กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกันยายน ๒๕๖๕

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 29-09-2022, 18:38
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,598
ได้ให้อนุโมทนา: 216,274
ได้รับอนุโมทนา 739,955 ครั้ง ใน 36,062 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๖๕


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 30-09-2022, 00:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๒๙ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ กระผม/อาตมภาพเข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการเจ้าสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัด ในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๔ ที่หอประชุมพระราชวิริยาลังการ วัดไร่ขิง (พระอารามหลวง)

หลังจากงานช่วงเช้าผ่านไปแล้ว ในช่วงบ่ายนั้น กระผม/อาตมภาพถูกกำหนดให้เป็นตัวแทนเจ้าสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดในเขตจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อขึ้นไปร่วมเสวนาเชิงปฏิบัติการกับตัวแทนเจ้าสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดจากจังหวัดนครปฐม ซึ่งได้คัดเลือกพระปลัดมณี วฑฺฒโน เจ้าอาวาสวัดใหม่ห้วยลึก ซึ่งเป็นลูกศิษย์เรียนปริญญาตรีกับกระผม/อาตมภาพมา สมัยที่ยังสอนอยู่วิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาศรีทวารวดี

ตัวแทนเจ้าสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดสุพรรณบุรี ก็คือพระครูใบฎีกาสุรเวช ปภสฺสโร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไชนาวาส

และตัวแทนเจ้าสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดสมุทรสาคร คือ พระครูสาครธรรมวิมล เจ้าอาวาสวัดวังชัยทรัพย์วิมล ซึ่งเป็นสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดสมุทรสาครดีเด่นเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งกระผม/อาตมภาพเคยไปขอสัมภาษณ์ท่าน ในช่วงที่ทำดุษฎีนิพนธ์เพื่อจบปริญญาเอก ในหัวข้อ "รูปแบบการจัดการสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดที่ได้รับรางวัลดีเด่น ในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๔" ก็แปลว่าบรรดาวิทยากรที่เข้าร่วมการเสวนานั้น ล้วนแล้วแต่คุ้นเคยกันมาแต่ดั้งเดิม

แต่คราวนี้เมื่อพิธีกร คือนายชิษณุพงศ์ แฉล้มรัมย์ จากสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติมาดำเนินการ กระผม/อาตมภาพก็บอกว่า หัวข้อที่ตั้งมานั้น ทางด้านผู้จัดงานหลงประเด็นไปแล้ว คือมาถามถึงเรื่องของสถานที่ เรื่องของวิธีการบริหารจัดการ เรื่องของหลักการปฏิบัติธรรม ซึ่งเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ บรรดาเจ้าสำนักปฏิบัติธรรม กว่าจะหลุดมาเป็นสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดแต่ละสำนัก จะต้องผ่านการพิจารณามาจากผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น จนกระทั่งมหาเถรสมาคมมีมติอนุมัติให้จัดตั้งเป็นสำนักปฏิบัติธรรมได้ ดังนั้น..รายละเอียดต่าง ๆ ทั้งหลายเหล่านี้ทุกรูปมีครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-09-2022 เมื่อ 01:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 30-09-2022, 00:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

นอกจากนั้นบรรดาผู้บังคับบัญชาซึ่งตั้งใจให้จัดตั้งสำนักปฏิบัติธรรมประจำแต่ละจังหวัดขึ้นมา เพื่อดึงญาติโยมทั้งหลายให้เข้าวัดปฏิบัติธรรม โดยการมอบภาระให้แก่เจ้าอาวาสที่เป็นเจ้าสำนักปฏิบัติธรรมนั้น ๆ ในการดำเนินการเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ตั้งแต่ยื่นเอกสารขอจัดตั้งก็ดี การเขียนโครงการว่าจะจัดปฏิบัติธรรมในลักษณะใดบ้าง ? ปีละกี่ครั้ง ? ก็ดี ตลอดจนกระทั่งรายงานผลการปฏิบัติงาน ของสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดแต่ละแห่ง ในทุกปีก็ตาม เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ผู้บังคับบัญชาก็น่าจะหลงประเด็น

เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า ส่วนใหญ่แล้วเจ้าสำนักปฏิบัติธรรมนั้น ที่เราคัดเลือกท่านขึ้นมาเป็นเจ้าสำนักปฏิบัติธรรม เพราะว่าท่านรักการปฏิบัติธรรมมาแต่เดิม บุคคลที่รักการปฏิบัติธรรมนั้น ย่อมมีความมักน้อย สันโดษเป็นปกติ ไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับงานเอกสารต่าง ๆ แม้แต่น้อย

ตรงจุดนี้แม้ว่าผู้บังคับบัญชาจะหลงประเด็น เอาคนรักสงบ ชอบอยู่เงียบ ๆ มากระโดดโลดเต้นตามจังหวะ เพื่อที่จะป้องกันไม่ให้พระภิกษุสามเณรของเรา "สูญพันธุ์" ก็คือทำให้วัดร้างจนไม่มีคนเข้า แต่ว่าก็สามารถแก้ไขได้ด้วยการที่ ให้ท่านเจ้าสำนักมอบหมายให้ตัวแทนทำหน้าที่ อย่างเช่นว่าสนับสนุนพระภิกษุสามเณรในวัด ให้เป็นพระวิปัสสนาจารย์ ทำการบริหารหรือว่าจัดการงานทั้งหลายเหล่านี้แทน โดยที่ตนเองกุมนโยบายอยู่ห่าง ๆ

ส่วนเรื่องของการบริหารจัดการสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดให้ประสบความสำเร็จนั้น กระผม/อาตมภาพได้บอกกล่าวไปว่า วัดท่าขนุนนั้นมีแค่ยุทธศาสตร์เดียว คือทำอย่างไรจะให้วัดกลับไปเป็นศูนย์รวมของชุมชน แล้วมียุทธวิธีอยู่ ๗ ประการด้วยกัน คือ

ข้อที่ ๑ สร้างศรัทธา ถ้าหากว่าเราเป็นผู้ที่เคร่งครัดในการปฏิบัติต่อเนื่องยาวนาน ซึ่งพระเดชพระคุณพระธรรมคุณาภรณ์ (ไพบูลย์ กตปุญฺโญ ป.ธ.๘) อดีตเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรีนั้น ท่านมักจะบอกว่า ให้ทำวัตรสวดมนต์ ท่องบ่นภาวนา ศึกษาเล่าเรียน พากเพียรปฏิบัติ

สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าเราทำอย่างสม่ำเสมอ วันแล้ววันเล่า เดือนแล้วเดือนเล่า ปีแล้วปีเล่า ญาติโยมที่เห็นก็จะเกิดศรัทธาขึ้นมาเอง เมื่อความศรัทธาเกิดขึ้นแล้ว เราจะปลูกจะฝังอะไรก็เป็นไปโดยง่าย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-09-2022 เมื่อ 01:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 26 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 30-09-2022, 00:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ข้อที่ ๒ หาต้นทุน ดูว่าในวัดของเรามีอะไรบ้าง ซึ่งเป็นต้นทุนพอที่จะดึงคนเข้าวัด อย่างเช่นว่ามีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ มีเจ้าอาวาสขลัง มีแหล่งวัฒนธรรมต่าง ๆ ที่จะดึงให้คนเข้ามาศึกษา เป็นต้น อย่างไม่มีอะไรเลย บางวัดมีตอตะเคียนให้ญาติโยมไปขูดหาหวยสักเดือนละ ๒ ครั้งก็ยังดี..!

ข้อที่ ๓ เสริมของเก่าย่างเช่นว่า การสวดมนต์ ทำวัตร บิณฑบาต กรรมฐาน จัดปฏิบัติธรรม จัดค่ายพุทธบุตร เหล่านี้เป็นของเก่าที่ทุกวัดทำมาเป็นปกติอยู่แล้ว นอกจากเราละทิ้งไม่ได้แล้ว ยังต้องช่วยเสริมให้เป็นระบบยิ่งขึ้น อย่างเช่นของวัดท่าขนุน ก็มีการลงทะเบียนปฏิบัติธรรมออนไลน์ มีการรับวุฒิบัตรปฏิบัติธรรมออนไลน์ เป็นต้น

เมื่อเสริมของเก่าแล้ว ถ้าพิจารณาดูว่ายังมีอะไรที่ไม่เพียงพอ ก็ต้องมาถึง

ข้อที่ ๔ สร้างของใหม่ สิ่งที่เหมาะสมแล้วยังไม่มี แต่สามารถที่จะดึงคนเข้าวัดได้ อย่างเช่นวัดท่าขนุน ก็สร้างพระพุทธรูปทองคำ พระพุทธรูปนาก พระพุทธรูปเงิน มีการสร้างบันไดขึ้นสักการะรอยพระพุทธบาท มีการสร้างบันไดขึ้นสักการะพระพุทธเจติยคีรี มีการจัดโครงการ "หิ้วตะกร้า นุ่งผ้าซิ่น นั่งแคร่ไม้ ใส่บาตรพระทุกวันอาทิตย์" มีการจัดสร้างตลาดชุมชนริมฝั่งแม่น้ำแควน้อย เป็นต้น

สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ นอกจากเข้ากับบริบทของชุมชน ตลอดจนกระทั่งสามารถสร้างประโยชน์ให้แก่ประชาชนในชุมชนแล้ว ยังสามารถที่จะเรียกนักท่องเที่ยวได้ดีมาก ต่อให้นักท่องเที่ยวเหล่านั้นไม่คิดที่จะถือศีลปฏิบัติธรรม อย่างน้อย ๆ ก็ได้อนุสติ เช่นว่ามากราบไหว้พระพุทธรูปทองคำ นาก เงิน มากราบไหว้รอยพระพุทธบาท มากราบขอพรสังขารหลวงปู่สาย อดีตเจ้าอาวาส หรือว่ามากราบพระพุทธเจติยคีรี เป็นต้น ดังนั้น..สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าหากว่าเป็นไปได้ ต้นทุนถึง และเหมาะสมกับบริบทของชุมชน ก็ให้สร้างของใหม่เหล่านี้ขึ้นมา

ประการที่ ๕ เทิดไท้องค์ราชัน อย่างไรเสียการจัดงานต่าง ๆ นั้น ถ้าหากว่าเราอิงสถาบันเอาไว้ อย่างน้อยส่วนราชการก็ดี องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก็ตาม ซึ่งอยู่รอบวัดนั้น ก็จะต้องมาอิงอาศัย เพื่อที่อย่างน้อยก็จะได้มีผลงานเป็นของหน่วยงานตนเองไปด้วย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-09-2022 เมื่อ 01:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 26 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 30-09-2022, 01:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในส่วนนี้เราจึงควรที่จะจัดงานในวาระสำคัญของราชวงศ์ต่าง ๆ อย่างเช่นว่าวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันพ่อแห่งชาติ วันแม่แห่งชาติ เป็นต้น เมื่อเราจัดงานตรงนี้ ก็แปลว่ามีการแอบอิงสถาบันเพื่อดึงศรัทธาประชาชนได้เป็นอย่างดี

ข้อที่ ๖ ประสาน ๑๐ ทิศ คืออาศัยหลัก บ ว ร บ้าน วัด ส่วนราชการ โรงเรียน ในการร่วมมือกัน ถึงเวลาจะจัดงานก็แจ้งให้ท่านทั้งหลายเหล่านี้มาเข้าร่วมงานด้วย ซึ่งส่วนราชการทั้งหลายเหล่านี้ แทบจะไม่ต้องลงทุนอะไรเลย นอกจากให้เกียรติมาร่วมงาน เท่ากับว่าท่านมีผลงานไปรายงานผู้บังคับบัญชาด้วย เราแค่เสียหนังสือเชิญฉบับเดียวเท่านั้น ท่านทั้งหลายเหล่านี้ก็ยินดีที่จะมาร่วมงานแล้ว เป็นการดึงคนเข้าวัดได้ดีมากอีกวิธีหนึ่ง

ข้อที่ ๗ เสริมสร้างคุณภาพชีวิตให้แก่ชุมชน อย่างของวัดท่าขนุน เราก็ไปเสาะหาว่ามีวัฒนธรรม ประเพณี หรือว่าสินค้าชุมชนอะไร ที่สามารถนำมาแปรเป็นตัวเงินได้ โดยที่ถึงเวลาแล้วไม่ต้องพึ่งพาสิ่งต่าง ๆ จากภายนอก

เราสามารถมีสินค้ามาจำหน่าย หารายได้เข้าครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำอาหาร เรื่องของเครื่องจักสาน เรื่องของผ้าทอ เรื่องงานฝีมืออื่น ๆ เรื่องแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ในชุมชน เรื่องพืชผักผลไม้ที่มีชื่อเสียงของชุมชน เหล่านี้เป็นต้น ถ้าหากว่าเราส่งเสริมอย่างเดียวก็ยังไม่เพียงพอ จำเป็นที่จะต้องหาตลาดให้เขาจำหน่ายสินค้าได้ด้วย สิ่งทั้งหลายเหล่านี้จึงจะเป็นการส่งเสริมอย่างยั่งยืน

ดังนั้น..ถ้าหากว่าสำนักปฏิบัติธรรมอื่น ๆ ปฏิบัติตาม ๑ ยุทธศาสตร์ ๗ ยุทธวิธีของสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดกาญจนบุรีแห่งที่ ๒๓ (วัดท่าขนุน) ก็เชื่อมั่นได้ว่าท่านทั้งหลายสามารถประสบความสำเร็จเช่นกัน เพียงแต่ว่าอย่าได้ทำงานใหญ่ขนาดวัดท่าขนุน..!

ให้ยึดหลักที่โบราณว่า "นกน้อยทำรังแต่พอตัว" เราอาจจะมีคนแค่ ๓ คน ๕ คน ๑๐ คน ๒๐ คน เราก็พยายามจัดให้มีการสวดมนต์ไหว้พระ มีการเจริญกรรมฐานบ่อย ๆ ระยะแรกอาจจะจัดในทุกวันหยุด คือวันเสาร์หรือว่าวันอาทิตย์ แล้วหลังจากนั้น เมื่อเริ่มผ่านไประยะเวลาหนึ่ง เราก็อาจจะทำให้เข้มข้นขึ้นมา ด้วยการจัดในวันหยุดราชการ หรือวันสำคัญทางนักขัตฤกษ์อื่น ๆ โดยกำหนดเป็นหลักสูตร ๓ วัน ๒ คืนบ้าง หรือว่า ๕ วัน ๔ คืนบ้าง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-09-2022 เมื่อ 01:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 25 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 30-09-2022, 01:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ ให้ท่านทั้งหลายทำแบบค่อยเป็นค่อยไป จนสามารถที่จะยืนหยัดได้อย่างแข็งแกร่ง ท้ายที่สุดก็กลายเป็นสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดที่ประสบความสำเร็จเช่นกัน

หลังจากนั้น พระเดชพระคุณพระเทพศาสนาภิบาล, ดร. (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าคณะภาค ๑๔ เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) ท่านก็มาช่วยสรุปอีกที แล้วกล่าวปิดโครงการ

โดยที่ตอนที่จะแยกย้ายกันไปนั้น พระเดชพระคุณพระธรรมวชิรมุนี วิ., รศ.ดร. (บุญชิต ญาณสํวโร ป.ธ. ๙) ผู้อำนวยการสถาบันวิปัสสนาธุระ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ที่เมตตามาเป็นหนึ่งในวิทยากรในวันนี้ ท่านได้เดินผ่านมา พระเดชพระคุณพระเทพศาสนาภิบาลแนะนำกระผม/อาตมภาพ แบบกึ่ง ๆ จะเย้าเล่นว่า "ไอ้ท่าขนุนนี้ นอกจากเหาะมาให้ดูต่อหน้าต่อตาแล้ว ที่เหลือมันทำได้ทุกอย่างขอรับพระเดชพระคุณ..!" ทำเอาท่านเจ้าคุณอาจารย์บุญชิตยิ้มกว้าง

เนื่องเพราะว่ากระผม/อาตมภาพกับท่านนั้น คุ้นเคยกันมานานตั้งแต่ท่านเพิ่งจะขึ้นเป็นเจ้าคุณพระศรีวรญาณใหม่ ๆ โดยเป็นอาจารย์แนะนำกรรมฐานในสมัยที่กระผม/อาตมภาพ เพิ่งจะเข้าศึกษากรรมฐานในโครงการอบรมพระธรรมฑูตสายวิปัสสนา รุ่น ๑ มานั่นเอง

เมื่อแยกย้ายกันกลับมาจนถึงที่พักแล้ว กระผม/อาตมภาพก็รีบมาบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุน อย่างที่ท่านทั้งหลายกำลังได้ฟังอยู่นี้

สำหรับวันนี้ ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๒๙ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-09-2022 เมื่อ 06:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 27 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 21:31



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว