กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมิถุนายน ๒๕๖๕

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 20-06-2022, 07:05
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,523
ได้ให้อนุโมทนา: 215,909
ได้รับอนุโมทนา 736,835 ครั้ง ใน 35,895 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๐ มิถุนายน ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๐ มิถุนายน ๒๕๖๕


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 20-06-2022, 23:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,955 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๒๐ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ กระผม/อาตมภาพพักอยู่ที่โรงแรม The Fern เมืองกังต็อก นครรัฐสิกขิม โรงแรมนี้อยู่ห่างจากสถานีกระเช้าลอยฟ้า ชั่วระยะเวลาการเดินประมาณ ๑๐ นาที ตอนนี้เป็นเวลา ๐๑.๔๐ น. ซึ่งน่าจะตรงกับเวลา ๐๓.๑๐ น. ที่เมืองไทย

เมื่อวานนี้พวกเราได้เตรียมพร้อมกันตั้งแต่เช้า โดยการส่งกระเป๋าขึ้นรถคันเดิม เพื่อที่จะวิ่งมายังโรงแรมแห่งนี้ ส่วนตัวเองนั้นจะต้องไปขึ้นรถยนต์ ซึ่งเป็นของคนพื้นเมืองที่นี่ เนื่องจากว่ากฎหมายการท่องเที่ยวนครรัฐสิกขิมได้บังคับเอาไว้ว่า ถ้าหากจะต้องเดินทางไปยังทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์นั้น จะต้องใช้รถของคนพื้นเมืองที่นี่ คือเป็นนโยบายหาเงิน หางานให้กับคนพื้นเมืองที่นี่นั่นเอง

หลังจากนั้นแล้วก็มีการวัดการเต้นของหัวใจและค่าออกซิเจนในเลือดด้วย เพราะว่าทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์ซอมโก ซึ่งเป็นภาษาทิเบต หรือว่าทะเลสาบฉางกู่ในภาษาจีนนั้น อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล ๓,๗๕๓ เมตร อากาศค่อนข้างที่จะบางเบา ถ้าหากว่าค่าออกซิเจนในร่างกายต่ำก็ไม่ควรที่จะเดินทางไป เพราะว่าอาจจะเป็นโรคแพ้ความสูง Altitude Sickness ได้

เมื่อพวกเราเตรียมพร้อมกันเรียบร้อยแล้ว ก็ได้ไปรับประทานอาหาร หลังจากนั้นด้านรถยนต์ของทางนี้ก็มาถึง ปรากฏว่าเป็นรถที่น่าใช้มาก คือรถยี่ห้อ Toyota Crysta ลักษณะคล้ายคลึงกับ Toyota Fortuner ของทางเมืองไทย แต่ว่าเป็นระบบอัตโนมัติทั้งคัน ถึงขนาดที่คนขับต้องใช้หัวเสียบเข็มขัดนิรภัยแบบหลอก เสียบเอาไว้ทุกที่นั่ง ไม่เช่นนั้นแล้วก็ไม่สามารถที่จะออกรถได้

พวกเราต้องวิ่งขึ้นไปยังทะเลสาบซอมโก ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนประเทศจีนประมาณ ๕ กิโลเมตรเท่านั้น เส้นทางขึ้นเขาไปเรื่อย แล้วก็มีฝนตก มีหินถล่มไปตลอดทาง บางช่วงก็มืดมิดเหมือนกับเมืองในหมอก มาติดอยู่ที่ตรงด่านตรวจคนออกจากเมือง เกิดปัญหากันเล็กน้อย เพราะว่าคณะของเรานั้น นายสุเรศวร์ไม่ใช่คนพื้นเมืองสิกขิม แต่ว่าเป็นคนอินเดีย ทำให้ทางด่านไม่ยอมปล่อยให้ผ่าน นายสุเรศวร์กับคุณเอต้องลงไปเจรจากับนายด่าน จนกระทั่งได้รับการอนุโลมปล่อยให้ผ่านไปได้

พวกเราก็วิ่งขึ้นเขา คดเคี้ยว วกวน ทั้งลื่น ทั้งเปียก บางช่วงก็มีหินถล่มลงมาตลอดทาง และทางด้านซ้ายบ้าง ขวาบ้าง ก็จะเป็นเหวลึกลิบลิ่ว โดยเฉพาะช่วงบนสุดนั้น เหวลึกหลาย ๆ ร้อยเมตร..! มองลงไปแล้วใจหายทีเดียว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-06-2022 เมื่อ 03:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 20-06-2022, 23:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,955 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

จนกระทั่งมาถึงจุดพักรถ ซึ่งเป็นร้านขายของที่ระลึกซึ่งทางรัฐบาลจัดเอาไว้ แต่ละแห่งจะมีหมายเลขประจำร้าน พวกเราเข้าไปที่ร้านหมายเลข ๒๒ เพื่อใช้ห้องน้ำ ซึ่งถ้าหากว่าดูจากหน้าร้านแล้วก็เล็ก ๆ แคบ ๆ นิดเดียว แต่ความจริงก็คือร้านสร้างอยู่ริมขอบเหว ทำให้ต้องเดินลึกลงไปข้างล่างเพื่อที่จะเข้าห้องน้ำ ถ้าหากว่าไม่มีผนังก็คงจะหวาดเสียวน่าดู แล้วก็ได้รับคำบอกเล่าว่า พวกเราจะต้องกลับมารับประทานอาหารกลางวันกันที่นี่

เมื่อเข้าห้องน้ำกันเรียบร้อยแล้วก็ได้เดินทางกันต่อไป ซึ่งต้องผ่านด่านตรวจทหาร แต่ว่าไม่ได้เรียกให้หยุด เพราะมั่นใจว่าทุกคันที่ผ่านมานั้นต้องได้รับอนุญาตแล้ว เพียงแต่บังคับว่าจะต้องปิดโทรศัพท์มือถือทั้งหมด ซึ่งกระผม/อาตมภาพนั้นไม่สามารถใช้โทรศัพท์มือถือได้ เพราะว่าสัญญาณไม่มี จึงใช้ในฐานะเครื่องถ่ายวิดีโอเท่านั้น ในเมื่อใช้ในฐานะเครื่องถ่ายวิดีโอ ก็ถือว่าไม่ใช่โทรศัพท์มือถือ จึงไม่ได้ปิด ยังคงใช้ถ่ายภาพและคลิปวิดีโอไปเรื่อย

เมื่อพวกเราไปถึงริมทะเลสาบแล้ว ก็ได้เดินลงไปที่ริมทะเลสาบ ซึ่งมีบรรดาคนพื้นเมืองนำเอาจามรี หรือที่พวกเราแกล้งออกเสียงผิด ๆ ว่ายักษ์ เอา Yak มาให้พวกเราขี่เดินรอบทะเลสาบ แต่พวกเรานั้นไม่นิยมในการทรมานสัตว์อย่างหนึ่ง

อีกประการหนึ่งก็คือฝนได้ตกหนักก่อนที่พวกเรามา การนั่งบนหลัง Yak แบบเปียก ๆ ก็คงจะไม่น่าพิศมัยนัก จึงใช้วิธีเดินเท้าข้ามสะพานที่ทอดข้ามลำธาร ซึ่งคล้าย ๆ กับน้ำตกที่ไหลลงไปสู่ทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์ แล้วก็เดินเลียบชายทะเลสาบไป สักครู่เดียวเท่านั้น จากที่ทะเลสาบปิดมืดด้วยเมฆหมอกต่าง ๆ "เจ้าแม่น้ำพริกสละ" ก็จัดให้ด้วยการเปิดให้พวกเราถ่ายรูปได้

โดยเฉพาะนายสุเรศวร์นั้น ต้องบอกว่าชำนาญทางสุด ๆ พาพวกเราไปจนถึงจุดสุดท้าย ซึ่งมีเก๋งในลักษณะคล้าย ๆ กับเก๋งจีนให้หลบแดดหลบฝนได้ ไปชี้ช่องทางว่าตรงไหนบ้างที่สามารถถ่ายภาพได้สวย

แต่ทว่าตรงริมทะเลสาบนี้ ขอบอกว่าอากาศหนาวเย็นมาก ขนาดพวกเรามาในหน้าร้อน ซึ่งแม้ว่าจะมีฝนผิดฤดูกาลจากสาเหตุโลกร้อนมาก็ตาม แต่ว่าความเย็นจัดน่าจะอยู่ในระดับ ๕-๖ องศาเซลเซียส เพราะว่าพวกเรานิ้วมือแข็งไปหมด โดยเฉพาะน้องโอ (ปาริฉัตร อายุวัฒนะ) ซึ่งกระผม/อาตมภาพขอให้เป็นนางแบบเฉพาะกิจ ไปประจำในจุดที่นายสุเรศวร์ชี้ให้ถ่ายรูปได้ ปรากฏว่าน้องโอยิ้มไม่ออก บอกว่าหน้าแข็งไปหมด..!

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-06-2022 เมื่อ 03:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 20-06-2022, 23:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,955 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ส่วนอีกจุดหนึ่งนั้นเป็นหินใหญ่อยู่กลางน้ำ จะต้องเดินลุยน้ำไปหน่อยหนึ่ง ก็เลยไม่มีใครกล้าเสี่ยงให้เท้าตัวเองเปียกในสภาพอากาศแบบนี้ กระผม/อาตมภาพจึงต้องรับหน้าที่อยู่คนเดียว จนกระทั่งได้รับคำบ่นจากทุกคนว่า "หลวงพ่อไปไหนก็มีภาพที่คนอื่นเขาไม่มีกัน" เมื่อกลับขึ้นมาแล้ว ก็ได้มารวมกลุ่มถ่ายรูปหมู่ แล้วก็เดินย้อนกลับ นายสุเรศวร์ได้ชี้ให้ดูบรรดาสมุนไพรหายากต่าง ๆ แล้วหลายอย่างก็ได้ชิมให้ดูด้วย..!

เพิ่งจะทราบว่าเบื้องหลังของนายสุเรศวร์ ซึ่งอายุน้อยกว่าอาตมภาพ ๑ ปี ก็แปลว่าอายุ ๖๒ ปีเต็ม ย่าง ๖๓ ปีแล้วนั้น ในอดีตเป็นนักเดินป่าปีนเขาตัวฉกาจ จึงทำให้รู้วิธีเอาตัวรอดในป่าเป็นอย่างดี บรรดาพืชสมุนไพรต่าง ๆ นั้น หลายอย่างนายสุเรศวร์ก็จัดการกินลงไปเลย โดยบอกว่าดีกับท้องของตนเอง

เมื่อพวกเรากลับมาขึ้นรถแล้ว รู้สึกเหมือนว่าได้ขึ้นสวรรค์ เนื่องเพราะว่าภายในรถนั้นอุ่นมาก ๆ แล้ววิ่งกลับลงมายังร้านค้า ซึ่งเป็นร้านขายอาหารพร้อมกับขายเครื่องกันหนาวด้วย คุณเอจึงได้พูดแบบขำ ๆ ว่า เมื่อวานนี้เรากินอาหารกันในร้านขายยา วันนี้เรามากินอาหารกันในร้านขายเครื่องกันหนาว ซึ่งจะว่าไปแล้วก็เป็นเรื่องที่สมควรอย่างยิ่ง เพราะว่าถ้าคนเราทำอาชีพอย่างใดอย่างหนึ่งเพียงประการเดียว อาจจะมีรายได้ไม่เพียงพอ ทางด้านนี้จึงมีการทำอาชีพเสริมต่าง ๆ ที่เหมาะกับนักท่องเที่ยวด้วย

อาหารถ้วยแรกที่ส่งมาเป็นซุปแบบสิกขิม ซึ่งทั้งร้อนและเผ็ดด้วยเครื่องเทศ กระผม/อาตมภาพซดทีเดียวลงไปหมด เพราะว่าเป็นคนที่สามารถกินของร้อนได้เกินมนุษย์มนาทั่วไป บรรดาน้ำร้อนที่มีญาติโยมเทมาถวาย แล้วมักจะกำชับว่าเพิ่งจะเดือด กระผม/อาตมภาพสามารถที่จะฉันหมดลงไปในระยะเวลาพริบตาเดียวเท่านั้น เมื่อได้รับน้ำซุปร้อน ๆ แถมยังมีเครื่องเทศที่ร้อนแรงประกอบเข้าไปด้วย ค่อยรู้สึกว่าตัวเองละลายออกมาได้..!

แล้วอาหารต่าง ๆ ก็ทยอยกันมา มีทั้งโมโม่ไส้ผัก มีทั้งข้าวผัดสิกขิม ซึ่งวันนี้ต้องบอกว่าพวกเราโชคดีมาก ๆ ที่ได้รับประทานอาหารพื้นเมืองกันอย่างแท้จริง และอาหารพื้นเมืองสิกขิมนั้นอร่อยทุกอย่าง เพราะว่าไม่ได้ใส่เครื่องเทศลงไปมากมายเหมือนกับอาหารอินเดียทั่วไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-06-2022 เมื่อ 03:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 20-06-2022, 23:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,955 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ทางเอ็นซีทัวร์ยังจัดอาหารเสริมมาให้เต็มที่เหมือนอย่างกับทุกครั้ง ทำให้นึกถึงบางคนที่ไม่ได้มาและจัดอยู่ในสายแข็งว่า อาหารที่แต่ละครั้ง แต่ละมื้อนั้น พวกเราไม่สามารถที่จะกินลงไปได้หมด บรรดาสายแข็งที่สามารถกินได้มากกว่าคนทั่วไปนั้น สมควรที่จะมาร่วมกันกินในครั้งนี้

เมื่ออิ่มเรียบร้อยดีแล้ว พวกเราก็ได้เดินทางกลับลงไปยังตัวเมืองกังต็อก รถยนต์นั้นได้นำเรามาทิ้งเอาไว้ที่หน้าวัดเอ็นเช่ (Enchey Monastery) ซึ่งเป็นวัดศักดิ์สิทธิ์ที่สุดวัดหนึ่งในเมืองกังต็อก นครรัฐสิกขิมนี้ แล้วก็รอจนกระทั่งรถคันเดิมของพวกเราวิ่งมา เพื่อรับข้าวของพะรุงพะรัง โดยเฉพาะบรรดาขวดน้ำ กระติกน้ำต่าง ๆ เมื่อส่งของขึ้นรถแล้ว พวกเราก็ฝ่าฝนเข้าไปยังตัววัด

ปรากฏว่าเป็นที่ประทับใจสุด ๆ เพราะว่าวัดนี้นั้นเกิดไฟไหม้วิหารหลังเก่า แล้วได้สร้างวิหารใหม่ขึ้นมาเลย เพิ่งจะจัดฉลองไปเมื่อวันที่ ๖ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ นี้เอง ยังเก็บกวาดสถานที่ไม่เสร็จเสียด้วยซ้ำไป

พวกเราเมื่อเหยียบย่างเข้าไปในวิหารใหม่ ก็แทบจะต้องร้อง "โอ้โฮ..!" ออกมาทุกคน เพราะว่าเขาซ่อมและสร้างใหม่ได้สวยงามอลังการสุด ๆ โดยเฉพาะสีสันนั้น กระผม/อาตมภาพบอกกับนายสุเรศวร์ว่า "Very Colorful" ซึ่งตรงจุดนี้นั้นอยากจะบอกว่า มาแค่สถานที่นี้ก็คุ้มกับค่าทัวร์ทั้งทริปแล้ว พวกเราจึงใช้เวลาที่นี่นานมาก เพราะว่ามีตาแค่ ๒ คู่ ไม่เพียงพอที่จะดูให้ทั่ว

กระผม/อาตมภาพพยายามที่จะถ่ายไปทุกซอกทุกมุมทุกจุด โดยเฉพาะในส่วนที่ไม่ได้ส่งให้พวกเราดูในเว็บเพจหรือว่าในคลิป ซึ่งจะพยายามทยอยส่งไปให้ในภายหลัง

เมื่อได้รับการจัดสรรให้อย่างชนิดที่เรียกว่า "เต็มแม็ก" ทำให้ทุกคนรู้สึกอิ่มกับการมาทัวร์ในครั้งนี้ไปตาม ๆ กัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-06-2022 เมื่อ 03:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 21-06-2022, 00:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,955 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พวกเรากราบสักการะและกราบลาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ลงมาขึ้นรถยนต์ท่ามกลางสายฝน ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ว่าขึ้นรถยนต์เมื่อไร ฝนก็จะตกหนัก แล้วก็จะปล่อยให้พวกเราได้สบายในตอนที่ไปชมสถานที่ต่าง ๆ

ซึ่งทางด้านโชเฟอร์ได้พาพวกเรามายังสถานีรถกระเช้าลอยฟ้า เพื่อชมเมืองสิกขิมว่ามีทิวทัศน์เป็นอย่างไร กระผม/อาตมภาพยังนึกอยู่ในใจว่า "อีหนูเอ๊ย...จะจัดให้หลวงพ่อไหวไหมนี่ ?" แต่ปรากฏว่า "เจ้าแม่น้ำพริกสละ" เธอทำได้จริง ๆ

เมื่อพวกเราขึ้นรถกระเช้าลอยฟ้าไป ปรากฏว่าฟ้าเปิด ฝนก็ไม่มี ทำให้สามารถถ่ายภาพที่สวยงามประทับใจของเมืองกังต็อกในมุมสูงได้ แต่ว่ารถกระเช้านี้ เมื่อเราลงไปจนสุดทางแล้ว ก็ต้องนั่งกลับขึ้นมา ปรากฏว่าขาลงนั้นประทับใจสุด ๆ ส่วนขาขึ้นนั้นทัศนวิสัยปิด ไม่มีอะไรเหลือให้ดูเลย..!

ท่านทั้งหลายต้องเข้าใจว่า เรื่องของเทวานุภาพนั้น ท่านสามารถที่จะทำให้เหตุการณ์ต่าง ๆ เกิดขึ้น ก่อน หลัง เร็ว ช้า หรือว่า ไปซ้าย ไปขวา ไปบน ไปล่าง ได้เท่านั้น ไม่สามารถที่จะทำให้หยุดไปได้เลยทีเดียว พวกเราจึงเกิดความประทับใจอย่างสุด ๆ

โดยเฉพาะคุณเอ (ฉัตตริน เพียรธรรม) ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะทัวร์ที่ทางด้านเอ็นซีทัวร์จัดสรรมาให้โดยเฉพาะในครั้งนี้ ถึงกับออกปากว่าเป็นเหตุการณ์ที่มหัศจรรย์ได้เลยทีเดียว

หลังจากนั้นพวกเราก็เดินเท้ากลับมายังโรงแรมที่พัก รอจนกระทั่งรับการจัดสรรกระเป๋าและห้องพักเรียบร้อยแล้ว ได้รับการบอกเล่าโปรแกรมของวันนี้ พวกเรารับทราบ จากนั้นก็เข้าสู่ที่พักกัน แต่ก็ไม่ก่อนที่หลายท่านซึ่งปกติแล้วรับประทานอาหารเย็น จะแวะเข้าไปยังร้านกาแฟของทางด้านโรงแรม แล้วก็สั่งขนมเค้กที่หมายตาเอาไว้ ถือเดินยิ้มกริ่มกลับห้องไปตาม ๆ กัน

กระผม/อาตมภาพนั้น แค่แวะเข้าไปดูสิ่งของต่าง ๆ ที่อยู่ในร้านขายของที่ระลึกของทางโรงแรม ต้องบอกว่าทางโรงแรม The Fern แห่งนี้นั้น แทบจะจัดสรรทุกอย่างครบวงจรด้วยความรู้ใจนักท่องเที่ยวทีเดียว เพียงแต่ว่าของที่ระลึก ไม่ได้มีหลากหลายมากมายเท่านั้นเอง

วันนี้พวกเราจะเดินทางไปตามโปรแกรมที่ทางเอ็นซีทัวร์ พยายามจัดสรรให้พวกเราทดแทนการไปเมืองลาชุง ซึ่งเป็นเมืองแห่งดอกไม้ในฤดูร้อน ที่โดนหินถล่มทับทาง จนป่านนี้ก็ยังเอาออกไม่หมด โปรแกรมทั้งหลายเหล่านี้อาจจะมีเสริมขึ้นมามากกว่าที่พวกเราคิด ขอให้พระภิกษุสามเณรของเรา และญาติโยมทั้งหลายได้ติดตามในตอนต่อไป


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๒๐ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-06-2022 เมื่อ 03:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 15:01



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว