กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมิถุนายน ๒๕๖๕

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 16-06-2022, 07:26
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,530
ได้ให้อนุโมทนา: 215,928
ได้รับอนุโมทนา 737,094 ครั้ง ใน 35,905 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๖๕


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 16-06-2022, 23:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,150 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๑๖ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ เป็นเวลาตี ๒ ที่เมืองเมืองดาร์จีลิงก์ ประเทศอินเดีย กระผมและคณะได้พักอยู่ที่โรงแรมซีดาร์ อินน์ ซึ่งเป็นโรงแรมที่ต้องถือว่าใช้การได้เลยทีเดียว โดยเฉพาะห้องพักที่กระผม/อาตมภาพพักอยู่นั้น นอกจากจะเป็นห้องเตียงคู่แล้ว ยังมีส่วนที่มีห้องนั่งเล่นให้ชมบรรยากาศภายนอกได้ด้วย ขณะนี้อุณหภูมิอยู่ที่ ๑๖ องศาเซลเซียส ค่อนข้างจะเย็นสำหรับบุคคลทั่วไป แต่คนแถวนี้ก็คงจะเคยชินแล้ว จึงไม่ค่อยจะรู้สึกอะไร

เมื่อวานนี้คณะของเราไปพร้อมกันที่สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิตั้งแต่ตอนตี ๑ เพื่อที่จะรอขึ้นเครื่องตอนเวลา ๐๓.๔๕ นาที ตามเวลาหน้าตั๋ว แต่ปรากฏว่าเครื่องเกิดล่าช้าขึ้นมา สาเหตุเพราะว่าทางด้านเมืองโกลกาตาของประเทศอินเดียวนั้นเกิดพายุฝนหนักมาก จึงได้แจ้งไปทางประเทศไทยไม่ให้นำเครื่องขึ้น เพราะว่าถ้าขึ้นแล้วอาจจะต้องเสียเวลาไปบินวนอยู่นาน และอาจจะมีฟ้าผ่า ทำให้เกิดอันตรายต่อผู้โดยสารได้

ทางด้านพวกเรา ตามเวลาหน้าตั๋วที่ต้องมารอต่อเครื่องที่เมืองโกลกาตา เพื่อไปยังเมืองบักโดกราเป็นเวลา ๖ ชั่วโมง ซึ่งตอนแรกทางคุณเอ (ฉัตตริน เพียรธรรม) หัวหน้าทัวร์นั้น ก็ยังกังวลว่าจะมีอะไรให้พวกเราทำกัน เพื่อที่จะได้ไม่เบื่อหน่ายไปเสียก่อน

แต่ปรากฏว่าเมื่อเครื่องเสียเวลาที่ประเทศไทย พวกเราซึ่งคุ้นเคยกับสถานที่ ส่วนหนึ่งก็อาศัยระยะเวลานั้นนอนพักผ่อน อีกส่วนหนึ่งก็ไปเดินดูสินค้าต่าง ๆ ตามร้านค้าปลอดภาษี กระผม/อาตมภาพเองนั้นใช้เวลาบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เสร็จแล้วก็อ่านหนังสือจบไป ๑ เล่ม..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-06-2022 เมื่อ 04:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 16-06-2022, 23:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,150 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

โดยปกติแล้วในระยะนี้กระผม/อาตมภาพจะอ่านหนังสือแค่วันละ ๑ เล่ม ทุกคนได้ยินแล้วก็อาจจะตกใจว่าพูดผิดหรือเปล่า ? ขอยืนยันว่าไม่ผิด เนื่องเพราะว่าถ้าอ่านตามปกติที่เคยทำ ก็คือวันหนึ่งประมาณ ๔-๕ เล่ม..! เหตุที่ต้องอ่านแค่วันละ ๑ เล่มนั้น ประการแรกก็คือมีกิจการงานมากขึ้นทุกทีจนแทบไม่มีเวลาที่จะอ่านหนังสือ ต้องอาศัยเวลาในการเดินทางบ้าง เวลาตื่นนอนบ้าง เวลาก่อนนอนบ้าง อ่านหนังสือเพื่อที่จะเสริมความรู้ให้กับตนเอง

กระผม/อาตมภาพนั้นเป็นบุคคลที่อ่านหนังสือหมดห้องสมุดของโรงเรียน ตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ชั้นประถมปีที่ ๒ ของโรงเรียนบ้านหนองพงนก ตำบลสระสี่มุม อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม อ่านหนังสือหมดทั้งห้องสมุด โดยที่หลายเล่มนั้นก็อ่านไม่เข้าใจ แต่ว่าเหตุที่ตั้งใจอ่าน ก็เพราะว่าต้องการ "อ่านหนังสือให้แตก" ตามสำนวนของคนสมัยนั้น

คำว่า อ่านหนังสือให้แตก ในที่นี้ก็คือการอ่านหนังสือได้ทุกคำ แล้วก็ไปเจอตัวปัญหาใหญ่ ก็คือตำราเพศศึกษาของ ดร.Alfred Kinsey ซึ่งเป็นการแปลทับศัพท์ภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะเป็นภาษาเทคนิคทางการแพทย์เป็นจำนวนมาก ทำให้อ่านยากที่สุดเท่าที่เคยเจอมา ต้องไปถามครูบาอาจารย์เกือบทุกคำ

เมื่อครูบาอาจารย์ท่านเห็น หลายท่านก็หัวเราะจนกระทั่งแทบจะลงไปกองกับพื้น ถามว่า "หนังสือแบบนี้ เธอจะอ่านไปทำไม ?" กระผม/อาตมภาพก็บอกว่า "ต้องการจะอ่านหนังสือให้แตกครับ" เมื่อครูบาอาจารย์ท่านรู้ถึงจุดมุ่งหมาย ก็พยายามที่จะสะกดให้เราฟังทีละคำ ดังนั้น..กระผมจึงมีศัพท์เทคนิคทางการแพทย์ โดยเฉพาะทางด้านเพศศึกษาเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่เรียนชั้นประถมปีที่ ๒ แล้ว

เรื่องการศึกษาทางโลกนั้น ถ้าหากว่าบุคคลที่เคยอยู่กับพระเดชพระคุณหลวงปู่มหาอำพัน หรือท่านเจ้าคุณพระภาวนาปัญญาวิสุทธิ์ วิ. วัดเทพศิรินทราวาส จะเห็นว่า ท่านเขียนติดเอาไว้ที่หัวเตียงว่า

วิชาโลกเรียนเท่าไรไม่รู้จบ
พื้นพิภพกลมกว้างใหญ่ลึกไพศาล
วิชาธรรมเรียนและทำจนชำนาญ
ย่อมพบพานจุดจบสบสุขเอย

แล้วยังลงชื่อผู้เขียนไว้ว่า แม่เฒ่าปักษ์ใต้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-06-2022 เมื่อ 05:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 17-06-2022, 00:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,150 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ตรงส่วนนี้เป็นเรื่องที่จริงแท้ เพราะว่าวิชาทางโลกนั้นเป็นการวิ่งจากต้นน้ำ ออกทะเลสู่มหาสมุทร ยิ่งไปก็ยิ่งกว้างไกลออกไปทุกที จนหาฝั่งไม่เจอ แต่วิชาทางธรรมนั้นเป็นการย้อนทวนคืนสู่ต้นน้ำ ท้ายสุดก็จะพบจุดจบ คือพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพานได้

เมื่อถึงเวลาเจ้าหน้าที่เปิดให้พวกเราได้ขึ้นเครื่อง ก็ใช้เวลานานมาก ตามแบบฉบับของบรรดาท่านทั้งหลายที่เป็นคนอินเดีย ก็คือทำอะไรแบบค่อนข้างที่จะประณีต โดยที่ไม่ได้สนใจเวล่ำเวลาสักเท่าไร ตรงจุดนี้กระผม/อาตมภาพนั้นเคยชินมานานแล้วกับระบบการทำงานแบบนี้ เพราะว่าเป็นการทำงานที่กระผม/อาตมภาพเรียกว่า "ทำให้ได้วัน ไม่ใช่ทำให้ได้งาน"

เหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าคนอินเดียทั้งหลายนั้น อยู่ภายใต้การปกครองของคนอังกฤษมานานหลายสิบปี ก่อให้เกิดนิสัยเฉพาะตัวขึ้นมา ก็คือทำงานเอาใจเจ้านาย ทำให้เจ้านายเห็นว่าเราทำงาน แต่แท้ที่จริงแล้วไม่ได้ตั้งอกตั้งใจทำอย่างจริงจัง เพราะว่าจะทำให้ต้องเหนื่อยมาก จึงคุ้ยแคะแกะเกาไปวัน ๆ เพื่อให้ได้ค่าแรงเท่านั้น กระผม/อาตมภาพจึงเรียกว่า "ทำให้ได้วัน ไม่ใช่ทำให้ได้งาน"

เมื่อเครื่องบินมาลงที่เมืองโกลกาตา ประเทศอินเดียก็เช่นกัน การตรวจเช็คหนังสือเดินทางนั้น ก็เป็นไปด้วยความล่าช้าที่สุด โดยเฉพาะใช้เวลาไปเป็นชั่วโมง กว่าที่พวกเราจะมาต่อเครื่องบิน เพื่อไปยังเมืองบักโดกรานั้น ก็เสียเวลาไปจนกระทั่งทางด้านนี้แทบจะไปขึ้นเครื่องบินไม่ทัน..!

แต่กระนั้นก็ตาม ก็ยังจะมาล่าช้าต่อที่เมืองบักโดกราอีก กว่าที่จะตรวจหนังสือเดินทาง กว่าที่จะตรวจกระเป๋า แล้วออกมายังรถที่ติดต่อเอาไว้ ก็เสียเวลาไปจนกระทั่งเที่ยงกว่าของเวลาอินเดีย ซึ่งถ้าบวก ๑ ชั่วโมง ๓๐ นาที ก็จะเป็นเวลาของไทย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-06-2022 เมื่อ 05:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 17-06-2022, 00:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,150 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อออกมาเจอบรรดามัคคุเทศก์พื้นเมืองที่ทางบริษัทเอ็นซีทัวร์ได้ติดต่อเอาไว้ คือคุณซูเรซ (สุเรศวร์) ซึ่งได้นำเอารถโตโยต้า อินโนวา จำนวน ๓ คันมารับคณะของเราที่มีอยู่ทั้งหมด ๑๓ คน รวมทั้งหัวหน้าทัวร์ บวกกับมัคคุเทศก์พื้นเมืองคือคุณซูเรซแล้ว ก็ประกอบไปด้วยคณะทัวร์จำนวน ๑๔ คน ก็คือไม่ได้บวกโชเฟอร์อีก ๓ คน ซึ่งอยู่ประจำรถ คันที่อาตมภาพนั่งประกอบไปด้วยตนเอง, พระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ดร. ,คุณเอ แล้วก็มัคคุเทศก์ซูเรซของเรา ซึ่งได้พาตรงมายังโรงแรมมารีน่า ที่เป็นเครือข่ายของทางเอ็นซีทัวร์

ต้องบอกว่าสถานที่ตลอดจนกระทั่งการต้อนรับนั้นประทับใจทีเดียว โดยเฉพาะห้องน้ำที่มีสายชำระ ซึ่งโดยปกติแล้วทางประเทศอินเดียที่ท่านทั้งหลายไปนั้น จะเห็นว่าบางทีก็มีแต่อ่างให้ตักน้ำราดเท่านั้น แล้วส่วนใหญ่ก็ไม่มีน้ำอีกด้วย..! แต่ว่าที่นี่น้ำท่าพร้อมสมบูรณ์

อาหารต่าง ๆ ก็ต้องถือว่าค่อนข้างสมบูรณ์ทีเดียว แต่ว่าอาหารนั้นกลับกลายเป็นอาหารจีนสไตล์อินเดีย ซึ่งประเทศอินเดียนั้นมีคนจีนน้อยมาก เพราะว่าตั้งแง่รบรากันมาตั้งแต่อดีตกาลนานโพ้น ก็คือตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถังมาจนถึงปัจจุบัน จึงทำให้คนจีนนั้นมาปักหลักทำมาหากินที่อินเดียกันน้อยมาก เลยทำให้บรรดาวัฒนธรรมจีนต่าง ๆ โดยเฉพาะในส่วนของอาหารนั้นเข้ามาน้อย คนอินเดียจึงทำอาหารจีนตามแบบที่ตนเองคิดว่าใช่ ก็คือทำแบบอาหารจีน แต่ก็จะมีผัดผักสุกมากแบบอินเดีย แล้วก็แกงดาล หรือว่าแกงถั่วที่ปกติแล้วให้กินกับแป้งโรตี หรือแป้งนาน

แต่ว่าพวกเราเองก็ต้องบอกว่าหิวมานาน เนื่องเพราะว่าเวลาที่มาถึงโรงแรมนั้นก็คือ ๑๒.๔๐ น. ของทางด้านประเทศอินเดีย แปลว่าเป็นเวลา ๑๔.๑๐ น. ของทางประเทศไทยแล้ว ซึ่งกระผม/อาตมภาพได้กำชับทุกคนแล้วว่า มีอะไรที่พกมาให้กินไปก่อนเลย อย่าได้รอจนถึงเวลาอาหาร ไม่อย่างนั้นอาจจะเป็นลมไปเสียก่อน..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-06-2022 เมื่อ 05:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 17-06-2022, 00:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,150 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อพร้อมแล้ว พวกเราก็ได้เดินทางต่อจากเมืองบักโดกรา ตรงไปยังเมืองดาร์จีลิงก์ ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของเรา ตลอดเส้นทางที่คับแคบคดเคี้ยววกวนไปตามไหล่เขานั้น ประกอบไปด้วยไร่ชาสุดลูกหูลูกตา

เมืองดาร์จีลิงก์เป็นเมืองแห่งภูเขา ทำให้ปลูกชาได้งอกงามมาก แต่ว่าชาอินเดียนั้นรสชาติไม่เหมือนกับชาจีน ส่วนใหญ่แล้วออกไปทางกลิ่นแรงทำให้ไม่คุ้นเคย คนอินเดียจะเอามาทำเป็นชานมหรือ "กะลัมไจ" มากกว่า เมื่อกระผม/อาตมภาพซึ่งคุ้นเคยกับชาจีนสั่ง Black tea ก็จะได้ชาที่ออกไปในแนว Lipton ที่ท่านทั้งหลายเคยได้พบได้เห็น และชิมรสมาแล้วในประเทศไทย

ด้วยความที่ถนนคับแคบและฝนตกตลอดทาง ทำให้ลื่นมาก แต่ว่าบรรดาพลขับของเรานั้นฝีมือสุดยอด ถ้าหากว่าให้กระผม/อาตมภาพขับเองก็น่าจะใช้เวลา ๕-๖ ชั่วโมง กว่าที่จะไปถึงเมืองดาร์จีลิงก์ แต่ว่าพลขับนั้นสามารถทำเวลาได้ประทับใจมาก แม้ว่าฝนตกหนัก หมอกหนาจนกระทั่งแทบจะมองทางไม่เห็น และมีรถยนต์สวนลงมาตลอดเวลา เพราะว่าเมืองดาร์จีลิงก์เป็นเมืองท่องเที่ยวขึ้นชื่อเมืองหนึ่งของประเทศอินเดีย และอินเดียก็เพิ่งจะเปิดให้ท่องเที่ยว หลังจากที่ปิดล็อคดาวน์เพราะโควิด ๑๙ มานานเป็นปี ๆ

การเดินทางแม้จะเต็มไปด้วยความหวาดเสียว แต่กระผม/อาตมภาพนั้นเลิกกลัวตายมานานแล้ว โดยที่ตนเองก็ไม่ทราบว่าเลิกกลัวตายตอนไหน คาดว่าจะเป็นตอนที่พิจารณาแล้วเห็นว่า ความตายเป็นปกติของมนุษย์และสัตว์ทุกรูปทุกนาม ในเมื่อปกติธรรมดาของร่างกายเป็นเช่นนี้ เราทำใจยอมรับได้ ก็เลิกกลัวตายไปโดยปริยาย จึงนั่งรถด้วยความสนุกสนานมาก..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-06-2022 เมื่อ 05:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #7  
เก่า 17-06-2022, 00:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,150 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

โดยเฉพาะมีความทึ่งว่าถนนเล็ก ๆ คับแคบนั้น ยังอุตส่าห์มีทางรถไฟที่เรียกว่า Toy Train ขนาบข้างอยู่ คือเป็นรถไฟที่จะมีขนาดเล็กกว่าปกติ แต่ก็ยังใช้งานจริง วิ่งกันอยู่ทุกวัน แล้วเส้นทางที่คับแคบขนาดนั้น ทางด้านคนอินเดียโดยเฉพาะคนพื้นเมืองก็ยังสามารถที่จะใช้งานกันได้ด้วยความคล่องตัว

โดยเฉพาะเป็นถนนลาดยางตลอดสาย แม้ว่าบางช่วงจะเป็นหลุมเป็นบ่อบ้าง แต่ก็ดีที่ไม่มีฝุ่น เพราะว่าต่อให้เป็นถนนที่มีฝุ่น ก็คงจะโดนพระพิรุณชะล้างจนสะอาดเอี่ยมไปเอง อากาศก็ค่อนข้างจะหนาวเย็นขึ้นทุกที ๆ เพราะว่าเราวิ่งสูงขึ้นไปบนเขาอยู่ตลอดเวลา

จนกระทั่งมาถึงที่เมืองดาร์จีลิงก์ มีบรรยากาศที่เห็นแล้วทึ่งมาก เพราะว่าเต็มไปด้วยตึกแบบยุโรปมากมาย แต่ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าถนนหนทางที่แคบและลื่นแบบนั้น แถมยังต้องใช้เวลาในการวิ่งถึง ๓-๔ ชั่วโมง เขาใช้เวลาในการที่ขนวัสดุก่อสร้างขึ้นมานั้น เป็นระยะเวลานานเท่าไร ?

อาคารบางแห่งนั้นใหญ่โต จนกระทั่งกระผม/อาตมภาพเห็นว่า กว่าที่จะค่อย ๆ ก่อสร้างให้ใหญ่โตขึ้นมาได้ขนาดนั้น ก็คงจะเหมือนกับปลวกที่ค่อย ๆ ขนดินมาทีละเม็ด แล้วสร้างจนกระทั่งกลายเป็นจอมปลวกมหึมานั่นเอง

พวกเรามาถึงที่พักคือ โรงแรมซีดาร์ อินน์ เวลาประมาณห้าโมงกว่าของอินเดีย ถ้าหากว่าเป็นเวลาของประเทศไทย ก็ราว ๆ ๑๘.๔๐ น. ซึ่งก็เกือบ ๆ จะ ๑ ทุ่มแล้ว ดังนั้น...ต่างคนจึงต่างเข้าที่พัก กระผม/อาตมภาพทำการซักแห้ง เพราะว่าประการแรกก็คืออาการเย็นมาก ไม่แน่ใจว่าถ้าโดนน้ำแล้ว อาการมาลาเรียเรื้อรังจะกำเริบหรือเปล่า ?

ประการที่สองก็คือ บรรดาเจ้าที่เจ้าทางที่มารออยู่มากมาย จึงต้องตั้งใจที่แผ่เมตตาและอุทิศส่วนกุศลให้ เพื่อขอความสะดวกคล่องตัวในการเดินทาง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-06-2022 เมื่อ 05:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #8  
เก่า 17-06-2022, 00:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,150 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ท่านทั้งหลายสามารถที่จะเลียนแบบตรงส่วนนี้ได้ คือทุกครั้งก่อนที่จะเดินทาง กระผม/อาตมภาพจะแผ่เมตตาสวดกรณียเมตตสูตร แล้วตั้งใจนึกถึงเจ้าที่เจ้าทาง ที่รักษาตลอดเส้นทางที่เดินทางในวันหนึ่งคืนหนึ่งนั้น ไม่ว่าท่านจะเป็นอากาสเทวดาก็ดี รุกขเทวดาก็ดี ภุมมเทวดาก็ดี หรือจะเป็นเหล่าสัมภเวสี เปรต อสุรกาย ตลอดจนกระทั่งเดรัจฉานมีฤทธิ์ ที่อาศัยอยู่ตลอด ๒ ข้างทาง หรือว่ารักษาตลอดเส้นทางนั้นก็ตาม

กุศลบารมีใดที่เราได้สร้างมาตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบันนี้ ให้ท่านทั้งหลายอนุโมทนา และได้โปรดอนุเคราะห์สงเคราะห์ให้การเดินทางนั้น มีความสะดวกปลอดภัยตลอดเส้นทางด้วย ซึ่งจากการที่ได้ทำมานั้น ก็ได้รับการอนุเคราะห์สงเคราะห์ ให้สะดวกและปลอดภัยมาโดยตลอด จึงเป็นเรื่องที่ท่านทั้งหลายควรที่จะปฏิบัติตาม

เช้าวันนี้ก็จะเป็นไปตามโปรแกรมที่ทางคณะทัวร์ได้ตั้งเอาไว้ ซึ่งจะเป็นไปในเลข ๖-๗-๘ ตามมาตรฐานสากล ก็คือปลุกตอน ๖ โมงเช้า วางกระเป๋าและลงไปรับประทานอาหารตอน ๗ โมงเช้า พอ ๘ โมงเช้าก็เริ่มออกเดินทางไปสู่สถานที่ท่องเที่ยว

วันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวต่อญาติโยมแต่เพียงเท่านี้


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๑๖ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-06-2022 เมื่อ 05:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 19:47



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว