กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนเมษายน ๒๕๖๕

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 21-04-2022, 17:45
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,532
ได้ให้อนุโมทนา: 216,107
ได้รับอนุโมทนา 737,086 ครั้ง ใน 35,913 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๒๑ เมษายน ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๒๑ เมษายน ๒๕๖๕


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 46 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 21-04-2022, 23:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,702
ได้รับอนุโมทนา 4,397,155 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๒๑ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ แต่เช้ามืดมาก็มีข่าวที่น่าเสียใจ คือหลวงปู่ชุบ ปญฺญาวุโธ (พระครูอดุลพิริยานุวัตร) ที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอไทรโยค ได้มรณภาพลงด้วยอายุ ๙๖ ปี พรรษา ๗๔ หลวงปู่ชุบ วัดวังกระแจะนั้น ท่านเป็นพระเกจิเถราจารย์ที่อาวุโสมากในจังหวัดกาญจนบุรีและในประเทศไทย มีชื่อเสียงเกียรติคุณเป็นที่เคารพนับถือกันทั่วไป

กระผม/อาตมภาพได้มีบุญร่วมพุทธาภิเษกกับท่านหลายต่อหลายงาน แล้วก็เก็บเกี่ยวเอาสิ่งต่าง ๆ จากท่านมามากต่อมากด้วยกัน เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า เวลาที่พุทธาภิเษกด้วยกัน เมื่อหลวงปู่ชุบท่านสาธยายพระคาถาต่าง ๆ ท่านจะถนัดในการออกเสียง ไม่ได้ภาวนาในใจเหมือนท่านอื่นเขา หรือว่าท่านจะตั้งใจถ่ายทอดต่อให้กระผม/อาตมาภาพที่เห็นเป็นลูกหลาน ได้เก็บเอาไว้ศึกษาก็ไม่รู้ ? เพราะว่าท่านออกเสียงให้ได้ยินอย่างชัดเจนว่า แต่ละครั้งใช้พระคาถาบทไหนบ้างในการพุทธาภิเษกวัตถุมงคลนั้น ๆ

แล้วกระผม/อาตมภาพก็ค่อนข้างที่จะมีความจำดี ใครบอกอะไรให้ได้ยินแม้แต่ครั้งเดียว ก็จำได้เกือบทั้งหมดแล้ว เมื่อมีโอกาสได้ร่วมงานพุทธาภิเษกกับท่านหลายต่อหลายครั้งด้วยกัน จึงเก็บเกี่ยวเอาสิ่งต่าง ๆ มาได้มาก

ความจริงหลวงปู่ชุบท่านมรณภาพลงเมื่อคืนนี้ ที่โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา ซึ่งเป็นโรงพยาบาลประจำจังหวัดกาญจนบุรี ตอน ๒ ทุ่ม ๔๐ นาที แต่ว่ากระผม/อาตมภาพหมดสภาพ จำวัดไปเรียบร้อยแล้ว ตื่นขึ้นมาช่วงประมาณตี ๒ ก็ได้ข่าวร้ายนี้ทันที ได้แต่น้อมจิตส่งหลวงปู่ไปสู่สุคติภูมิตามที่ท่านปรารถนาด้วยเถิด

วันนี้กิจการงานที่รับเอาไว้ก็คือ ไปบวงสรวงพุทธาภิเษกพระพุทธสิหิงค์ที่วัดเจ็ดริ้ว ซึ่งอยู่ที่ตำบลเจ็ดริ้ว อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร ตอนแรกที่ไปก็เพราะว่า ถ้าเป็นในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๔ คือ จังหวัดกาญจนบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม และสมุทรสาครแล้วไซร้

ส่วนใหญ่แล้วบรรดาเจ้าอาวาส เจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอ ถ้าหากว่าไม่ใช่พรรคพวกเพื่อนฝูงกัน ก็จะเป็นลูกศิษย์ซึ่งเรียนอยู่ที่วิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาศรีทวารวดี วัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) จังหวัดนครปฐมบ้าง เรียนอยู่ที่วิทยาลัยสงฆ์สุพรรณบุรีศรีสุวรรณภูมิ วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร จังหวัดสุพรรณบุรีบ้าง หรือว่าเรียนอยู่ที่วิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรีศรีไพบูลย์ อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรีบ้าง

ในเมื่อเป็นลูกศิษย์นิมนต์ ถึงจะอยู่ใกล้ไกลขนาดไหน ถ้าหากว่ามีเวลาว่าง กระผม/อาตมภาพก็ยินดีที่จะไปสงเคราะห์เสมอ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-04-2022 เมื่อ 01:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 45 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 21-04-2022, 23:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,702
ได้รับอนุโมทนา 4,397,155 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ตอนแรกที่ท่านแจ้งมาก็คือ ให้กระผม/อาตมภาพกำหนดเวลาเองเลย ว่าสะดวกในวันเวลาไหน ซึ่งก็ได้กำหนดไปเวลา ๙ โมงเช้าของวันนี้ แต่ปรากฏว่าเมื่อไปถึงในงานแล้ว เจอหลวงปู่เจ้าคุณลำพวน (พระสุเมธมุนี) เจ้าอาวาสวัดบึงลาดสวาย อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม และเจอหลวงพ่อจำนงค์ (พระครูสิริสาครธรรม) เจ้าอาวาสวัดท่ากระบือ จังหวัดสมุทรสาคร หรือที่เรียกกันง่าย ๆ ว่า วัดหลวงปู่รุ่ง

เมื่อเห็นดังนั้น ในฐานะที่หลวงพ่อทั้ง ๒ รูปอยู่ในระดับครูบาอาจารย์ทั้งสิ้น กระผม/อาตมภาพก็รู้สึกผิดอยู่ในใจ ว่าเอาความสะดวกของตน โดยไม่ได้ดูว่าครูบาอาจารย์ท่านจะสะดวกด้วยหรือไม่ ?

โดยเฉพาะหลวงปู่ลำพวน ท่านเป็นพระเถระเชื้อสายมอญ ซึ่งมีผู้คนเคารพนับถือทั่วประเทศ เนื่องเพราะว่าบรรดาชาวมอญทั้งหลายนั้น มีความกลมเกลียวเหนียวแน่นในเชื้อสายของตนเป็นอย่างยิ่ง ถ้าหากว่ามีงานของชาวมอญที่วัดไหน ไม่ว่าจะอยู่ใกล้ไกลขนาดไหน ทุกคนก็จะสละเวลาไปร่วมงานกัน ตรงจุดนี้ทำให้คนอื่นเห็นความยิ่งใหญ่ในงานของชนชาติมอญอยู่เสมอ

กระผม/อาตมภาพมาวิเคราะห์ดูแล้วว่า ชาวกะเหรี่ยงก็รักพวกรักพ้อง แต่ว่าเวลามีงาน ไม่ได้มีความกลมเกลียวเหนียวแน่นเท่ากับชาวพม่าหรือว่าพี่น้องชาวมอญ เมื่อวิเคราะห์ดูแล้วก็มาเข้าใจว่า บรรดาพี่น้องชาวกะเหรี่ยงนั้น นอกจากภาษาพูดและวัฒนธรรมประเพณีแล้ว ก็ไม่ได้คิดว่าตนเองเป็นกะเหรี่ยง มักจะคิดว่าตนเองเป็นคนไทยอยู่เสมอ เหตุเพราะว่ามีประวัติศาสตร์อยู่ในประเทศไทยมาเกิน ๒๐๐ ปีแล้ว ส่วนใหญ่ก็ได้รับบัตรประชาชนชาวไทย

ชาวกะเหรี่ยงบางท่าน อย่างเช่นพระยาศรีสุวรรณคีรี (ภูวะโพ่) ซึ่งได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าเมืองหน้าด่าน ๑ ใน ๗ หัวเมืองของจังหวัดกาญจนบุรีในสมัยรัชกาลที่ ๓ สืบเนื่องมาจนถึงรัชกาลที่ ๕ ก็ยังมีลูกหลานเป็นพระศรีสุวรรณคีรี (ทะเจียงโปย) ต้องบอกว่าเป็นยศศักดิ์ที่ยิ่งใหญ่ทีเดียว

เมื่อกะเหรี่ยงทั้งหลายคิดว่าตนเองเป็นคนไทย ก็เลยขาดความกลมเกลียวเหนียวแน่น ขนาดหรือว่าระดับเดียวกับพี่น้องชาวมอญ แต่ว่าพี่น้องชาวมอญนั้น ด้วยความที่เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่ยุคเก่าที่อพยพตามพระยาเกียรติ พระยาราม และพระมหาเถรคันฉ่องเข้ามาพึ่งบารมี พึ่งพระบรมโพธิสมภารของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชก็ดี หรือว่าในยุคใหม่ ๆ ที่เพิ่งจะอพยพเข้ามาภายหลัง เนื่องจากหนีศึกหนีสงครามจากประเทศพม่าก็ตาม

บรรดาคนมอญทั้งหลายเหล่านี้ มีความรู้สึกว่าตนเองพลัดบ้านพลัดเมืองมา ถ้าหากว่าไม่กลมเกลียวเหนียวแน่น ไม่รักใคร่สามัคคีกัน เมื่อเวลามีคนมารังแก ก็จะไม่สามารถสู้ใครได้ จะโดนคนอื่นข่มเหงรังแก จนตนเองและพรรคพวกพี่น้องหรือครอบครัวต้องเดือดร้อน เมื่อรู้สึกเช่นนั้น คนมอญทั้งหลายจึงแสดงออกซึ่งความสามัคคีกลมเกลียวเหนียวแน่น ต่างจากชนชาติอื่น ๆ ที่มาอาศัยพึ่งพระบรมโพธิสมภารในประเทศไทย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-04-2022 เมื่อ 01:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 22-04-2022, 00:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,702
ได้รับอนุโมทนา 4,397,155 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น จึงทำให้งานการต่าง ๆ ของวัดวาอารามซึ่งมีเชื้อสายมอญ โดยเฉพาะถ้าหากว่าเจ้าอาวาสยังพูดภาษามอญได้ ยังสามารถทำพิธีทางศาสนา สวดมนต์แบบมอญได้ ก็จะยิ่งมีชาวมอญขึ้นกับวัดนั้น ๆ อย่างมากมายมหาศาลจนคิดไม่ถึง

หลวงปู่เจ้าคุณลำพวนนั้น ท่านเป็นพระเถระชาวมอญที่มีอาวุโสสูงมาก เพราะว่าอายุกาลพรรษาก็ ๘๐ ปีเศษแล้ว จึงอยู่ในระดับครูบาอาจารย์ของบรรดาพระเถระชาวมอญที่เป็น "หัววัด" เป็นเจ้าอาวาสในที่ต่าง ๆ ดังนั้น เมื่อมีงานวัด เขาก็จะนิมนต์หลวงปู่ท่านไปร่วมงานเป็นประจำ ซึ่งท่านเองก็ไปอนุเคราะห์สงเคราะห์ เพื่อรักษาความกลมเกลียวเหนียวแน่นในชาติพันธุ์ของตน ต้องเรียกว่านอกจากไปในฐานะพระเกจิอาจารย์ ผู้มีความรู้ความสามารถ ผู้ทรงคุณทรงวิทยาคมแล้ว ยังไปในฐานะคนเชื้อชาติมอญด้วยกันอีกด้วย

ส่วนอีกท่านหนึ่งที่ร่วมกันปลุกเสกวันนี้ ก็คือหลวงพ่อจำนงค์ คุณงฺโค หรือในสมณศักดิ์ของท่านคือพระครูสิริสาครธรรม เทียบผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นพิเศษ ต้องบอกว่าไม่ว่าจะเป็นสมณศักดิ์ ไม่ว่าจะเป็นอายุกาลพรรษา หลวงพ่อจำนงค์เหนือกว่ากระผม/อาตมภาพในทุกด้าน เพราะแม้ว่ากระผม/อาตมภาพจะเป็นพระครูสัญญาบัตรฝ่ายวิปัสสนาธุระ แต่ว่าก็เทียบเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นเอกเท่านั้น ดังนั้น...ถ้าหากว่ามีงานหลวงร่วมกัน ก็ต้องนั่งต่อท้ายหลวงพ่อท่านอยู่ดี

หลวงพ่อจำนงค์ท่านเป็นพระเถระที่มีอัธยาศัยนอบน้อมนุ่มนวล เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ประกอบไปด้วยเมตตาที่ล้นออกจากหัวจิตหัวใจ ถึงขนาดมีผู้คนไปฟ้องร้องท่านว่า "หลวงพ่อ..มีเด็กรุ่นหลังแอบขโมยชื่อหลวงปู่รุ่งเอาไปหากิน" หลวงพ่อจำนงค์ท่านตอบ กระผม/อาตมภาพได้ยินกับหูว่า "ไม่เป็นไรหรอก เขาก็ช่วยเผยแพร่ชื่อเสียงเกียรติคุณของหลวงปู่เหมือนกัน" ถ้าหากว่าเรามาพิจารณาดูแค่คำตอบนี้ ก็จะเห็นถึงกำลังใจของหลวงพ่อจำนงค์ว่า ท่านเองนั้นเต็มไปด้วยความเมตตากรุณาขนาดไหน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-04-2022 เมื่อ 01:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 44 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 22-04-2022, 00:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,702
ได้รับอนุโมทนา 4,397,155 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

โดยเฉพาะในงานต่าง ๆ ถ้าหากว่าต้องขึ้นเจริญพระพุทธมนต์ หลายครั้งที่ท่านอายุกาลพรรษามากที่สุดในที่นั้น แต่ท่านก็ไม่ยอมขึ้นนั่งหัวแถว จะไล่ให้กระผม/อาตมภาพหรือคนอื่นขึ้นนั่งหัวแถวเสมอ จนพวกกระผม/อาตมภาพต้องทักท้วงว่า "ถ้าหลวงพ่อไม่ยอมนั่งหัว พวกผมก็ไม่กล้าขึ้นอาสนะหรอกครับ" ท่านถึงได้ยอมขึ้นอาสนะในฐานะของประธานสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์

ตรงจุดนี้เป็นสิ่งที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่า นอกจากความเมตตากรุณาที่มีเต็มหัวจิตหัวใจแล้ว หลวงพ่อจำนงค์ท่านยังไม่ได้มีความถือเนื้อถือตัว ไม่ได้ถือว่าตนเองมีอาวุโสมาก อายุมาก พรรษามากเลยแม้แต่น้อย ท่านคิดอยู่เสมอว่าท่านเป็นผู้น้อย ถ้าไม่ใช่บุคคลซึ่งละสักกายทิฎฐิ หรือตัวกูของกูได้แล้ว ตรงจุดนี้จะไม่สามารถทำได้อย่างแท้จริง

ฉายาของหลวงพ่อจำนงค์คือ คุณงฺโค องค์แห่งคุณความดี ดังนั้น...ถ้าหากว่าคนที่ไม่เคยชินกับภาษาบาลี ก็จะสงสัยว่ามีการเขียนผิดแน่แล้ว แบบเดียวกับพรรคพวกเพื่อนฝูง ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์รุ่นเดียวกัน ก็คือพระครูคชเขตบุรารักษ์ (คมสัน) รองเจ้าคณะอำเภอด่านช้าง ฉายาของท่านคือ คุเณสโน แปลว่า ผู้แสวงหาคุณ ถ้าหากว่าตรงจุดนี้ คนเราที่ไม่ใช่ "เซียน" บาลีจริง ๆ ก็มักจะคิดว่าเขียนผิดอีกแล้วเหมือนกัน

ฉายาของพระที่เป็นภาษาบาลีนั้น เป็นเรื่องที่ต้องบอกว่า ถ้าไม่ใช่เชี่ยวชาญชำนาญบาลีจริง ๆ ก็จะงมหาคำที่ถูกต้องไม่เจอเหมือนกับกระผม/อาตมภาพนี่เอง ถ้าหากว่างมเจอก็สามารถที่จะแปลได้ และรู้ด้วยว่าผู้ที่ท่านตั้งฉายาให้นั้นเป็น "เซียน" บาลีขนาดไหน

หลวงพ่อจำนงค์ท่านจึงเป็นพระเถระที่ประกอบไปด้วยคุณงามความดี ทั้งภายนอกและภายใน สมควรแก่การเคารพนับถือเป็นอย่างยิ่ง ตรงจุดนี้ต้องแสดงความยินดีกับบรรดาท่านทั้งหลายที่อยู่อาศัยภายในบริเวณใกล้เคียงนั้น ไม่ว่าจะเป็นชาวบ้านเจ็ดริ้ว ชาวบ้านท่าไม้ ชาวบ้านท่ากระบือ ชาวบ้านหนองนกไข่ เพราะว่าท่านทั้งหลายเหล่านั้นมีพระเถระที่ประกอบไปด้วยสีลาจารวัตรอันงดงามเป็นอย่างยิ่ง สามารถที่จะไปทำบุญได้โดยสะดวก

เมื่อถึงเวลา ท่านทั้งหลายถ้าหากว่าว่างเว้นจากภารกิจต่าง ๆ ก็ดี หรือว่าต้องการที่จะแสวงหาบุญกุศลใส่ตัวก็ตาม สามารถที่จะเดินทางไปกราบหลวงพ่อจำนงค์ (พระครูสิริสาครธรรม) ได้ที่วัดท่ากระบือ จังหวัดสมุทรสาคร ท่านเป็นพระเถระที่กระผม/อาตมภาพยินดีแนะนำ และยินดีรับรองว่าท่านเป็น "พระสุปฏิปันโน" ซึ่งควรที่จะเป็นบุญเขตแก่ท่านทั้งหลายอย่างแท้จริง

วันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมทั้งหลายที่ฟังอยู่แต่เพียงเท่านี้


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๒๑ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-04-2022 เมื่อ 02:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 48 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:22



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว