กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๔ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนสิงหาคม ๒๕๖๔

Notices

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนสิงหาคม ๒๕๖๔ เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนสิงหาคม ๒๕๖๔

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 07-08-2021, 20:54
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,612
ได้ให้อนุโมทนา: 216,303
ได้รับอนุโมทนา 741,107 ครั้ง ใน 36,098 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๖๔

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๖๔


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 43 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 07-08-2021, 23:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,127
ได้รับอนุโมทนา 4,404,751 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๗ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔ ต้องบอกว่าทั้งวันหมดไปกับการประชุม ช่วงเช้าจนเกือบเที่ยง เป็นการประชุมเพื่อฟังแนวทางการพัฒนาวิทยาลัยสงฆ์ จากท่านเจ้าคุณอาจารย์พระธรรมวัชรบัณฑิต, ศ.ดร. อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ซึ่งวางแนวทางหรือว่ากำหนดแนวทาง ในการพัฒนาวิทยาลัยสงฆ์ทั้ง ๒๕ แห่งในประเทศไทย เพื่อที่จะได้เดินไปในแนวเดียวกัน ซึ่งจากการฟังก็ทำให้เกิดความคิดบางส่วนขึ้นมาว่า การกำหนดนโยบายไม่ใช่เรื่องยาก แต่ผู้ที่นำนโยบายไปทำให้สำเร็จนั้นยากที่สุด

เนื่องเพราะว่าศักยภาพของแต่ละวิทยาลัยสงฆ์ไม่เท่ากัน โดยเฉพาะไม่ว่าจะเป็นยุทธศาสตร์ กลยุทธ์ ยุทธวิธีในการบริหารจัดการวิทยาลัยสงฆ์ จะใหญ่จะเล็กขนาดไหนก็ตาม จะขาดงบประมาณไม่ได้เลย แล้วในภาวะที่บรรดาวิทยาลัยสงฆ์ต่าง ๆ พบในปัจจุบันก็คือ ต้องจัดการเรียนการสอนออนไลน์ ทำให้ต้องลดค่าเทอมลงไป ตั้งแต่ปีที่แล้วมาจนถึงปีนี้

ปกติแล้วรายได้ของแต่ละวิทยาลัยสงฆ์ก็ชักหน้าไม่ถึงหลังอยู่แล้ว เมื่อต้องลดค่าเทอมลง แล้วยังต้องอาศัยระบบการจัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์ ก็ยิ่งทำให้เรื่องของงบประมาณลดน้อยถอยลง จะบริหารจัดการให้เป็นไปด้วยดี ตามนโยบายที่ท่านเจ้าคุณอาจารย์อธิการบดีให้มาก็คงเป็นไปโดยยาก แต่ว่าก็ต้องทำกันออกมาให้ดีที่สุด

โดยเฉพาะแนวทางที่ท่านให้ไว้ส่วนหนึ่ง ที่ชอบใจที่สุดก็คือว่า เรื่องของวิชาการ ไม่ว่าจะระดับปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอก ไม่ต้องไปเพิ่มอะไรมากมาย แต่ว่าพยายามเอาส่วนของนอกห้องเรียนให้ชัดเจน ว่าสิ่งที่เราเรียนไปแล้ว ช่วยอะไรคนรอบวัดของเราได้บ้าง ? สรุปก็คือ สิ่งที่เรียนมาไม่ว่าจะวิเศษเลิศลอยขนาดไหนก็ตาม ช่วยชาวบ้านที่ทำไร่ไถนาอยู่รอบวัดได้ไหม ? ถ้าไม่ได้ก็ไม่มีประโยชน์
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 08-08-2021 เมื่อ 23:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 07-08-2021, 23:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,127
ได้รับอนุโมทนา 4,404,751 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ตรงจุดนี้กระผม/อาตมภาพเห็นด้วย ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ เพราะว่าตรงนี้ที่วัดท่าขนุนทำอยู่ ก็คือพยายามช่วยให้ชาวบ้านมีกินมีใช้ โดยมีแนวคิดที่ว่า ถ้าชาวบ้านมีกินมีใช้ เขาจะมาสนับสนุนวัดเอง แล้วที่ทำมาก็เริ่มเห็นผล เนื่องเพราะว่ามีญาติโยมเข้าวัดมากกว่าก่อนหน้านี้ คำว่าก่อนหน้านี้ก็คือ อดีตเจ้าอาวาส ๒ รูป ถัดจากหลวงปู่สายมา

ส่วนช่วงบ่ายเป็นการเสวนาแผนพัฒนามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยฉบับที่ ๑๓ ซึ่งตรงนี้ก็แบบเดียวกัน แผนดีแค่ไหน ถ้าขาดงบประมาณก็ไปไม่รอด ส่วนที่หนักหนาสาหัสที่สุดก็คือ ตั้งแต่ ๘ โมงเช้าจนเกือบ ๕ โมงเย็น เนื้อหาต่อเนื่องกัน มีเวลาไปฉันเพลนิดเดียว โดยที่ผู้ดำเนินการบอกด้วยว่า ใครจะฉันเพลหน้าจอก็ได้ ไม่ถือว่าเสียมารยาท ถ้าอยากจะฟังทั้งหมด บังเอิญว่ายังไม่สามารถที่จะทำใจได้ขนาดนั้น ก็เลยแยกไปฉันเพลสัก ๑๐ กว่านาที แล้วค่อยกลับมาฟังต่อ

ตรงจุดนี้ถ้าท่านทั้งหลายสมาธิไม่ทรงตัว มีแต่ตายกับตาย เพราะว่าร่างกายรับไม่ไหว ก็จะเครียดขึ้นไปเรื่อย ๆ บางคนพอเครียดมาก ๆ เส้นเลือดในสมองแตก..! เราต้องดูกำลังของเราเองด้วยว่าไหวแค่ไหน ถ้าไม่ไหวก็ปิดจอ หลบไปพักผ่อน ทำโน่นทำนี่เสียบ้าง

แล้ววันนี้เหตุการณ์ทางด้านกรุงเทพฯ ก็ไม่ค่อยจะดี เพราะว่ามีกลุ่มผู้ประท้วงพยายามจะบุกไปที่พระบรมมหาราชวัง หรือว่าบุกไปที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งตรงจุดนี้ต้องบอกว่า "ไม่ใช่ระยะเวลาที่เหมาะสม" เพราะว่าเป็นช่วงที่เชื้อไวรัสโควิด ๑๙ กำลังระบาดอยู่ ถ้านับตรงส่วนนี้ ก็คือขาดหลักธรรมในสัปปุริสธรรม ๗ ประการ ในหัวข้อกาลัญญุตา ก็คือไม่รู้กาลเทศะที่เหมาะสม
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-08-2021 เมื่อ 02:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 07-08-2021, 23:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,127
ได้รับอนุโมทนา 4,404,751 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กาละคือเวลา ในเวลาที่เชื้อไวรัสโควิด ๑๙ กำลังระบาดอย่างรุนแรง แล้วเราออกมารวมกลุ่มประท้วงกัน ก็หาเรื่องตายเอง..! เทศะคือสถานที่ "ใช่หรือที่เราจะไปบุกพระบรมมหาราชวัง ? ถ้าหากว่าคุณไม่ชอบใจเกี่ยวกับการปกครองของรัฐบาล รัฐบาลอยู่ที่พระบรมมหาราชวังหรือ ?"

แล้วส่วนที่อยากจะเตือนสติท่านทั้งหลายก็คือว่า อาตมภาพเห็นมาตั้งแต่เด็กจนอายุ ๖๐ กว่าปี ไม่มีครั้งไหนเลยที่หัวหน้าม็อบจะเจ็บจะตาย มีแต่บรรดาท่านทั้งหลายที่โดนลากไปร่วมประท้วง ทั้งเจ็บ ทั้งตาย หัวหน้าม็อบอย่างเก่งก็ติดคุกอยู่พักหนึ่ง แล้วออกมาก็ร่ำรวยมีเงินมีทองใช้

ถ้ารู้จักใช้สมองคิดสักนิดหนึ่ง ก็จะรู้ว่าสิ่งที่เขาทำนั้น เพื่อประโยชน์ของตนเองก่อนเพื่อน ไม่ได้เกิดจากความรักชาติอย่างแท้จริง โดยเฉพาะพยายามสร้างสถานการณ์ เพื่อให้รัฐบาลดูเลวร้ายที่สุดในสายตาของชาวบ้าน หรือว่าชาวโลก

เราลองมานึกดูว่า ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายไม่ชอบใจรัฐบาล สารพัดวิธีที่จะประท้วงก็มี แต่ไม่ใช่บุกไปยังพระบรมมหาราชวัง ซึ่งคนไทยเกือบทั้งหมดรับไม่ได้ ถ้าท่านตั้งใจขับไล่เฉพาะนายกรัฐมนตรี ป่านนี้สำเร็จไปนานแล้ว แต่ดูแล้วพยายามจะลากสถาบันเข้ามาโยงอยู่เสมอ ด้วยวัตถุประสงค์แอบแฝงที่มีผู้ชักจูงให้ทำอย่างนั้นด้วยความต้องการบางอย่าง


ดังนั้น...ถ้าหากว่าท่านทั้งหลาย มีเจ็บ มีตาย มีติดคุก สิ่งที่ท่านทั้งหลายทำ อาตมภาพอยากจะบอกว่าไม่ใช่เรื่องของวีรบุรุษ แต่เป็นเรื่องของคนโง่ที่โดนเขาจูงจมูกไป โดยปราศจากความคิดของตนเอง เพราะว่าในส่วนที่เราคิดว่าใช่นั้น เป็นแค่สงครามข่าวสารที่เขากรอกเข้ามาในสมองของเรา..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-08-2021 เมื่อ 02:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 07-08-2021, 23:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,127
ได้รับอนุโมทนา 4,404,751 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อาตมภาพเคยเรียนทหารมาก่อน วิชาข่าวกรองและการต่อต้านข่าวกรอง โดยเฉพาะการปฏิบัติการทางจิตวิทยา มองทีเดียวก็รู้ว่าอะไรเป็นอะไร อย่างช่วงสมัยที่เป็นวัยรุ่น มีการปฏิวัติ ทางฝ่ายที่จะสูญเสียอำนาจก็ประกาศทางวิทยุว่า ตอนนี้มีบุคคลมาสนับสนุนฝ่ายตนให้เป็นรัฐบาลต่อไปเป็นจำนวนมาก ถ้าหากว่าพี่น้องทั้งหลายไม่เชื่อ ให้ออกมาดูด้วยสายตาตัวเอง ออกไปเมื่อไรก็กลายเป็นผู้สนับสนุนเขาเมื่อนั้น..!

เรื่องพวกนี้จะว่าไปแล้ว ถ้าเรารู้จักคิด ใช้ปัญญาวิเคราะห์แยกแยะ จะเห็นว่าสิ่งที่เขาทำนั้น จะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมน้อยมาก แต่ว่าเป็นประโยชน์ต่อส่วนตัวเขามากกว่า แล้วเรายังจะโง่ไปช่วยให้คนอื่นเขาร่ำรวย โดยที่ตัวเราเองอาจจะบาดเจ็บล้มตายอยู่อีกหรือ ? ถ้าหากว่าเรามีรัก โลภ โกรธ หลงที่เบาบางลง จะโดนคนหลอกได้ยาก


ระยะนี้มีคนตั้งใจหลอกอาตมภาพหลายราย..แต่ยังไม่สำเร็จ ล่าสุดนี่โทรมาบอกว่า "ผมเป็นนักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ เคยมากับรถทัวร์ มาทำบุญที่วัดท่าขนุน หลวงพ่อจำผมได้ไหม ? หลวงพ่อให้เบอร์โทรผมเอง" ก็บอกว่า "จำได้..แล้วโยมโทรมาต้องการอะไร ?" "ตอนนี้ผมติดอยู่ที่หัวหิน..เงินหมด อยากจะให้หลวงพ่อช่วยโอนเงินให้หน่อย เดี๋ยวกลับบ้านไปแล้วจะโอนคืนมาให้"

ก็เลยบอกว่า "ถ้าหากว่าโยมเคยมาวัดท่าขนุนจริงก็น่าจะรู้ว่าวัดอยู่ในป่า กว่าจะไปถึงธนาคารยากลำบากมาก แล้วจะไปโอนเงินให้โยมได้อย่างไร ? ยิ่งระยะนี้เขากักตัวไว้ ไม่ให้ออกไปไหน เพราะว่าเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ระบาด..!" ตกลงว่าใครหลอกใครก็ไม่รู้ ? เขาก็เลยต้องวางหูไป

บางรายก็โทรมาบอกว่า เจ็บไข้ได้ป่วยอยู่ในโรงพยาบาล อยู่ในห้องไอซียู จะตายแหล่ไม่ตายแหล่อยู่แล้ว มีสมบัติอยู่ในบ้านเป็นโต๊ะ ตู้ เตียง พวกชุดมุกทั้งนั้น ลูกหลานก็ไม่มี ตั้งใจจะถวายวัดพร้อมกับรถตู้คันหนึ่ง แต่เนื่องจากว่าป่วย เข้าโรงพยาบาลอยู่ ไม่มีใครดูแล รถตู้ก็เลยไม่สามารถที่จะใช้งานได้ ต้องซ่อมก่อน มีค่าซ่อมอยู่สองหมื่นสามหมื่นบาท แล้วแต่เขาจะบอก แล้วตอนนี้ก็โทรสั่งให้คนงานขนพวกชุดมุกต่าง ๆ ขึ้นรถบรรทุกอยู่ รบกวนหลวงพ่อโอนเงินค่ารถให้สัก ๘,๐๐๐ บาท เพื่อที่เขาจะได้ไปส่งที่วัด

ไอ้ลูกไม้นี้หากินบ่อยมาก อาตมาบอกว่า "วัดไหนอยู่ใกล้บ้าน โยมก็ให้เขาไปส่งที่วัดนั้นแหละ ทางวัดท่าขนุนไม่มีที่เก็บของพวกนี้..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-08-2021 เมื่อ 02:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 07-08-2021, 23:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,127
ได้รับอนุโมทนา 4,404,751 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อีกรายหนึ่งโทรมา บอกว่าเป็นรองสมเด็จพระสังฆราชจากประเทศลาว ตอนนี้มาทำธุรกรรมการเงินอยู่ที่จังหวัดหนองคาย หลวงพ่อเล็กทำงานคณะสงฆ์มาก อยากจะสนับสนุน ขอเบอร์บัญชี ขอหมายเลขบัตรประชาชน ก็เลยบอกว่า "คุณ..ถ้าจะแหกตาใคร โปรดหาข้อมูลให้ดีก่อน ประเทศลาวไม่มีสมเด็จพระสังฆราช แล้วคุณจะเป็นรองสมเด็จพระสังฆราชได้อย่างไร ?"

ท่านทั้งหลายจะเห็นว่าเรื่องพวกนี้ ถ้าหากว่า รัก โลภ โกรธ หลง ในใจของเราน้อย โอกาสที่เขาจะหลอกเราได้จะมีน้อยมาก แล้วตอนนี้เรื่องการหลอกแบบนี้ก็น้อย แต่ไปหลอกในสื่อโซเชียลแทน อย่างเช่นอยู่ ๆ ก็มีข้อความว่ามีเงินเข้าบัญชีของคุณจำนวนเท่านี้ แล้วก็ขอรายละเอียดบัญชี ขอที่อยู่ ขอเบอร์โทรศัพท์ ท้ายสุดก็ขอหมายเลขบัตรประชาชน เพื่อเป็นการยืนยันว่าคุณเป็นเจ้าของบัญชีจริง อย่าเผลอไปให้เชียวนะ ตายอย่างเดียว..! ถ้ามีเงินในบัญชี ก็อาจจะไม่เหลือสักบาทเดียว..!

บางรายก็โทรมาบอกข่าวดี อย่างอาตมภาพเองเคยถูกล็อตโต้มาแล้ว ๒ ครั้ง ครั้งแรก ๓ ล้านดอลล่าร์ ครั้งที่สอง ๒ ล้านดอลล่าร์..! บอกว่าต้องเสียค่าธรรมเนียมในการโอนเงินระหว่างประเทศเท่านี้แสน เท่านั้นแสน ให้รีบโอนเข้าไป ถ้าพ้นเวลานี้แล้วจะเสียสิทธิ์ "ก็กูไม่เคยซื้อล็อตโต้ แล้วกูจะถูกได้อย่างไร ?" เขาบอกว่าเป็นบริการพิเศษที่สุ่มเลือกจากเบอร์โทรศัพท์ของเรา ฟังดูก็เข้าท่า แต่อาตมาไม่อยากได้ โยมไปสุ่มคนอื่นต่อไปก็แล้วกัน..!

ฉะนั้น...ส่วนที่อยากจะย้ำเตือน ไม่ว่าจะพระภิกษุสามเณร หรือว่าญาติโยมที่อยู่ทางบ้าน หรืออยู่ที่วัดก็ตาม ฟังอะไรอย่าเพิ่งเชื่อ ปัจจุบันนี้ข่าวคราวมีเยอะ และหาได้ง่ายมาก แต่กลับมีความเป็นจริงน้อยเหลือเกิน เพราะว่าทุกคนจะบอกเฉพาะในส่วนที่เป็นประโยชน์แก่ตนเท่านั้น ไม่ใช่ส่วนที่เราควรจะรู้อย่างแท้จริง พึงยับยั้งชั่งใจว่า สิ่งที่ท่านทั้งหลายทำนั้น ผิดพระธรรมวินัย ผิดกฎหมายบ้านเมือง หรือผิดจารีตประเพณีหรือเปล่า ? จะได้ไม่เกิดโทษแก่ตนเอง

อย่างเช่นวันนี้มีอาจารย์ มจร. ท่านหนึ่งเสนอว่า วันพระใหญ่คือพรุ่งนี้ ให้จัดระบบการสวดปาฏิโมกข์ผ่านซูมมีตติ้ง กระผม/อาตมภาพต้องรีบท้วงทันทีว่า การสวดปาฏิโมกข์เป็นสังฆกรรม ต้องอยู่ในหัตถบาสคือช่วงมือเอื้อมถึงเท่านั้น ไม่เช่นนั้นแล้ว สังฆกรรมนี้ก็ไม่สำเร็จผล อานิสงส์ที่จะพึงได้ก็ไม่มี

ดังนั้น...บางอย่างเราจะไปคิดฟุ้งซ่านอย่างเดียว โดยที่ว่าจะทำโน่นทำนี่..สะดวกดี พระไม่ต้องมาชุมนุมรวมกันให้เชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ระบาด จัดสวดปาฏิโมกข์ออนไลน์ ฟังดูแล้วเท่มาก แต่ว่าบุพกิจในปาฏิโมกข์เป็นอย่างไร ? การมอบฉันทะจะมอบอย่างไร ? การที่ต้องอยู่ในเขตหัตถบาส อยู่ในสีมา ต้องทำอย่างไร ? ท่านกลับไม่ได้คิดถึง ยังดีที่ท่านยอมรับการทักท้วงตรงนี้ ไม่อย่างนั้นแล้ว ดีไม่ดีจะมีการสวดปาฏิโมกข์ออนไลน์ระบาดไปทั่วคณะสงฆ์ก็เป็นได้..!

รบกวนเวลาของทุกท่านมามากแล้ว ก็ขอยุติลงแต่เพียงเท่านี้


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๗ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 08-08-2021 เมื่อ 23:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 45 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 01:16



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว