กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤษภาคม ๒๕๖๕

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 25-05-2022, 17:48
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,529
ได้ให้อนุโมทนา: 215,924
ได้รับอนุโมทนา 736,963 ครั้ง ใน 35,904 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 26-05-2022, 00:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,053 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๒๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ จากการที่เดินทางไปเป็นคณะกรรมการอำนวยการฝึกอบรมเจ้าอาวาสใหม่ ในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๔ วันนี้ต้องบอกว่า "เสียท่า" อย่างมาก เนื่องจากว่ามีผู้มาเสิร์ฟน้ำชาร้อน จึงรับมาฉันไป ๒ แก้ว แล้วนึกว่าทำไมน้ำชาเขากลิ่นแปลกพิกล ? หลังจากนั้นไม่กี่นาทีก็ทำท่าเหมือนกับ "ฟิวส์" จะขาด ก็คือจะหลับกลางอากาศเสียให้ได้..!

ด้วยความสงสัยจึงเดินไปถามผู้ที่เสิร์ฟน้ำว่าเป็นใบชายี่ห้ออะไร ? สรุปออกมาว่าเป็นน้ำกัญชา..! ตั้งใจถวายพระเพื่อให้รักษาโรค แต่กระผม/อาตมภาพแพ้ของพวกนี้ เพราะว่าในชีวิตแตะต้องสิ่งเสพติดไม่ได้เลย ต้องใช้คำว่า "โดนบังคับมาตั้งแต่ก่อนเกิด" ไม่ใช่ว่าไม่เคยพยายามจะทำ แต่ว่าทำแล้วไม่ประสบความสำเร็จต่างหาก..!

เริ่มจากการสูบบุหรี่ ตอนนั้นขโมยบุหรี่ของพ่อไปได้ ๑ มวน แอบหนีไปสูบในพุ่มไม้ ปรากฏว่าดูดไปไม่กี่ที รู้สึกขมไปทั้งปาก เพราะว่าบุหรี่สมัยนั้นไม่มีก้นกรอง เป็นยี่ห้อ "พระจันทร์" บ้าง "รวงข้าว" บ้าง "เกล็ดทอง" บ้าง ค่อนข้างจะฉุนรุนแรง กระผม/อาตมภาพเมาน้ำลายยืดไปครึ่งค่อนวัน..! จึงเข็ดไปจนวันตาย ไม่กล้าที่จะดูดบุหรี่อีกเลย

ส่วนในเรื่องของเหล้าของเบียร์นั้น ด้วยความที่อยู่ใกล้ชิดกับสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ เพราะว่าครอบครัวคนจีนมีการไหว้เจ้าอยู่เสมอ สิ่งที่ใช้ไหว้เจ้าเป็นปกติ ถ้าหากว่าเป็นวันพระทั่วไปก็เป็นน้ำชา ถ้าหากว่าเป็นเทศกาลก็เป็นเหล้าขาว ซึ่งมักจะมีเหล้าขาว ๔๐ ดีกรีเป็นตัวชูโรง

กระผม/อาตมภาพแค่ได้กลิ่นก็เมาหัวทิ่มแล้ว อย่าว่าแต่กินเลย..! แล้วก็ได้รับคำแนะนำจากพรรคพวกเพื่อนฝูงวัยรุ่นด้วยกันว่า "อย่าไปกินเหล้าเลย ถ้าคออ่อนแบบมึง ให้ไปกินเบียร์ดีกว่า กินหมดเป็นโหลก็ยังไม่เมาเลย"

กระผม/อาตมภาพอยากจะเป็นที่ยอมรับของเพื่อนฝูงบ้าง จึงลองไปหาเบียร์มาเพื่อกินดู ปรากฏว่าพอเทใส่แก้ว แล้วยกขึ้นดมก็หงายท้องตึง..! เนื่องจากว่าเป็นเด็กบ้านนอก ซึ่งจะต้องมีการถักแหถักอวนสำหรับใช้หาปลา ในเมื่อถักเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ต้องไปถากเปลือกไม้มาต้ม เพื่อย้อมแหย้อมอวนให้เส้นด้ายนั้นมีความคงทน แช่น้ำได้นาน ๆ โดยที่ไม่เปื่อย

เมื่อถึงเวลาทิ้งเปลือกไม้ต้มนั้นเอาไว้สัก ๒ วัน ๓ วันก็เริ่มบูดฟองฟอดขึ้นมา แค่ได้กลิ่นก็ต้องเบือนหน้าหนีแล้ว ปรากฏว่าเบียร์นั้นกลิ่นเดียวกับเปลือกไม้เน่าที่เอาไว้สำหรับย้อมแหย้อมอวน
กระผม/อาตมภาพยังมาคิดว่า "ทำไมเขากินของบูดของเน่าแบบนี้กันได้ก็ไม่รู้ ?"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-05-2022 เมื่อ 01:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 26-05-2022, 00:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,053 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ส่วนเรื่องอื่นนั้น ในสมัยวัยรุ่นยังมีโรคมีภัยอยู่มาก ซ้ำยังไม่มีเงินทองด้วย จึงไม่สามารถที่จะไปเที่ยวผู้หญิงตามที่เพื่อนฝูงยุแยง แต่ว่าตอนที่เป็นทหารนั้น มีเงินเดือนประจำแล้ว ปรากฏว่าต้องไปประจำอยู่ที่ชายแดน บ้านแซร์ออ อำเภอวัฒนานคร เป็นเวลา ๓ เดือน ที่บ้านโคกสูง อำเภออรัญประเทศ ๓ เดือน และที่บ้านทับเซียม อำเภอตาพระยาเป็นเวลา ๓ เดือน แต่เนื่องจากว่ามีการรบติดพันกัน ทำให้ต้องติดอยู่ที่แนวหน้าตาพระยานานถึง ๕ เดือนกว่า เพราะว่าไม่สามารถที่จะเปลี่ยนกำลังพลได้

บรรดาทหารนั้น ส่วนใหญ่ก็เป็นคนหนุ่ม พอถึงเวลากลัดมันขึ้นมา ก็ขออนุญาตผู้บังคับบัญชาไปเที่ยวซ่องกัน เพื่อนฝูงก็ฉุดกระชากลากถูกระผม/อาตมภาพขึ้นรถไปด้วย แต่ด้วยความที่ว่า เวลาทหารไปก็ไปกันทั้งหมวด ไปกันทั้งกองร้อย ถ้าหากว่าเป็นเวลาทำมาหากินปกติของเขา ลูกค้าก็ได้กระเจิดกระเจิงกันพอดี จึงต้องเลือกไปเวลาประมาณบ่ายโมงหรือว่าบ่าย ๒ โมง ซึ่งจะว่าไปแล้ว ก็คือเป็นเวลาดึกมากสำหรับคนที่ทำอาชีพนี้ แต่ในเมื่อลูกค้ามาถึงเป็นร้อย บรรดา "แม่เล้า" ก็ต้องไปทุบประตูเรียกคุณน้องคุณหนูทั้งหลายออกมา

กระผม/อาตมภาพเห็นแล้วสลดสังเวชเป็นอย่างยิ่ง เนื่องเพราะว่าแต่ละคนที่ออกมานั้น หน้าซีดเป็นผีตาย หัวเป็นกระเซิง บางคนก็ตาดำเป็นหมีแพนดาเลย เนื่องจากว่าเป็นเวลาพักผ่อน กว่าที่เขาจะตื่นก็ต้องประมาณ ๖ โมงเย็น แล้วค่อยมาแต่งสวย เพื่อรอรับแขกตอนประมาณ ๑ ทุ่ม ไม่ใช่เวลาบ่ายโมงกว่าหรือว่าบ่าย ๒ โมง เมื่อเห็นเช่นนั้นก็ทำให้นั่งฝ่อหมดอารมณ์ เพื่อนฝูงถามว่า "จะเลือกคนไหน ?"
กระผม/อาตมภาพก็ได้แต่สั่นหัว บอกเพื่อนไปว่า "พวกมึงเลือกไปเถอะ..กูนั่งรอได้"

ดังนั้น...ในเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายที่ประสบพบเห็นในลักษณะเดียวกันมา ก็จะมีความเข้าใจว่า บางคนนั้นโดนคุมประพฤติมาตั้งแต่ก่อนเกิด ก็คือไม่สามารถที่จะกระทำสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นความชั่วได้เลย เพราะว่าไปสัญญาเอาไว้ก่อนที่จะลงมาเกิดว่า ถ้าหากลงมาแล้ว ต้องไปให้ดีกว่าเดิม หรือถ้าหากว่าหลุดพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพานได้เลยก็ยิ่งดี

จึงทำให้บรรดาญาติพี่น้อง ครูบาอาจารย์ที่อยู่ข้างบน ต้องใช้คำว่า "ฟาดกันแบบไม่เลี้ยง" โอกาสที่จะทำชั่วนั้นยากมาก จึงทำให้ไม่คุ้นเคยกับสิ่งทั้งหลายเหล่านี้


ดังนั้น...เมื่อเจอน้ำกัญชาเข้าไป ๒ แก้ว แม้ว่าจะเป็นแค่แก้วกาแฟก็ตาม กระผม/อาตมภาพก็หมดสภาพ ไปกราบลาท่านเจ้าคุณพระบวรรังษี (สมชาย พุทฺธญาโณ ป.ธ.๗) รองเจ้าคณะภาค ๑๔ กราบเรียนท่านว่า "จะน่าเกลียดไหมครับ ? ถ้าหากว่ากระผมจะขออนุญาตลาไปนอน..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-05-2022 เมื่อ 01:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 26-05-2022, 00:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,053 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ท่านเจ้าคุณมองหน้าด้วยความแปลกใจ กระผมจึงเรียนถวายไปว่า "เจอน้ำกัญชาเข้าไป ๒ แก้วครับ กระผมไม่ทราบ นึกว่าเป็นน้ำชาทั่วไป ฉันเข้าไปแล้วรู้สึกว่าจะลืมตาไม่ขึ้น พอถามคนที่หามาถวาย เขาบอกว่าเป็นน้ำกัญชา..!" เมื่อท่านทราบเช่นนั้น ก็บอกว่า "ถ้าอย่างนั้นก็นิมนต์รีบไปพักเถอะครับ" ถึงได้ถอยออกมาจากที่ประชุมได้

ส่วนอื่น ๆ ที่อยากจะกระทำ แต่ไม่สามารถที่จะกระทำได้ก็ยังมีอีกมาก แต่ว่าวันนี้เล่าให้ฟังแต่พอสังเขปเท่านี้ก่อน

ส่วนหนึ่งที่อยากจะกล่าวถึงก็คือว่า ในช่วงเวลาที่ผ่านมานั้น มีการแข่งกีฬาซีเกมส์ ซึ่งทัพนักกีฬาไทยสร้างชื่อเลื่องลือในระดับซีเกมส์เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องของกรีฑาระยะสั้นก็ดี เรื่องของวอลเลย์บอลหญิงก็ตาม ซึ่งในส่วนทั้งหลายเหล่านี้ บางท่านก็อาจจะไม่ได้ติดตามเลย เพราะว่าข่าวสารบ้านเมืองและความเป็นไปของโลก ไม่เหมาะสมที่จะทำให้คิดในเรื่องทั้งหลายเหล่านี้

แต่ขอทุกท่านทราบด้วยความยินดีว่า ทัพนักกีฬาไทยของเราไม่น้อยหน้าชาติไหน ถ้าหากว่าเป็นในเรื่องของกีฬาสากลแล้ว สามารถสู้ได้ทุกชาติ ขาดอยู่แต่เพียงการแก้เกมของผู้ฝึกสอน หรือว่าประสบการณ์ของนักกีฬาเท่านั้น

อีกส่วนหนึ่งก็คือในเรื่องของการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ซึ่งญาติโยมบางท่านอาจจะยังไม่ทราบว่า กรุงเทพมหานครนั้นเป็นเขตปกครองพิเศษ ซึ่งบ้านเรามีอยู่ ๒ เขต อีกเขตหนึ่งก็คือเมืองพัทยา ทั้ง ๒ เขตนี้ จะมีการเลือกผู้ปกครองเองต่างหาก ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับการแต่งตั้งผู้ว่าราชการหรือว่านายอำเภอไปดูแลของทางกระทรวงมหาดไทย ทั้ง ๒ สถานที่นี้จะมีงบประมาณเป็นของตนเองเอาไว้บริหารจัดการ

คราวนี้ในการเลือกตั้งนั้น มีสิ่งที่นักข่าวส่วนใหญ่ใช้คำว่า "แลนด์สไลด์" คือชนะกับแบบถล่มทลาย เนื่องจากว่า รศ.ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ที่ลงสมัครในนามอิสระนั้น ทำคะแนนสูงสุด ทำลายสถิติการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครตั้งแต่ต้นมาจนถึงปัจจุบัน ขณะเดียวกันผู้ที่ได้ตำแหน่งรอง ๆ ลงมา ก็เป็นคนรุ่นใหม่ทั้งสิ้น

การเลือกตั้งครั้งนี้ทำให้เราเห็นได้ชัดว่า ในเรื่องของคนรุ่นใหม่ ซึ่งจะมีแนวความคิด มีการกระทำที่ช่วยพัฒนาชาติบ้านเมืองของเราให้เจริญทัดเทียมนานาอารยประเทศนั้น เริ่มได้รับการยอมรับมากขึ้น ถ้าหากว่าสถานการณ์บ้านเมืองของเราเป็นไปในแนวนี้ รัฐบาลของเราก็คงจะ "หืดขึ้นคอ" ในการเลือกตั้งครั้งหน้า..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-05-2022 เมื่อ 01:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 26-05-2022, 00:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,053 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น...ไม่ว่าท่านหนึ่งท่านใดในคณะรัฐบาล จะเป็นนายกรัฐมนตรีก็ดี รัฐมนตรี ผู้ช่วยรัฐมนตรี หรือว่าบรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรก็ตาม สิ่งใดที่ท่านทั้งหลายสามารถช่วยแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน ให้ทันเหตุการณ์และมีความยั่งยืน ท่านทั้งหลายต้องรีบคิดค้นขึ้นมา และนำเสนอเป็นนโยบายอย่างเป็นรูปธรรม ไม่เช่นนั้นแล้วในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ภาพของการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครที่ผ่านมา ก็จะเป็นภาพที่ท่านทั้งหลายจะได้เห็นอย่างที่ไม่ยินดีที่จะเห็น..!

เพราะว่าประชาชนของเรา ถ้าหากว่าลำบากเดือดร้อนก็ย่อมต้องหาทางออกว่า มีวิธีใดที่ทำให้ตนพ้นจากความเดือดร้อนไปได้ โดยเฉพาะปัญหาปากท้อง ปัญหาครอบครัว เรื่องของการไม่มีงานทำ หรือว่ามีงานทำแต่ไม่ยั่งยืน ซึ่งเป็นปัญหาที่รัฐบาลทั้งหลายควรที่จะรีบแก้ไข

โดยเฉพาะปัญหาน้ำมันแพงที่เสียงของประชาชนดังขึ้นมาทุกที ว่าบ้านเราเมืองเราขุดน้ำมันได้เอง แล้วทำไมถึงไปซื้อน้ำมันแพง ๆ จากต่างประเทศมา ? โดยที่ขายน้ำมันของเราให้ต่างประเทศในราคาถูก

คำถามทั้งหลายเหล่านี้มีเต็มสื่อโซเชียลไปหมด ซึ่งมั่นใจว่ารัฐบาลทั้งหลาย ตลอดจนกระทั่งผู้เกี่ยวข้องก็ต้องทราบ และพยายามที่จะหาคำอธิบาย เพียงแต่ว่าคำอธิบายของท่านทั้งหลายเหล่านั้น สามารถเป็นที่ยอมรับของประชาชนได้สักเท่าไร ? นั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

กระผม/อาตมภาพในฐานะพระภิกษุสงฆ์ในพุทธศาสนา ซึ่งถ้าหากว่าประชาชนเดือดร้อน บ้านเมืองระส่ำระสาย พระภิกษุสามเณรทั้งหลายก็ต้องเดือดร้อนไปด้วย เพราะว่าต้องอาศัยปัจจัย ๔ จากประชาชนมาอุดหนุนค้ำจุน จึงสามารถที่จะอยู่ได้

จึงขออาศัยเสียงตรงนี้ส่งไปถึงรัฐบาล หรือท่านผู้มีอำนาจในบ้านเมืองว่า ท่านทั้งหลายต้องรีบคิดแก้เกมโดยด่วน และสิ่งที่คิดนั้นควรที่จะเป็นรูปธรรม และก่อประโยชน์ให้เกิดกับประชาชนและประเทศชาติอย่างแท้จริง ท่านจึงจะสามารถกลับมาบริหารงานในประเทศของเราต่อไปได้ ไม่เช่นนั้นแล้วผลการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ก็จะเป็นตัวอย่างที่ท่านทั้งหลายจะได้พบได้เห็นในเวลาอีกไม่นาน..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๒๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-05-2022 เมื่อ 02:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 07:22



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว