กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านเติมบุญ

Notices

เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #81  
เก่า 14-05-2019, 22:05
นายกระรอก's Avatar
นายกระรอก นายกระรอก is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2014
ข้อความ: 443
ได้ให้อนุโมทนา: 88,664
ได้รับอนุโมทนา 83,866 ครั้ง ใน 1,594 โพสต์
นายกระรอก is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “สมัยรัชกาลที่ ๙ มีสมเด็จพระพี่นางฯ ทรงกรม ๑ พระองค์เท่านั้น มารัชกาลที่ ๑๐ พอพระราชพิธีบรมราชาภิเษกก็พระราชทานตั้งให้ทรงกรมไป ๓ พระองค์แล้ว จะมีกรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ตำแหน่งสูงสุด มีในสมัยรัชกาลที่ ๕ ก็คือกรมสมเด็จพระสุดารัตนราชประยูร คือถ้าไม่ใช่ญาติใกล้ชิด เขาไม่ตั้งตำแหน่งนี้กันหรอก

กรมสมเด็จพระสุดารัตนราชประยูรนั้น ในหลวงรัชกาลที่ ๕ ทรงนับถือเป็นแม่ เรียก "แม่อ้วน" แล้วเป็นพระองค์เดียวในยุคนั้นที่อายุยืนสุด ๆ มาสิ้นตอนสมัยรัชกาลที่ ๙ อยู่มา ๙๐ กว่าปี คือปกติคนอ้วนขนาดนั้นไม่น่าจะอายุยืน แต่กรมสมเด็จพระสุดารัตนราชประยูรอายุยืนมาก สมัยนั้น ๔๐-๕๐ ปีก็ไปกันหมดแล้ว”


ถาม : มาจากสมัย ร.๔ ใช่ไหมครับ ?
ตอบ : เป็นพระพี่เลี้ยงอภิบาลมาตั้งแต่เด็ก รัชกาลที่ ๕ ทรงนับถือเป็นแม่องค์หนึ่ง ก็เลยตั้งเป็นกรมสมเด็จพระสุดารัตนราชประยูร ผู้หญิงที่ขึ้นถึงระดับนี้ดูท่าจะมีคนเดียวในประวัติศาสตร์ ปรากฏว่ามาสมัยนี้สมเด็จพระกนิษฐาธิราชฯ ท่านขึ้นถึงเหมือนกัน

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-05-2019 เมื่อ 09:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 161 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นายกระรอก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #82  
เก่า 14-05-2019, 22:05
นายกระรอก's Avatar
นายกระรอก นายกระรอก is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2014
ข้อความ: 443
ได้ให้อนุโมทนา: 88,664
ได้รับอนุโมทนา 83,866 ครั้ง ใน 1,594 โพสต์
นายกระรอก is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “พลายเอกชัย ช้างเผือกคู่บารมีรัชกาลที่ ๑๐ งายาว ๒๘ นิ้ว ต้องบอกว่าของพระองค์ท่านบุญดีนะ คือยังไม่ทันจะขึ้นบรมราชาภิเษกเลย มีช้างเผือกมารออยู่ก่อนแล้ว”

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-05-2019 เมื่อ 09:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 170 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นายกระรอก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #83  
เก่า 14-05-2019, 22:07
นายกระรอก's Avatar
นายกระรอก นายกระรอก is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2014
ข้อความ: 443
ได้ให้อนุโมทนา: 88,664
ได้รับอนุโมทนา 83,866 ครั้ง ใน 1,594 โพสต์
นายกระรอก is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าเราพิจารณาว่าร่างกายเราเป็นของสกปรก แบบนี้เป็นสมถะหรือวิปัสสนาครับ ?
ตอบ : ถ้าหากว่ายังเป็นแค่ความจำ ก็จะเป็นแค่สมถภาวนา ประมาณอสุภกรรมฐานหรือกายคตานุสติกรรมฐาน แต่ถ้าสภาพจิตยอมรับว่าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ถึงจะเป็นวิปัสสนากรรมฐาน

ถาม : ถ้าเราเห็นกายว่าสกปรกจริง ๆ ก็เป็นวิปัสสนาใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ไม่ใช่เห็นเฉย ๆ ต้องยอมรับด้วย

ถาม : (ไม่ชัด) ?
ตอบ : ถ้าไม่มีสมถะ กำลังในการยอมรับไม่พอ ถึงได้บอกว่าการปฏิบัติธรรมจริง ๆ แล้วต้องทำทั้งสองอย่างควบกัน

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-05-2019 เมื่อ 09:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 160 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นายกระรอก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #84  
เก่า 14-05-2019, 22:08
นายกระรอก's Avatar
นายกระรอก นายกระรอก is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2014
ข้อความ: 443
ได้ให้อนุโมทนา: 88,664
ได้รับอนุโมทนา 83,866 ครั้ง ใน 1,594 โพสต์
นายกระรอก is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลาที่เราสนทนา เราสามารถภาวนาควบคู่ไปได้ไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าหากว่ามีความคล่องตัวแล้วทำได้ จะ
เป็นไปโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องบังคับตัวเอง ก็คืออารมณ์ใจจะทรงอยู่ในระดับสมาธิที่เป็นอัปปนาสมาธิขั้นใดขั้นหนึ่ง ส่วนร่างกายก็ทำหน้าที่ไปตามปกติ

ถาม : พยายามที่จะทำ แต่ก็ทำไม่ได้ ?
ตอบ : ก็ฝึกซ้อมบ่อย ๆ สิวะ..!

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-05-2019 เมื่อ 09:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 163 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นายกระรอก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #85  
เก่า 14-05-2019, 22:11
นายกระรอก's Avatar
นายกระรอก นายกระรอก is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2014
ข้อความ: 443
ได้ให้อนุโมทนา: 88,664
ได้รับอนุโมทนา 83,866 ครั้ง ใน 1,594 โพสต์
นายกระรอก is on a distinguished road
Default

ถาม : เมื่อเดือนที่แล้วที่ถามพระอาจารย์ว่า คำภาวนาเป็นกรรมฐานกองหนึ่งหรือเปล่า พระอาจารย์บอกว่า ไม่เป็น จนกว่าจะทำตาม แล้วถ้าเรามองเหมือนคำภาวนาเป็นรูปภาพรูปหนึ่งด้วย แบบนี้คำภาวนานั้นจะเป็นกรรมฐานกองใดกองหนึ่งไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าไม่ตรงกับกรรมฐานกองไหนก็ไม่เป็น เพราะว่าการกำหนดภาพนั้นเป็นกสิณ คุณไม่ได้ภาวนากสิณอะไรสักอย่างแล้วจะเป็นไหม ?

ถาม : ถ้าเราภาวนากรรมฐาน ๖ กองรวมกัน อานิสงส์รวมจะเป็นอย่างไรครับ ?
ตอบ : อาจจะลงนรกไปเลย ถ้าหากว่าไม่เคยทำมาจนช่ำชองทุกกองแล้วอยู่ ๆ ไปรวมหลาย ๆ กอง มึงทำได้ก็เก่งมากแล้ว ฟุ้งซ่านมาก ๆ ดีไม่ดีก็จะลงนรกไปเลย..!

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-05-2019 เมื่อ 09:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นายกระรอก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #86  
เก่า 14-05-2019, 22:13
นายกระรอก's Avatar
นายกระรอก นายกระรอก is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2014
ข้อความ: 443
ได้ให้อนุโมทนา: 88,664
ได้รับอนุโมทนา 83,866 ครั้ง ใน 1,594 โพสต์
นายกระรอก is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าเราภาวนาคาถาเงินล้านอย่างเดียวด้วยกำลังใจทรงตัว กับภาวนาด้วยภาพพระบวกกับคำภาวนา อานิสงส์สองแบบเท่ากันไหมครับ ?
ตอบ : ทำอย่างไหนได้มากกว่า สมาธิสูงกว่า อย่างนั้นก็มีอานิสงส์มากกว่า

ภาวนาสมมติว่าเป็นอานาปานสติ ภาพพระเป็นพุทธานุสติ คุณก็ได้สองอย่าง แต่ถ้าหากว่าคุณภาวนาอย่างเดียว ก็ได้แค่อานาปานสติ เป็นต้น


ถาม : (ไม่ชัด) ?
ตอบ : ส่วนใหญ่แล้วจะได้น้อยมากกว่า เพราะว่าถ้าไม่มีความคล่องตัวแล้วไปจับหลาย ๆ กอง อารมณ์ใจจะทรงตัวยาก เพราะว่ามัวแต่ไปพะวงหน้าพะวงหลังอยู่

ถาม : พูดง่าย ๆ ก็คือ วิธีไหนที่เราทำแล้วรู้สึกมั่นใจที่สุด ผลจะเกิดมากที่สุด ?
ตอบ : ไม่ใช่ ทำให้เข้าถึงจริง ๆ ให้มากที่สุด ไม่ใช่มั่นใจที่สุด มั่นใจแต่ทำไม่ถึงแล้วจะมีประโยชน์อะไร ?

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-05-2019 เมื่อ 09:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 158 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นายกระรอก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #87  
เก่า 14-05-2019, 22:17
นายกระรอก's Avatar
นายกระรอก นายกระรอก is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2014
ข้อความ: 443
ได้ให้อนุโมทนา: 88,664
ได้รับอนุโมทนา 83,866 ครั้ง ใน 1,594 โพสต์
นายกระรอก is on a distinguished road
Default

ถาม : สมมติมีคนที่ทำไม่ดีกับเรา ถ้าเราตอบแทนเขาโดยภาวนาว่า สัมปจิตฉามิ จะเป็นกรรมไหมครับ ?
ตอบ : แค่คุณคิด ก็กลายเป็นวิหิงสาวิตก มโนกรรมก็เกิดแล้ว

ถาม : แต่เราก็ไม่ได้คิดทำร้ายนะครับ แค่เอาของที่เขาให้เรากลับคืนไป ?
ตอบ : ไม่ได้คิดแล้วจะไปทำทำเหี้..อะไรครับ..!

ใจคิด ปากพูด กายทำ เป็นเรื่องธรรมชาติอยู่แล้ว ถ้าหากว่าไม่คิดแล้วจะทำได้อย่างไร ? ของบางอย่างตัวเราเอง ต่อให้บอกว่าเราไม่คิดร้ายกับคนอื่นขนาดไหน แค่คิดที่จะตอบแทนเขากลับไป ก็เท่ากับทำให้เขาเกิดสิ่งที่ไม่ดีอยู่แล้ว สรุปง่าย ๆ ก็คือ ทำชั่วโดยที่พยายามบอกว่าเราไม่ได้ชั่วนั่นแหละ

เพราะถ้าหากว่าจะวางใจเป็นอุเบกขาจริง ๆ ก็เฉยไปเลย ไม่ไปยุ่งอะไรกับใคร ไม่ใช่เฉยในลักษณะกำปั้นกูก็เหวี่ยงคืนไปด้วย..!

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-05-2019 เมื่อ 09:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 165 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นายกระรอก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #88  
เก่า 14-05-2019, 22:20
นายกระรอก's Avatar
นายกระรอก นายกระรอก is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2014
ข้อความ: 443
ได้ให้อนุโมทนา: 88,664
ได้รับอนุโมทนา 83,866 ครั้ง ใน 1,594 โพสต์
นายกระรอก is on a distinguished road
Default

ถาม : อานิสงส์ของบุญที่ส่งผล เป็นเหมือนแหล่งกำเนิดเสียงที่ว่า ระยะทางไกลขึ้นจะน้อยลง ๆ ไหมครับ ?
ตอบ : ก็ต้องดูว่าเราเจตนาในส่วนไหน ? ถ้าตั้งเจตนาในลักษณะที่ว่าสวดมนต์เผื่อภพภูมิอื่น ๆ เขา ถ้าอย่างนั้นยิ่งไกล ผลก็ยิ่งน้อย

ถาม : สงสัยว่าบุญบุญหนึ่งไม่สามารถที่จะส่งผลได้ตลอดเวลา เพราะว่าจะน้อยลงตามเวลาที่ผ่านไปใช่ไหมครับ ?
ตอบ : เรื่องของผลบุญมีทั้งที่ส่งผลอย่างฉับพลัน ส่งผลตามระยะเวลา ส่งผลในการสนับสนุน ส่งผลในการตัดรอน ฯลฯ ขึ้นอยู่กับว่าเราทำอะไร ดังนั้น..ของแบบนี้ไม่สามารถที่จะขี้ชัดลงไปได้ว่าสิ่งที่คุณทำ ต่อไปจะมีผลมากหรือมีผลน้อยเมื่อระยะเวลาผ่านนานไป

สำคัญอยู่ที่ว่าทำอะไร ? ถ้าสมมติว่าเราเพาะถั่วงอก พรุ่งนี้ก็ได้กินแล้ว ระยะเวลายาวนานไป ถั่วงอกก็ไม่เป็นถั่วงอก ขึ้นไปเป็นถั่วเขียวไปแล้ว ก็ไม่มีประโยชน์สำหรับเราที่จะใช้ถั่วงอก แต่ถ้าหากว่าคุณปลูกไม้ผล ผ่านไป ๓ ปี ๕ ปี ยิ่งผ่านไปนานเท่าไร ต้นยิ่งใหญ่ ผลก็ยิ่งมากขึ้น ดังนั้น..สำคัญอยู่ที่เราว่าทำอะไร ทำแบบไหน ไม่ใช่ไปเหมารวมว่าทุกอย่างเป็นอย่างนั้น

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-05-2019 เมื่อ 09:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 156 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นายกระรอก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #89  
เก่า 14-05-2019, 22:21
นายกระรอก's Avatar
นายกระรอก นายกระรอก is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2014
ข้อความ: 443
ได้ให้อนุโมทนา: 88,664
ได้รับอนุโมทนา 83,866 ครั้ง ใน 1,594 โพสต์
นายกระรอก is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าเรามีพระพุทธรูปในห้องนอน เราควรที่จะกั้นผ้าในห้องนอนหรือเปล่า เพราะเกรงว่าอาจมีกิจกรรมที่ไม่เหมาะสม ?
ตอบ : ถ้าหากว่าเกรงใจพระก็กั้น เกรงว่าจะเกิดโทษกับตัวเองก็กั้น ถ้าไม่เกรงใจพระ ไม่เกรงว่าจะเกิดโทษก็ไม่ต้อง

ถาม : (ไม่ชัด) ?
ตอบ : ก็ลองดูสิว่าแก้ผ้าต่อหน้าพระเป็นการปรามาสไหมเล่า ? แล้วถ้าปรามาสพระรัตนตรัยจะเกิดโทษไหม ?

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-05-2019 เมื่อ 09:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 160 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นายกระรอก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #90  
เก่า 14-05-2019, 22:23
นายกระรอก's Avatar
นายกระรอก นายกระรอก is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2014
ข้อความ: 443
ได้ให้อนุโมทนา: 88,664
ได้รับอนุโมทนา 83,866 ครั้ง ใน 1,594 โพสต์
นายกระรอก is on a distinguished road
Default

ถาม : ทำเลสิกจริง ๆ แล้วดีไหมครับ ?
ตอบ : ไปถามหมอ ไม่มีอะไรร้อยเปอร์เซ็นต์หรอก คนหนึ่งทำแล้วดี อีกคนหนึ่งสร้างเวรสร้างกรรมไว้เยอะ ทำแล้วอาจจะตาเสียไปเลยก็ได้

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-05-2019 เมื่อ 09:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 160 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นายกระรอก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #91  
เก่า 14-05-2019, 22:25
นายกระรอก's Avatar
นายกระรอก นายกระรอก is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2014
ข้อความ: 443
ได้ให้อนุโมทนา: 88,664
ได้รับอนุโมทนา 83,866 ครั้ง ใน 1,594 โพสต์
นายกระรอก is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้ารู้สึกว่าบุญเรามีไม่พอ แล้วเราภาวนาเงินล้านไปเรื่อย ๆ ผลที่ได้จะเป็นอย่างไรครับ ?
ตอบ : ก็เพิ่มในส่วนของสมาธิขึ้นมา ในส่วนของทานก็ไม่มี ในส่วนของปัญญาก็ไม่มี ก็ได้แค่สมาธิ คราวนี้ผลของคาถาจะเกิดเท่าไรขึ้นมา ถ้าหากว่าคุณไม่ได้ทำทานมาเลยก็ไปไม่รอด และถ้าหากว่าไม่ได้ใช้ปัญญาในการพินิจพิจารณาอะไรเลย ต่อไปเต็มที่ก็ได้แค่นั้นแหละ ไม่เกินนั้นหรอก

ถาม : รบกวนพระอาจารย์ยกตัวอย่างการพิจารณาที่จะเกิดประโยชน์ได้มากที่สุด ?
ตอบ : อย่างเช่นว่า ถึงเวลาภาวนานาน ๆ ไปก็ "เหนื่อยฉิบหายเลยโว้ย ขึ้นชื่อว่าการเหนื่อยแบบนี้กูไม่เอาอีกแล้ว ตายแล้วไปพระนิพพานดีกว่า"

ถาม : อันนี้คือได้ในทางธรรม แล้วถ้าพูดถึงผลทางโลก อย่างเช่น ให้ทรัพยากรทุกอย่างบริบูรณ์ครบถ้วนในเวลาที่เหมาะสม ?
ตอบ : ก็ต้องดูว่าอายุคุณยืนยาวพอที่จะรอถึงตอนนั้นไหม ? ถ้าหากว่าวาระยังไม่ถึง อำนาจสิ่งที่เราทำยังไม่เกิดผล ก็แปลว่าม่องเท่งไปก่อน..!

สิ่งที่เราปรารถนาคือความสมบูรณ์บริบูรณ์ในทุกด้าน ซึ่งไม่ใช่การที่เราจะมาสร้างเสริมได้ภายในชาติเดียว ดังนั้น..ถ้าหากว่านั่งภาวนาคาถาเงินล้านอย่างเดียว โดยหวังว่าทุกสิ่งจะสมบูรณ์บริบูรณ์ให้คุณในชาตินี้ ก็คงจะตายเสียก่อนนั่นแหละ..!

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-05-2019 เมื่อ 09:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 162 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นายกระรอก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #92  
เก่า 14-05-2019, 22:29
นายกระรอก's Avatar
นายกระรอก นายกระรอก is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2014
ข้อความ: 443
ได้ให้อนุโมทนา: 88,664
ได้รับอนุโมทนา 83,866 ครั้ง ใน 1,594 โพสต์
นายกระรอก is on a distinguished road
Default

ถาม : การที่มารเขา ...(ไม่ชัด)... ?
ตอบ : ต้องดูว่าหน้าที่เขาหรือเปล่า ?

ถาม : มีด้วยหรือครับที่มีหน้าที่ ?
ตอบ : มี..เพชฌฆาตมีหน้าที่ประหารนักโทษ ไม่ได้ฆ่าด้วยความโกรธ โทษก็น้อยกว่าคนปกติเยอะ

ถาม : แล้วถ้าทำเพื่อป้องกันตัวเอง ?
ตอบ : ศาลจะพิจารณาเอง

ถาม : ถ้า ...(ไม่ชัด)... แล้วเราต่อยกลับ กลายเป็นว่าเราต่อยก่อน ?
ตอบ : แล้วเขาเรียกว่าป้องกันไหม ?

ถาม : ป้องกันไม่ให้เขามาต่อยเราครับ ?
ตอบ : ในสายตาชาวบ้านแล้ว คุณทำร้ายเขาก่อน

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-05-2019 เมื่อ 09:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 157 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นายกระรอก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #93  
เก่า 14-05-2019, 22:31
นายกระรอก's Avatar
นายกระรอก นายกระรอก is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2014
ข้อความ: 443
ได้ให้อนุโมทนา: 88,664
ได้รับอนุโมทนา 83,866 ครั้ง ใน 1,594 โพสต์
นายกระรอก is on a distinguished road
Default

ถาม : …(ไม่ชัด)... ป้องกันตัว ?
ตอบ : ถ้าสมมติว่าอาตมาตอนนี้คิดว่า ไอ้นี่อยู่ต่อไปนาน ๆ ต้องคิดร้ายกับกูแน่เลย เพราะฉะนั้น..กูฆ่ามันซะตอนนี้ก่อน แล้วคุณจะรับได้ไหม ?

ถาม : หมายถึงเหตุการณ์เกิดขึ้นเฉพาะหน้าแล้วเขาทำเรา ?
ตอบ : ถ้าหากว่าทำเราแล้ว ก็ถือว่าป้องกันตัวโดยทางโลก แต่คราวนี้ดูด้วยว่ากำลังใจของเราตอนนั้นเป็นอย่างไร ? ถ้าหากว่าประกอบไปด้วยโทสะ โทษก็มาก ศาลอาจจะตัดสินว่าคุณป้องกันตัว แต่โทษทางธรรมไม่ใช่อย่างนั้น

ถาม : ทางธรรมโทษเป็นอย่างไรครับ ?
ตอบ : ก็บอกแล้วว่า ต้องดูใจของเราตอนนั้น

ถาม : ถ้าเราใจเย็นละครับ แต่ว่าเขาตาย ?
ตอบ : สัตว์นั้นมีชีวิตอยู่ไหม ? เรารู้ว่าสัตว์นั้นมีชีวิตอยู่ไหม ? เราตั้งใจฆ่าไหม ? เราลงมือฆ่าหรือเปล่า ? เราฆ่าสำเร็จหรือเปล่า ? โทษก็เป็นไปตามส่วน

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-05-2019 เมื่อ 09:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 155 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นายกระรอก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #94  
เก่า 14-05-2019, 22:32
นายกระรอก's Avatar
นายกระรอก นายกระรอก is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2014
ข้อความ: 443
ได้ให้อนุโมทนา: 88,664
ได้รับอนุโมทนา 83,866 ครั้ง ใน 1,594 โพสต์
นายกระรอก is on a distinguished road
Default

ถาม : การที่เจ้านายกดขี่เรา จนเรารู้สึกว่าเราทำกรรมเอาไว้ หรือว่าเราบุญน้อยกว่าเขาถึงโดนกดขี่ ?
ตอบ : ไม่เคยสร้างกรรมเอาไว้ เรื่องทั้งหลายเหล่านี้จะมาไม่ถึงเราหรอก

ถาม : ไม่เกี่ยวว่าเราบุญน้อยกว่าเขาใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ไม่ได้เกี่ยว แล้วทำไมคนอื่นบุญน้อยแล้วเขาสงเคราะห์ ส่วนเราบุญน้อยแล้วโดนกดขี่ ?

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-05-2019 เมื่อ 09:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 163 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นายกระรอก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #95  
เก่า 14-05-2019, 22:35
นายกระรอก's Avatar
นายกระรอก นายกระรอก is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2014
ข้อความ: 443
ได้ให้อนุโมทนา: 88,664
ได้รับอนุโมทนา 83,866 ครั้ง ใน 1,594 โพสต์
นายกระรอก is on a distinguished road
Default

ถาม : ปีนี้ทอดกฐิน ๓ วัดหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : วัดเดียว วัดอื่นปล่อยให้เขายืนด้วยตัวเองบ้าง ถ้ามัวแต่ไปสงเคราะห์อยู่ตลอด ไม่มีเราเขาจะอยู่ไม่ได้

เพราะฉะนั้น..เลี้ยงลูกเลี้ยงหลานพยายามเลี้ยงแบบนี้ คือให้เขายืนด้วยตัวเองให้เร็วที่สุด ไม่มีเราแล้วเขาต้องอยู่ได้ จำไว้เลยนะ ถ้าไม่มีเราแล้วเขาอยู่ไม่ได้ ก็ปล่อยให้ตายไปเลย..!

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-05-2019 เมื่อ 09:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 167 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นายกระรอก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #96  
เก่า 14-05-2019, 22:42
นายกระรอก's Avatar
นายกระรอก นายกระรอก is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2014
ข้อความ: 443
ได้ให้อนุโมทนา: 88,664
ได้รับอนุโมทนา 83,866 ครั้ง ใน 1,594 โพสต์
นายกระรอก is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “ถ้าพวกเราทุกคนคิดอยู่เสมอว่า เราจะตายแล้ว ก็ไม่มีอะไรที่ทนไม่ได้ คือความรู้สึกนี้อยู่ในลักษณะที่ว่า เราจะตายพ้นไปจากตรงนี้แล้ว หรือไม่ก็ถ้าคิดยาวหน่อยก็คือ เราอยู่ได้แค่วันนี้ พรุ่งนี้จะมีหรือไม่ก็ช่าง เพราะฉะนั้น...ถ้าหากว่าเราคิดถึงมรณานุสติคือความตายเป็นปกติ จะปล่อยวางสิ่งต่าง ๆ ลงได้อีกมาก

แต่ถ้าจะให้ดีก็ต้องมองให้เห็นว่า ธรรมดาของทุกอย่างเป็นเช่นนั้น อะไรเกิดขึ้นกับเราก็ธรรมดา...เราทำเราถึงได้รับ ส่วนที่ดีเกิดขึ้น ก็ไม่ยินดีจนเกินไป ส่วนที่ไม่ดีเกิดขึ้น ก็ไม่ยินร้ายจนเกินไป วางกำลังใจให้เป็นกลาง ๆ ถึงเวลาไม่หวั่นไหว ความทุกข์ก็กินเราได้น้อย

ส่วนใหญ่เราทุกข์เพราะความคิดตัวเอง ในเมื่อเราคิดแล้วทุกข์ ทำอย่างไรจะหยุดคิดได้ ? ถ้าหยุดโดยตรงลำบาก ก็หาสิ่งดี ๆ มาคิด อย่างเช่นว่า คิดถึงความตายบ้าง คิดถึงพระบ้าง คิดถึงพระนิพพานบ้าง สลับผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไป ให้แต่ละเวลามีงานให้ใจทำ ก็จะไม่ฟุ้งซ่านไปสร้างความทุกข์ให้กับเราอีก”

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-05-2019 เมื่อ 09:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 175 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นายกระรอก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #97  
เก่า 18-05-2019, 21:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,681 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาแวะไปหาท่านอาจารย์บ๊ะ เจอญาติโยมเก่า ๆ ของวัดท่าซุงที่ไม่ได้เจอกันมา ๒๐-๓๐ ปี ก็ปรากฏว่ามีโยมคนหนึ่งเห็นอาตมาเฉย ๆ ก็ตัดสินใจเข้ามาทัก ถามว่าจำได้ไหม ? อาตมาก็บอกชื่อไป เขาก็ดีใจว่าอุตส่าห์อธิษฐานขอกับพระไว้ว่า ถ้าเป็นอาตมาจริงขอให้ทักเขาด้วยการออกชื่อ อาตมาก็ว่าไอ้นี่หาเรื่อง กลัวว่าพระจะว่างเกินไป เล่นจับพระเป็นตัวประกัน..!

ส่วนอีกรายหนึ่งบอกว่า ก็จำเขาได้แล้วทำไมไม่ทัก ? มายืนอยู่ตรงหน้าแล้วยังอุตส่าห์มาเคี่ยวเข็ญให้ทักเขาสิ ๆ อาตมาก็ได้แต่นึกในใจว่าแล้วกูจะทักไปทำไม ?

เรื่องของพระเรามีศีลอยู่ข้อหนึ่งที่ว่า ห้ามประทุษร้ายตระกูลด้วยการประจบคฤหัสถ์ เพราะฉะนั้น..ญาติโยมหลายคนอาจจะเห็นว่าอาตมาค่อนข้างจะแล้งน้ำใจ ไม่ค่อยจะทักทายพูดคุยกับใคร เพราะกลัวว่าจะเป็นการประจบคฤหัสถ์ แต่ที่น่าเสียดายกว่านั้นก็คือ โยมชุดนี้อยู่มาตั้งแต่สมัยหลวงพ่อวัดท่าซุง จนหลวงพ่อมรณภาพ อยู่มาในยุคของหลวงพ่อเจ้าคุณอนันต์ จนท่านเจ้าคุณมรณภาพ ป่านนี้ก็ยังเหมือนเดิม

คำว่า เหมือนเดิม ก็คือไม่ได้ไปไหนไกลกว่าเดิมเลย โดยเฉพาะมาบ่นให้อาตมาฟัง พออาตมาบอกวิธีแก้ไขให้ก็ไม่ฟัง แต่เถียงแทน ถ้าลักษณะอย่างนี้ทางญี่ปุ่นเขาถือว่า ทำตัวเป็นคนน้ำชาล้นถ้วย เติมอะไรก็ไม่เข้า ก็แปลว่าชาตินี้อย่าหวังว่าจะก้าวหน้าไปกว่านั้น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-05-2019 เมื่อ 05:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 154 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #98  
เก่า 18-05-2019, 21:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,681 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ในลักษณะของความเป็นสงฆ์อยู่ในอุดมเพศ คือฐานะที่สูงกว่า เขาเห็นเขาจำได้ เขาควรจะทักพระ แต่กลับแบกเอากิเลส คือสักกายทิฐิมาเต็มตัวว่า พระต้องทักเขาก่อน

ประการที่ ๒ ก็คือ เวลาติดขัดหลักธรรมที่ไหน บอกไปแทนที่จะฟัง กลับแบกกิเลสประมาณว่าอยู่กับหลวงพ่อมา ๒-๓ รูปแล้ว กูรู้มากแล้ว ไม่ได้คิดจะฟัง ไม่ได้คิดจะทำ สรุปก็คือเขาบ่นให้เหนื่อยเฉย ๆ ไม่ได้ต้องการคำแก้ไขอะไรจากอาตมา เจอลักษณะอย่างนั้นอาตมาก็เลยนั่งอ่านหนังสือ ปล่อยเขาพูดไปฝ่ายเดียว

ต้องบอกว่าน่าเสียดาย เพราะว่าระยะเวลาที่ผ่านไป ๆ นอกจากไม่ได้อะไรแล้ว ยังดูเหมือนจะเพิ่มกิเลสให้มากขึ้น เพราะถือว่าเป็นคนรุ่นเก่า มีความอาวุโสในการเข้าวัดเข้าวามากกว่าคนอื่น ก็คงต้องปล่อยให้เป็นทางใครทางมัน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-05-2019 เมื่อ 05:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 152 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #99  
เก่า 18-05-2019, 21:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,681 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "โบราณเขาทำมีดหมอ เขาจะทำเป็นมีดโต้ เพราะว่าจุดประสงค์แรกของมีดหมอเอาไว้รักษาโรค จนกระทั่งเรียกติดปากกันว่ามีดหมอ ที่ทำเป็นมีดโต้เพราะมีเคล็ดว่าย้อนกลับ ตอบโต้ หรือไม่ก็ส่งคืน ถ้าไปเห็นมีดหมอรูปมีดโต้ที่ไหนก็ให้คว้าเอาไว้ก่อน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-05-2019 เมื่อ 05:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 148 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #100  
เก่า 18-05-2019, 21:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,681 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "เมื่อวานอาตมาไปเพชรบุรี งานวันเกิดพระครูวัชรสุวรรณาทร ด็อกเตอร์ร่วมรุ่น ท่านเป็นเจ้าคณะอำเภอเมืองเพชรบุรี ขากลับรถติดจนท้อใจ เมื่อวานปิดถนนไม่กี่สายยังกระทบจนขนาดนี้ เพราะฉะนั้น ๒-๓ วันนี้อาตมาตั้งใจว่าจะไม่ขยับออกไปไหนเลย

บ้านเราความสิ้นเปลืองมากที่เกิดขึ้นกับเศรษฐกิจ ก็คือภาวะรถติด เพราะว่ารถทุกคันผลาญแก๊สผลาญน้ำมัน สร้างความร้อนให้กับบรรยากาศไม่หยุดยั้ง สาเหตุเกิดจากพื้นที่ใช้สอยบนท้องถนนของเรามีไม่พอกับจำนวนรถ แค่โดนปิดถนนแล้วรถไม่สามารถจะเลื่อนไหลได้แค่เล็กน้อยเท่านั้น ก็มีผลกระทบเป็นวงกว้างขนาดนี้

เคยพูดหลายต่อหลายครั้งว่า เราควรจะสร้างระบบขนส่งสาธารณะให้มีความคล่องตัวมากกว่านี้ แต่ก็ไม่มีรัฐบาลไหนที่ตั้งใจทำจริง ๆ เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า ถ้าทำแล้วบริษัทรถยนต์ที่เป็นกระเป๋าให้กับพรรคการเมืองจะขายรถไม่ได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-05-2019 เมื่อ 05:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 149 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 11:33



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว