กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนเมษายน ๒๕๖๕

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 07-04-2022, 19:27
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,523
ได้ให้อนุโมทนา: 215,909
ได้รับอนุโมทนา 736,866 ครั้ง ใน 35,895 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๗ เมษายน ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๗ เมษายน ๒๕๖๕


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 08-04-2022, 00:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,963 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๗ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ ตอนช่วงนำสามเณรเจริญพระกรรมฐาน ก็ดีใจว่ามีบางรูปสามารถที่จะเห็นพระได้ แต่ไม่รู้ว่าเป็นอะไร เพราะว่าเห็นเป็นแสงสว่างเจิดจ้าอย่างเดียว ดูไปดูมาแล้วกลัว..ก็เลยเผ่นเสียอีก ก็ต้องบอกว่าเป็นปกติ เพราะว่าไม่ใช่แต่สามเณรที่เป็นเด็กจะกลัว แม้แต่ผู้ใหญ่ที่เจออาการแบบนั้นก็กลัวกันมามากแล้ว

ซึ่งความจริงถ้าพวกเราเจริญกรรมฐานกัน โดยมีการไหว้ครู มีการอาราธนาบารมีพระ อาราธนาบารมีครูบาอาจารย์ท่านคุ้มครอง ตรงจุดนี้ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปกลัวอะไร

แต่ส่วนใหญ่แล้วเรื่องของความกลัวนั้นเป็นจิตใต้สำนึก เป็นสิ่งที่แท้จริงในกำลังใจของเรา ดังนั้น...ถ้าหากว่าจะห้ามตนเองไม่ให้กลัว ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่ยากมาก กระผม/อาตมภาพเองปฏิบัติธรรมมามาก แรก ๆ ก็ยังกลัว จนกระทั่งความกลัวมาหายไปตอนไหนก็บอกไม่ถูก

เพียงแต่ว่าเวลาสามเณรที่ทำได้ ถ้าหากว่าปฏิบัติธรรมใหม่ อย่าไปอยากเห็นแบบนั้นอีก ให้ทำใจสบาย ๆ ว่าเรามีหน้าที่ภาวนา จะเห็นหรือไม่เห็น จะเป็นหรือไม่เป็น จะสว่างหรือไม่สว่างก็ช่างเถอะ ถ้าทำกำลังใจอย่างนี้แล้วภาวนาไปอย่างเดียว ก็จะสามารถเข้าถึงได้อีก

แต่ถ้าทำเมื่อไรก็อยากจะเห็นแบบนั้น ชาตินี้ก็ไม่ต้องเห็นอะไรอีกแล้ว เพราะว่าเป็นการทำโดยเอา "ความอยาก" นำหน้า ในเมื่อความอยากนำหน้า จิตใจไม่มั่นคง มีแต่ความฟุ้งซ่าน ก็แปลว่าเรายากที่จะเข้าถึงความดีในระดับที่ต้องการได้

เมื่อเช้านี้มีสามเณรบางรูปเดินตามตอนบิณฑบาตแทบไม่ทัน เพราะว่าเท้าบาง เดินไปแล้วเจ็บมาก จะว่าไปก็เป็นเรื่องปกติ แต่ขอให้ทุกคนเข้าใจว่า ความลำบากเหล่านี้จะหล่อหลอมให้เราอดทน ต่อไปอะไรที่เกิดขึ้นในชีวิต ถ้าไม่ยากกว่านี้ ไม่ลำบากกว่านี้ ไม่เจ็บปวดกว่านี้ เราจะรับได้ทั้งหมด ซึ่งตรงจุดนี้บางทีสามเณรก็อาจจะไม่เข้าใจ

แม้กระทั่งในเรื่องของการฉันอาหาร ทำไมต้องจำกัดเวลา ? การจำกัดเวลา อันดับแรกเลยก็คือ เพื่อความพร้อมเพรียงกันของหมู่คณะ อันดับที่สองก็คือ นักบวชเขาไม่ให้เพลิดเพลินกับการกิน ถึงจะกินก็ต้องมีสติรู้ตัวอยู่เสมอ ว่าเป็นไปเพื่อยังอัตภาพร่างกายนี้เอาไว้ปฏิบัติธรรมเท่านั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-04-2022 เมื่อ 02:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 08-04-2022, 00:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,963 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

คราวนี้ในส่วนที่สามเณรฉันอาหารนั้น ต้องบอกว่าให้เวลาถึง ๑๕ นาที ถ้าหากว่าไปเจอระบบการฝึกแบบทหารนี่ เขาให้แค่ ๓ นาที..! ของพวกเรามากกว่าตั้ง ๕ เท่า แต่ว่า ๓ นาทีของทหาร ไม่เคยได้ครบ ๓ นาทีแม้แต่ครั้งเดียว ส่วนใหญ่แล้วเป่านกหวีดครั้งแรกก็คืออนุญาตให้ตักข้าวใส่ปากได้ เป่าครั้งที่ ๒ ก็คือหยุดกิน ซึ่งก็มักจะไม่ถึงนาที..!

โดยเฉพาะครูฝึกบางท่านจะพยายามแลกเวรแล้วก็เข้าเวรวันพุธ วันพุธจะเป็นวันเดียวที่เขามีขนมให้ ไม่ได้มากไม่ได้มายอะไรหรอก ก็ใส่แค่ช่องถาดหลุมเล็ก ๆ เท่านั้นแหละ แต่ลองนึกถึงว่าทหารที่ฝึกหนัก ร่างกายขาดสารอาหารมาก อยากกินของหวาน แต่มีให้แค่นั้น

แต่ปรากฏว่ามีครูฝึกท่านหนึ่ง คือจ่าสิบเอกวิทยา นุชแผน ญาติผู้ใหญ่ของใครก็ขออภัยที่เอ่ยชื่อ จะพยายามแลกเวรให้ตรงกับวันพุธ แล้วสิ่งที่จ่าทำก็คือ เป่านกหวีดปรี๊ดแรก ตักเข้าปากได้ ปรี๊ดที่สองหยุด จบการกินสำหรับมื้อนั้น แล้วบางทีปรี๊ดแรกกับปรี๊ดที่สองก็คือต่อเนื่องกันไปเลย..!

เพราะฉะนั้น..เพื่อนฝูงหลายคนก็ใช้วิธี พอปรี๊ดก็จ้วงขนมก่อนเลย ซึ่งถ้าหากว่าตักบรรจงบรรจงหน่อยก็ได้ประมาณ ๔ - ๕ ช้อน ไม่รู้ว่าเพื่อนตักอีท่าไหน ควานทีเดียวม้วนใส่ปากได้ทั้งหลุม..! ต้องบอกว่าเป็นความสามารถพิเศษของเพื่อน เพราะฉะนั้น...สิ่งที่สามเณรเจอ ถ้าโตขึ้นไปแล้วเข้าโรงเรียนทหารหรือโรงเรียนตำรวจจะเจอแบบนี้ แล้วก็อาจจะหนักกว่านี้ขึ้นไปตามลำดับของการฝึก

ดังนั้น...สิ่งที่เราได้ไปจากที่นี่ ต่อไปจะช่วยให้เราดำรงชีวิตได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะตอนนี้ภาวะศึกสงครามกำลังจะเริ่มลามไปแล้ว รีบพูดเกินไปหรือเปล่า ? ที่เขาบังคับทหารให้ทำอย่างนั้น ก็เพราะว่าถ้าหากว่ามีการรบ มีข้าศึกมาจริง ๆ เวลาจะกินยังไม่มี ใครกินเร็วก็ได้เปรียบ แล้วไอ้ที่เดินกระย่องกระแย่งเป็น "คุดทะราดหยียบกรวด" อย่างที่โบราณเขาว่า สามเณรต้องนึกว่าถ้าข้าศึกตามหลังมา เราอยากจะมีตีนงอกอีกสัก ๒ ตีน..จะได้ช่วยกันวิ่ง ไม่ใช่ค่อย ๆ เดินแบบนั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-04-2022 เมื่อ 02:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 08-04-2022, 00:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,963 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ธรรมชาติจะมีการคัดสรร ก็คือเลือกผู้ที่แข็งแกร่งให้อยู่รอด แต่ความจริงไม่ใช่ ผู้ที่แข็งแกร่งมักจะตายก่อน เพราะมั่นใจในความเก่งของตนเอง สิ่งที่ธรรมชาติคัดสรรก็คือ บุคคลที่ปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ได้ดีที่สุดถึงจะอยู่รอด

คราวนี้ถ้าสงครามเกิด นิวเคลียร์ลงทีเดียวก็จบ ไม่ต้องเสียเวลาวิ่ง อยู่ห่างไป ๒๐ - ๓๐ กิโลเมตร ตูมอยู่ตรงโน้น เราอยู่ตรงนี้ก็ตายได้ แต่ที่อยู่รอดก็ทรมาน มะเร็งรับประทานไป ตายช้าหรือตายเร็วก็ตายเหมือนกัน

คราวนี้ถ้าหากว่าสามเณรช้าอยู่ อย่าคิดว่าพ่อแม่พี่น้องจะช่วยเรา ถึงเวลาฉุกเฉินขึ้นมา ทุกคนต้องเอาตัวรอดไว้ก่อน จะไม่คิดถึงคนอื่น เราต้องเอาตัวรอดได้ด้วยตัวเอง เพราะฉะนั้น...พยายามฝึกความอดทน ทำอย่างไรจะวิ่งหนีได้ ๑ วัน ๑ คืน ต้องหนีนานขนาดนั้นเลยหรือ ?

ขอยืนยันว่าถ้ารบจริง ๆ ต้องหนีนานขนาดนั้น ของทหารนี่เขาบังคับ ๓ วัน ๓ คืน วันท้าย ๆ หลวงพ่อเห็นถนนเลี้ยวโค้ง สมองสั่งให้เดินโค้ง แต่ตีนไม่ฟังแล้ว เดินแหกโค้งตกถนนไปเลย..! เพราะว่าอดหลับอดนอนมาทั้งวันทั้งคืนยังไม่พอ ยังแบกข้าวของเต็มที่ ข้าวปลาอาหารลงท้องก็ไม่มี ร่างกายจึงไม่ฟังเราแล้ว

คราวนี้ถ้าภัยธรรมชาติเกิดขึ้น สมมติว่าเขื่อนตรงนี้แตก ทำอย่างไรที่สามเณรจะวิ่งขึ้นยอดเขาให้ทัน ? มัวแต่ย่องอยู่ข้างหลังแล้วก็ "พระอาจารย์อุ้มผมด้วย..!" รอไปก่อนเถอะสามเณร พระอาจารย์ก็คงนำหน้าอยู่ลิบ ๆ โน่นแหละ..!

เคยมีสามเณรตามพี่เลี้ยงออกธุดงค์ พี่เลี้ยงท่านนั้นสึกไปแล้ว ปัจจุบันคือทิดกอล์ฟ สามเณรถามว่า "อาจารย์ครับ ถ้าเสือมาผมจะทำอย่างไรครับ ?" อาจารย์ตอบดีมาก "อาจารย์ไม่กลัวหรอก อย่างไรอาจารย์ก็วิ่งเร็วกว่าเณร" สรุปก็คือสามเณรนอนร้องไห้ทั้งคืน เพราะฉะนั้น...สามเณรต้องคิดให้ดีนะว่า ที่ฝึกไปนี้ยังไม่พอเอาตัวรอดเลย ต้องอดทนอดกลั้น ต้องสู้ให้มากกว่านี้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-04-2022 เมื่อ 02:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 08-04-2022, 00:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,963 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

โดยเฉพาะคนที่กลัวผี ให้ภาวนาเกาะภาพพระไว้ พระเป็นความสว่าง ผีเป็นความมืด ถ้านึกถึงพระ ผีจะทำอะไรไม่ได้ แต่อย่างที่บอก ว่ายังยืนอยู่ใกล้ ๆ นะ..! เพราะฉะนั้น....ต้องขยายภาพพระให้ใหญ่ไปเรื่อย ขยายได้ใหญ่เท่าศาลา ผีก็ไปยืนอยู่นอกศาลา ขยายให้ได้ใหญ่ทั้งหมู่บ้าน ผีก็ไปยืนอยู่นอกหมู่บ้าน ขยายให้ใหญ่เต็มโลกไปเลย ผีจะได้ออกไปอยู่นอกโลก จะได้มาหลอกเราไม่ได้..!

ต้องซ้อมเอาไว้บ่อย ๆ พอเราทำคล่องแล้ว โตขึ้นจะมีประโยชน์มาก กำลังใจที่เป็นสมาธิ ทำให้เรามีความอดทน ทำอะไรก็อึดกว่าคนอื่นเขา ให้มีความมั่นใจ และท้ายที่สุด ถ้าทำเป็น ทำถูก ก็จะขลังกว่าคนอื่นเขา

เมื่อวานนี้พระครูวาทีวรวัฒน์, ดร. เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุราชวรมหาวิหาร จังหวัดเพชรบุรี โทรมานิมนต์ "ลูกพี่..ช่วยมางานเผาหลวงพ่อแคล้วหน่อยครับ ผมนิมนต์เป็นพิเศษเลยนะ" ถามว่าทำไม ? "ดีใจที่ลูกพี่เป็นพระเกจิอาจารย์ขลัง..ดังมาก แล้วทำไมตอนเรียนอยู่ไม่เห็นลูกพี่บอกใครเลย" ก็เลยถามกลับไปว่า "ถ้ากูบอก แล้วพวกมึงจะใช้กูไหม ?" เพื่อนก็เลยว่า "เออ...จริงครับ" ฉะนั้น...ไม่จำเป็นต้องไปบอกใคร ถ้าหากว่าเราเก่งจริง ถึงเวลาคนก็จะเห็นเอง

ค่อย ๆ ฝึกไป วันนี้วันที่ ๗ แล้ว วันที่ ๘ วันที่ ๙ อีกสองวันเต็ม ๆ วันที่ ๑๐ ก็แค่ครึ่งวัน อย่าลืมท่องคำอาราธนาศีล อาราธนาธรรม อาราธนาพระปริตร และปฏิญาณตนเป็นพุทธมามกะ ถ้าใครสามารถปฏิญาณคนเดียวได้ หลวงพ่อจะมีรางวัลพิเศษให้

ปฏิญาณคนเดียวเขาไม่ได้ใช้ เอเต มะยัง ภันเต ปฏิญาณคนเดียวใช้ เอสาหัง ภันเต สุจิระปะรินิพพุตัมปิ ตัง ภะคะวันตัง สะระณัง คัจฉามิ ธัมมัญจะ สังฆัญจะ พุทธะมามะโกติ มัง สังโฆ ธาเรตุ เหมือนกันไหม ? ไม่เหมือนใช่ไหม ? ถ้าหากว่าใครท่องได้ก่อน มีรางวัลพิเศษให้ วันนี้รบกวนพวกเราแค่นี้แหละ


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๗ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-04-2022 เมื่อ 02:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 17:51



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว