กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤษภาคม ๒๕๖๕

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 16-05-2022, 19:53
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,596
ได้ให้อนุโมทนา: 216,268
ได้รับอนุโมทนา 739,709 ครั้ง ใน 36,060 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๖๕ (รอบปกติ)

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๖๕ (รอบปกติ)


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 17-05-2022, 02:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,400,034 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๑๖ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ ถือว่าเป็นบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนรอบปกติ แต่เป็นรอบที่สองของวันนี้

เพราะว่าเมื่อเช้าด้วยความเสียดายในบางสิ่งบางอย่างที่ได้พูด ได้บอก ได้กล่าวเฉพาะผู้ปฏิบัติธรรมเท่านั้น จึงอยากจะที่จะให้ญาติโยมที่อยู่ทางบ้าน โดยเฉพาะที่อยู่ต่างประเทศได้รับฟังด้วย แต่คราวนี้บางทีท่านทั้งหลายก็ตั้งความหวังสูงจนเกินไป คือการจะกอบโกยเอาเพชรเอาพลอย เอาเงินเอาทองอยู่ทุกวัน ซึ่งเป็นไปไม่ได้

การปฏิบัติธรรมก็เหมือนกับการกินอาหาร มากเกินไปก็ย่อยไม่ทัน จึงต้องมีจังหวะ มีเวลาในการผ่อนบ้าง ในการเร่งบ้าง ตามแต่สถานการณ์ตรงหน้า แต่ว่าหลังจากการปฏิบัติธรรมแล้ว ที่เหลือก็คือ "หากินกันเอง"

ก็แปลว่าให้ไปลองดูว่าสิ่งที่กระผม/อาตมภาพได้สอนไปนั้น จะทำเองได้สักเท่าไร ? ไม่ใช่รอแต่ให้ลากให้จูงไปอย่างเดียว ซึ่งถ้ากระผม/อาตมภาพรอให้ลากรอให้จูงอย่างเดียว ชาตินี้ย่อมไม่มีทางมานั่งอยู่ตรงนี้ได้..!

เพราะว่าพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุงนั้น งานท่านมากกว่ากระผม/อาตมภาพหลายเท่า เฉพาะวัดที่ท่านให้การอนุเคราะห์สงเคราะห์ดูแลอยู่ก็ตั้ง ๔๓ วัด ของกระผมอาตมภาพเองยังดูแลตามหน้าที่รองเจ้าคณะอำเภอ ก็แค่เขต ๒ ตำบล ตีเสียว่า ๑๐ วัด ถ้าดูแลตามที่มีคนของเราไปเป็นเจ้าอาวาสอีก ๑๑ วัด รวมแล้วก็เพิ่งจะ ๒๑ วัด ขนาดนั้นยังแทบจะหาเวลาไม่ได้แล้ว

แล้วส่วนหนึ่งที่บรรดาพระพี่พระน้อง ตลอดจนกระทั่งญาติโยมทั้งหลายในยุคนั้นประมาท ก็เพราะไปคิดเอาเองว่า พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านจะอยู่ถึงอายุ ๑๒๐ ปี..! ซึ่งเรื่องนี้ถ้าหากว่าสภาพร่างกายไปไม่ได้ ก็ไม่มีใครเขาอยากจะอยู่กัน เพราะว่าการทำหน้าที่ในความเป็นทิพย์ง่ายกว่าด้วยประการทั้งปวง ไม่ต้องแบกสังขารที่เต็มไปด้วยทุกข์โทษเวรภัย
อยู่แบบนี้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-05-2022 เมื่อ 02:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 43 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 17-05-2022, 02:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,400,034 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพเองไม่เคยคิดเลยว่าพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านจะอยู่ได้ถึงพรุ่งนี้ จึงได้ทุ่มเทให้กับการปฏิบัติ ชนิดหัวไม่วางหางไม่เว้น อย่างที่เคยเล่าให้ฟังว่า อย่างเก่งก็นอนคืนละ ๒ ชั่วโมง ถ้าเสียดายเวลาปฏิบัติธรรม บางทีก็ไม่นอนเลย

ถ้าดินฟ้าอากาศผิดปกติ ฟ้าฝนคะนอง
กระผม/อาตมภาพจะลุกขึ้นนั่งกรรมฐานดูทันทีว่า พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านไปหรือยัง ? กระผม/อาตมภาพจึงเป็นคนเดียวที่ยืนยันว่า พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง มรณภาพวันที่ ๒๘ ตุลาคม ไม่ใช่ ๓๐ ตุลาคมอย่างที่ทุกคนเข้าใจกัน

เหมือนกับรถที่เครื่องยนต์ดับ ก็คือดับตั้งแต่วันที่ ๒๘ ตุลาคม แต่แรงเฉื่อยที่รถวิ่งมาด้วยความเร็ว ก็ทำให้รถสามารถไหลไปได้อีกระยะหนึ่ง หมอถึงได้ประกาศว่าพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านมรณภาพวันที่ ๓๐ ตุลาคม

แต่เรื่องนี้ไม่ต้องเสียเวลาไปเถียงกัน เพราะว่าผลก็เหมือนกัน คือพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านมรณภาพไปแล้ว โดยที่ลูกศิษย์ส่วนใหญ่ยังเอาดีไม่ได้ เพราะว่าประมาท ตรงนี้จึงขอตักเตือนท่านทั้งหลายว่า ถ้ายังประมาทกันอยู่อีก พวกเราก็จะเอาดีไม่ได้เหมือนกัน

แต่คราวนี้การ "เอาดี" ไม่ใช่การ "อยากดี" กระผม/อาตมภาพเห็นพระภิกษุสามเณรสมัยนี้แล้วบางทีก็ถอนใจ เพิ่งจะบวชเท่านั้นก็ตั้งตัวเป็นอาจารย์ขลังแล้ว..!

สมัยที่กระผมอาตมภาพบวชใหม่ ๆ ได้ทำหน้าที่ต้อนรับพระอาคันตุกะอยู่ที่วัดท่าซุง ต้องประจำอยู่ที่ศาลานวราชบพิตร ปรากฏว่ามีพระอาคันตุกะแบกกลด สะพายบาตร จีวรลากพื้นไปครึ่งผืน มาขอที่พัก กระผม/อาตมภาพบอกว่า "คุณ...ห่มผ้าให้ดีเสียก่อน" ท่านบอกว่า "รบกวนหลวงพี่ห่มให้ผมหน่อยครับ ผมเพิ่งจะบวชวันนี้ บวชเสร็จออกจากโบสถ์มา ผมก็ธุดงค์เลย..!"

ไอ้พวกกลัวว่าประวัติจะไม่สวย..! โดยที่ไม่รู้ว่าการที่ตนเองบวชแล้ว อยากให้ประวัติสวย รีบออกธุดงค์นั้น ก็คือการแบกอาบัติติดตัวอยู่ทุกวัน เพราะว่ายังเป็นพระใหม่ ไม่ได้นิสัยมุตกะ ยังต้องอยู่ในการดูแลของพระอุปัชฌาย์อาจารย์ แต่ด้วยความที่ใจร้อน ใจเร็ว เผื่อดังแล้วประวัติจะได้สวย กูก็ออกธุดงค์ตั้งแต่ออกจากโบสถ์เลย ไม่รู้เสียด้วยซ้ำไปว่าธุดงค์นั้นคืออะไร ?!!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-05-2022 เมื่อ 02:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 44 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 17-05-2022, 02:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,400,034 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แล้วการแบกอาบัติติดตัวไปตลอดเวลา เพราะว่าพระอุปัชฌาย์อาจารย์ยังไม่ให้นิสัยมุตกะ ยังไม่ให้การพ้นจากการปกครอง ก็เท่ากับว่าเราผิดศีลอยู่ทุกวัน ดังนั้น...ท่านทั้งหลายจะเห็นว่า ที่วัดท่าขนุนนี่ถ้าไม่ได้ ๕ พรรษาไปแล้ว กระผม/อาตมภาพจะไม่ปล่อยให้ไปอยู่ที่อื่น ยกเว้นว่าสถานที่นั้นเป็นสาขาเดียวกัน และมีพระภิกษุที่พ้นจาก ๕ พรรษาไปแล้วดูแลอยู่ พอที่จะช่วยอบรมสั่งสอนได้ กระผม/อาตมภาพถึงจะให้ไปอยู่ที่นั่น แต่ไม่ให้ไปอยู่ที่อื่นไกลเกินกว่านั้น

บางท่านก็ว่ากระผม/อาตมภาพโหดจนเกินไป เพราะว่าส่วนหนึ่งท่านทั้งหลายก็เรียนมาสูง มีตำแหน่ง
หน้าที่การงานสูง มีความมั่นใจตัวเองมาก กระผม/อาตมภาพขอยืนยันว่าเรื่องทางโลกเอามาใช้กับเรื่องทางธรรมไม่ได้

เนื่องเพราะว่าพระธรรมวินัย คือสิ่งที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบัญญัติเอาไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้ความเสียหายเกิดขึ้นกับหมู่สงฆ์ ในเมื่อเป็นเช่นนั้น พวกเราจึงต้องสำรวมระวัง และระมัดระวังเป็นอย่างสูง อย่าได้เห็นศีลเป็นของเล่น

จะอาบัติเล็กน้อยขนาดไหนก็ตาม ก็คือการที่เราล่วงละเมิดศีล แล้วกิเลสนั้นมีมายามาก เมื่อถึงเวลาก็จะมีช่องอ้างได้ว่า "คราวที่แล้วยังได้เลย" แล้วเราเองก็จะตกอยู่ในสภาพ "ดีชั่วรู้หมด แต่อดไม่ได้" เพราะว่าไปเปิดช่องให้กับกิเลสก่อน

ยิ่งครูบาอาจารย์สมัยนี้บวชเพื่อที่จะเอาซองปัจจัยอย่างเดียวมีมาก ก็จะยิ่งทำให้พระภิกษุสามเณรรุ่นหลัง ๆ น่าสงสารมาก เพราะว่าหาพระอุปัชฌาย์อาจารย์ที่ตั้งหน้าตั้งตาอบรมจริง ๆ ไม่ได้ ส่วนหนึ่งก็กลัวว่า ถ้าหากว่าดุมากเกินไป เดี๋ยวจะไม่มีใครอยู่ด้วย

ซึ่งตรงนี้สมัยที่พระเดชพระคุณพระเทพเมธากร (ณรงค์ ปริสุทโธ ป.ธ. ๔) ท่านยังเป็นพระราชธรรมโสภณ รักษาการเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี ได้ตักเตือนกระผม/อาตมภาพว่า "อาจารย์เล็ก ถ้าระเบียบโหดแบบนี้ เดี๋ยวก็ได้อยู่คนเดียว" แล้วท่านทั้งหลายเคยเห็น
กระผม/อาตมภาพอยู่คนเดียวไหม ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-05-2022 เมื่อ 03:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 43 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 17-05-2022, 02:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,400,034 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เพราะว่าคนเราต้องใฝ่ดี ปรารถนาดี ถึงจะเข้ามาบวชแบบจริงจัง บวชแบบจะหวังเอาความดีใส่ตัว ก็ย่อมต้องแสวงหาสถานที่ซึ่งคิดว่าสามารถทำให้ตนเอาดีได้อย่างที่หวัง

ทุกวันนี้พระเถระในกรุงเทพฯ พอได้ยินว่าวัดท่าขนุนมีพระอยู่ ๓๐-๔๐ รูป ส่วนใหญ่ตกใจกันทั้งนั้น เพราะว่าต่างจังหวัดไกล ๆ โดยเฉพาะติดชายแดนพม่าอย่างของพวกเรา ส่วนใหญ่ออกพรรษาแล้วก็เหลือแค่เจ้าอาวาสรูปเดียว หรือไม่ก็เหลือแค่เจ้าอาวาสอยู่กับสามเณรอีกหนึ่งรูป หรือบางทีก็หนักกว่านั้นอีก เป็นเจ้าคณะตำบลแต่ว่าอยู่แค่รูปเดียว ทั้ง ๆ ที่เป็นผู้ปกครองวัดอย่างน้อยก็ ๕ วัดในเขตนั้น แต่หาคนอยู่ด้วยไม่ได้ ทองผาภูมิของเราเคยมีมาแล้ว..!

ในเมื่อเป็นไปในลักษณะอย่างนี้ การที่เราเข้มงวดกับตัวเองนั้น จะช่วยให้เราสามารถกอบโกยความดีใส่ตัวให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้

ซึ่งเป็นสิ่งที่พระใหม่ทั้งหมดจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรีบทำเอาไว้ เพราะว่าถ้างานมาถึงเมื่อไร ถ้ากำลังใจของเรายังไม่มั่นคง โอกาสที่จะพังกลางคันมีสูงมาก แต่ถ้าหากว่ากำลังใจของเรามั่นคงแล้ว งานหนักแค่ไหนก็สู้ได้ แล้วก็อย่าไปอ้างว่า วัดโน้นไม่เห็นโหดอย่างนี้ วัดนี้ไม่เห็นเข้มงวดอย่างนั้น ถ้าคุณเจอประสบการณ์เดียวกับ
กระผม/อาตมภาพแล้วถึงจะซาบซึ้ง

ก็คือเมื่อพระวัดหนึ่งเดินบิณฑบาตผ่านมา โยมที่อุ้มขันข้าวอยู่รีบหันหลังให้ รอจนกระผม/อาตมภาพเดินไป ถึงหันกลับมาใส่บาตร ถ้าเป็นไปในลักษณะอย่างนั้น ต้องบอกว่าอับอายขายหน้าไป ๓ โลก..! ทำอย่างไรโยมถึงไม่ยอมใส่บาตรให้ฉัน ? อย่าไปคิดว่าสมัยนี้สามารถใช้แอพฯ สั่งอาหารได้ ไอ้นั่นมักง่าย..!

พระพุทธเจ้าท่านให้พระอุปัชฌาย์อาจารย์หรือว่าพระคู่สวดบอกตั้งแต่วันบวชว่า ปัจจัยเครื่องอาศัยของบรรพชิตอย่างหนึ่งคือการเที่ยวบิณฑบาต ไม่ได้บอกให้ไปซื้อกิน ก็สำคัญอยู่ที่ว่าพระอุปัชฌาย์อาจารย์จะสอน จะสั่ง จะเข้มงวดกับพวกเราหรือเปล่า ?

แล้วขณะเดียวกัน พวกเราคิดจะเอาดีหรือไม่ ? ถ้าไม่เอาดี ต่อให้พระอุปัชฌาย์อาจารย์ปากเปียกปากแฉะ พูดจนปากฉีกถึงหู ก็เอาดีไม่ได้ เพราะไม่คิดที่จะทำอยู่แล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-05-2022 เมื่อ 03:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 17-05-2022, 02:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,400,034 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

จึงเป็นเรื่องที่พวกเราต้องสังวรระวังกันเอง โดยเฉพาะญาติโยมที่มาปฏิบัติธรรม อย่างที่พูดไปเมื่อเช้าว่า ตี ๓ ครึ่ง ตี ๔ พระอาจารย์นำปฏิบัติธรรม อยากจะไปพระนิพพานเดี๋ยวนั้นเลย ปรากฏว่า ๖ โมงเช้าโผล่ไปตลาด ความตั้งใจหายเกลี้ยง..ขอช็อปปิ้งก่อน..! เห็นหรือยังว่ากิเลสมีอำนาจมากแค่ไหน ?

เราเคยชินกับฝ่ายต่ำมามากกว่า จึงต้องระมัดระวังและเพียรพยายามที่จะตะกายขึ้นที่สูงให้ได้ อย่างน้อย ๆ ถ้าเข้าถึงมรรคถึงผลไม่ได้ ก็ให้ทางในการเวียนว่ายตายเกิด สั้นลงมากที่สุดเท่าที่จะสั้นได้ ถ้าไม่สามารถจะเป็นพระอริยเจ้าได้ อย่างน้อย ๆ ก็ต้องทรงฌาน ทรงสมาบัติให้ได้

ไม่อย่างนั้นแล้วเราก็กลายเป็นหัวขโมย ก็คือญาติโยมเขาทำบุญใส่บาตร ด้วยหวังความดีจากเรา แต่เราไม่มีความดีให้ กลายเป็นหัวขโมย กอบโกยปัจจัย ๔ จากญาติโยมมาบำรุงบำเรอตัวเอง โดยที่ไม่มีอะไรตอบแทนเลย ถ้าหากว่าเป็นตามภาษาบาลีก็คือ อิณบริโภค การกินแบบเป็นหนี้ ถ้าหนี้สินล้นพ้นตัวเมื่อไรก็ล้มละลาย..!

ขอให้พวกท่านทั้งหลายมั่นใจว่าพระธรรมวินัยนี้เปรียบเหมือนคลื่น อะไรที่เป็นของสกปรก ไม่ช้าก็เร็วจะโดนซัดขึ้นฝั่ง ไม่มีทางที่จะอยู่ในทะเลแห่งธรรมะที่แท้จริงได้

วันนี้จึงขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๑๖ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ (รอบปกติ)
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-05-2022 เมื่อ 03:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 45 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 16:31



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว