กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๕

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 26-11-2022, 17:27
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,529
ได้ให้อนุโมทนา: 215,924
ได้รับอนุโมทนา 736,953 ครั้ง ใน 35,904 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๕


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 27-11-2022, 00:09
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,037 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๒๖ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ กระผม/อาตมภาพพร้อมด้วยตุ๊พ่อสิงห์ (พระอธิการสิงห์ วิสุทฺโธ) เจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ หลวงพ่อนิล (พระครูวินัยธรธวัชชัย ชาครธมฺโม) ประธานที่พักสงฆ์อาศรมศรีชัยรัตนโคตร พระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ดร. เจ้าอาวาสวัดอุทยาน อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี นำญาติโยมทั้งหลายภาวนาพระคาถาเงินล้าน ๑๐๘ จบ ในขณะเดียวกันก็ได้ทำการพุทธาภิเษกวัตถุมงคลไปด้วย

วัตถุมงคลในวันนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือรูปเปรียบองค์พระปัจเจกพุทธเจ้า เจ้าของพระคาถาเงินล้าน แกะจากหินลาปิสลาซูรี ซึ่งจะว่าไปแล้ว พระพุทธรูปองค์ที่แกะจากหินลาปิสลาซูรีนี้ ทางด้านคณะของคุณรัตน์ เพื่อนรักษ์ จังหวัดภูเก็ต ตั้งใจที่จะแกะถวายให้กับวัดท่าขนุน โดยขอให้กระผม/อาตมภาพบอกไปเท่านั้นว่าจะเอาแบบไหน แต่กระผม/อาตมภาพปฏิเสธไป เพราะว่าไม่มีที่ตั้งอันเหมาะสมสำหรับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

เรื่องนี้เป็นสิ่งที่กระผม/อาตมภาพถือสาเป็นที่สุด เพราะว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าคือพ่อใหญ่ของพวกเรา ความรักความเคารพในองค์ท่านนั้นมีมากเท่าไร กระผม/อาตมภาพไม่สามารถที่จะพูดออกมาเป็นภาษาคนได้ แต่อยากจะบอกว่า ถ้ามีรูปของท่านแล้ววางไว้ในที่ไม่เหมาะสม ก็จะรู้สึกไม่สบายใจ

ดังนั้น..ถ้าท่านทั้งหลายไปยังวัดท่าขนุน จะเห็นว่าไม่มีพระพุทธรูปเกะกะไปหมดเหมือนกับวัดอื่น ๆ เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า พระพุทธรูปแต่ละองค์นั้น ต้องอยู่ในจุดที่เหมาะสมต่อการกราบไหว้ ต่อการบูชา โดยที่กระผม/อาตมภาพถือหลักว่า พ่อของเรา..ถ้าเราไม่เคารพ แล้วจะให้ใครมาเคารพ ?

ในเมื่อเป็นเช่นนั้นจึงได้ปฏิเสธคณะเจ้าภาพ คือคุณรัตน์ เพื่อนรักษ์ จากจังหวัดภูเก็ต ว่าไม่ขอรับพระพุทธรูปองค์นี้ เพราะว่าไม่มีที่ตั้งอันสมควร แต่ไม่ทราบเหมือนกันว่าทางคุณรัตน์และคณะไปติดต่อกับทางพระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ดร. แบบไหน ถึงได้แกะสลักออกมาเป็นรูปสมเด็จพระพุทธธนเสฏฐปัจเจกพุทธเจ้า เจ้าของพระคาถาเงินล้าน แต่ก็เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง ที่จะนำมาเป็นองค์ประธานในพิธีภาวนาพระคาถาเงินล้าน ๑๐๘ จบในครั้งนี้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-11-2022 เมื่อ 00:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 27-11-2022, 00:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,037 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเรื่องของพระคาถาเงินล้านนั้น ต้องบอกว่า ขึ้นอยู่กับศรัทธาเลื่อมใสยังไม่พอ ยังต้องขึ้นอยู่กับความขยันและสม่ำเสมอของเราอีกด้วย ถ้าหากว่าเราไม่ขยันภาวนาเอาไว้อย่างสม่ำเสมอแล้ว จะไปหวังให้เกิดผล ก็ย่อมเป็นไปไม่ได้

โดยเฉพาะพระคาถาเงินล้านนั้น เป็นพระคาถาที่ต้องการความเชื่อมั่นและเลื่อมใสอย่างสูงสุด ไม่เช่นนั้นแล้ว โอกาสที่เราจะทุ่มเท กาย วาจา ใจ ในการภาวนาอย่างจริงจังสม่ำเสมอนั้น ย่อมเป็นไปได้ยาก ในเมื่อไม่มีความจริงจังสม่ำเสมอ แล้วจะให้พระคาถาเกิดผล จึงมีโอกาสที่เป็นไปได้น้อยมาก

แต่ก็ยังดีใจที่ญาติโยมทั้งหลายมาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง โดยเฉพาะสถานที่จอดรถเกือบจะไม่เหลือเลย เพียงแต่ว่าท่านทั้งหลายอย่าได้รอจนกระทั่งทางวัดท่าขนุนหรือว่าทางวัดอุทยานจัดงานภาวนาพระคาถาเงินล้าน แล้วค่อยไปนั่งภาวนากันครั้งหนึ่งเกือบ ๒ ชั่วโมง แต่ว่าวันอื่น ๆ ก็ทำบ้างไม่ทำบ้าง ขาดความสม่ำเสมอ ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้ว โอกาสที่พระคาถาจะเกิดผลย่อมเป็นไปไม่ได้

นอกจากนั้นแล้วพระคาถาเงินล้านยังต้องการการทำทานอย่างสม่ำเสมอด้วย ก็คือต้องมีการสละออก ซึ่งพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านเปรียบเอาไว้ว่า เหมือนกับเราเปิดน้ำในเขื่อนให้ไหลออก น้ำใหม่ถึงจะไหลเข้ามาทดแทนได้ ไม่เช่นนั้นแล้วน้ำเก่าเต็มอยู่ ค้ำอยู่ น้ำใหม่ย่อมไม่สามารถที่จะหมุนเวียนไหลเข้ามาเพิ่มเติมได้

ดังนั้น..ในส่วนของการใช้พระคาถาเงินล้านให้เกิดผลนั้น สิ่งสำคัญก็คือต้องมีการให้ทานอย่างสม่ำเสมอ ถ้าหากว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านั้นเป็นไปในส่วนของจาคานุสติหรือว่าทานบารมีแล้ว
จะเป็นวันละเล็กวันละน้อยเท่าไรก็ได้ เมื่อเราทำต่อเนื่อง สม่ำเสมอ เมื่อผลของทานเริ่มส่งผลดีให้ ผลของพระคาถาเงินล้านก็จะส่งผลให้มากขึ้นตามไปด้วย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-11-2022 เมื่อ 00:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 27-11-2022, 00:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,037 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเรื่องของพระคาถาต่าง ๆ นั้นเป็นบาท คือพื้นฐานของการฝึกอภิญญา ท่านใดที่ทำพระคาถาบทใดบทหนึ่งขึ้นแล้ว ขอให้จดจำไว้ว่าเราวางกำลังใจแบบใด ถ้าสามารถจดจำได้ วางกำลังใจได้ถูก พระคาถาทุกบทก็จะให้ผลได้เช่นเดียวกัน

ดังนั้น..ในส่วนของการฝึกหัดอภิญญา ซึ่งเป็นลำดับที่สูงกว่านั้น ก็จะทำให้ท่านทั้งหลายมีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง หนักแน่น จากการฝึกพระคาถามาก่อน ทำให้สามารถฝึกอภิญญาสมาบัติได้ง่ายขึ้น เพราะว่าคุ้นชินกับการภาวนามาแล้ว

เพียงแต่ว่าท่านทั้งหลายอย่าทำตัวเป็นคนขี้สงสัย สิ่งนั้นเรียกว่าอะไร ? สิ่งนี้คืออะไร ? นั่นไม่ได้สำคัญเท่ากับว่าท่านทำได้หรือไม่ ? ไม่เช่นนั้นแล้วท่านมัวแต่ไปสงสัยอยู่ แบบเดียวกับนักวิชาการบางท่านที่สงสัยว่า อารมณ์ใจในลักษณะแบบนี้ ตรงกับการปฏิบัติตรงไหน ? หรือว่าจุดไหน ? แล้วก็เที่ยวไปค้นคว้า โดยที่ไม่ยอมปฏิบัติเอง โอกาสที่จะรับรู้อย่างแท้จริงก็ไม่มี

เหมือนอย่างกับว่ามีอาหารสำเร็จรูปอยู่ตรงหน้า ใส่จานเตรียมไว้แล้ว เรามีหน้าที่แค่ตักใส่ปากเท่านั้น แต่เรามัวแต่ไปวิจัยค้นคว้าว่าอาหารจานนั้นมีส่วนประกอบอะไร ? มีวิธีทำอย่างไร ? แต่ละขั้นตอนเรียกว่าอะไร ? แบบนั้นแล้วเมื่อไรท่านถึงจะมีโอกาสได้กินอาหารนั้นให้เป็นประโยชน์แก่ตัวเอง

ท่านทั้งหลายจึงควรที่จะตระหนักว่า การที่เราลงมือปฏิบัติ ถ้าหากว่าทำอย่างจริงจังสม่ำเสมอแล้ว แทบจะได้รับคำตอบในสิ่งที่สงสัยเกือบทั้งหมด ยกเว้นแค่ในส่วนของการยกอารมณ์ขึ้นสู่ความเป็นพระอริยเจ้า ซึ่งจะต้องมีครูบาอาจารย์คอยแนะนำ คอยบอกกล่าวอย่างใกล้ชิด ไม่เช่นนั้นแล้วโอกาสที่จะทำได้ตรง ได้ถูกต้อง ไม่ผิดพลาด ก็มีโอกาสน้อยลง อาจจะต้องเสียเวลาไปมากมายหลายปีก็เป็นได้

ปัญหาต่าง ๆ ในการปฏิบัติธรรมนั้น ถ้าท่านทั้งหลายทุ่มเทเวลาให้กับการภาวนาอย่างแท้จริง ไม่เสียเวลาไปสงสัยสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้น เราย่อมได้รับคำตอบไปในตัว ถึงเวลาทำไปถึงก็จะรู้เองว่า อารมณ์ใจนี้คืออะไรอย่างที่ตำราได้กล่าวถึงเอาไว้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-11-2022 เมื่อ 00:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 27-11-2022, 00:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,037 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เอาแค่การภาวนาแล้วเข้าถึงระดับของสมาธิ ไม่ว่าจะเป็นวิตก การคิดนึกตรึกอยู่ว่าจะภาวนา วิจาร กำหนดรู้อยู่ว่าตอนนี้ลมหายใจแรงหรือเบา ยาวหรือสั้น เราใช้คำภาวนาว่าอย่างไร ปีติ มีความรู้สึกแปลก ๆ เกิดขึ้นกับเรา ไม่ว่าจะอย่างใดอย่างหนึ่งก็คือ ขนลุก น้ำตาไหล ร่างกายโยกโคลง บางทีก็ดิ้นตึงตังโครมคราม หรือว่าลอยขึ้นไปทั้งตัวก็มี หรือมีความสุขเยือกเย็นอย่างที่ไม่สามารถจะบอกกล่าวเป็นภาษามนุษย์ออกมาได้ จนกระทั่งอารมณ์ใจตั้งมั่น เข้าสู่สมาธิระดับนั้นอย่างแท้จริง

ท่านมีหน้าที่แค่ทำ สิ่งทั้งหลายเหล่านี้จะค่อย ๆ เกิดขึ้นเอง ไม่ต้องเสียเวลาไปศึกษาว่า ตอนนี้อยู่ในจิตดวงที่เท่าไร ? อยู่ในภวังคจิตแบบไหน ? จิตในลักษณะไหนจึงเป็นโลกียะ ? จิตในลักษณะไหนจึงเป็นโลกุตระ ?

ในลักษณะอย่างนั้น กระผม/อาตมภาพขอใช้ภาษิตจีนที่ว่า "ถอดกางเกงผายลม" ก็คือว่าจะตดทั้งที ไม่มีความจำเป็นที่ต้องเสียเวลาไปถอดกางเกง เราก็มีหน้าที่แค่ตดไปเท่านั้นเอง..! เพียงแต่ว่าท่านทั้งหลายไปทำอาการถอดกางเกงผายลม ตามที่สำนวนจีนเขาว่าเอาไว้ ทำให้เสียเวลาในการปฏิบัติไปโดยใช่เหตุ

การที่มัวแต่ไปเสาะหาอยู่ว่า สิ่งนั้นเรียกว่าอะไร ? สิ่งนี้เรียกว่าอะไร ? นั่นไม่ใช่หน้าที่ของเรา นั่นเป็นหน้าที่ของบุคคลที่เป็นครู ก็คือปฏิบัติเพื่อความเป็นพระพุทธเจ้า ท่านจะต้องนำไปสอนคนอื่นเขา จึงต้องรู้ให้ละเอียดว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านั้นว่า จะเข้าถึงได้แบบไหน ? อยู่ในภวังคจิตแบบไหน ? อยู่ในจิตดวงที่เท่าไร ? มีชื่อเรียกว่าอะไร ? แต่พระองค์ท่านก็ไม่ได้ไปบอกกล่าวเขาให้ละเอียดถึงระดับนั้น แค่บอกว่าควรที่จะทำอย่างไรเท่านั้นเอง

ถ้าหากว่าเราไม่ฉลาดจนเกินไป เราก็จะสามารถเข้าถึงมรรคถึงผลได้ง่าย หรือว่าทรงสมาธิสมาบัติได้ง่าย แต่ถ้าเราฉลาดจนเกินไปดังตัวอย่างที่กระผม/อาตมภาพได้กล่าวมา เราทั้งหลายก็จะเสียเวลาไปวันแล้ววันเล่า เดือนแล้วเดือนเล่า ปีแล้วปีเล่า บางทีเราตายไปก่อนยังไม่มีโอกาสเข้าถึงความดีก็มี..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๒๖ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-11-2022 เมื่อ 00:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 05:20



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว