กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๖ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤษภาคม ๒๕๖๖

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 25-05-2023, 19:41
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,529
ได้ให้อนุโมทนา: 215,924
ได้รับอนุโมทนา 736,923 ครั้ง ใน 35,904 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๖

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๖


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 26-05-2023, 00:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๒๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ กระผม/อาตมภาพกลับมาจากภูเก็ต ถึงกรุงเทพฯ เมื่อวานนี้ช่วงค่ำ เจอรถติดค่อนข้างจะสาหัส ตอนเช้ามืดก็ต้องรีบไปยังวัดประยุรวงศาวาส เพื่อร่วมงานแถลงข่าวการจัดกิจกรรมวิสาขบูชานานาชาติ ครั้งที่ ๑๘ พร้อมกับมอบเงินช่วยเหลือการจัดการให้กับคณะกรรมการเผยแผ่พระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งมีพระเดชพระคุณพระพรหมบัณฑิต, ศ.ดร. (ประยูร ธมฺมจิตฺโต ป.ธ.๙) เป็นองค์ประธาน และมอบอีกส่วนหนึ่งให้กับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

ในเรื่องของการจัดงานต่าง ๆ นั้น ส่วนสำคัญส่วนหนึ่งก็คืองบประมาณ โดยเฉพาะทางราชการ เป็นเรื่องที่ลำบากมาก ถ้าไม่ได้ตั้งงบประมาณไว้ก่อน ก็ไม่สามารถที่จะเอาเงินไปใช้ได้ ติดขัดด้วยขั้นตอนต่าง ๆ เพื่อป้องกันการทุจริต จึงทำให้บางทีหลายหน่วยงานไม่มีผลงานอะไรขึ้นมาในช่วงเวลาสำคัญ เพราะว่าขาดการตั้งงบประมาณล่วงหน้าเอาไว้ก่อน

คราวนี้การจัดกิจกรรมวิสาขบูชานานาชาติครั้งที่ ๑๘ ต้องบอกว่าเป็นการฟื้นฟูใหม่ หลังจากที่หยุดไปสามปีต่อเนื่องกัน เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ จึงทำให้แรงขับเคลื่อนต่าง ๆ ที่กำลังเป็นไปด้วยดี แผ่วลงไปอย่างชนิดที่เรียกว่าน่าเสียดาย แต่ว่า
จากที่ได้คุยกับทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติก็คือ ปีนี้จะจัดให้มีการแสดงพระธรรมเทศนาเป็นเวลาสามวัน โดยนิมนต์พระเถระที่มีชื่อเสียงทำการแสดงพระธรรมเทศนามาเทศน์ให้ญาติโยมที่ไปร่วมกิจกรรมได้ฟัง

ความจริงกระผม/อาตมภาพได้บอกไปว่า เรื่องแบบนี้ควรจะมีทุกวันพระเสียด้วยซ้ำไป เพราะว่าพุทธมณฑลเท่ากับเป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาของประเทศไทย แล้วนานาชาติลงมติให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาโลก แต่ด้วยความที่ถ้าหากว่าจัดงานทุกวันพระ ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติก็ยิ่งไม่มีงบประมาณสนับสนุนเข้าไปใหญ่ จึงมาเริ่มในช่วงวันสำคัญอย่างสัปดาห์วันวิสาขบูชา เป็นต้น

เรื่องพวกนี้จะว่าไปแล้ว ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลาย ๆ ภาคส่วนที่ช่วยกันผลักดัน จากการที่แถลงข่าวในวันนี้ ท่านสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้กล่าวถึงส่วนที่ทำให้เบาใจก็คือ ท่านจะผลักดันให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอทุกอำเภอ เป็นผู้นำในการจัดงาน ถ้าหากว่าเบื้องบนมีแนวคิดแบบนี้ ก็น่าจะทำให้งานต่าง ๆ มีความคึกคัก ครึกครื้นมากขึ้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-05-2023 เมื่อ 01:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 26-05-2023, 00:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แต่ท่านทั้งหลายต้องไม่ลืมว่า นี่เป็นแค่เปลือกเท่านั้น ต่อให้การจัดงานมีคนไปร่วมมากขนาดไหนก็ตาม ก็เป็นเพียงเปลือกนอกที่เอาไว้อวดคนอื่นเขา ส่วนที่สำคัญอย่างแท้จริง คือพุทธศาสนิกชนที่นำเอาหลักธรรมในพระพุทธศาสนาไปใช้งานในชีวิตจริง คืออย่างน้อย ๆ ให้มีศีล ๕ ครบถ้วน ถึงจะได้ชื่อว่าเป็นพุทธศาสนิกชนที่ดี ไม่เช่นนั้นแล้วถ้าหากว่าเราขาดศีล ๕ ความเป็นมนุษย์ก็จะบกพร่องลงไป

เนื่องเพราะว่าศีล ๕ นั้นเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า มนุสสธรรม คือหลักธรรมที่ทำให้เราเป็นมนุษย์ เพราะว่าโดยปกติ ไม่มีใครอยากให้คนอื่นมาฆ่าเรา มาทำร้ายเรา

ไม่มีใครอยากให้คนอื่นมาลักขโมย ช่วงชิงสิ่งของของเรา

ไม่อยากให้ใครมาแย่งคนที่เรารัก ของที่เรารัก

ไม่อยากให้ใครมาโกหกหลอกลวง

ไม่อยากเป็นบุคคลผู้ขาดสติ ทำอาการเหมือนหนึ่งบ้า ๆ บอ ๆ

ดังนั้น..ถ้าหากว่าผู้หนึ่งผู้ใดที่รักษาศีล ๕ ได้ไม่ครบถ้วน ก็แปลว่าความเป็นมนุษย์บกพร่องลงไป ถ้าตีว่าศีล ๕ ข้อเท่ากับ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ ศีลขาด ๑ ข้อ ความเป็นมนุษย์ของเราหายไป ๒๐ เปอร์เซ็นต์ ศีลขาด ๒ ข้อ หายไป ๔๐ เปอร์เซ็นต์ ขาดครบ ๕ ข้อเมื่อไร ก็ไม่มีความเป็นมนุษย์เหลืออยู่เลย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-05-2023 เมื่อ 01:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 26-05-2023, 00:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ท่านทั้งหลายมีโอกาสได้เกิดเป็นมนุษย์ ได้พบพระพุทธศาสนา ได้ฟังธรรม แล้วน้อมนำมาหลักการทั้งหลายเหล่านั้นไปประพฤติปฏิบัติ ก็ถือว่าท่านทั้งหลายประกอบไปด้วยบุญลาภอันใหญ่ยิ่ง เพราะว่าการเกิดเป็นมนุษย์ก็ยาก การจะดำรงชีวิตอยู่จนกระทั่งได้พบหลักธรรมก็ยาก การที่ฟังธรรมแล้วจะเลื่อมใสยอมปฏิบัติตามก็ยาก

โดยเฉพาะการเกิดขึ้นของพระพุทธเจ้านั้นยากที่สุด จึงเป็นเรื่องที่น่าเสียดายว่า ถ้าเราทิ้งหลักการที่ทำให้เราเกิดเป็นมนุษย์ ก็แปลว่าเรามีโอกาสที่จะตกสู่อบายภูมิสูงมาก


มนุสสภูมิของเราอยู่ในจุดที่เหมาะสมที่สุดที่จะพัฒนาตนเองให้ก้าวหน้าขึ้นไป ไม่ว่าจะเป็นเทวดานางฟ้าก็ดี เป็นพรหมชั้นต่าง ๆ ก็ดี หรือกระทั่งหลุดพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพาน เนื่องเพราะว่าในอบายภูมิมีแต่ความทุกข์ กำลังใจของผู้ที่แบกหาบความทุกข์อยู่ ไม่มีอารมณ์ที่จะมาสนใจปฏิบัติธรรม

ส่วนสุคติภูมิ เทวดา นางฟ้า พรหม ส่วนหนึ่งก็ติดอยู่ในความสุข ประกอบกับอายุมากมายเหลือเกิน อย่างเช่น ถ้าเป็นอรูปพรหมชั้นที่ ๔ ซึ่งแทรกอยู่ระหว่างรูปพรหมชั้นที่ ๑๑ และชั้นที่ ๑๒ ถ้าเป็นเนวสัญญานาสัญญายตนพรหม ก็จะมีอายุถึง ๘๔,๐๐๐ มหากัป นานเกินกว่าที่จะประพฤติปฏิบัติอะไรได้ แถมถ้ากินบุญเก่าหมด โอกาสที่จะลงข้างล่างก็มีสูงมาก..!

ส่วนการเป็นเทวดา พรหม นอกจากติดสุขแล้ว ยังอยู่ที่อายุยืนนาน โอกาสที่จะเข้าถึงธรรมเพื่อความหลุดพ้นจึงมีน้อย ไม่เหมือนกับมนุษย์เราที่อายุขัยอยู่ระดับที่พอดี สติปัญญาเพียงพอที่จะมองเห็นทุกข์ เมื่อเห็นความเป็นจริง แล้วเกิดความเบื่อหน่าย คลายกำหนัด ปล่อยความยึดถือ ก็สามารถที่จะหลุดพ้นได้

ดังนั้น..ในเมื่อเราอยู่ในภพภูมิที่เหมาะสม อยู่ในระยะเวลาที่เหมาะสม ได้พบหลักธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ถ้ายังปล่อยทิ้งไปเฉย ๆ ก็เป็นเรื่องที่เสียชาติเกิดจริง ๆ..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-05-2023 เมื่อ 01:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 26-05-2023, 01:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น..ไม่ว่าทางด้านภายนอก งานวิสาขบูชานานาชาติจะได้รับการสนับสนุนจากประเทศที่นับถือพระพุทธศาสนา ทั้งเถรวาท มหายาน หรือว่าวัชรยานสักเท่าไรก็ตาม จะได้รับการสนับสนุนจากหน่วยราชการสักเท่าไรก็ตาม สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ไม่ใช่สาระแก่นสารที่สำคัญ

สาระแก่นสารที่สำคัญ อยู่ที่พุทธบริษัททั้งหลายปฏิบัติตามหลักธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จนสามารถเข้าถึง บอกได้ถึงคุณความดีอย่างแท้จริงของหลักธรรมนั้นว่าดีอย่างไร สามารถใช้ตนเองเป็นพยานว่า หลักธรรมของพระพุทธเจ้าเป็นของแท้อย่างไร นั่นจึงเป็นเรื่องที่พวกเราต้องสังวร และยึดถือปฏิบัติให้ได้

ไม่ใช่ติดอยู่แค่เปลือกนอกเท่านั้น ไม่เช่นนั้นแล้วก็จะทำให้งานทั้งหลายเหล่านี้สิ้นเปลืองงบประมาณไป โดยที่ได้รับผลตอบแทนกลับมาน้อยมาก

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๒๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-05-2023 เมื่อ 01:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 23:47



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว