีวัดท่าซุงไม่กี่ครั้ง ท่านไม่รู้หรอกว่าหลวงพ่อวัดท่าซุงเก่งแค่ไหน แต่มั่นใจว่าหลวงพ่อวัดท่าซุงต้องเก่งและมีฤทธิ์แน่ ๆ ถามว่าทำไม ? ท่านบอกว่า "ลูกศิษย์อย่างพวกเอ็ง ไปอยู่ที่ไหนก็สร้างวัดเหมือนกับเนรมิต ถ้าหลวงพ่อเอ็งไม่เก่ง ลูกศิษย์ทำอย่างนี้ไม่ได้หรอก"

วันที่เจอหน้าท่านก็บอกว่า “เล็ก..เอ็งให้ที่นี่สิบล้าน ขอข้าล้านเดียวก็พอ” ถามว่าหลวงพ่อจะทำอะไร ? ท่านบอกว่าจะสร้างพระจุฬามณีเป็นยอดมงกุฎหลวงพ่ออู่ทอง ก็คือหลวงพ่ออู่ทองพิงหน้าผาอยู่ หลวงพ่อเล็กท่านตั้งใจสร้างพระจุฬามณีบนยอดผา ถ้ามองด้านตรงจะเห็นหลวงพ่ออู่ทองมียอดมงกุฎเป็นพระเจดีย์จุฬามณี

ถามว่าแล้วหลวงพ่อสร้างราคาเท่าไร ? ท่านบอก “ข้ามันคนเบี้ยน้อยหอยน้อย สร้างแค่สองล้าน” เลยกราบเรียนท่านว่า “หลวงพ่อ..จุฬามณีสร้างสองล้านนี่ ๓ วันก็พังแล้ว” ท่านบอกว่า “ไม่ใช่เว้ย...ช่างเขาฝีมือดี เขาเห็นใจข้า..ที่จ่ายเงินเยอะแล้ว” เลยกราบเรียนท่านว่า “หลวงพ่ออย่าเพิ่งรีบตายแล้วกัน เดี๋ยวหาเงินได้ผมจะเอาไปถวาย”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-10-2019 เมื่อ 15:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 125 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #124  
เก่า 27-10-2019, 21:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ความจริงท่านเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัด ก่อนหน้านี่เป็นเจ้าคณะจังหวัด เป็นรองเจ้าคณะจังหวัด เป็นเจ้าคณะอำเภอ เป็นอะไรต่อมิอะไร แต่ไม่มีใครรู้ว่าท่านเป็นพระปฏิบัติ จนอาตมาแอบไปเปิดโปง ตั้งแต่นั้นมาเจอหน้าเมื่อไรท่านขอเขกกบาลที ถึงเวลาไปเปิดโปงทำให้ท่านเหนื่อย แต่ท่านบอกว่าทำงานเพื่อสงฆ์ท่านยอมเหนื่อย

เมื่อต้นปีงานวันเกิดท่านนี่แหละ ท่านบอกว่า “เฮ้ย...เล็ก ไปงานข้าหน่อยนะ ปีนี้ข้า ๘๔ ปี” บอกท่านว่า "หลวงพ่อ..ผมติดงานรับสังฆทานจริง ๆ ครับ" ท่านถามว่า "สังฆทานจะสักกี่บาทกี่เฟื้องวะ ?" “หลวงพ่อ..เป็นแสนเลยนะครับ” "เออ...ถ้าอย่างนั้นเอ็งก็ไปรับเถอะ" ท่านก็คิดเหมือนอย่างกับไปถวายสังฆทานตามวัดทีละร้อยสองร้อย...ก็ใช่อยู่ แต่พวกเรามีจำนวนมาก รวมกันแล้วก็เป็นแสน ยกเว้นอยู่อย่างเดียวว่าถ้าหลวงพ่อถวายผมเป็นแสนก็จะไปให้..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-10-2019 เมื่อ 15:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 126 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #125  
เก่า 27-10-2019, 21:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “คนแก่ไม่ได้หวังอะไรจากลูกหลานมากหรอก หวังแค่ ๓ อย่าง ยามแก่เฒ่าหวังเจ้าเฝ้ารับใช้ ยามป่วยไข้หวังให้เจ้าเฝ้ารักษา ยามเมื่อถึงคราวตายวายชีวา หวังลูกช่วยปิดตายามสิ้นใจ

ประโยคสุดท้ายนั้นไม่มีอะไรหรอก ไม่ใช่ว่าคนตายเราต้องไปปิดตาให้ แต่หมายความว่าลูกหลานสร้างสมแต่คุณงามความดี อยู่ในศีลในธรรม เป็นพลเมืองดี ทำให้พ่อแม่ไม่มีห่วง ภาษาโบราณใช้คำว่า ตายตาหลับ หวังลูกช่วยปิดตายามสิ้นใจ ไม่ต้องทำอะไรมากหรอก มีความกตัญญูดูแลพ่อแม่ญาติพี่น้องตัวเองให้เต็มที่ก็พอแล้ว”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-10-2019 เมื่อ 15:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 125 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #126  
เก่า 27-10-2019, 21:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “เรื่องของเงินงอกเอง อาตมาเลิกคิดมานานแล้วล่ะ เพราะว่าวันก่อนนั่งนับเงินแล้วไม่พอ แล้วจะทำอย่างไร ? นับใหม่อีกรอบ นับไปนับมางอกมาจากไหนอีกล้านหนึ่งวะ ? เลิกสงสัยแล้ว มาเป็นก้อนเลย มัดใหม่ ๆ วางทิ่มลูกตาอยู่เลย คนอื่นเขาก็จะว่าขี้ลืม บังเอิญอาตมามั่นใจสมองตัวเองว่ายังไม่ลืม”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 28-10-2019 เมื่อ 18:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 127 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #127  
เก่า 27-10-2019, 21:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “หลวงพ่อสมเด็จพระมหาธีราจารย์ วัดชนะสงครามท่านหนึ่ง หลวงพ่อพระธรรมเสนานี ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนครปฐมอีกท่านหนึ่ง มีคนเห็น ๒ ท่านนี้เด็ดขาดมาก เลยถามว่าหลวงพ่อสั่งห้ามพระสักลายได้ไหม ? ท่านบอกว่า "พวกเลขยันต์ช่วยรักษาประเทศชาติมา พระพุทธศาสนาถึงตั้งอยู่ได้ แล้วอยู่ ๆ จะให้ผมไปสั่งห้ามเขาหรืออย่างไร ?"

หลวงพ่อสมเด็จพระมหาธีราจารย์ วัดชนะสงคราม เป็นสมเด็จพระราชาคณะรูปเดียวที่มีรอยสักให้เห็นเลย ท่านเป็นลูกศิษย์หลวงปู่กลั่น วัดพระญาติ ตอนบวชเป็นสามเณรยังทันหลวงปู่อยู่ พวกสักเลขยันต์เป็นเรื่องของลูกผู้ชายสมัยก่อน เอาไว้เป็นเครื่องคุ้มตัว หรือไม่ก็เป็นการประกาศให้เขารู้ว่าเราไม่ใช่คนใจเสาะ ไม่ใช่คนกลัวเจ็บ ช่วยในการรักษาผืนแผ่นดินให้เรามาตั้งกี่ยุคกี่สมัยแล้ว ท่านบอกว่าเรื่องที่สำคัญขนาดนี้ อยู่ ๆ จะให้ไปห้ามท่านทำไม่ได้

ส่วนที่ใจถึงสุด ๆ ก็ต้องหลวงพี่ชลอ...โน่น ท่านสักยันต์ตะกร้อของหลวงปู่สุด วัดกาหลงตั้งแต่ยุคท่าน แล้วลองคิดดูว่ากะโหลกโดนเข็มนี่เจ็บอย่าบอกใครเลยนะ พอวันพระโกนหัวกันใหม่ ๆ ใคร ๆ ก็นึกว่าหลวงพี่ชลอยังไม่ได้โกนหัว เพราะว่ายันต์ตะกร้อจะเต็มหัวพอดีเลย เห็นยิ้ม ๆ ใจดี ๆ นั่นแหละ อดีตตังเกเก่า ผ่านมาร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำแล้ว"

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-10-2019 เมื่อ 15:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 123 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #128  
เก่า 27-10-2019, 21:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : อย่างการตั้งโต๊ะบวงสรวงงานแบบเมื่อเช้า จำเป็นไหมครับที่จะต้องหันหน้าไปทางตะวันออก ?
ตอบ : ไม่จำเป็นที่จะต้องไปหันหน้าตะวันออกหรอก คุณลองดูว่าหน้างานอยู่ลักษณะอย่างนั้น แล้วเราไปตะแคงข้างบวงสรวงได้อย่างไร ? ส่วนใหญ่แล้วพวกเราไปยึดมั่นถือมั่นเลยไม่กล้าปรับ แบบเดียวกับการเปิดเทปหลวงพ่อวัดท่าซุงบวงสรวง ผมเองโดนตั้งแต่ออกไปใหม่ ๆ เปิดเทปปั๊บท่านด่าใส่หูมาเลย “พวกเอ็งใช้ข้าจนตายแล้วยังจะใช้ต่อไปอีกหรือ ?” ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาอาตมาก็เลิกใช้เทป นึกถึงหลวงพ่อท่านแล้วก็ลุยเลย ก็เห็นว่าขลังดี

บางทีพวกคนเก่าวัดท่าซุงไม่เข้าใจ จริง ๆ พวกเก่า ๆ ควรที่จะเข้าใจเลย เพราะว่าฝึกมโนยิทธิมา คือไปนึกถึงท่านว่าท่านเหนื่อยมาทั้งชีวิตแล้ว ท่านตายเราก็ยังกวนไม่เลิกก็เกินไป ดังนั้น..โดนด่าทีเดียวจบเลย...ทำเอง ก็คิดว่าก็น่าจะเป็นอย่างนั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-10-2019 เมื่อ 15:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 125 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #129  
เก่า 27-10-2019, 22:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เพราะว่าตั้งแต่ตอนที่อยู่วัดท่าซุง ที่ทำแผ่นยันต์ทำน้ำมนต์ พอหลวงพ่อท่านให้แบบมา เขียนยันต์เสร็จก็เอาไปถวายหลวงพ่อขอให้ช่วยเสกให้ด้วย ท่านบอกว่า “วิธีอะไรก็รู้หมดแล้ว ไปเสกเองสิวะ” โห..กว่าจะเสร็จ อิติปิ โสฯ ๓ ห้อง ๑๐๘ จบ นะมะพะทะ อีก ๑๐๘ จบ ล่อไป ๒ ชั่วโมงครึ่ง แถมไม่ได้มีความมั่นใจเลยแม้แต่นิดเดียว

เวลาวัดมีพิธีก็แอบไปซุก หลวงพ่อท่านก็ดันเห็นอีก ท่านก็หัวเราะ บอกว่า “ตอนหลวงพ่อปานอยู่ ข้าก็ไม่มั่นใจเหมือนเอ็งนี่แหละ แต่พอสิ้นหลวงพ่อปานไป คนมาหาแต่ข้า ไม่มั่นใจก็ต้องมั่นใจแล้ว”

อย่างไปเจอวัดท่าทุ่งนา เห็นไหมว่าเขาสร้างพระใหญ่ตะแคงข้างให้ถนน คนขับรถผ่านไปมาจะดูพระต้องตะแคงหน้ามอง ก็หันหน้าเข้าถนนเสียก็หมดเรื่อง แต่ไม่ตรงทิศ ที่นี้เป็นเพราะยึดมั่นถือมั่นจนเกินไปจึงเกิดสภาพอย่างนี้

ตอนแรกหลวงพ่อใหญ่หน้าวัดท่าขนุน ท่านบอกว่าไม่ต้องสร้างอาคาร ด้วยความเคยชินของอาตมาคือสร้างพระต้องมีอาคาร จึงไม่ค่อยสบายใจ แต่พอทำเสร็จแล้วถึงรู้ว่าต้องไม่มีอาคาร ถ้ามีอาคารพระจะไม่เด่น ตอนนี้พระสวยทุกบรรยากาศเลย


ถาม : คงกลัวว่าหันผิดทิศแล้วจะเก็บเงินไม่อยู่ ?
ตอบ : ตำราเขาบอกว่าถ้าหันผิดทิศ หาเงินเก่งเท่าไรก็ใช้จนหมด อาตมาก็ไม่ได้กังวล ปกติก็ไม่ได้คิดว่าเป็นเงินของเราอยู่แล้ว ขอให้หาได้เถอะ ถ้าหาไม่ได้จะลำบาก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-10-2019 เมื่อ 16:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 121 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #130  
เก่า 28-10-2019, 23:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : (สอบถามเกี่ยวกับสติปัฏฐาน ๔)
ตอบ : เอาอย่างนี้...มหาสติปัฏฐานสูตรทั้ง ๔ หมวด แบ่งออกเป็นสิบ ๆ หัวข้อ ทำหัวข้อใดหัวข้อหนึ่งก็พอแล้ว ไม่ต้องทั้งหมด กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน เอาแค่อานาปานสติคือลมหายใจเข้าออกก็พอแล้ว อย่างอื่นไม่ต้องทำก็ได้ คือที่เขาเขียนว่า ปัพพะ หรือว่าบรรพ ที่แปลเป็นภาษาไทยว่าตอน ตอนของอานาปานสติคือลมหายใจเข้าออก ตอนของอิริยาบถสัมปชัญญะ ดูอาการเคลื่อนไหวของร่างกาย เหล่านี้เป็นต้น

ทำข้อใดข้อหนึ่งก็พอแล้ว บรรลุธรรมแล้ว ที่เหลือไม่ต้องไปทำหรอก..เสียเวลา ยกเว้นว่าเราจะไปเป็นครูสอนเขา อยากจะเกิดเป็นพระพุทธเจ้าก็ต้องไปทำให้ครบ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-10-2019 เมื่อ 03:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 90 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #131  
เก่า 29-10-2019, 00:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : (สอบถามเกี่ยวกับดวงตาเห็นธรรม)
ตอบ : เอาเป็นว่า...คำว่า ดวงตาเห็นธรรม ก็คือปัญญา ถ้าปัญญาเราพอ ถึงจะเข้าใจว่าที่ท่านพูดนั้นเพื่ออะไร คราวนี้ในพระไตรปิฎกนั้น มหาสติปัฏฐานสูตรอย่างหนึ่ง พระอภิธรรมอย่างหนึ่ง พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนคนทั่วไป ท่านสอนเป็นการเฉพาะ พระอภิธรรม ๗ บทท่านสอนพรหมเทวดา ไม่ได้สอนคน ถ้าเราไม่ฉลาดเท่าพรหมเทวดา เราฟังไปก็ไม่รู้เรื่อง

ส่วนมหาสติปัฏฐานสูตรท่านสอนชาวกุรุ ชาวกุรุฉลาดมาก ขนาดนกแขกเต้าที่เลี้ยงเอาไว้ยังเจริญอสุภกรรมฐานอยู่ประจำ แล้วคนจะขนาดไหน ? เพราะฉะนั้น..ถ้าเราไม่ได้สั่งสมอบรมมามากขนาดนั้น เราก็จะไม่เข้าใจ

ดังนั้น..เราอ่านแล้วเราชอบใจบทไหนคิดว่าเหมาะกับเรา ทำบทนั้นบทเดียว เพราะว่าเราไม่ได้อ่านจนครบ ตอนท้ายของทุกบรรพหรือทุกตอนที่พระพุทธเจ้าท่านสรุปไว้ว่า “นะ จะ กิญจิ โลเก อุปาทิยะติ” เราจะไม่ยึดอะไร ๆ ในโลกนี้แม้แต่น้อยหนึ่ง ถ้าทำได้อย่างนี้บรรลุธรรมหมดทุกคนแล้ว เพราะฉะนั้น..ไม่ต้องเสียเวลาไปทำเยอะ อีกอย่างก็คือท่านไม่ได้สอนคนทั่วไป แล้วเราก็คงฉลาดไม่เท่าคนแคว้นกุรุเขา

พระพุทธเจ้าท่านสอนคนตามกำลังใจ ถึงต้องแสดงธรรมไว้ถึง ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ ถ้าสอนอย่างเดียวเป็นยาครอบจักรวาลใช้ได้หมดทุกคน พระองค์ท่านก็คงไม่ต้องเหนื่อยยากเทศน์ไว้มากขนาดนั้น เพราะฉะนั้น..เราควรจะดูว่าอะไรที่เหมาะกับเราแล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาทำไป ไม่ใช่ว่ายากก็จะตะกายไปทำ

ท่านที่สั่งสมบุญบารมีมาในอดีตชาติ มีปุพเพกตปุญญตาที่สั่งสมไว้มาก ท่านก็จะเห็นว่าง่าย หรือไม่ก็ท่านที่ปฏิบัติจนเข้าถึงธรรมระดับหนึ่งแล้ว ก็เหมือนกับคนเรียนจบปริญญาสาขาหนึ่ง สาขาอื่นก็ใกล้เคียงกันนั่นแหละ ไม่ได้ไกลกว่ากันเท่าไรหรอก โดยเฉพาะถ้าวิชาสามัญก็วิชาเดียวกันเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-10-2019 เมื่อ 03:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 92 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #132  
เก่า 29-10-2019, 00:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เรื่องของกลิ่น เราจะพิจารณาอย่างไร ?
ตอบ : เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไปเหมือนกัน อยากได้กลิ่นเมื่อไรความทุกข์ก็เกิด อยากได้ยินเสียงเมื่อไรความทุกข์ก็เกิด

ถาม : มันจะทำให้เราอยาก ...(ไม่ชัด)... เรารู้อยู่ แต่ไม่หลุดสักอันหนึ่ง ?
ตอบ : คือชอบก็เป็นราคะ ไม่ชอบก็เป็นโทสะ ทำอย่างไรที่เราจะเฉยได้ ก็ต้องวิ่งหาสมาธิเป็นหลัก

ถาม : ไม่ใช้สมาธิกดได้ไหมครับ ?
ตอบ : ได้....ถ้าไม่ใช้สมาธิกดต้องเห็นว่าธรรมดาเป็นอย่างนั้น ในเมื่อธรรมดาเป็นอย่างนั้น เราต้องได้กลิ่น เราต้องได้ยินถือเป็นเรื่องปกติ ก็อย่าไปยินดียินร้าย อย่าไปปรุงแต่งเพิ่มว่าเป็นกลิ่นอะไร เป็นเสียงอะไร
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-10-2019 เมื่อ 03:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 87 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #133  
เก่า 29-10-2019, 00:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เรื่องกสิณ ถ้าหากว่าตัวเนื้อ สี รูปร่างเปลี่ยนแปลงไป คือไม่ใช่เป็นรูปกลม ๆ ?
ตอบ : เป็นอย่างไรก็ได้ให้เราจับภาพนั้นได้ แต่ว่าอย่าไปใส่ใจรูปร่างลักษณะหรือสีสัน ไม่อย่างนั้นจะเป็นกสิณโทษ เรามีหน้าที่นึกถึงอย่างเดียว รูปจะเปลี่ยนแปลงอย่างไรอย่าไปใส่ใจ มีหน้าที่นึกถึงกับภาวนา

ถาม : นึกถึงเป็นภาพกสิณสองภาพได้ไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าหากว่าได้แล้ว ทำจนคล่องตัวแล้ว จะเอาวางไว้กี่ภาพก็ได้ แต่ถ้ายังไม่คล่องตัว เริ่มต้นใหม่ต้องเอาภาพเดียว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-10-2019 เมื่อ 03:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 88 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #134  
เก่า 29-10-2019, 00:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลาที่ภาวนาไว้ตรงกลางของร่างกาย ไม่มั่นใจว่าคือตรงไหน ?
ตอบ : เหนือสะดือขึ้นมาประมาณ ๒ นิ้วมือแนวขวาง เราลองคิดถึงว่ามีอะไรจิ้มทะลุไปข้างหลัง แล้วก็จิ้มทะลุจากซ้ายไปขวา ตรงกลางกากบาทนั่นแหละ

ถาม : แบบนี้จะต่างกับการที่เราเอาภาพพระไว้บนศีรษะแล้วไล่ขึ้นมาอย่างไรครับ ?
ตอบ : ถ้าหากว่าแรกเริ่มของเรา ก็คือเริ่มจับศูนย์กลางกาย ถ้ามีความคล่องตัวแล้ว เราจะเอาไว้ตรงส่วนไหน ให้ไปทางไหนก็ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-10-2019 เมื่อ 03:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 89 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #135  
เก่า 29-10-2019, 00:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การที่เราอยู่ในเพศฆราวาส กับการบวช อย่างไหนจะเห็นทุกข์ง่ายกว่า ?
ตอบ : อยู่ที่เราทำถึงไหม ? ถ้าหากว่าทำถึง คลุกอยู่กับกองกิเลสจะเห็นทุกข์ง่ายกว่า แต่ถ้าทำไม่ถึง คลุกอยู่กับกองกิเลสก็ไหลตามกิเลสง่ายกว่า
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-10-2019 เมื่อ 03:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 87 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #136  
เก่า 29-10-2019, 00:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ทำพระเครื่องหาย ถือเป็นการปรามาสพระรัตนตรัยไหมครับ ?
ตอบ : เป็นเรื่องปกติ เผลอสติก็หายกันได้

ถาม : แล้วท่านจะอยู่กับเราไหมครับ ?
ตอบ : เราระลึกถึงท่านอยู่ก็ยังเป็นอนุสติเหมือนเดิม แต่ว่าพลังงานในการคุ้มครองก็ห่างออกไป มาไม่ถึง

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-10-2019 เมื่อ 03:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 87 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #137  
เก่า 29-10-2019, 00:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : อย่างสมาบัติเป็นครุกรรมฝ่ายกุศล แล้วญาณละครับ ?
ตอบ : ญาณเป็นผลของฌาน ต้องสร้างฌานให้เกิดได้จึงจะมีญาณ เพราะว่าฌานคือกำลังของสมาธิสมาบัติ ญาณคือเครื่องรู้ที่รู้โดยอาศัยกำลังฌานนั้น ๆ คราวนี้ถ้าเราใช้ดีใช้ถูกก็สนับสนุนการปฏิบัติเราให้คล่องตัวขึ้น ถ้าใช้ไม่ดีใช้ไม่ถูกก็โดนหลอกหัวปักหัวปำ แทนที่จะเป็นการสนับสนุนก็กลายเป็นการขัดขวางเราไป

เมื่อเช้าพระครูหน่อย มาปรารภว่า การเกิดเป็นทุกข์ เป็นการบังคับกันชัด ๆ ทำไมไม่ใช้ว่าการเกิดคือทุกข์ ? ลักษณะนี้แหละคือญาณหรือเครื่องรู้เกิด แต่อาตมาขอยืนยันว่าญาณเครื่องรู้เวลาเกิดนั้น คิดอะไรจะสมเหตุสมผลไปหมด คิดอะไรจะใช่ไปหมด แต่ให้สังเกตเอาไว้ว่า หลอกให้เราคิดไปเรื่อย ๆ โดยที่ลืมเรื่องของการตัดกิเลส มัวคิดไปเรื่อย เอ้อ..ต้องคือทุกข์ถึงจะใช่ ถ้าหากว่าเป็นทุกข์เหมือนกับว่าหนักไป นี่บังคับกันชัด ๆ ก็ไปเรื่อย...

จะมีเหตุมีผลในตัวอยู่ แต่จะหลอกให้เราคิดเตลิดเปิดเปิง แล้วก็ลืมเรื่องของการตัดกิเลส ลืมเรื่องของการดิ้นรนเพื่อความพ้นทุกข์ ก็ติดต่อไป เพราะฉะนั้น..ต้องระมัดระวังให้ดี
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-10-2019 เมื่อ 03:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 80 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #138  
เก่า 29-10-2019, 00:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าสติของเรากับสมาธิต่างคนต่างทำงาน เราจะใช้ประโยชน์ให้มากที่สุดได้อย่างไร ?
ตอบ : เอาสติประคองสมาธิไว้ เราก็จะไม่ต้องบังคับสมาธิมาก พอสติสมาธิกลมกลืนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน แค่ขยับตัวเราก็รู้ว่าศีลจะขาดหรือเปล่า ถ้าหากว่ามีปัญญาบวกเข้าไปด้วย แค่คิดเราก็จะรู้ว่าการคิดนี้เป็นประโยชน์หรือเป็นโทษ แล้วก็จะเลือกในส่วนที่เป็นประโยชน์ ละในส่วนที่เป็นโทษ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-10-2019 เมื่อ 03:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 84 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #139  
เก่า 29-10-2019, 00:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผู้ชายใส่กางเกงขาสั้นไปวัดหรือมาเจอพระ จะมีโทษไหมครับ ?
ตอบ : ต่อให้อยู่บ้านก็มีโทษ เพราะผู้ชายก็อยากดูผู้หญิง ผู้หญิงก็อยากดูผู้ชาย เป็นการสร้างกิเลสให้เกิดในใจคนอื่นเขา เรียกว่าความหยาบของจิตมีมาก ก็เลยไม่ได้คิดว่าตัวเองจะเป็นทุกข์เป็นโทษต่อคนอื่นเท่าไร

ถาม : ถึงแม้จะเป็นผู้ชายก็ตาม ?
ตอบ : แล้วคุณคิดว่าผู้หญิงเขาอยากมองไหม ? ที่แย่กว่านั้นก็คือผู้ชายก็อยากมอง แล้วจะเดือดร้อนกว่าที่คิด..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-10-2019 เมื่อ 03:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 88 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #140  
เก่า 29-10-2019, 00:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าเราชอบการพิจารณาบ่อย ๆ แล้วทางด้านเจโตวิมุตติจะเจริญขึ้นมาได้ไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าพิจารณาเป็นจริง ๆ จะเป็นสมาธิเอง ถ้าพิจารณาไม่เป็นก็โดนหลอกเตลิดเปิดเปิงอย่างที่ว่านั่นแหละ เราต้องดูด้วยว่าการพิจารณาของเรานั้นเห็นความเป็นจริงของร่างกายนี้และโลกนี้ไหม ? ไม่ใช่เห็นไปสารพัดเรื่อง เห็นความเป็นจริงแล้วสภาพจิตของเรายอมรับไหมว่าร่างกายนี้เป็นทุกข์ โลกนี้เป็นทุกข์ ร่างกายนี้ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา โลกนี้มีแต่ความทุกข์ยากเร่าร้อน ไม่ใช่สถานที่ที่เหมาะสมที่เราจะเกิดอีก ถ้าไม่สามารถสรุปลงตรงนี้ได้ ก็ยังเตลิดหาฝั่งไม่เจอหรอก

แต่ถ้าสามารถสรุปลงตรงนี้ได้ สภาพจิตของเรายิ่งพิจารณา ความหนักแน่นมั่นคงก็จะมีมากขึ้นเรื่อย ๆ เกิดเป็นสมาธิไปในตัว ไม่อย่างนั้นถ้าไม่มีกำลังของสมาธิมาช่วยจะตัดกิเลสไม่ได้ เพราะฉะนั้น..ในส่วนของปัญญาวิมุตติจริง ๆ ก็ต้องอาศัยกำลังของสมาธิช่วยในตอนสุดท้าย แต่ว่าส่วนใหญ่แล้วสมาธิเกิดแล้วท่านไม่รู้ตัว ในส่วนของเจโตวิมุตตินั้นละไว้ไม่ต้องกล่าวถึง เพราะว่าเป็นการใช้สมาธิโดยตรงอยู่แล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-10-2019 เมื่อ 03:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 85 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 03:40



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว