กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๖ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมีนาคม ๒๕๖๖

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 11-03-2023, 17:25
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,529
ได้ให้อนุโมทนา: 215,924
ได้รับอนุโมทนา 736,963 ครั้ง ใน 35,904 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๑๑ มีนาคม ๒๕๖๖

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๑๑ มีนาคม ๒๕๖๖


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 12-03-2023, 00:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,050 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๑๑ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ ช่วงนี้กระผม/อาตมภาพลุ้นตัวเกร็งว่าเมื่อไรจะถึงวันที่ ๑๕ เสียที เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่ามอบหมายให้ไอ้ตัวเล็กนำวัตถุมงคลไปลงกระทู้ แต่ว่าวัตถุมงคลชุดนี้ส่วนใหญ่เป็นมีดหมอของหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม ซึ่งการทำมีดหมอนั้น หลวงพ่อกวยท่านเรียนวิธีการทำมีดหมอมาจากหลวงปู่เดิม วัดหนองโพธิ์ ถ้าหากว่านับหลวงปู่สาย วัดท่าขนุนว่าเป็นลูกศิษย์หลวงปู่เดิม วัดหนองโพธิ์แล้ว หลวงพ่อกวยเท่ากับเป็นลูกศิษย์รุ่นพี่

คราวนี้มีดหมอเทพศาสตราของหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตารามนั้น ส่วนใหญ่แล้วท่านทำกันเองภายในวัด รุ่นแรก ๆ นั้นจะเป็นโลหะผสมตามตำรามหาศาสตราคม ซึ่งวัตถุอาถรรพ์ทั้งหลายเหล่านี้เป็นสิ่งที่หาได้ยากมาก เมื่อสร้างไปแล้วจึงได้จำนวนไม่มากเท่าไร ในเมื่อคนรุ่นหลังอยากได้มีดหมอ หลวงพ่อกวยท่านก็ไปสั่งให้ช่างที่พยุหะคีรีทำมา แล้วท่านก็นำเอามาบรรจุ เอามาเสก

แต่เนื่องจากว่าช่างที่พยุหะคีรีนั้นทำส่งหลายวัด โดยเฉพาะทำส่งหลวงพ่อกัน วัดเขาแก้วด้วย จึงทำให้มีลักษณะใกล้เคียงกัน แยกแยะยากมาก ต้องบุคคลที่รู้เท่านั้นถึงจะแยกออกว่าเล่มนี้เป็นของหลวงพ่อกวย เล่มนี้เป็นของหลวงพ่อกัน ซึ่งมีจุดในการพิจารณาอยู่ อย่างเช่นว่า ลายนาคเกี้ยว ปากนาคจะมีอุ หรือว่าไม่มีอุ อักขระพระเจ้า ๑๖ พระองค์นั้น นอ กอ มีการสลับเป็น กอ นอ เป็นต้น ซึ่งถ้าหากว่าเราอ่านอักขระภาษาขอมไม่ออก ก็จะแยกไม่ออกอีกด้วย

เมื่อยุ่งยากขนาดนั้น ส่วนใหญ่แล้วหลวงพ่อกวยจึงให้ลูกศิษย์ทำกันเองภายในวัด ท่านควบคุมการตีแล้วก็นำมาบรรจุ นำมาเสก บางเล่มนั้นลูกศิษย์ต้องไปนั่งรอกันเป็นเดือน ๆ กว่าที่จะเสร็จสรรพเรียบร้อย แล้วการที่หลวงพ่อกวยท่านทำเองนั้น ก็ทำให้มีผลงานที่เป็นฝีมือของลูกศิษย์ใกล้ชิด อย่างลุงทรง ที่บางคนเรียกกันว่าเฒ่าทรงบ้าง หรือว่าแม้กระทั่งรุ่นหลัง ๆ มาอย่างเฒ่าสุพรรณบ้าง เป็นต้น

มีดหมอหลายต่อหลายเล่มของท่านนั้น ท่านจะตอกลายหนุมาน ซึ่งจะว่าไปแล้วเป็นลายที่ค่อนข้างหายาก เพราะว่าท่านตั้งใจทำให้เฉพาะลูกศิษย์ที่เป็นพระเท่านั้น เนื่องเพราะว่าพระนั้นจะต้องไปเป็นผู้นำชาวบ้านอย่างหนึ่ง จะต้องมีผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นอย่างหนึ่ง หนุมานนั้นมีเคล็ดลับว่าอาสาเจ้านายทำงานอะไรก็ประสบความสำเร็จ และท้ายที่สุดก็ได้ครองเมือง จึงเป็นลายที่ส่วนใหญ่แล้วท่านทำให้เฉพาะลูกศิษย์ที่เป็นพระเท่านั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-03-2023 เมื่อ 02:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 12-03-2023, 00:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,050 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ส่วนอีกลายหนึ่งซึ่งหายากมากก็คือลายพาลี พาลีนี้เหนือกว่าหนุมานตรงที่ว่า ใครก็ตามที่ต่อสู้กับพาลี กำลังจะลดลงครึ่งหนึ่ง แล้วกำลังครึ่งนั้นจะไปเพิ่มให้ที่ตัวพาลีเอง ดังนั้น..จึงทำให้พาลียืนอยู่ในสภาพที่ไม่มีทางแพ้ใคร

แต่พาลีนั้นรักศักดิ์ศรีมาก เมื่อโดนศรพระรามสะกิดแค่เลือดออกประมาณแมลงวันกินอิ่ม พาลีถือว่าตนเองนั้นแพ้ จึงได้มอบเวนสมบัติเมืองขีดขินให้กับสุครีพ แล้วยอมตายเพื่อความเป็นลูกผู้ชายแท้ ในเมื่อสู้คู่ต่อสู้ไม่ได้ ยอมเสียชีวิตดีกว่า ซึ่งถ้าหากว่าสู้ต่อกันไปจริง ๆ ยังไม่รู้เหมือนกันว่าใครจะแพ้ ใครจะชนะ เพราะว่ารายการนั้นเท่ากับสองรุมหนึ่ง ก็คือพญาสุครีพกับพระรามเป็นฝ่ายหนึ่ง พญาพาลีเป็นอีกฝ่ายหนึ่ง

ดังนั้น..บุคคลที่จะทำวัตถุมงคลรูปพญาพาลีนั้นจึงหาได้ยากมาก เท่าที่กระผม/อาตมภาพพบมาก็มีแต่หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง สุดยอดพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงอภิญญาของจังหวัดนครปฐม บ้านเกิดของกระผม/อาตมภาพเอง

ส่วนหลวงพ่อกวยเองนั้น ร้อยวันพันปีท่านถึงจะทำมีดหมอลายพญาพาลีประชันหนุมานขึ้นมาสักเล่มหนึ่ง จึงทำให้เป็นสิ่งที่หาได้ยากสุด ๆ แล้วขณะเดียวกัน ถ้าหากว่าเป็นโลหะผสม สีสันไม่เหมือนใคร ทุกคนก็จะฟันธงได้ว่าเป็นมีดหมอรุ่นเก่า

มีดหมอทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าหากว่าใครศึกษามีดหมอของหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว หรือว่าหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว จะเห็นว่ามีดหมอนั้นมีในลักษณะเดียวกัน ก็คือโลหะผสมจะเป็นสีออกน้ำเงินเข้มเกือบดำ แล้วอัศจรรย์ตรงที่ว่าส่วนใหญ่แล้วสนิมแทบจะกินไม่ได้เลย สามารถปล่อยทิ้งไว้เป็นระยะเวลานาน ๆ ได้ แสดงว่าคนโบราณนั้นมีเคล็ดลับในการหลอมโลหะที่เราคิดไม่ถึง

ดังนั้น..ไม่ว่าจะเป็นมีดหมอรุ่นเก่าที่ใช้วัสดุอาถรรพ์ตามตำรามหาศาสตราคมก็ดี มีดหมอรุ่นใหม่ที่ส่วนใหญ่กระผม/อาตมภาพเหลือแต่มีดหมอลายหนุมานก็ตาม จึงเป็นของรักของหวงที่กระผม/อาตมภาพตั้งใจที่จะเก็บไว้เป็นสมบัติส่วนตัว และคิดว่าจะสืบทอดให้แก่บุคคลที่คิดว่าเหมาะสมเท่านั้น

แต่ในเมื่ออยู่ในระยะเวลาที่จะต้องนำวัตถุมงคลมาลงกระทู้ให้บูชา เพื่อหาปัจจัยในการสร้างพิพิธภัณฑ์วัดท่าขนุน จึงได้นำมาให้ไอ้ตัวเล็กนำไปลงกระทู้ แต่ก็ลุ้นขาดใจอยู่ว่าขออย่าได้มีคนบูชาไปเลย กลายเป็นเรื่องอีหลักอีเหลื่ออยู่เหมือนกัน ลุ้นอยู่ว่าเมื่อไรจะถึงวันที่ ๑๕ เสียที ถ้าหากว่าตัดยอดวัตถุมงคลงวดนี้ไปแล้ว ก็จะได้ไม่นำออกมาอีก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-03-2023 เมื่อ 02:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 12-03-2023, 00:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,050 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สำหรับวันนี้ กระผม/อาตมภาพก็ยังต้องดูแลบรรดาเจ้าสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๔ ซึ่งปฏิบัติธรรมมาตั้งแต่วันที่ ๘ ที่ ๙ ที่ ๑๐ วันนี้เป็นวันที่สี่ มาได้ครึ่งทางแล้ว โดยเฉพาะจังหวัดกาญจนบุรีที่มีสำนักปฏิบัติธรรมมากที่สุดคือ ๔๔ แห่งนั้น ส่วนใหญ่แล้วเจ้าสำนักก็มาเอง โดยเฉพาะท่านเจ้าคุณพระศรีวชิรสุธี (ชะโลม ปญฺญาวชิโร ป.ธ.๙) หรือว่าเจ้าคุณชะโลม เจ้าอาวาสวัดทิพย์สุคนธารามก็ยังอุตส่าห์มาปฏิบัติหน้าที่ของตนอย่างเข้มแข็ง

ส่วนบรรดาครูบาอาจารย์ในระดับที่อายุกาลผ่านวัยมากแล้ว ไม่ว่าจะเป็นรุ่นเดียวกันกับกระผม/อาตมภาพก็ดี รุ่นน้องไม่กี่ปีก็ตาม พอกรำงานปฏิบัติงานหลาย ๆ วันแล้ว ร่างกายเริ่มล้า ก็ออกอาการในลักษณะเหมือนกับเครื่องสะดุด บางรายก็เกิดเวทนามาก ถึงขนาดต้องขออนุญาตนั่งเก้าอี้ภาวนาแทนที่จะนั่งพื้น เป็นต้น

วันนี้ไอ้ตัวเล็กก็อุตส่าห์มาเยี่ยมเยือน เพื่อนำหนังสือมาถวาย เนื่องจากว่าในเวลาปกติแล้ว กระผม/อาตมภาพจะอ่านหนังสือวันละเล่ม เมื่อมาที่นี่ก็ต้องกระเบียดกระเสียน เล่มหนึ่งแบ่งอ่านเป็น ๒ วัน ๓ วัน ไม่เช่นนั้นก็จะไม่มีหนังสือให้อ่าน

เมื่อไอ้ตัวเล็กเอาหนังสือมาส่ง ก็ได้เห็นกับตาว่า วิธีเรียกแขกของกระผม/อาตมภาพนั้นเป็นอย่างไร ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่สามารถจะเลียนแบบกันได้ เพราะว่าเป็นการที่เล่าประสบการณ์ต่าง ๆ ไปเรื่อย ๆ คนที่สนใจฟังก็จะแห่กันมาเอง เป็นการเตือนแต่เนิ่น ๆ ว่าใกล้ถึงเวลาปฏิบัติธรรมแล้ว

เมื่อเขาสนใจเรื่องราวที่กระผม/อาตมภาพเล่า ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ด้านใดก็ตาม หรือว่าเรื่องราวที่น่าสนใจเรื่องใดก็ตาม ก็จะมานั่งฟังกัน ท้ายที่สุดก็เท่ากับว่า เมื่อได้เวลาปฏิบัติธรรมแล้วทุกคนก็อยู่พร้อมเพรียงกัน ทำให้การปฏิบัติธรรมครั้งนี้นั้น ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง

นอกจากท่านที่เป็นนิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยที่จะต้องลาไปเพื่อสอบข้อสอบกลางแล้ว ในส่วนที่เหลือ ถ้าไม่ใช่ท่านที่เจ็บไข้ได้ป่วยจนต้องส่งใบลาตั้งแต่แรก ทุกคนก็อยู่โดยพร้อมหน้ากัน เจ้าหน้าที่ก็สบายใจ ไม่ต้องมาไล่จับผิดว่าใครอยู่ปฏิบัติธรรมบ้าง ไม่อยู่ปฏิบัติธรรมบ้าง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-03-2023 เมื่อ 02:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 12-03-2023, 00:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,050 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ส่วนบรรดาเจ้าภาพที่มาถวายภัตตาหารเช้าเพลเพื่อสนับสนุนงานปฏิบัติธรรม ก็เริ่มมากขึ้น ๆ ทุกวัน วันที่สี่นี้ก็ถึงขนาดสิบกว่ารายต่อมื้อเข้าไปแล้ว ข้าวปลาอาหารนับว่าเหลือเฟือ เนื่องเพราะว่าถ้าท่านทั้งหลายจะเดินทางไปจนครบทั้ง ๔ จังหวัด เพื่อที่จะทำบุญกับเจ้าสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดให้ครบถ้วนทั้งภาคนั้น เป็นเรื่องที่แทบจะไม่มีโอกาสเป็นไปได้เลย เพราะว่าการเดินทางนั้นต้องไปใกล้ไกลตามแต่ระยะทาง

บางวัดก็แทบจะอยู่กลางป่ากลางเขา แต่ว่าวันนี้ท่านทั้งหลายเหล่านั้นมารวมกันอยู่ในที่เดียวกัน กลายเป็นเนื้อนาบุญ บรรดาเจ้าภาพที่รู้ว่าอะไรเป็นบุญเป็นกุศล ก็ฉวยโอกาสมาถวายภัตตาหารเพลกัน

ข้าวปลาอาหารนอกจากมากมายแล้ว ทุกอย่างยังอร่อยไปหมด เพียงแต่กระผม/อาตมภาพนั้นเป็นผู้ที่รู้ประมาณของตนอยู่เสมอ เป็นคนที่ฉันน้อยในสายตาของคนอื่น เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าตนเองมีลิ้นที่ไม่เหมือนชาวบ้านเขา ก็คือฉันอะไรก็อร่อยไปหมด ดังนั้น..จึงต้องระมัดระวังตัวเอง ตักอาหารแต่พอประมาณ แต่คราวนี้พอประมาณของตนนั้นกลายเป็นน้อยในสายตาคนอื่น จึงทำให้ฉันเสร็จเร็วกว่าคนอื่นเสมอ แล้วก็มีเวลาพักมากกว่าคนอื่นอยู่หน่อยหนึ่ง จนกว่าที่จะได้เวลา "เรียกแขก" ในรอบต่อไป

การปฏิบัติธรรมก็จะเหลือหลัก ๆ อยู่อีกแค่สองวัน คือวันที่ ๑๒ กับ ๑๓ ส่วนวันที่ ๑๔ นั้น เราปฏิบัติแค่ครึ่งวันเช้าเท่านั้น ในช่วงบ่ายก็จะเป็นพิธีปิด แล้วแยกย้ายกันกลับสำนักของใครของมัน ถึงเวลาแล้วก็จะได้ไปจัดปฏิบัติธรรมเพื่ออนุเคราะห์สงเคราะห์แก่ญาติโยมของตนเองต่อไป

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๑๑ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-03-2023 เมื่อ 02:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 07:13



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว