กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนสิงหาคม ๒๕๖๕

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 12-08-2022, 19:43
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,530
ได้ให้อนุโมทนา: 215,928
ได้รับอนุโมทนา 737,065 ครั้ง ใน 35,905 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๕


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 12-08-2022, 22:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,120 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๑๒ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ เป็นวันแม่แห่งชาติ ทางวัดท่าขนุนของเราก็จัดงานปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

คราวนี้ในส่วนของการสร้างบุญสร้างกุศลอะไรต่าง ๆ ทั่วประเทศก็ทำกัน แต่ทองผาภูมิปีนี้มีงานเพิ่มขึ้นมา ความจริงก็เพิ่มมาตั้งแต่วันที่ ๑๐ แล้ว วันที่ ๑๐ สิงหาคมที่ผ่านมาเป็นวันกำนันผู้ใหญ่บ้าน ปรากฏว่าหลังพิธีสงฆ์แล้ว มีการอ่านสาส์นจากจุฬาราชมนตรีที่มีถึงกำนันผู้ใหญ่บ้านทั่วประเทศ

วันนี้เมื่อพิธีสงฆ์เสร็จเรียบร้อย ก็ยังมีพิธีกรรมทางศาสนาของ ๕ ศาสนา ก็คือพุทธ คริสต์ อิสลาม ฮินดูและซิกข์ เพียงแต่ว่าทองผาภูมิของเรานั้นไม่มีศาสนสถานของฮินดูและซิกข์ จึงมีพิธีแค่ ๓ ศาสนาคือพุทธ อิสลาม แล้วก็คริสต์

ที่กล่าวถึงตรงนี้ เพื่อบันทึกเอาไว้เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ส่วนหนึ่งว่า ขณะที่ศาสนาอื่นพยายามแสดงบทบาทให้เห็นอย่างเด่นชัดขึ้นเรื่อย แล้วศาสนาพุทธของเราได้ทำอะไร เพื่อให้ปรากฏอย่างชัดเจนต่อญาติโยมทั้งหลายบ้าง ?

หลายอย่างที่เกิดขึ้นในบ้านเราเมืองเรา ไม่ใช่เรื่องความเจริญในพระพุทธศาสนาเลย อย่างเช่นการขอพรท้าวเวสสุวรรณในปัจจุบันนี้ที่นิยมกันมาก แม้ว่าท้าวเวสสุวรรณจะเป็น ๑ ในท้าวจตุโลกบาล ซึ่งมีบทบาทในพระพุทธศาสนาไม่น้อยเลย แต่พระพุทธเจ้าของเราไม่ได้สอนให้คนเราร้องขอในลักษณะแบบนั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-08-2022 เมื่อ 01:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 12-08-2022, 22:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,120 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระองค์ท่านสอนเทวตานุสติ การระลึกถึงคุณงามความดีของเทวดาว่าประกอบไปด้วยหลักธรรมอะไรบ้าง แล้วให้พวกเราประพฤติปฏิบัติในหลักธรรมนั้น ก็สามารถที่จะเป็นเทวดา เป็นนางฟ้า เป็นพรหม หรือแม้กระทั่งเป็นเทวดาผู้บริสุทธิ์สิ้นเชิง คือพระวิสุทธิเทพ เข้าสู่พระนิพพานได้

ในเมื่อเป็นไปในลักษณะอย่างนี้ ความเจริญในพระพุทธศาสนาของเราก็จะเป็นไปในทางตกต่ำเสียมากกว่า เพราะว่าในพระพุทธศาสนานั้น สิ่งใดที่คุณร้องขอ จะเกิดผลก็ต่อเมื่อคุณสร้างเหตุไว้เพียงพอ เป็นเรื่องของเหตุและผลล้วน ๆ ไม่ใช่ว่าไม่ได้ทำอะไรเลยแล้วไปขอ แล้วก็จะสำเร็จอย่างที่ขอ

จะเห็นได้ว่าในปัจจุบันบ้านเราเมืองเรานั้น คนนับถือพระพุทธศาสนาในทางที่ผิด เกือบจะร้อยละแปดสิบเก้าสิบ..! เราจึงเห็นวัดวาอารามต่าง ๆ ช่วงสมัยก่อนก็สร้างท้าวมหาพรหม สร้างเจ้าแม่กวนอิม สร้างพระพิฆเณศวร์ ปัจจุบันนี้ก็สร้างท้าวเวสสุวรรณ ก่อนหน้าท้าวเวสสุวรรณอยู่พักหนึ่งอนาถกว่านั้นอีก..สร้างไอ้ไข่..! เจตนาชัดเจนเลยก็คือเพื่อดึงคนเข้าวัด

ทั้ง ๆ ที่พระพุทธศาสนาของเรานั้น ประกอบไปด้วยหลักธรรมที่มีคุณค่ามหาศาล แต่กลับไม่เอามาเป็นจุดขาย เอาเพียงเศษเสี้ยวของส่วนประกอบ อย่างเช่นเทวตานุสติ ขึ้นมาเป็นจุดขาย แล้วขายผิดด้วย..! ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เราจะไปหวังความเจริญรุ่งเรืองในพระพุทธศาสนาก็ย่อมเป็นไปไม่ได้

แม้กระทั่งพวกเราทั้งหมดที่มาปฏิบัติธรรม ส่วนหนึ่งก็ไม่ใช่ปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้น เพราะว่าผู้ที่มาปฏิบัติธรรมนั้น บางท่านก็บนเอาไว้ว่า "ถ้าสิ่งนั้นสิ่งนี้สำเร็จจะไปปฏิบัติธรรม" ได้ยินแล้ว "น้ำตาจิไหล..!"

บรรดาผู้ที่พยายามจะเชิดชูพระพุทธศาสนาให้ปรากฏ ก็ไปผิดที่ผิดทาง ที่ใช้คำว่าผิดที่ผิดทางก็เพราะว่า บางทีก็มีการเรียกร้องอย่างนั้นอย่างนี้ แต่เมื่อมีผู้เห็นต่าง ก็กลายเป็นทะเลาะเบาะแว้งกันเอง

อย่างปัจจุบันนี้ก็คือเรื่องการตั้งธนาคารพระพุทธศาสนา ที่งัดข้อกันไปเรียบร้อยแล้ว ทั้ง ๆ ที่คำสั่งจากรัฐบาลก็คือ มาพิจารณาร่วมกันในการจัดตั้งธนาคารพระพุทธศาสนา แต่บรรดาคณะกรรมการกลับมาตั้งคำถามว่า "ใช่กิจของสงฆ์หรือไม่ ?" เขาไม่ได้ให้คุณมาตั้งคำถาม เขาให้คุณมาช่วยจัดตั้งธนาคาร เขาเรียกว่าเล่นผิดบท คำถามนั้นต้องกองเอาไว้ก่อน..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-08-2022 เมื่อ 01:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 12-08-2022, 22:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,120 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แบบเดียวกับการยกหน่วยวิทยบริการคณะสังคมศาสตร์ ของ วัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) ขึ้นเป็นวิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาศรีทวารวดี แล้วคณะกรรมการก็มาตั้งสารพัดคำถาม อย่างเช่นว่า "เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่าเงินก้อนนี้ เมื่อคณะกรรมการกลับไปแล้วจะไม่โดนทางวัดดึงคืนไป ?"

ท้ายสุดกระผม/อาตมภาพก็เลยต้องยกมือ ขออนุญาตในที่ประชุม "ขอด่าหน่อย..!" การจัดตั้งวิทยาลัยสงฆ์ ถ้าสามารถจัดตั้งขึ้นมาได้ ผลประโยชน์ก็ตกแก่ส่วนกลาง ก็คือมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ที่เป็นมหาวิทยาลัยแม่ มีสิ่งใดที่เป็นที่ไม่ถูกต้องก็แนะนำมา เราจะได้ทำตาม ไม่ใช่มาอวดความรู้ มาตั้งแง่อย่างโน้นอย่างนี้ ไอ้อย่างนี้เขาถือว่าเล่นผิดบท..!

ถ้าหากว่าเป็นกระผม/อาตมภาพ จะถือว่าเป็น "ไอ้พวกโง่แล้วขยัน" อยากจะแสดงบทบาทให้คนอื่นเห็นว่าคุณมีความรู้ คุณเห็นจุดบกพร่อง แทนที่จะมาช่วยเขายกวิทยาลัยสงฆ์ คุณกลับมาเตะสกัด นั่นใช่หน้าที่ไหม ? นี่คือลักษณะของการหลงประเด็นในสังคมไทยของเรา ซึ่งมีเยอะมาก..!

โดยเฉพาะในปัจจุบันนี้ พวก "เกรียนคีย์บอร์ด" มีเยอะมาก มีข่าวพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๑๐ รับครูบาบุญชุ่มเป็นคนไข้ในพระบรมราชูปถัมภ์ ก็มีเกรียนคีย์บอร์ดเข้าไปคอมเมนต์ว่า "รับเฉพาะพระดัง ๆ เท่านั้นหรือ ? พระป่วยทั่วประเทศทำไมไม่รับ ?" อยากให้มาถามใกล้ ๆ เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน จะได้ตบให้หัวทิ่ม..!

แสดงว่าไม่ได้ติดตามข่าวคราวเลยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับอุปถัมภ์พระเถระที่อายุ ๘๐-๙๐ ทั้งประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของนิตยภัต ก็คือเรื่องของเงินอุดหนุน เรื่องของภัตตาหาร เรื่องของการรักษาพยาบาล เขาเรียกว่า คิดว่าตัวเองฉลาดแต่กลับแสดงออกได้โง่มาก..! ยังดีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระทัยกว้างมาก ไม่ถือสาหาความ ก็เลยทำให้คิดว่าตัวเองเก่ง ที่สามารถตั้งข้อสังเกตแบบนี้ขึ้นมาได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-08-2022 เมื่อ 01:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 12-08-2022, 22:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,120 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

คนประเภทนี้มีมากเกินไปจนถ่วงความเจริญของประเทศชาติ อะไรเกิดขึ้น แทนที่จะช่วยกันหนุน ช่วยกันนำไปในทางที่ถูก กลับทำในลักษณะมือไม่พาย แต่เอาตีนราน้ำ..! ถ้าไปเจอนายท้ายค่อนข้างใจร้อน ก็อาจจะโดนตัดตีนทิ้งน้ำ..! พวกเราอาจจะไม่เข้าใจสำนวน "มือไม่พาย เอาตีนราน้ำ" ก็คือนอกจากจะไม่ช่วยเขาพายเรือแล้ว ยังแหย่ตีนลงไปในน้ำ ทำให้เรือไปช้าอีก..!

เรื่องพวกนี้ควรจะมีให้น้อยลง ไม่เช่นนั้นแล้วบ้านเราเมืองเราเจริญยาก เพราะคนฉลาดแบบปทปรมะมีมากเกินไป การพัฒนาจะเป็นไปได้ยาก โดยเฉพาะการพัฒนาทางด้านจิตใจ เหมือนอย่างกับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจัดอาหารจำนวนมากมายถึง ๘๔,๐๐๐ รายการมาวางไว้ แทนที่จะรีบกินเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์แก่ตัวเอง กลับมาตั้งแง่ว่า "กินได้จริงไหม ?" ถ้าลักษณะอย่างนี้ก็ต้องปล่อยให้เกิดเสียให้เข็ด..!

วันนี้ตั้งใจพูดเรื่องอะไรก็ลืมไปแล้ว แทนที่จะไปวันแม่แห่งชาติ กลายเป็นพวกปทปรมะไปเรียบร้อย แล้วเดี๋ยวก็จะมีคนถอดคำพูดหลวงพ่อวัดท่าขนุนไปลงเพื่อให้เป็นประเด็นต่อ สร้างเวรสร้างกรรมกันไม่รู้จบอีก...!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๑๒ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-08-2022 เมื่อ 01:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 14:05



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว