กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 06-11-2024, 17:45
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,769
ได้ให้อนุโมทนา: 220,255
ได้รับอนุโมทนา 774,718 ครั้ง ใน 37,952 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๗


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 07-11-2024, 00:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,649
ได้ให้อนุโมทนา: 155,183
ได้รับอนุโมทนา 4,452,686 ครั้ง ใน 35,254 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงวันพุธที่ ๖ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๗ เมื่อวานนี้ พวกเราวิ่งออกจากร้านขายใบชา ฝ่าฝนที่พรำอยู่ตลอดทาง เพื่อไปยังกรุงโคลอมโบ เมืองหลวงของประเทศศรีลังกา มีการแวะเข้าห้องน้ำในระหว่างทาง ซึ่งการแวะแต่ละครั้งมักจะทำให้คิดถึงเมืองไทยเป็นอย่างมาก

เนื่องเพราะว่าบ้านเราไม่ว่าสถานีบริการน้ำมันที่ไหน ก็ล้วนแล้วแต่มีห้องน้ำทั้งสิ้น แต่ว่าทางศรีลังกานี้ต้องเป็นร้านอาหารที่ใหญ่โตพอเพียง ถึงจะมีห้องน้ำไว้บริการลูกค้า และที่สำคัญก็คือ มักจะมีแค่ผู้หญิง ๒ ห้อง ผู้ชาย ๒ ห้องเท่านั้น แล้วการที่คนเป็นร้อยต้องไปรอเข้าคิว ก็ทำให้พวกเราต้องเสียเวลาในแต่ละครั้งไปนานมาก

ทั้ง ๆ ที่ตำรวจจราจรก็พาพวกเราลุยแหลก บางทีก็นำฝ่าไฟแดงไปต่อหน้าต่อตา ขนาดนั้นก็ยังมีรถยนต์หลายต่อหลายคัน ที่คิดจะอาศัยเกาะขบวนไปด้วย แทรกกลางเข้ามาโดยที่ไม่พยายามจะหลบจะหลีก บางทีพลขับของเรารำคาญขึ้นมา หาจังหวะแซงได้ก็เบียดไปอย่างชนิดที่ไม่ต้องเกรงใจว่าจะกระแทกกันหรือเปล่า..! ทำเอาพวกเราต้องจับมรณานุสติไปตลอดทาง

จนกระทั่งประมาณทุ่มครึ่งของประเทศศรีลังกา ตกราว ๆ ๓ ทุ่มของบ้านเรา ก็ไปถึงโรงแรม Cinnamon Red Hotel ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแล้วแต่เป็นสีแดง สมกับคำว่า "อบเชยแดง" จริง ๆ พวกเราไปรับห้องพักที่ล็อบบี้ชั้น ๗ กระผม/อาตมภาพก็ไม่ทราบเหมือนกัน เพราะไม่มีโอกาสเดินดู ว่าว่าชั้นที่ ๑ ถึงชั้นที่ ๖ เขาทำประโยชน์อะไรบ้าง ?

เมื่อรับเอาบัตรสำหรับห้องพักมาแล้ว เจ้าหน้าที่ก็ต้องมาสอนว่า ต้องใช้บัตรนี้ปาดผ่านกล่องเล็ก ๆ ข้างลิฟท์เสียก่อน แล้วถึงจะกดหมายเลขไปยังชั้นของตนได้ บัตรของแต่ละชั้นใช้ได้เฉพาะชั้นนั้นห้องนั้นเท่านั้น ไม่สามารถที่จะใช้กับชั้นอื่นหรือห้องอื่นได้ ถือว่าเป็นความปลอดภัยทีเดียว แต่น่าเป็นห่วงตรงที่ว่าหากไฟฟ้าดับขึ้นมา ยังไม่ทราบว่าจะโกลาหลอลหม่านขนาดไหน..?!

จากชั้น ๗ กระผม/อาตมภาพต้องขึ้นไปยังห้องพักที่ชั้น ๒๒ แต่ก็ไม่กล้าที่จะนอน เนื่องเพราะว่าถ้าหลับอาจจะยาวไปเลย จึงใช้วิธีนอนภาวนา จนกระทั่งตี ๒ ค่อยไปสรงน้ำสรงท่า แต่งตัวใหม่จนเรียบร้อยแล้วลงมาทำการคืนห้อง แต่ว่าเจ้าหน้าที่รับบัตรที่ชั้น ๗ แล้วตัวเราต้องลงมารอรถที่ชั้น ๑ ซึ่งไม่มีเก้าอี้แม้แต่ตัวเดียวที่จะให้กับแขกเลย จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ชายท่านหนึ่งทนไม่ไหว เปิดเข้าไปในสำนักงานด้านข้าง แล้วเข็นเอาเก้าอี้สำนักงานมา ๑ ตัว ให้กระผม/อาตมภาพได้นั่ง..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-11-2024 เมื่อ 03:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 07-11-2024, 00:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,649
ได้ให้อนุโมทนา: 155,183
ได้รับอนุโมทนา 4,452,686 ครั้ง ใน 35,254 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อีกส่วนหนึ่งก็ช่วยกันนำอาหารกล่องมามอบให้กับบรรดาคณะของเราคนละกล่อง กระผม/อาตมภาพรับมา เห็นมีทั้งแซนด์วิช ครัวซองก์ ไข่ต้ม โยเกิร์ต ตลอดจนกระทั่งขนมปังกรอบ และที่สำคัญก็คือมีกล้วยหอมมาลูกหนึ่งด้วย แต่ว่าเป็นกล้วยที่ค่อนข้างจะแข็ง ถ้าเป็นบ้านเราถือว่ายังดิบอยู่เลย กระผม/อาตมภาพฉันไปอย่างละเล็กอย่างละน้อย แล้วยกให้กับคนอื่นไป บางคนที่ไม่คิดจะกินอาหารแขกอีกแล้ว เพราะคิดถึงอาหารไทยเต็มที ก็ยกให้กับพลขับและเด็กรถไปเลย

เมื่อพร้อมแล้ว รถก็นำพวกเราออกเดินทางตรงไปยังสนามบินนานาชาติบันดรานายะเก กรุงโคลอมโบ ปรากฏว่ามีช่วงหนึ่งที่จะต้องขึ้นทางด่วน ซึ่งเขาห้ามมอเตอร์ไซด์ขึ้นไปวิ่ง จึงทำให้ตำรวจนำของเราต้องแจ้งให้กับพลขับได้ทราบ แล้วก็วิ่งอ้อมไป เพื่อตัดทางไปรอรับทางด้านหน้าโน้น กระผม/อาตมภาพเห็นพอมีเวลาอยู่ จึงเข้าไปตรวจทานบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เสร็จสรรพกดเซฟก็พอดีมาถึงสนามบินแล้ว

พวกเราผ่านการเอ๊กซเรย์เข้าไปทางด้านใน ปรากฏว่าหลวงพ่อนิล (พระครูวินัยธรธวัชชัย ชาครธมฺโม) ประธานที่พักสงฆ์อาศรมศรีชัยรัตนโคตร จังหวัดสกลนคร โดนเจ้าหน้าที่เรียกไปตรวจต่างหาก เนื่องเพราะว่าท่านเอาผ้าห่อพระพุทธรูปที่เขาถวายเป็นที่ระลึก ใส่กระเป๋าสะพายของท่านมาด้วย กระผม/อาตมภาพต้องอธิบายให้เจ้าหน้าที่เขาฟังว่าได้มาจากไหน

เมื่อเคาน์เตอร์ยังไม่เปิด พวกเราจึงจับกลุ่มถ่ายรูปหมู่กันก่อน เสร็จแล้วก็ค่อยไปทำการเช็คอิน ซึ่งทางกระผม/อาตมภาพ ตลอดจนกระทั่งญาติโยมประมาณ ๑๐ กว่าคนที่เช็คอินก่อน ได้ประตูขึ้นเครื่องประตูที่ ๗ มา ส่วนคนที่เช็คอินที่หลังได้ประตูขึ้นเครื่อง R3 แต่พวกกระผม/อาตมภาพไม่ทราบ จึงเดินเข้าไปจนถึงด้านใน ซึ่งเส้นทางเดินนั้นตลอดระยะทางก็คือร้านขายสินค้าปลอดภาษีที่เอาไว้ละลายทรัพย์นั่นเอง""+

เมื่อเดินมาถึง เห็นว่าประตูขึ้นเครื่องหมายเลข ๗ ยังไม่เปิด กระผม/อาตมภาพจึงนั่งส่งงานไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งน้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) แจ้งเข้ามาในไลน์ บอกว่าทางด้านเจ้าหน้าที่ออกประตูขึ้นเครื่องให้เป็น R3 ยังไม่พอ ยังแจ้งว่าเครื่องดีเลย์อีก ๒ ชั่วโมง..! คุณพีรพงษ์ พิทักษ์วงค์ จึงเชิญพวกเราที่เป็นพระ ๔ รูปเข้าไปภายในเลาจน์ของสนามบิน ซึ่งมีอาหารต้อนรับอยู่เป็นจำนวนมาก พร้อมกับน้ำดื่ม พวกเราจึงจัดการฉันเช้ากันที่นี่แทนอาหารกล่อง แล้วก็นั่งภาวนารอเวลาว่าเมื่อไรจะถึงเสียที
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-11-2024 เมื่อ 03:32
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 07-11-2024, 00:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,649
ได้ให้อนุโมทนา: 155,183
ได้รับอนุโมทนา 4,452,686 ครั้ง ใน 35,254 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

จนกระทั่งประมาณ ๘ โมงกว่า กระผม/อาตมภาพพาทุกคนเดินไปยังประตู R3 ไปถึงก็ทำการเข้าเครื่องเอ็กซเรย์ให้เขาตรวจสอบ โดยที่ตัวเองซึ่งพกพระเลี่ยมทอง ๓ องค์เดินผ่านเข้าไปโดยไม่มีเสียงสักแอะเดียว..! เจ้าหน้าที่ชายของสนามบินก็ให้เกียรติพระมาก ปกติแล้วถึงไม่มีเสียงดัง เขาก็จะค้นตัว แต่นี่ไม่มีการค้นเลย เมื่อกระผม/อาตมภาพจะเดินไปให้ ตม.เขาประทับตรา เพื่อออกจากประเทศศรีลังกา ปรากฏว่าเขาบอกว่าเปลี่ยนจาก R3 ไปเป็นประตู R5 อีกแล้ว ทำเอาเซ็งกันไปตาม ๆ กัน

เมื่อเข้าไปถึงทางด้านใน พวกเรานั่งรอกันอยู่เนิ่นนานกว่าที่เขาจะมานิมนต์ไปขึ้นรถ เพื่อที่จะไปส่งที่เครื่องบิน ตั้งแต่แรกก็คุยกันว่าจะอัพเกรดตั๋วให้หลวงพ่อพระครูวิสาลบุญสถิต รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย หลวงพ่อเจ้าคุณพระวชิรปัญญากร (เชาวลิตร ชิตงฺกุโร) เจ้าอาวาสวัดป่าประดู่ (พระอารามหลวง) เจ้าคณะอำเภอเมืองระยอง และตัวอาตมภาพไปอยู่ชั้นธุรกิจ แต่ปรากฏว่ามีที่ว่างแค่ ๒ ที่ กระผม/อาตมภาพจึงต้องมานั่งที่ชั้นประหยัดแทน

เครื่องขึ้นตรงเวลา ๐๙.๔๕ น. ของทางประเทศศรีลังกา ทำการบินมาโดยที่เจ้าหน้าที่นำอาหารกลางวันมามอบให้ โดยถามว่า "จะเอาปลาหรือว่าไก่ ?" เมื่อบอกไปว่า "ไก่" เปิดออกมาแล้วก็งงมากว่าไก่อยู่ตรงไหน ? เพราะว่าไก่ที่มานั้นเป็นไก่ทั้งตัวเลย ก็คือเป็นไข่เจียวออมเล็ต กระผม/อาตมภาพก็ยังขำอยู่ในใจว่า "ไก่ของคุณโตไม่ทัน ?" ฉันเพลเสร็จเรียบร้อย ก็นั่งอ่านหนังสือเพื่อไม่ให้เสียสถิติที่ตั้งใจว่า "จะต้องอ่านหนังสือให้ได้วันละเล่ม" แล้วก็คุยเรื่องสัพเพเหระต่าง ๆ ด้วยกัน

จนกระทั่งเครื่องลงแตะสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิในเวลาประมาณ ๑๔.๔๐ น. ของบ้านเรา เดินไปทำพิธีตรวจคนเข้าเมืองเสร็จสรรพเรียบร้อยแล้ว กระผม/อาตมภาพก็มอบให้ไอ้ตัวเล็ก นำเอาลูกอ้วน (นางสาวภัทรวรรณ จะหวะ) ไปเรียกรถแท็กซี่เพื่อจะส่งกลับวัดท่าขนุน โดยมีคุณปราโมทย์ นนทารักษ์ ซึ่งจะไปลงที่ ม.มหิดล (ไทรโยค) อาสาไปส่งให้

เนื่องจากว่ากระผม/อาตมภาพนั้นมีภารกิจต่อเนื่องอีกหลายวัน แล้วไปขึ้นรถที่คุณปิง (นายณัฐภาคย์ องค์วรวิทย์) นำมารอรับพระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ผศ.ดร. เจ้าอาวาสวัดอุทยาน เจ้านายของตน พร้อมกับกระผม/อาตมภาพและน้องเล็ก วิ่งกลับไปยังวัดอุทยาน เมื่อไปถึงก็ทำการบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนก่อน หลังจากนี้ก็จะไปลอกคราบตัวเองและซักผ้าซักผ่อนที่หมกมาหลายวันเสียที

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๖ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-11-2024 เมื่อ 03:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 23:02



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว