เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๓ เมษายน ๒๕๖๖

[พิชวัฒน์]

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๓ เมษายน ๒๕๖๖

[เถรี]

วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๓ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๖ อีกสองวันญาติก็มาเยี่ยมสามเณรได้แล้ว แต่วันนี้หลวงพ่องานหนักหน่อย ตั้งแต่เช้าต้องไปปลุกเสกวัตถุมงคลให้กับท่านเจ้าคุณดำเนิน - พระปริยัติวโรปการ (ดำเนิน จิตฺตโสภโณ ป.ธ.๖) เจ้าอาวาสวัดนาคกลางวรวิหาร เพื่อนร่วมรุ่นพระอุปัชฌาย์ ท่านทำเหรียญพระปัจเจกพุทธเจ้ามหาลาภ ก็เลยนิมนต์ไปเสกให้ท่าน

หลังจากนั้นก็ไปเสกวัตถุมงคลให้กับพระครูสิทธิวัฒนคุณ (พรพรหม ฐิตคุโณ) ที่ปรึกษาเจ้าคณะเขตตลิ่งชัน เจ้าอาวาสวัดกระจัง พร้อมกับเบิกเนตรสมเด็จองค์ปฐม พระประธานในศาลาปฏิบัติธรรมวัดกระจัง ที่กระผม/อาตมภาพได้ไปสร้างไว้ให้กับท่าน ทั้งท่านเจ้าคุณพระปริยัติวโรปการ กับพระครูสิทธิวัฒนคุณ เป็นเพื่อนร่วมรุ่นพระอุปัชฌาย์ทั้งคู่

ความจริงแล้วก่อนหน้านี้ กระผม/อาตมภาพปิดบังตัวเองเรื่อยมา ไม่อยากงานมาก ถ้าหากว่านึกถึงสมัยพุทธกาลในมหาปุริสวิตก ๘ ประการ ของพระอนุรุทธเถระ มีข้อหนึ่งที่ว่า ขอเขาจงอย่าได้รู้ว่าเราเป็นอย่างนี้เลย ก็คืออย่าให้เขารู้เลยว่าเราเป็นใคร รู้แล้วเรื่องมาก อย่างญาติโยมวันนี้ก็มานั่งถาม "แม่ที่ป่วยจะหายไหมคะ?" "ชีวิตดิฉันตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างคะ ?" ขนาดชีวิตตัวเองยังต้องไปถามคนอื่น ตัวเองน่าจะรู้ดีที่สุดว่าชีวิตเป็นอย่างไรบ้าง ฟังแล้วเซ็งเป็ด..! ก็ไม่รู้เหมือนกันทำไมถึงต้องเซ็งเป็ดด้วย..!

หรือไม่ก็ถ้าหากว่ามาในยุคปัจจุบัน หลวงปู่จันทร์ กุสโล ตอนนั้นท่านเป็นพระเทพกวี อยู่วัดป่าดาราภิรมย์ ตอนหลังเลื่อนขึ้นเป็นรองสมเด็จพระราชาคณะ ที่พระพุทธพจนวราภรณ์ มาครองวัดเจดีย์หลวง จังหวัดเชียงใหม่ ท่านบอกว่า "ถ้าอยากดัง ก็อย่าหวังความสงบ"

แต่คราวนี้แม้ว่าจะปิดขนาดไหนก็ตาม ท้ายสุดก็ต้องมีคนรู้ เพราะว่าสมัยนี้สื่อโซเชียลไปเร็วมาก พอมีคนรู้เข้า คราวนี้ก็บรรลัยแหละครับ..ท่านทั้งหลาย เพราะว่ากระผม/อาตมภาพมีเพื่อนร่วมรุ่นเยอะมาก ทั้งเพื่อนร่วมรุ่นพระธรรมทูต เพื่อนร่วมรุ่นนักเทศน์ เพื่อนร่วมรุ่นเรียนปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอก เพื่อนร่วมรุ่นพระอุปัชฌาย์ เพื่อนร่วมรุ่นอบรมเจ้าอาวาส ยังไม่ต้องไปคิดถึงอย่างอื่น ทุกคนพอรู้เข้าก็ "ใช้งานท่านประธานนี่แหละ..!" ส่วนใหญ่แล้วกระผม/อาตมภาพจะเป็นประธานรุ่นมาตลอด ไม่รู้เหมือนกันว่าดวงแบบนี้เกิดขึ้นมาจากอะไร ?

[เถรี]

แม้กระทั่งประธานรุ่นพระอุปัชฌาย์ก็เหมือนกัน ตอนนั้นเขาเสนอชื่อหลวงพ่อพระครูโสภิตปัญญากร (เชาวลิตร ชิตงฺกุโร) เจ้าอาวาสวัดป่าประดู่ (พระอารามหลวง) เจ้าคณะอำเภอเมือง จังหวัดระยอง มีคนยกมือสนับสนุนเกือบ ๕๐ รูป เสนอชื่อท่านเจ้าคุณชำนาญ - พระมงคลวโรปการ (ชำนาญ อุตฺตมปญฺโญ) วัดชินวราราม วรวิหาร ก็มีคนยกมือเกือบ ๕๐ รูป ปรากฏว่ามีคนเสนอชื่อกระผม/อาตมภาพคนเดียว..!

คราวนี้เขาต้องการประธานรุ่น ๑ รูป รองประธาน ๒ รูป ที่ประชุมก็เลยบอกว่า "ให้ ๓ คนที่ได้รับการเสนอชื่อไปคุยกันเอง ว่าใครจะเป็นตำแหน่งไหน ?" พอเข้าไปในห้อง หลวงพ่อเชาวลิตร (พระครูโสภิตปัญญากร) ท่านก็บอกว่า "ผมจะสละสิทธิ์นะ จะให้พระครูสุธีปริยัตยาภรณ์ (สมพงค์ อุทโย ป.ธ.๗) วัดชุมพลนิกายาราม เจ้าคณะอำเภอบางปะอิน เจ้าอาวาสพระอารามหลวง ท่านเป็นแทน"

หลวงพ่อเจ้าคุณชำนาญ ซึ่งตอนนั้นอยู่วัดบางกุฎีทอง บอกว่า "ไม่เอาครับ ถ้าไม่ใช่หลวงพ่อเล็ก ผมไม่เอาคนอื่น..!" สรุปแล้วปรากฏว่าคนที่มีเสียงสนับสนุนเสียงเดียวกลายเป็นประธานรุ่น..! ที่ได้รับเสียงสนับสนุน ๔๐ - ๕๐ เสียง เป็นรองประธานไป โดยเฉพาะในรุ่นของพระอุปัชฌาย์ มีเจ้าคุณอยู่ ๘ รูป รวมทั้งท่านเจ้าคุณดำเนินด้วย มีรองเจ้าคณะภาคอยู่ ๔ รูป แต่ปรากฏว่าทุกรูปบอกว่า "เอาคนทำงาน" ในเมื่อที่ประชุมจะเอาคนทำงาน กระผม/อาตมภาพก็เถียงเขาไม่ได้

แต่ว่าไปปลุกเสกที่วัตถุมงคลที่วัดนาคกลาง ต้องบอกว่าเป็นอะไรที่สบายใจมาก เพราะว่าท่านเจ้าคุณดำเนินทำเป็นรูปพระปัจเจกพุทธเจ้า ด้านหลังเป็นพระคาถาเงินล้าน ซึ่งกระผม/อาตมภาพได้รับคำสั่งให้ภาวนาพระคาถาเงินล้านวันละ ๑๐๘ จบมาเป็นอาทิตย์แล้ว..ได้ใช้งานพอดี..!

คราวนี้พอไปที่วัดกระจัง ความจริงพระครูพรพรหมท่านนิมนต์ให้ไปเบิกเนตรพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐมอย่างเดียว แต่ปรากฏว่าพอได้ยินว่าวัดนาคกลางนิมนต์ไปปลุกเสกวัตถุมงคล วัดกระจังก็เอาบ้าง ขนอะไรมาไม่ทัน ก็เข็นตู้วัตถุมงคลทั้งวัดมาไว้ตรงนั้นเลย..ง่ายดี..! เรื่องพวกนี้บางทีก็กระผม/อาตมภาพก็ต้อง "ตกกระไดพลอยโจน" แข้งขาหัก..!

[เถรี]

โดยเฉพาะธรรมเนียมการเบิกเนตรพระพุทธรูป กระผม/อาตมภาพไม่เห็นว่ามีความจำเป็นที่จะต้องทำ อย่าลืมว่า พุทธะ แปลว่า ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ในเมื่อท่านตื่นแล้ว ก็แปลว่าลืมตาอยู่แล้ว ยังต้องไปเบิกเนตรอะไรอีก ? มีแต่พวกเรานี่แหละควรที่จะเบิกเนตรตัวเองให้กว้าง ๆ เข้าไว้ จะได้รู้ว่าอะไรดี อะไรชั่ว อะไรผิด อะไรถูก ไม่ใช่ดีชั่วรู้หมด แต่อดไม่ได้..!

สำหรับวันนี้ ก็ยังมีผู้ดวงดีมาให้กระผม/อาตมภาพ "แบน" ตายแหงแก๋คาเว็บไซต์วัดท่าขนุนไปอีก ก็คือ "ตลาดวายแล้ว" สำนวนนี้ต้องรุ่นเก่าจริง ๆ รุ่นต่อมาเขาบอกว่า "หนังเลิกแล้ว" รุ่นปัจจุบันเขาบอกว่า "มันจบแล้วครับนาย..!" เขาจองกันจนเลิกจองไปแล้ว เพิ่งจะโผล่มาจอง ถือว่า "ไม่ดูตาม้าตาเรือ" ไม่สมควรที่จะเป็นสมาชิกเว็บไซต์วัดท่าขนุน กระผม/อาตมภาพก็เลย "แบน" ตลอดชีวิตไปเลย

เรื่องพวกนี้พวกเราควรที่จะระมัดระวังเป็นอย่างสูง ทำอะไรควรที่จะ "ดูตาม้าตาเรือ" บ้าง ไม่ใช่ถึงเวลาเขาทำอะไรกัน เราไปถึงก็ "ทะลุกลางปล้อง" รู้จักทะลุกลางปล้องไหม ? คือตาไม้ไผ่มักจะขึ้นตามข้อ กลางปล้องไม่มีอะไร เรียบ ๆ ลื่น ๆ ถ้าอยู่ ๆ ไปทะลุกลางปล้อง ก็แปลว่าไม่เหมือนกับชาวบ้านเขา ไอ้คนที่ไม่เหมือนกับชาวบ้านเขา อยู่ ๆ ก็โผล่ไปเป็นเป้า ปัจจุบันนี้คือ "ตำบลกระสุนตก" ไหน ๆ ก็จะเป็นตำบลกระสุนตกแล้ว กระผม/อาตมภาพจึง "แบน" ให้ตายคาที่ไปเลย ไม่ต้องเสียเวลาให้คนอื่นเขามาลงไม้ลงมือ..!

ญาติโยมทั้งหลายที่จองพระสมเด็จคำข้าววัดท่าขนุนไปแล้ว ถ้าใครไปปฏิบัติธรรมที่วัดท่าขนุนช่วงสงกรานต์ สามารถรับได้ในวันที่ ๑๕ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๖ ซึ่งเป็นวันแห่พระพุทธรูปทองคำไปสรงน้ำ

ปีนี้ทางวัดท่าขนุนจัดสงกรานต์เต็มรูปแบบ ไม่ย่อแล้ว ก็คือมีทั้งสรงน้ำเจ้าอาวาส สรงน้ำหลวงปู่พุก หลวงปู่สาย สรงน้ำพระพุทธรูปทองคำ มีอุ้มพระอุ้มเณรสรงน้ำ สามเณรท่านใดถ้าหากว่าไม่สึกเสียก่อนภายในวันที่ ๑๐ นี้ ก็อยู่ให้เขาอุ้มสรงน้ำไปก่อน ถ้าหากว่ารอไม่ได้ ทนไม่ไหว ก็สึกหาลาเพศไปวันที่ ๑๐ แต่ต้องอาราธนาศีล อาราธนาธรรม อาราธนาพระปริตร และปฏิญาณตนเป็นพุทธมามกะได้ก่อนนะ..! ใครท่องไม่ได้ก็อยู่ไปเรื่อย ๆ จนกว่าที่จะท่องได้ถึงจะได้สึก "กูไม่น่าเข้ามาบวชเลย...!"

[เถรี]

ส่วนใครที่ท่องได้แล้วก็สบาย..หากินได้ทุกปี เพราะว่าถ้าท่องได้อย่างหนึ่งก็เอาไป ๕๐๐ บาท สองอย่างก็ ๑,๐๐๐ บาท สามอย่างก็ ๑,๕๐๐ บาท ครบสี่อย่าง รับทุนการศึกษาไปเลย ๒,๐๐๐ บาท แต่ไม่ค่อยจะเห็นว่าเอาไปใช้เป็นทุนการศึกษาเลย เอาไปเล่นเกมเสียมากกว่า..! ก็ตามใจพ่อเจ้าประคุณเถอะ..เพราะว่ากระผม/อาตมภาพให้ไปแล้ว

ถ้าหากว่ามีสามเณรเจ็บไข้ได้ป่วย ให้รีบบอกพระพี่เลี้ยง จะได้จ่ายยาได้ทัน อย่าทำตัวเป็นเด็กกลัวยา ถึงเวลากินยา นอกจากรักษาตัวเองแล้ว ยังช่วยรักษาเพื่อนด้วย เพื่อนจะได้ไม่เจ็บไข้ได้ป่วยตามเราไป แล้วสิ่งต่าง ๆ ที่พระวิทยากรหรือพี่เลี้ยงสอนก็จดจำเอาไว้บ้าง เผื่อได้เอาไปใช้งานในวันข้างหน้า ไม่ใช่ฟังเข้าหูซ้าย ทะลุหูหมา..! ถ้าลักษณะอย่างนั้น บวชมาก็ไม่ได้อะไร

แต่ก็ต้องขอบใจสามเณรทุกรูป เพื่อนฝูงในกลุ่มไลน์เขาชมมาว่า "สามเณรวัดท่าขนุนเรียบร้อยมาก นั่งเป็นแถวตรงเป๊ะเลย" แต่หลวงพ่อเห็นว่านั่งกันเป็นงูเลื้อย..! แสดงว่าตอนที่เขาถ่ายรูปนี่ ตั้งท่าให้ถ่าย..ใช่ไหม ? เอาเถอะ..เพื่อนเขาชมมาแล้วก็รับ ๆ เอาไว้ก็แล้วกัน..!

การบวชของสามเณร เราบวชถวายพระราชกุศลแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงเจริญมายุ ๖๘ พรรษา เราจะถวายอะไรเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน ก็ต้องเป็นของที่ดีที่สุด ในเมื่อสามเณรตั้งใจบวชมาถวายกุศล ก็ต้องทำให้ดีที่สุด จะเดินจงกรม จะภาวนาก็ให้ตั้งใจ จะศึกษาศาสนพิธี ท่องคำอาราธนาศีล อาราธนาธรรมอะไร ก็ให้ตั้งใจ ทำให้ดีที่สุด ถึงเวลาเราจะได้เอาของดีที่สุด ถวายให้กับพระองค์ท่านไปตามที่ได้ตั้งใจเอาไว้

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๓ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)