|
เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#81
|
||||
|
||||
"ช่วงนี้พระวัดท่าขนุนผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันอยู่เวร อยู่เวรกันเป็นชุด เพราะว่ามีอะไรจะได้ช่วยเหลือกัน อาตมาซื้อสป็อตไลท์ ๑ ล้านแรงเทียนไปให้เป็นคู่มือ เอาไว้สอดส่องดูแลความปลอดภัยของวัด เวรสุดท้ายไม่ต้องออกบิณฑบาต ก็แปลว่าจะมีพระขาดบิณฑบาตวันละ ๓ รูป คือเข้าเวร เวรละ ๓ รูป เดินตรวจตราหมุนเวียนกันทั่ววัด
ภาษิตจีนบอกว่า "จิตใจทำร้ายคนไม่ควรมี แต่จิตใจระวังคนอย่าได้ประมาทละเลย" หลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านก็บอกว่า "คนเราถ้าไม่มีโอกาสเขาไม่ขโมย บางทีเราไปเปิดโอกาสให้เขาขโมยเอง" อย่างเช่นว่าวางของมีค่าล่อตาล่อใจ หรือว่าลืมปิดประตูหน้าต่าง เปิดบ้านทิ้งเอาไว้ เพราะฉะนั้น...บางทีตัวเราก็กลายเป็นเป็นสาเหตุให้สูญเสียทรัพย์สินเอง"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-03-2021 เมื่อ 07:24 |
สมาชิก 178 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#82
|
||||
|
||||
"แม้ว่าวัดท่าขนุนจะมีระบบเซ็นเซอร์ด้วยไฟฟ้าถึง ๘ จุด ถึงเวลาอะไรที่โตประมาณหนูผ่านเข้าไป ก็จะมีเสียงดังสนั่นหวั่นไหว พระเณรวัดท่าขนุนโดนปรับไปหลายทีแล้ว เพราะว่าใหม่ ๆ เผลอยื่นมือเข้าไป โดนปรับให้จ่ายค่าไฟครั้งละ ๑๐๐ บาท เสียเงินบ่อย ๆ จะได้มีสติขึ้นมา แล้วจะได้ไม่พลาดอีก
สำหรับพระเณรในวัดไม่เป็นไรหรอก เกรงใจตำรวจเขาเท่านั้น สัญญาณภัยดังแต่ละที ตำรวจต้องวิ่งกันตับแลบ ใหม่ ๆ ผู้กำกับคนเก่าบอกว่า "หลวงพ่อ..หลวงพ่อสร้างพระทองคำนั้นดีกับวัด แต่พวกผมเหนื่อยขึ้นเยอะเลย" ท้ายสุดก็จัดสายตรวจหมุนเวียนกันมาวันละ ๖ รอบ มาเซ็นตู้แดง ขับมอเตอร์ไซค์วนเวียนรอบวัด แล้วมีเวรยามของเราเสริมเข้าไป ตอนนี้เขาบอกว่าระบบป้องกันของวัดท่าขนุนไม่กลัวการโจรกรรม แต่กลัวการบุกปล้นซึ่ง ๆ หน้า ก็คือถ้าสมมุติว่าเขาแบกอาวุธสงครามมาถึง เดินลุยอาด ๆ เข้ามาเลย แต่อาตมาบอกว่าวัดท่าขนุนไม่กลัวการปล้นซึ่งหน้า เพราะมั่นใจว่าไม่มีใครแบกหลวงพ่อทองคำไหว..!"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-03-2021 เมื่อ 07:25 |
สมาชิก 184 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#83
|
||||
|
||||
"เป็นเรื่องแปลกมากว่า ถ้าเป็นคนน้ำหนัก ๕๐ กิโลกรัม..เราอุ้มได้สบาย แต่พอเป็นทองคำ ๕๐ กิโลกรัม..เรายกไม่ขึ้น เพราะว่าน้ำหนักทองคำจะถ่วงลงจุดเดียว เฉลี่ยไม่ได้ ทองคำเป็นโลหะที่มีจุดศูนย์ถ่วงที่ลงตรง ๆ อย่างเดียวเลย เพราะฉะนั้น..แค่หลวงพ่อพระพุทธลีลาประทานพร องค์เล็กหนัก ๓๐ กว่ากิโลกรัม อาตมายังแบกแทบตายกว่าจะเอาขึ้นไปประดิษฐานบนมณฑปได้ เพราะฉะนั้น...ใครจะปล้นซึ่งหน้า ก็ไปแบกเอาเลย ถ้าแบกไปได้ก็สาธุ...! แค่องค์เล็กเอาให้รอดเถอะ ไม่ต้องไปพูดถึงหลวงพ่อทองคำองค์ใหญ่
ตอนนี้ทางวัดกำลังเล็งรอจังหวะซื้อทองอีกรอบหนึ่ง คราวนี้จะเอาไว้เป็นทุนสำรองของวัด ถึงเวลาค่าเงินตก แต่ทองราคาไม่ตกหรอก ราคาเงินตกทองก็แพงขึ้น เพียงแต่เขาบอกว่าทองเป็นทรัพย์สินที่ไม่ก่อรายได้ ซื้อมาก็ทิ้งให้นอนอยู่เฉย ๆ บางคนก็เลยนิยมเอาเงินไปหมุนทำอย่างอื่นดีกว่า"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-03-2021 เมื่อ 07:28 |
สมาชิก 180 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#84
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "ถ้าหากว่ามีภาชนะอะไร ก็ตุน ๆ น้ำเอาไว้บ้างนะ อีกเดือนเดียวก็จะแล้งสาหัสแล้ว เดี๋ยวต้องเดือดร้อนเทวดากวาดฝนมาให้ เอามาลงให้เรา ที่อื่นก็หมด ทรัพยากรมีน้อย โดยเฉพาะดินฟ้าอากาศที่เปลี่ยนไป อาจจะมีฤดูหนาวที่ยาวนานขึ้นเรื่อย ๆ ในซีกโลกตะวันตก ต้องบอกว่าน่าสงสารมาก เพราะว่ายิ่งหนาวนาน พืชผักอะไรก็ไม่มี ถ้าไม่มีทรัพยากรอื่นไปซื้อขายแลกเปลี่ยน ดีไม่ดีก็ได้อดตายกันบ้าง
อาตมาไปดูมาหลายปีแล้วในส่วนที่หลวงปู่ หลวงพ่อ หรือพระท่านเคยบอกไว้ เกี่ยวกับการที่ขั้วโลกขยับเปลี่ยนทิศ ทำให้ภูมิอากาศเปลี่ยนไปด้วย วันก่อนท่านให้ดูลมกรด โบราณเรียกว่า ลมกรด ไม่รู้ว่าในปัจจุบันนี้เขาเรียกว่าอะไร เป็นพายุอยู่ในระดับชั้นบรรยากาศสูง ๆ โน่น ผลกระทบโดยตรงกับโลกเรายังไม่มาก แต่ผลกระทบกับพวกโลกทิพย์มีมาก เพราะว่าถ้าสภาพของกายทิพย์ไม่แข็งแกร่งพอ ก็ไม่สามารถที่จะฝ่าผ่านไปได้ ต้องโดนบดทำลาย ทำลายได้แม้แต่กายทิพย์เขาเลยเรียกว่าลมกรด ฟังดูแล้วก็บ้าดีนะ เอาไว้ญาติโยมค่อย ๆ ไปหาเอาก็แล้วกัน ว่าหน้าตาลมกรดเป็นอย่างไร"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-03-2021 เมื่อ 07:30 |
สมาชิก 190 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#85
|
||||
|
||||
ถาม : เรื่องวิบากกรรม....?
ตอบ : เกิดได้ทุกที่ทุกทาง ถ้ามีโอกาสเขาเอาหมด ถาม : วิบากส่งผลในด้านไม่ดีไม่ใช่หรือครับ มีด้านดีด้วยหรือไม่ ? ตอบ : นั่นเขาเรียกว่ากุศลวิบาก คือการส่งผลด้านดี ส่งผลให้ไปเป็นเทวดา เป็นนางฟ้า เป็นพรหม คุณใช้แค่คำว่า วิบาก ที่คุณว่ามาคืออกุศลวิบาก คือการส่งผลในด้านไม่ดี อาตมาเป็นคนตรง ถามแค่ไหนก็ตอบแค่นั้น ถาม : ถ้าบอกว่า ทุกวันนี้มนุษย์มีวิบาก ? ตอบ : แล้วมีมนุษย์ที่ไหนมีความสุขมากกว่าเทวดาบ้างไหม ? ถาม : (ไม่ได้ยิน) ตอบ : นั่นหมายความว่าคุณต้องรักษาความดีให้ต่อเนื่องอยู่ได้ พลาดลงมาเมื่อไรก็โดนอยู่ดี เพราะเจ้าหนี้ไม่ได้ไปไหน เจ้าหนี้ยังรออยู่ ดูตัวอย่างก็คืออรูปพรหม ขึ้นไปเสวยสุขจากอำนาจฌานสมาบัติ ๒๐,๐๐๐ กัป ๔๐,๐๐๐ กัป ๖๐,๐๐๐ กัป ๘๔,๐๐๐ กัป คราวนี้ด้วยความที่มีแค่ดวงจิต ไม่ได้มีอายตนะ ไม่สามารถที่จะสร้างกุศลเพิ่มเติมได้ ถึงเวลาหมดบุญ ส่วนใหญ่ก็ลงข้างล่างยาวเลย สำคัญตรงที่ว่าถ้าหากจะหนีกรรม ก็ต้องสร้างความดีให้ต่อเนื่องเข้าไว้ ไม่อย่างนั้นเผลอเมื่อไรก็โดนเอาคืน..! ถาม : ถ้าเป็นเทวดาที่มีความเป็นทิพย์อยู่แล้ว รู้อยู่ว่าจะมีกรรมอะไร ? ตอบ : ส่วนหนึ่งก็เพลิดเพลินอยู่กับความเป็นทิพย์นั่นแหละ จนลืมเรื่องอื่นหมด จะรู้ตัวอีกทีก็จุติแล้ว ตอนนั้นพอความซวยมาเยือนก็ทำอะไรไม่ทันแล้ว
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-03-2021 เมื่อ 08:32 |
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#86
|
||||
|
||||
ถาม : จิตเดิมแท้ จิตประภัสสร คือจิตที่เราต้องฝึกและไปให้ถึงจุดนั้นใช่ไหมคะ ?
ตอบ : จุดนั้นเทียบเท่าพรหมชั้นที่ ๖ จิตเดิมแท้ของเราเทียบเท่ากับพรหมชั้นที่ ๖ เท่านั้น ไม่เกินนั้น ถ้าอยากไปแค่นั้นก็เอา ถาม : ที่เราฝึกสติกัน พูดง่าย ๆ ก็แค่นั้นหรือคะ ? ตอบ : นั่นแสดงว่ายังไม่รู้ว่าจิตเดิมแท้มีสภาพแค่ไหน จิตเดิมแท้ความสะอาดบริสุทธิ์เท่ากับพรหมชั้นที่ ๖ เท่านั้น ต้องขัดเกลาให้มากกว่านั้น ถึงจะไปสูงกว่านั้นได้ ถาม : แล้วสภาพจิตที่ยกไปกราบพระบนพระนิพพาน จะสูงกว่าจิตเดิมแท้ใช่ไหมคะ ? ตอบ : ถ้าไปพระนิพพานได้..สูงกว่า เพราะว่าอย่างน้อยจะเท่ากับพรหมชั้นที่ ๑๑ แต่ความสะอาดจะเท่าเทียมพระโสดาบัน ถ้าเป็นสายธรรมกาย หลวงปู่สดท่านเรียกว่า กายโสดาปัตติผล ถาม : จิตกับกาย อยู่ในส่วนต่างกันไหมครับ ? ตอบ : ถ้าปัญญาพอ ก็จะเห็นชัดเจนว่าจิตกับกายเป็นคนละส่วนกัน ในเมื่อร่างกายไม่ใช่ของเรา แล้วจะไปสนใจไยดีอะไรกับร่างกาย ก็เกิดกับร่างกายชาตินี้ชาติเดียว ถาม : ก็คือ ร่างกายทำไปตามหน้าที่ ? ตอบ : ทำไปตามหน้าที่ของเรา หมดหน้าที่เมื่อไรก็ไปพระนิพพาน ต้องตั้งเป้าให้ชัดเจนเอาไว้
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-03-2021 เมื่อ 08:34 |
สมาชิก 157 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#87
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "เรื่องของเหรียญสมเด็จองค์ปฐมมหาสะท้อน ไม่ว่าจะเนื้อเงินหรือทองคำ เขาก็ประกาศชัดในเว็บแล้วว่าเสร็จประมาณช่วงวันวิสาขบูชา ก็ยังอุตส่าห์มีคนเข้าใจว่ารับตอนนี้ได้ และโดยเฉพาะท่านที่จองเนื้อทองคำ อาตมาก็ประกาศชัดว่าให้เตรียมทองเอาไว้ ไม่ใช่บอกให้เอามาแลกวันนี้ได้ ก็เลยสงสัยว่าตัวเองพูดไม่รู้เรื่องมาตั้งแต่แรก หรือว่าคนอื่นฟังไม่รู้เรื่องกันแน่ ?"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-03-2021 เมื่อ 08:35 |
สมาชิก 167 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#88
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "ระยะนี้เริ่มมีการฉีดวัคซีน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-๑๙ แต่อาตมาดูแล้วบางทีเหมือนอย่างกับคนเราหลงทาง ไม่ว่าจะเป็นคนทั่วไปหรือว่าทางรัฐบาล เหมือนอย่างกับว่าฉีดวัคซีนไปแล้วจะไม่เป็นอะไรเลย ฉีดวัคซีนเข้าไปเพื่อให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมา ไม่ได้แปลว่าจะไม่รับเชื้อใหม่ ไม่ติดเชื้อใหม่ แต่ถ้าติดเชื้อ จะมีโอกาสรอดมากกว่าคนที่ไม่ได้ฉีดเท่านั้น
โดยเฉพาะวัคซีนทุกตัว ทำขึ้นมาด้วยความเร่งรีบมาก ลัดขั้นตอนไปหลายสิบขั้นตอน จากระยะเวลาที่วัคซีนแต่ละตัวกว่าจะทดลองจนมั่นใจก็อาจจะ ๕ ปี ๘ ปี ก็ลงมาเหลือในระยะเวลาประมาณ ๑๐ เดือนเท่านั้น เพราะฉะนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมฉีดแล้วมีคนตาย ฉีดแล้วมีคนป่วย ดังนั้น...ไม่ว่าใครได้รับการฉีดวัคซีนไปแล้ว ก็อย่าได้ประมาท เพราะว่าโรคนี้ยังอยู่กับเราไปอีกนาน ส่วนภูมิคุ้มกันจะอยู่กับเราแค่ระยะเดียวเท่านั้น อย่างสมัยก่อน เราฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ก็อยู่ได้ประมาณปีเดียว ถึงเวลาก็ต้องฉีดใหม่ แล้วประสบการณ์ของอาตมาที่ผ่านมาก็คือไม่ฉีดวัคซีนยังดีกว่า เพราะว่าฉีดวัคซีนเข้าไป เวลาติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ก็ยังมีอาการ แต่ว่าเป็นอาการที่ทรมานมาก เนื่องจากว่าปากแห้ง จมูกแห้ง มีไข้ เพียงแต่ไม่ไอและไม่มีน้ำมูกเท่านั้น เรื่องของโควิด-๑๙ ก็ลักษณะเดียวกัน สำคัญตรงที่พวกเราต้องรู้จักรักษาตัวเอง ไม่ใช่ว่าฉีดวัคซีนเข้าไปแล้วจะไม่เป็นอะไรเลย แม้กระทั่งรัฐบาลก็ทำท่าจะหลงทางว่า ซื้อวัคซีนมาแล้วทุกคนในประเทศไทยก็จะรอด ถ้าคิดอย่างนั้นโอกาสตายมีสูงมาก..! โรคภัยยังเต็มประเทศอยู่ แทนที่จะให้ความสนใจทางด้านนี้ ก็เริ่มต้นไปยุ่งกับกัญชาอีกแล้ว ไม่ว่าชาวบ้านจะเดือดร้อนลำบากขนาดไหนก็ตาม กูจะต้องไม่ลืมสร้างความร่ำรวยให้กับตัวเอง เป็นคนที่แน่วแน่ต่อจุดมุ่งหมายของตัวเองมาก น่าจะชวนมาปฏิบัติธรรม...!"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-03-2021 เมื่อ 15:49 |
สมาชิก 174 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#89
|
||||
|
||||
ถาม : หลวงพ่อคะเมตตา.... ? (ถามตอนหมดรอบเวลา)
ตอบ : กลับไปได้แล้ว พระพุทธเจ้าท่านไม่ได้สอนให้เมตตาอย่างเดียว ท่านสอนให้อุเบกขาด้วย ทุกอย่างต้องเอาระเบียบเป็นที่ตั้ง อย่ามาทำให้เขาเสียระเบียบ คนเป็นร้อยเป็นพันเขาอยู่ในระเบียบได้ แล้วเราเองจะมาอยู่นอกระเบียบคนเดียว ที่นี่ไม่มีใครได้สิทธิพิเศษ ยิ่งเป็นคนในยิ่งโดนหนัก..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-03-2021 เมื่อ 13:52 |
สมาชิก 160 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#90
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "การเจ็บไข้ได้ป่วยงวดนี้ มีความรู้เพิ่มขึ้นว่า แก่แล้วพยายามอย่าให้ป่วย เพราะว่าฟื้นยากมาก สามอาทิตย์ผ่านไปยังไม่มีเรี่ยวมีแรงจะขยับตัวเลย ขนาดเอาแต่กินและนอน ไม่ถึงเวลางานจริง ๆ ไม่ไป ก็มีแรงแค่ไปงานเสร็จแล้วกลับ กลับมาได้ก็สลบไสลต่อ เราจะเห็นว่าสภาพสังขารมีความเสื่อมเป็นธรรมดา ถ้าดูแลรักษาไม่ดี จะลำบากตอนแก่
อาตมาเองใช้สังขารร่างกายตอนหนุ่มหนักเกินไป โดยเฉพาะช่วงที่เป็นทหารอยู่ เมื่อถึงเวลาร่างกายทรุดโทรม ก็จะชำรุดมาก โดยเฉพาะหู ช่วงที่เป็นทหารอยู่ หมอตรวจว่าหูชำรุดไปประมาณ ๔๐ เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากยิงปืนมากเกินไป เพราะว่าสมัยนั้นไม่มีเครื่องป้องกันให้ ไม่ว่าจะปืนใหญ่ ไม่ว่าจะปืน ค. ถึงเวลาตูมมาก็เหมือนกับฟ้าผ่าข้างหูตัวเอง ประสาทหูจึงชำรุดหมด ยิ่งตอนที่ฝึกชิงตัวประกันในห้องแคบ ๆ ถึงเวลาเสียงปืนไรเฟิลจู่โจม ถ้าหากว่าคนทั่วไปจะไม่เข้าใจว่าดังแค่ไหน ถ้าเคยได้ยินเสียงปืนสั้นอย่าง .๓๘ ให้คูณไปเลย ๕ เท่าเป็นอย่างน้อย เพราะว่าความเร็วของกระสุนต่างกันมาก จากความเร็วประมาณ ๘๐๐ - ๙๐๐ ฟุตต่อวินาที ก็เพิ่มเป็น ๒,๕๐๐ ฟุตต่อวินาที ดินขับและแรงอัดจะดังกว่ากันหลายเท่า ถึงเวลาเจ้านายสั่งการจะไม่ได้ยิน สมัยนั้นเขาใช้วิธีตบกบาล ก็คือพวกเราจะใส่หมวกเหล็กรองในอยู่ เจ้านายก็จะตบหัวแล้วก็ทำสัญญาณมือ เราก็จะรู้ว่าเป้าหมายหรือหน้าที่ต่อไปคืออะไร เพราะว่าสัญญาณมือจะบอก"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-03-2021 เมื่อ 13:54 |
สมาชิก 151 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#91
|
||||
|
||||
"พอแก่ตัวเข้า สิ่งที่ชำรุดก็แสดงออกมากขึ้น ๆ บางคนพูดอยู่ตรงหน้า ถ้าระดับเสียงไม่ได้ อาตมาจะไม่ได้ยินเลย เพราะฉะนั้น..เวลาคนหูไม่ดีพูดกับเรา จะรู้สึกเหมือนกับว่าเขาตะโกนใส่ เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะว่า ตัวเขาไม่ได้ยินเสียงตัวเอง ก็ต้องพูดในระดับที่ตัวเองได้ยิน จึงกลายเป็นตะโกนใส่คนอื่นก็มี
พวกเรามีหน้าที่ก็คือดูแลรักษาร่างกายให้ดี ถึงเวลากรรมมาสนอง จะได้ไม่ทรุดโทรมมากนัก ยังมีแรงพอที่สู้กับโรคได้บ้าง แต่ว่าต้องมีสติรู้ตัวอยู่เสมอว่า ธรรมดาของร่างกายเป็นเช่นนี้ มีความเจ็บไข้ได้ป่วยเป็นธรรมดา และท้ายสุดมีความตายเป็นธรรมดา เร่งรักษาศีล เจริญภาวนาให้ได้มากที่สุด ถึงเวลาระยะทางที่เราจะต้องเดินในวัฏสงสารจะได้เหลือให้สั้นที่สุด ไม่ใช่อะไร ๆ ก็รอแต่ครูบาอาจารย์มาคอยชักคอยนำ"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-03-2021 เมื่อ 13:56 |
สมาชิก 160 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#92
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "จากการที่รัฐบาลประกาศว่าจะผ่อนคลายตอนสงกรานต์ให้มีการละเล่นรื่นเริงได้ ทางวัดท่าขนุนก็อาจจะมีการจัดให้มีการปฏิบัติธรรมช่วงสงกรานต์อย่างที่เคยทำมา เพียงแต่ว่าก็คงต้องเข้มงวดในการเว้นระยะ จากที่เคยนั่งปกติของเรา ก็มีการเว้นระยะอยู่แล้ว จึงคาดว่าไม่มีปัญหาเท่าไร
แต่คงต้องรบกวนอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านเข้ามาร่วมในการตรวจคัดกรองผู้ที่มาร่วมงาน คาดว่าจะเอาเฉพาะของการปฏิบัติธรรมเท่านั้น ในส่วนของการสรงน้ำพระ ก็น่าจะให้เฉพาะสรงน้ำพระพุทธรูป ของพระสงฆ์ยังไม่ควรเสี่ยงด้วยประการทั้งปวง วัดท่าขนุนเป็นศูนย์กลางของชุมชน เวลาจัดงานสรงน้ำ ญาติโยมมากันแน่นวัดไปหมด อาจจะเป็นสาเหตุการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-๑๙ ได้ จึงคิดว่าจะเอาเฉพาะในส่วนของการปฏิบัติธรรมเท่านั้น"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-03-2021 เมื่อ 13:57 |
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#93
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "ยุคนี้เรื่องของโรคมะเร็งเป็นกันชนิดที่ว่ากลายเป็นปกติไปแล้ว เพราะว่าอากาศ อาหาร และน้ำของเราด้อยคุณภาพลงไปเรื่อย ๆ โดยเฉพาะอาหารปนเปื้อนสารพิษสารเคมีเยอะมาก แล้วส่วนหนึ่งของโรคมะเร็งที่คิดไม่ถึงก็คือการอยู่ในห้องปรับอากาศ
ห้องปรับอากาศจะมีออกซิเจนน้อย เมื่อเนื้อเยื่อร่างกายได้รับออกซิเจนไม่พอ เซลล์ต่าง ๆ ก็จะเริ่มตาย แต่คราวนี้โดยธรรมชาติ ร่างกายก็พยายามที่จะสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาทดแทนเซลล์ที่ตาย เมื่อดิ้นรนสร้างจนมากเกินพอดี ก็จะกลายเป็นมะเร็ง ฉะนั้น...ถ้าหากว่าอยู่ในห้องปรับอากาศ แล้วในแต่ละวันไม่มีการเปิดให้อากาศภายนอก หรืออากาศใหม่ถ่ายเทเลย โอกาสที่จะเจ็บไข้ได้ป่วยก็จะมีสูงมาก"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-03-2021 เมื่อ 13:58 |
สมาชิก 156 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#94
|
||||
|
||||
"ช่วงนี้ทองผาภูมิก็เริ่มมีการเผาไร่เผาป่า เรื่องของการเผาไร่ก็พอเข้าใจ เพราะว่าต้องชิงเผาก่อนที่ไฟป่าจะเข้า แต่ไฟป่าบ้านเราที่เป็นธรรมชาตินั้้นไม่มี เพราะว่าอากาศบ้านเราไม่แห้งพอที่จะเกิดไฟป่าตามธรรมชาติ นอกจากฟ้าผ่า แต่บ้านเราฟ้าผ่ามักจะมาพร้อมกับฝน โอกาสที่ไฟป่าไหม้จึงแทบจะเป็นศูนย์ ส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นก็คือเกิดจากคนจุดทั้งนั้น
ช่วงที่อาตมายังทำงานอยู่ในส่วนเผยแผ่จริยธรรมของกรมป่าไม้ สามารถแก้ไขปัญหาไฟป่าได้ แต่ว่าก็ต้องลงทุนค่อนข้างมาก คือซื้อไม้ผลดี ๆ อย่างเช่นทุเรียน ลิ้นจี่ เงาะ ลำไย แจกชาวบ้าน โดยเฉพาะให้เน้นปลูกบริเวณชายป่า เมื่อชาวบ้านปลูกไม้ผล ก็หวังว่าจะได้ผล จึงต้องระมัดระวังไม่ให้ไฟไหม้ แต่ว่าการลงทุนก็จะค่อนข้างมาก เพราะว่าไร่หนึ่งประมาณ ๔๐๐ ต้น ต้นหนึ่ง ๒๕ บาท ไร่หนึ่งหมดไปเป็นหมื่น..! ถ้าชาวบ้านมีพื้นที่หลายไร่ ทางการก็จ่ายกันหน้ามืด โดยเฉพาะบ้านเรา ไม่เห็นประโยชน์ในการปลูกป่า นอกจากตัดไม้ ก็เลยทำให้ค่อนข้างจะแห้งแล้งมากขึ้นไปทุกปี"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-03-2021 เมื่อ 14:00 |
สมาชิก 150 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#95
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "คนสมัยนี้ขาดความไว้วางใจในเพื่อน ฝากเงินไปทำบุญแล้วยังต้องมีหลักฐานด้วย เขาเรียกว่า ขาดอุเบกขาในทานบารมี ถ้าหากว่ายังทำไม่ถึงระดับอุเบกขาในทานได้ ก็แปลว่าอานิสงส์ยังไม่ได้ถึงที่สุด แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก...อย่างน้อยเขาก็ได้ทำ เราก็ทนถ่ายรูปให้เขาดูไป"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-03-2021 เมื่อ 14:01 |
สมาชิก 158 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#96
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "กระทู้สร้างหลวงพ่อสมใจ วัดปรังกาสี จะปิดช่วงกลางเดือนนี้ เพราะว่าความจริงได้พอแล้ว แต่ว่าญาติโยมหลายท่านอยากทำบุญก็ให้ทำไปเรื่อย ๆ ก่อน จะได้แบ่งปันไปที่อื่นบ้าง ตอนนี้คิวที่รอความช่วยเหลือจากวัดท่าขนุนยาวไป ๔ หน้ากระดาษเอสี่แล้ว
มีอยู่รายหนึ่งมาขอความช่วยเหลือในโครงการทำบุญวันละบาทสร้างบ้านให้น้อง ก็คือในเขตพื้นที่การศึกษานั้น ๆ จะให้แต่ละโรงเรียนสำรวจดูเด็กยากจนซึ่งไม่มีที่อยู่ หรือว่ามีที่อยู่แต่ไม่ใช่ของตนเอง เสร็จแล้วก็ขอรายละเอียดทั้งหมดมา อย่างเช่นว่าชื่อ อายุ เรียนอยู่ชั้นไหน โรงเรียนไหน พื้นที่เขตการศึกษาไหน พื้นดินที่อยู่เป็นของตนเองหรือเป็นของคนอื่น ลักษณะเรือนชานบ้านช่องเป็นอย่างไร ฐานะครอบครัวเป็นอย่างไร พ่อแม่ทำอาชีพอะไร เขาทำเป็นระบบน่าชื่นใจมาก อาตมาเองก็คิดว่า ถ้าว่างจากด้านนี้ หรือพอที่จะแทรกคิวได้ ก็จะไปช่วย"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-03-2021 เมื่อ 17:25 |
สมาชิก 155 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#97
|
||||
|
||||
"แต่ปรากฏว่าในการเรียนของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย มีการกำหนดเอาไว้ว่า ต้องให้นิสิตบำเพ็ญประโยชน์เพื่อสังคม ก็เลยมีการชักชวนนิสิตออกไป ห้องหนึ่งรับผิดชอบเด็ก ๑ คน เป็นโครงการที่สุดยอดมาก โดยเฉพาะตัวกรรมการโครงการท่านหนึ่ง คือ พระครูสุพัฒนกาญจนกิจ เจ้าคณะตำบลดอนขมิ้น เจ้าอาวาสวัดดอนขมิ้น หรือว่าด็อกเตอร์พระครูโก๊ะ กว่าที่ท่านจะเรียนจบปริญญาเอกนี่ยากสาหัส ก็คือเรียนก่อนอาตมา ๒ ปี จบหลังอาตมา ๕ ปี..! บวกเอาเข้าไปก็แล้วกันว่าท่านเรียนกี่ปี ต้องบอกว่าอึดสุด ๆ
อาตมาถามว่า "พี่โก๊ะ..ลงทะเบียนรักษาสถานภาพนิสิตไปกี่รอบ ?" ท่านบอกว่า "ไม่ได้ลงครับ เป็นนโยบายใหม่ของทางมหาวิทยาลัยว่า ถ้าคุณยังมีอารมณ์เรียนอยู่ ก็ปล่อยให้เรียนไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะจบ" อย่างปริญญาเอก ลงทะเบียนเพื่อรักษาสภาพเทอมละ ๕๐,๐๐๐ บาท ปีหนึ่งก็โดนไปแสนหนึ่ง ถ้าหากว่าเขาเก็บเงิน หลวงพ่อโก๊ะจ่ายอ่วมแน่ เพราะว่า รวม ๆ เวลาตั้งแต่ต้นก็ ๘ ปี ท่านเรียนคณะพุทธศาสตร์ อาตมาเรียนคณะสังคมศาสตร์ แล้วท่านไปทำงานเพื่อสังคม ส่วนอาตมาสอนคนปฏิบัติธรรม สรุปแล้ววิชาที่เรียนมาไม่เกี่ยว ขึ้นอยู่ที่ว่าคุณทำได้ไหม ?"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-03-2021 เมื่อ 17:27 |
สมาชิก 150 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#98
|
||||
|
||||
พระอาจารย์เล่าว่า "ตอนนี้มีดราม่าอยู่ก็คือ ลูกจ้างพม่าฝากนายจ้างซื้อหวย นายจ้างสั่งซื้อหวย คนขายถ่ายรูปส่งมาทางไลน์ให้แล้วว่าหมายเลขนี้ แต่นายจ้างยังไม่ทันไปจ่ายเงิน หวยออกแล้วถูก คนขายเอาหวยไปขึ้นเงิน ซึ่งเรื่องนี้ที่ปรากฏขึ้น ผิดอยู่ที่คนขาย เพราะว่าการซื้อขายตกลงกันเรียบร้อยแล้ว ก็ต้องบอกว่าโลภ เห็นแก่เงิน ถ้าหากว่าฟ้องร้องกันนี่คนขายผิดแน่นอน แต่ยังดีที่ว่าอะลุ้มอล่วยกันได้ ก็คือรับคนละครึ่ง คืนมาให้ทางนี้สามล้านห้าแสน แต่นายจ้างโดนด่าเช็ด เพราะคิดว่าไปอมเงินลูกจ้าง"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-03-2021 เมื่อ 17:28 |
สมาชิก 158 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#99
|
||||
|
||||
สนทนากับพระนักเรียนบาลี "ไม่นึกว่าพระองค์ท่านจะเอาจริงกับบาลีขนาดนี้ ตั้งแต่พระราชทานตั้งท่านเจ้าคุณสุทัศน์เป็นพระธรรมราชานุวัตร เพราะว่าเป็นเจ้าสำนักเรียนวัดโมลีโลกยาราม อาตมาก็คิดว่าท่านเอาจริงเรื่องนี้ ปรากฏว่าปีถัดมาสั่งเลย มีรับสั่งถวายภัตตาหารเพลเลี้ยงนักเรียนบาลีทุกสนามสอบ นอกจากพระราชทานเลี้ยงแล้วยังพระราชทานสิ่งของให้ด้วย พวกปากกาดินสอของใช้อะไร เก็บขึ้นหิ้งบูชาเลยนะ
อาตมาเองได้รับผ้าไตรพระราชทานจากพระองค์มา ๒ ชุด เก็บขึ้นหิ้งบูชาเลย ตอนของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ผู้บังคับบัญชาเตือน บอกว่าเอามาใช้หน่อย พระองค์ท่านจะได้พระราชกุศล ก็กัดฟันเอามาใช้ ของในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ ก็เก็บ สมัยก่อนประโยค ๖ ประโยค ๙ ถึงจะได้รับพระราชทานพัดจากพระหัตถ์ มาสมัยรัชกาลที่ ๑๐ ตั้งแต่ประโยค ๓ พระองค์ท่านก็พระราชทาน ปีที่แล้วงานพระราชทานพัดมีทั่วประเทศ ต้องบอกว่าพระองค์ท่านสนับสนุนจริง ๆ เป็นที่น่าชื่นใจว่าองค์ในหลวงที่เป็นเอกอัครศาสนูปถัมภก ให้การสนับสนุนการศึกษา โดยเฉพาะด้านบาลีที่เป็นภาษาในการรักษาพระไตรปิฎก บาลีมาจาก ปาลธาตุ ในความรักษา ไม่มีอะไรหรอก...รักษาพระไตรปิฎกนั่นแหละ รักษาหลักธรรมของพระพุทธเจ้า"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-03-2021 เมื่อ 14:28 |
สมาชิก 145 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#100
|
||||
|
||||
"ตอนแรกเห็นพระองค์ท่านมีพระราชดำริพระราชทานวุฒิบัตร ปริญญาบัตร แล้วก็พระราชทานพัดให้กับทุกประโยค ก็ยังคิดว่าพระองค์ท่านเอาจริง แต่ว่ามาชัดเจนปีนี้เอง พระราชทานเลี้ยงผู้เข้าสอบทุกสนามสอบเลย เล่นเอากระทรวงมหาดไทย กรมการปกครอง วิ่งกันเท้าพลิกกันไปข้างหนึ่ง โดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัด ต้องไปประกอบโรงทานพระราชทาน เปิดโรงครัวพระราชทาน บาลีระยะหลังที่เริ่มซบเซาลง ต้องบอกว่าน่าจะผงาดขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
แต่ของวัดท่าขนุนไม่ต้องห่วง ตอนนี้มีมหาท่วมวัด ปีที่แล้วส่งสอบ ๙ รูป ได้ ๗ รูป ยังมีอยู่ ๒ รูปที่ตั้งแต่สอบมายังไม่เคยตกเลย ปีนี้สอบประโยค ๗ อายุมาก ๕๐ กว่าปีแล้ว แต่อาศัยลูกขยัน เพราะฉะนั้น..พวกคุณอายุน้อยห้ามท้ออย่างเด็ดขาด สมองของเรายังดีอยู่"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-03-2021 เมื่อ 14:29 |
สมาชิก 147 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
คำสั่งเพิ่มเติม | |
|
|