กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านเติมบุญ

Notices

เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #161  
เก่า 27-11-2018, 19:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,150 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ปัจจุบันนี้มีหลายตำราที่อ้างว่าเป็นลายมือหลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง ถ้าใครสงสัยเอามาถามอาตมาได้ว่าอันไหนเป็นลายมือจริง ลายมือหลวงพ่อท่านค่อนข้างหวัด เพราะท่านไม่มีเวลาเขียนบรรจง ถ้าไปเจอลายมือบรรจง ๆ ขอให้รู้ว่าลอกต่อกันมา ไม่ใช่ลายมือของหลวงพ่อท่านหรอก โดยเฉพาะถ้าเขียนยันต์เป๊ะ ๆ ทุกตัวเลย นั่นลายมือพระอาจารย์เล็ก

อาตมาเองก็ไม่ได้ศึกษาอะไรไว้หรอก แต่เป็นเรื่องแปลกที่เห็นแล้วรู้ว่าต้องเขียนอย่างไร ตอนหลังไปพอถามหลวงพ่อท่านก็ยืนยันว่าถูกต้องตามนั้นแหละ ส่วนใหญ่ยันต์ก็จะขึ้นอักขระ ยันตัง สันตัง วิกรึงคะเร บางคนก็ขึ้น อัฏฐิ ยันตัง สันตัง วิกรึงคะเร ตำราเดียวกันหมด

ตอนนี้ส่วนใหญ่ที่ทำไว้คือตะกรุดมหาสะท้อน ปาไป ๖ - ๗ รุ่นแล้วกระมัง ? ที่ทำออกงานจริง ๆ เลยก็มีตะกรุดโสฬสรุ่น ๑ ตอนนี้ก็หายากมากแล้ว ในเว็บก็ไม่มี สามสี่พันก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปหยิบของเขาแล้ว แล้วก็มารุ่นนี้ ตั้งใจว่าถ้าญาติโยมบูชาแล้วอยากได้เป็นตะกรุดยันต์เกราะเพชรก็ไปม้วนเอาเอง อาตมาตั้งใจทำเป็นโลหะให้ เผื่อว่าใครอยากได้เป็นตะกรุดก็ไปม้วนเอง ใช้เป็นตะกรุด ถ้าใครคิดจะเอาไปหล่อพระเป็นชนวน ก็เอาไปใช้งานได้เลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-11-2018 เมื่อ 20:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 163 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #162  
เก่า 27-11-2018, 19:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,150 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ตอนนี้ที่รออยู่ก็คือเมื่อไรจะได้อนุญาตให้ทำ ก็จะมีพวกตะกรุดคู่ชีวิต หรือตะกรุดมหาจักรพรรดิตราธิราช แต่ว่าตะกรุดมหาจักรพรรดิตราธิราชนี่ปกติแล้วเขาจะทำถวายพระเจ้าแผ่นดิน หรือไม่ก็บรรดาเชื้อพระวงศ์ชั้นผู้ใหญ่โน่น สมัยก่อนนี่ถวายเฉพาะพระเจ้าแผ่นดินเท่านั้น คนอื่นถ้าคิดอยากจะได้นี่ถือว่าตั้งใจตีเสมอ จัดการในฐานะขบถได้เลย

ไม่เป็นไรหรอก ตำรามีอยู่ ตอนนี้น้องแนนก็ศึกษาไว้ จนกระทั่งลงอักขระได้หมดทุกตัวแล้ว อาตมาเองถึงเวลาไม่ต้องเหนื่อย มีลูกสาวทำแทนได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-11-2018 เมื่อ 20:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 168 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #163  
เก่า 27-11-2018, 20:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,150 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : อยากถามว่าพระพุทธเจ้าองค์ที่ ๑ ชื่ออะไรครับ (เด็กถาม) ?
ตอบ : อย่าไปเรียกชื่อ สมมติว่าเราเจอปู่ทวดแล้วเราจะไปเรียกชื่อท่านก็น่าเกลียด เรียกสมเด็จองค์ปฐมแล้วกัน ท่านเป็นพระพุทธเจ้าองค์แรก

ถาม : องค์แรกของกัปหรือครับ ?
ตอบ : องค์แรกของโลกเลย เป็นเด็กเป็นเล็กขี้สงสัยขนาดนี้แล้ว ไปบวชก็แล้วกัน

ชื่อพระพุทธเจ้าส่วนใหญ่จะซ้ำ ๆ กัน เพราะว่าโบราณเขาถือว่าชื่อไหนเป็นชื่อที่เป็นมงคลก็ตั้งขึ้นมา ก็เหมือนกับพวกเราที่ชื่อซ้ำ ๆ กันนั่นแหละ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-11-2018 เมื่อ 21:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 165 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #164  
เก่า 27-11-2018, 20:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,150 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์แรกของโลกจริง ๆ แล้วท่านมีพระนามว่า สิขี แปลว่า เจริญรุ่งเรืองอย่างยิ่ง เรียกว่า สมเด็จพระพุทธสิขีทศพลที่ ๑ เพราะว่ายังมีต่อ ๆ กันมาถึง ๕ องค์ด้วยกัน องค์ที่อยู่ในบทสวดพระพุทธเจ้า ๒๘ พระองค์นั่น ที่เขาว่า สิขี สัพพะหิโต สัตถา ก็คือพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีนามว่าสิขี เป็นพระศาสดาผู้ประกอบด้วยสรรพประโยชน์ อันนั้นเป็นองค์ที่ ๕ ถ้าเรียกก็คือสมเด็จพระปัญจสิขีทศพล

คราวนี้พวกเราไม่จำเป็นต้องรู้ รู้ไปแล้วเรียกชื่อท่านตรง ๆ เป็นการไม่เคารพ ถึงเวลาก็นึกถึงท่านก็ใช้ได้แล้ว

สัพพะหิตะ แปลว่า กอปรด้วยประโยชน์ทุกประการ สัตถา อันว่าศาสดา บางทีคาถาก็จะมี สัตถา สักการะ โลกัง นี่เป็นคาถาสำหรับลงไม้กันขโมย หรือไม่ก็ ตะมัตถัง ปะกาเสนโต ตัวกูคือพระยาราชสีโห สัตถาอาหะ อันนั้นหัวใจราชสีห์ แต่ว่าถ้าใครแปลได้หัวเราะตายเลย

โบราณาจารย์ที่ท่านได้อภิญญาสมาบัติ พอถึงเวลาท่านผูกคาถาขึ้นมาแล้วสำทับด้วยอภิญญา ถ้าหากว่าใครให้ความเคารพใช้ตามก็มีผล คราวนี้ถ้าแปลตามตัวคาถา ถึงได้บอกว่าห้ามแปล เพราะว่าแปลแล้วไม่มีความหมาย ไม่ก็พิลึกพิลั่น ถ้าไปแปลเมื่อไรหมดขลังเมื่อนั้น อย่างตะมัตถัง ปะกาเสนโต เมื่อจะประกาศพระศาสนา สัตถาอาหะ พระศาสดาว่าดังนี้ ดันมี ตัวกูคือพระยาราชสีโห โผล่มาได้อย่างไรไม่รู้ ฉะนั้น..ห้ามสงสัย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-11-2018 เมื่อ 21:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 166 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #165  
เก่า 27-11-2018, 20:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,150 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องของคาถาเป็นเรื่องการทดสอบความลังเลสงสัยในพระรัตนตรัยว่ามีจริงหรือเปล่า ถ้าไม่สงสัยก็ใช้ได้ผลทุกคน ส่วนใหญ่ไปลังเลสงสัย แปลไม่ได้ แปลไม่ออก

ถ้าแปลไม่ออกยิ่งขลัง สมัยก่อนหลวงพ่อเรื่อง วัดใหม่พิณสุวรรณ อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี วัดของท่านเป็นสำนักเรียนบาลี พระนักเรียน เณรนักเรียน สามสี่ร้อยรูป หลวงพ่อวัดท่าซุงก็ไปขอเรียนวิชากับท่าน เพราะว่าท่านไม่ได้เก่งแต่บาลี เรื่องอภิญญาสมาบัติท่านก็ไม่เป็นรองใคร ประเภทเสกวัตถุมงคลนี่ปืนแตกเลย

ถึงเวลาแม่ครัวก็มา "หลวงพ่อ..ข้าวหมดแล้ว ไม่มีหุงให้เณรฉัน" "หลวงพ่อกับข้าวไม่มีแล้ว" หลวงพ่อเรื่องก็ขึ้นกุฏิ จุดธูป ๓ ดอกบูชาพระ ตั้งนะโมฯ เสร็จ ก็ด่าลั่นไป ๓ บ้าน ๘ บ้านเลย ด่าหยาบ ๆ คาย ๆ ด้วย พักเดียวเท่านั้นแหละ ชาวบ้านหาบข้าวหาบผัก หาบปลาแห้งมาถวายเป็นหาบ ๆ เลย

หลวงพ่อวัดท่าซุงก็ถาม "ทำไมต้องด่าหยาบคายขนาดนั้นด้วย ?" หลวงพ่อเรื่องบอกว่า "ก็คาถามันเป็นอย่างนั้นเองนี่หว่า ถ้าเอ็งสงสัยก็ไม่ต้องใช้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-11-2018 เมื่อ 21:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 163 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #166  
เก่า 27-11-2018, 20:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,150 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พูดถึงเรื่องการลังเลสงสัยในการปฏิบัติ ส่วนใหญ่แล้วพวกเราสงสัยเพราะว่ายังทำไม่ถึง ถ้าเริ่มทรงฌานได้นี่ความสงสัยจะเหลือน้อยแล้ว จะเห็นชัดว่าสิ่งที่พระพุทธเจ้าท่านสอนเรานั้น เป็นคุณเป็นประโยชน์จริง ๆ

อาตมาเองตอนที่มีรุ่นน้องคือท่านชาติชาย ตอนนั้นเบื่อมาก ถึงเวลาบอกว่าพระท่านว่าอย่างนี้ คุณชาติชายจะมาซักถามต่อ แล้วทำไมอย่างนั้น ? แล้วทำไมอย่างนี้ ? อาตมาเองก็บอกว่าไม่รู้ คุณชาติชายถามว่าทำไมไม่รู้ ? ก็กูไม่ได้ถาม แล้วทำไมหลวงพี่ไม่ถาม ? ก็กูไม่สงสัย ท่านสั่งแค่ไหนก็ทำแค่นั้นก็จบแล้ว จะมาเอาอะไรนักหนา แต่กว่าจะถึงระดับเลิกสงสัยนี่ ก็สงสัยมาเยอะเหมือนกัน หลังจากที่พอมั่นใจ มั่นคงจริง ๆ ก็เลิกสงสัย สั่งอะไรมาก็ทำอย่างนั้น จบเลย

ฉะนั้น...ใช้ความพยายามนิดหนึ่ง แค่ทรงปฐมฌานได้ ความลังเลสงสัยในการปฏิบัตินี่หายเกือบหมด จะไปสงสัยอีกทีก็เรื่องมรรคเรื่องผล ซึ่งกลายเป็นเรื่องทีหลัง ขอให้ทรงฌานได้ก่อน อย่างอื่นว่ากันทีหลัง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-11-2018 เมื่อ 21:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 161 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #167  
เก่า 27-11-2018, 20:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,150 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พูดถึงบรรยากาศในบ้านเติมบุญ "อากาศเริ่มเย็น ตอนคนมาก ๆ เมื่อเช้าอากาศไม่เย็น เวลาเราอัดกันมาก ๆ ไอตัวออกมา ความชื้นในอากาศมีมากก็จะร้อน ถึงเวลาเครื่องปรับอากาศดูดความชื้นไป พอความชื้นในอากาศหมด ก็จะดึงความชื้นจากผิวหนังของเรา ยิ่งดึงไปมากเท่าไรก็ยิ่งหนาวเท่านั้น ฉะนั้น..ในที่หนาวแปลว่าความชื้นในอากาศมีน้อย

บรรดาท่านที่อยู่ในพื้นที่โลกน้ำแข็งอย่างขั้วโลกเหนือ ขั้วโลกใต้หรือไซบีเรีย จะใช้ไขมันมาพอกตัวเลย กันความชื้นในตัวจะออกไปหมด โดยเฉพาะพวกไขมันแมวน้ำ ไขมันปลาวาฬ เราจะเห็นว่าเอสกิโมใช้ไขมันแมวน้ำพอกหน้าเสียหนาปึ้กเลย ถ้าไม่พอกไว้ นอกจากความชื้นจะสูญเร็ว ผิวยังแตกอีกด้วย แต่ถ้าเราไม่เคยชินจะรู้สึกว่าเหม็นมาก อยู่ไปสักพักหนึ่ง เคยชินขึ้นมาก็ไม่รู้สึกอะไร

ถ้าใครดูสารคดีจะเห็นพวกเอสกิโมล่าสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นแมวน้ำ เป็นนกน้ำ อยู่ในทะเลนะ ว่ายผลุบ ๆ โผล่ ๆ ยิงเปรี้ยง โดนทุกนัด อะไรจะแม่นขนาดนั้น แล้วทำอย่างไรเพราะว่าอยู่กลางทะเล ? เขาใช้ตะขอติดเชือกยาว ๆ หมุน ๆ ๆ แล้วก็เหวี่ยงไปเกี่ยวมา..แม่นมาก ในสารคดีที่อาตมาดูนี่แทบจะไม่เคยเห็นพลาดเลย ถ้าเป็นเราเหวี่ยงอยู่ครึ่งวันไม่รู้จะเกี่ยวติดหรือเปล่า ?

อันนี้เขาเรียกกัมมวิปากชาฤทธิ์ ฤทธิ์ที่เกิดโดยวิบากกรรม ถ้าไม่เก่งก็อยู่ไม่รอด ก็แปลว่าเขาทำของยากเป็นของง่าย คือพวกมีฤทธิ์ บาลีเขาว่า สุทันตา เยวะ อิทธิยา ผู้ฝึกมาดีย่อมมีฤทธิ์"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-11-2018 เมื่อ 21:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 156 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #168  
เก่า 27-11-2018, 20:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,150 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ตอนนี้บนยอดเขาพระพุทธบาทบรรยากาศสวยที่สุด เช้า ๆ นักท่องเที่ยวแห่กันไปชมทะเลหมอก ไปเซลฟี่แข่งกัน เดี๋ยวต้องให้เขาติดป้ายเตือนไว้ อย่าได้ขึ้นไปนั่งบนราวรั้วเชียวนะ ที่อื่นมีตัวอย่างหงายหลังไปไม่รู้กี่รายต่อกี่รายแล้ว

อย่าไปเสี่ยงกับการต้องการรูปสวย ๆ แล้วพลาดถึงแก่ชีวิต โดยเฉพาะยอดเขาพุทธเจติยคีรีภายในวัด อาตมาทำแท่นชมวิวไว้ ๒ ที่ ๓ ที่ มีบางแท่นเหมือนแท่นกระโดดน้ำขนาดใหญ่หน่อย วิศวกรเขาคำนวณแล้วว่ารับน้ำหนักได้กี่คน เขาติดป้ายเตือนไว้ ไม่ใช่แห่ขึ้นไปเซลฟี่ทีหนึ่งเกินจำนวน เดี๋ยวก็ได้หักโครมลงไปเท่านั้น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-11-2018 เมื่อ 21:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 161 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #169  
เก่า 27-11-2018, 20:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,150 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เมื่อวานนี้เขาจะบี้กันตาย ประมูลเหรียญหลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม เดี๋ยวนี้นักประมูลเขารู้ เขามาสู้กันวินาทีสุดท้าย ถ้าสู้กันตั้งแต่วันแรกราคาจะโดนดันสูงมาก คราวนี้มาสู้กันนาทีท้าย ๆ ประเภทถ้าพลาดก็หมดเวลา บางคนอุตส่าห์ลงราคากะว่าชนะแน่ ที่ไหนได้ เวลา ๒๐.๐๑ น. อดไปเลย

ของดีจะหลุดมาเรื่อย ๆ อาตมาเองก็ต้องทำใจ บางอย่างอยากได้ แต่กติกาเขาคือต้องลงไปประมูล อาตมาก็ไม่กล้าประมูล เพราะว่าประมูลแล้วคนอื่นเขาก็ไม่กล้าสู้ ปล่อยให้เขาสู้ไปกันเองเถอะ

งวดก่อนมีเหรียญหลวงปู่ดู่เลี่ยมเงิน นั่งเล็งอยู่ ท้ายสุดต้องตัดใจ ของหลวงปู่ดู่เรามีเยอะแล้ว"


__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-11-2018 เมื่อ 21:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 161 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #170  
เก่า 27-11-2018, 20:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,150 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ครูบาอาจารย์ประเภทพ่อเสือลูกสิงห์นี่ต้องบอกว่าหายากนะ หลวงปู่กลั่น วัดพระญาติ มาเป็นหลวงปู่อั้น หลวงปู่สี หลวงปู่ดู่ สืบสายกันมาชนิดไม่ขาดเลย

ปัจจุบันนี้ก็ต้องหลวงปู่เฉลิม สายวัดพระญาติ ซึ่งสายวัดพระญาติจริง ๆ ก็คือวัดประดู่ทรงธรรม เป็นสำนักวิชาการเก่าแก่ คราวนี้ว่าหลวงปู่กลั่นท่านไปเรียนวิชาชาตรีมาจากทางสายอิสลาม ท่านก็เลยกลายเป็นโด่งดังกว่าสายวัดประดู่ทรงธรรม"

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-11-2018 เมื่อ 21:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 161 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #171  
เก่า 27-11-2018, 20:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,150 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เมื่อวานมีโยมถามว่า ยันต์เกราะเพชรของหลวงปู่ปานมีแบบปั๊มจากโรงงานไหม ? มีนะ เป็นรุ่นท้าย ๆ ด้วย เพราะว่าพอความต้องการมาก ๆ แล้ว ท่านอาจารย์เจิมเขียนไม่ทัน ถักไม่ทัน ส่วนใหญ่แล้วไม่ว่าจะตะกรุดหรือผ้ายันต์ของหลวงปู่ปาน ท่านอาจารย์เจิมจะเป็นคนเขียน หลวงปู่ปานท่านก็เสกให้ คราวนี้ความต้องการมาก ๆ เขียนไม่ทัน ก็ต้องสั่งโรงงานปั๊มมา

ถ้าถามว่าดูอย่างไรถึงรู้ ? ถ้าหากว่าเป็นแบบโรงงานปั๊มจะเห็นชัด ๆ เลย เพราะว่าทะลุหลังออกมาเป็นรูปยันต์ให้เห็น ก็ดูความเก่าของโลหะ โลหะทองแดงพอเก่ามาก ๆ เขาเรียกว่าเนื้อหมดยาง ก็คือจะไม่เงาแวววาว จะด้านลื่น ถ้าหากว่าใครใช้มาก ๆ นี่ บางทีหัวตะกรุดนี่แทบจะเชื่อมเป็นเนื้อเดียวกันไปเลย พอที่จะดูกันออก

แต่ถ้าหากว่าเป็นรุ่นเก่าที่ท่านอาจารย์เจิมเขียน ม้วนแล้วก็ถัก ให้ดูลายถัก ดูขนาดตะกรุด ขนาดตะกรุดจะมี ๒ นิ้ว ๒ นิ้วครึ่ง ๓ นิ้ว ยาวสุดก็ไม่เกิน ๕ นิ้ว ให้จำลายถักแล้วก็การลงรักไว้"

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-11-2018 เมื่อ 21:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #172  
เก่า 27-11-2018, 20:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,150 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ส่วนลูกอมหลวงปู่ปานก็ดูเนื้อหา มีทั้งลูกเล็ก มีทั้งลูกใหญ่ นาน ๆ จะมีลูกใหญ่สักทีหนึ่ง ปกติเป็นลูกเล็ก แต่คราวนี้ก็อย่างว่า...มีคนชอบของใหญ่ ๆ ก็ปั้นขนาดลูกปิงปองเลย เปลืองผงตายชัก..! ลูกใหญ่แบ่งทำลูกเล็กได้ ๓ - ๔ ลูก

ที่อาตมาเก็บลูกใหญ่ไว้ก็คือเอาไว้ใช้งาน เก็บเอาไว้ใช้ผงของครูบาอาจารย์ ไม่ต้องเสียเวลาไปทำเอง เพราะว่าหลวงปู่ท่านต้องปิดโบสถ์ เข้าสมาบัติ ๑๕ วันเพื่อลบผงไว้ใช้งาน เขียนอยู่ ๑๕ วัน มือไม้ล้าหมด อาตมาเข้ากรรมฐาน ๓ วันลุกพรวดพราดยังหน้ามืดเลย ฉะนั้น...ถ้าคลายสมาธิออกมาก็หงายตึง แต่หลวงปู่ท่านเข้าสมาธิลบผง ๑๕ วัน

ถ้าหากว่าไม่ได้พระหลวงปู่ปานรุ่นเก่า ๆ ที่บรรจุผงวิเศษข้างบน ที่เขาใช้ตอกไม้ไผ่เสียบแล้วทำรูไว้สำหรับบรรจุผง ก็หาของวัดคู้สลอด วัดคู้สลอดนั่นเป็นเนื้อผงวิเศษทั้งองค์เลย ความจริงดีกว่าด้วย แต่คนไปคิดว่าไม่ใช่ของวัดบางนมโคโดยตรง ก็หลวงปู่ปานเสกเหมือนกัน ทำเหมือนกัน เพียงแต่เอาไปบรรจุกรุให้วัดคู้สลอด หลวงปู่ปานท่านสร้างวัดเป็นร้อยวัด ไม่ใช่เฉพาะในเขตอยุธยา จังหวัดอื่น ๆ ก็ทำให้เขาด้วย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-11-2018 เมื่อ 21:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 161 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #173  
เก่า 27-11-2018, 20:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,150 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"อาตมาเองก็พกของวัดคู้สลอด ปรากฏว่าโดนเพื่อนปล้นไป พระครูวาทีวรวัฒน์ เลขานุการรุ่นพระอุปัชฌาย์ ท่านถามว่า "ท่านประธานมีไหม ?" "มี..แต่แพง" "ท่านประธานรวยจะตาย บูชาให้ผม ๑ องค์"

อาตมาก็ไม่ได้บอกว่าพกอยู่ ท้ายสุดก็เห็นว่าท่านเป็นเลขานุการรุ่นที่อาตมาเป็นประธานรุ่น ก็เรียกใช้ท่านอยู่ตลอด จึงตัดใจสละให้ท่านไป กระซิบบอกท่านว่า ถ้าใครให้ต่ำกว่า ๓๐,๐๐๐ บาท อย่าไปปล่อยนะ เพราะว่าองค์นี้ผมบูชามาตั้ง ๓๐,๐๐๐ บาท"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-11-2018 เมื่อ 21:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 163 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #174  
เก่า 27-11-2018, 21:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,150 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เรื่องของการฉันภัตตาหาร ถ้าหากว่าเป็นพระไทยเราก็คือ ๒ มื้อ เช้ากับเพล ถ้าเป็นสายวัดป่าก็มื้อเดียว ประมาณ ๙ โมงครึ่ง ๑๐ โมง แต่ถ้าเป็นพระพม่านี่ท่านฉันจนกระทั่ง ๕ โมงครึ่งตอนเย็น ก็คือเกือบ ๖ โมงเย็น ถามว่าทำไมพระพม่าฉันได้ขนาดนั้น ? เพราะว่าท่านตีความพระวินัยเท่ากัน

คือศีลพระมีอยู่ ๒ ข้อ ข้อหนึ่งว่าภิกษุฉันอาหารในเวลาวิกาลต้องอาบัติปาจิตตีย์ เวลาวิกาลนี่เราไปตีความว่าหลังเที่ยงไปแล้ว อีกข้อหนึ่งท่านบอกว่าภิกษุเข้าบ้านในเวลาวิกาล ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ตรงนี้เราไปตีความว่าพระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว

คราวนี้ของพม่าเขาตีความเดียวกัน ก็คือพระอาทิตย์ตกดินไปแล้วถึงเรียกว่าวิกาล เพราะฉะนั้น...ประเภท ๕ โมง ๕ โมงครึ่ง ถ้าท่านฉันกันอยู่ ถ้าเห็นอย่าไปตำหนิท่านนะ เพราะว่าท่านตีความพระวินัยเป็นเนื้อเดียวกัน แต่ของเรานี่ตีความต่างกัน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-11-2018 เมื่อ 21:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 158 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #175  
เก่า 27-11-2018, 21:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,150 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ส่วนของทางด้านมหายานที่เขาฉันอาหารก็ลักษณะเดียวกัน แต่ว่ามหายานเขามีคำอธิบายเพิ่มเติมว่า สายมหายานนิยมฉันเจไปเลย เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเบียดเบียนเลือดเนื้อร่างกายของสัตว์ การฉันอาหารเจ เขาบอกว่าไม่อยู่ท้อง ก็เลยต้องมีการฉันเพิ่มเติมเป็นมื้อที่สาม ซึ่งก็อยู่ในลักษณะเดียวกันก็คือก่อนพระอาทิตย์ตกดิน

แต่ว่าความเคร่งครัดของพระไทยเราก็คือ ฉันอาหารแค่ไม่เกินเที่ยง ก็ขึ้นอยู่กับพวกเราเหมือนกัน เพราะว่าบางท่านต้องบอกว่าอยู่เพื่อกิน ไม่ใช่กินเพื่ออยู่ ท่านก็ฉันตั้งแต่เช้ายันเที่ยง ไม่รู้ว่ากี่มื้อ...! ถ้าลักษณะอย่างนั้นก็ขาดโภชเนมัตตัญญุตามากไปหน่อย ต้องอยู่ในลักษณะที่ว่าพอเหมาะพอดี ก็คือให้เป็นมื้อเป็นคราว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-11-2018 เมื่อ 21:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #176  
เก่า 27-11-2018, 21:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,150 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ตอนที่หลวงพ่อเจ้าคุณพรหมบัณฑิตนำเอาปริญญาเอกกิตติมศักดิ์ไปมอบให้หลวงปู่เจ้าอาวาสวัดม้าขาว ไป๋หม่าซื่อที่ประเทศจีน พอกลับมาอาตมาก็ถามอาจารย์ที่ติดตามไปด้วยว่า ตกลงได้ฉันมื้อเย็นไหม เพราะว่าพระจีนเขาฉันมื้อเย็นกัน ท่านบอกว่าเขารู้กันหมดแล้วว่าพระไทยฉันแค่ ๒ มื้อ ก็เลยไม่มีมื้อเย็นให้ มีแต่น้ำชาให้กาเดียว แหม...นึกว่าจะได้ไปฉันมื้อเย็นที่โน่น

ฉะนั้น ของเราในเมื่อนิยมว่าเวลาเพลก็คือ ๑๑ โมงเริ่มฉัน เที่ยงตรงก็จบ บางท่านก็ถือว่าถ้าลุกก็จบเลย บางท่านฉันจนเลยเที่ยงก็มี ยังไม่ยอมลุก แต่บางท่านถือเที่ยงตรงจบ ส่วนบางท่านก็ถือว่าอาสนะเดียว ถ้าลุกขยับพ้นพื้นก็จบกันแค่นั้น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-11-2018 เมื่อ 21:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 163 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #177  
เก่า 28-11-2018, 21:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,150 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "วัตถุมงคลมีสักชิ้นสองชิ้นก็พอ ขอให้เรามั่นใจในคุณพระรัตนตรัยก็แล้วกัน ไม่ใช่ต้องมีทุกรุ่น มีทุกรุ่นนั่นเรียกว่าบ้าแล้ว..!

สมัยก่อนอาตมาก็บ้าแบบนี้เหมือนกัน ตุนไว้เพียบเลย บูชาพระคำข้าวหลวงพ่อวัดท่าซุงทีหนึ่ง ๓๐๐ องค์ ๕๐๐ องค์ ๗๐๐ องค์"

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-11-2018 เมื่อ 02:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 151 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #178  
เก่า 28-11-2018, 21:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,150 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "วันนี้วันเสาร์ ตอนที่เข้ากรรมฐาน ๓ วันมีสุดยอดสุภาพสตรีท่านหนึ่ง ก็คือคุณยายแม่ชีบุญเรือน โตงบุญเติม วัดอาวุธวิกสิตาราม ท่านแวะมาสงเคราะห์ บอกว่าวันเสาร์ให้ตั้งน้ำอธิษฐานเอาไว้ ท่านจะเสกให้ บรรดาลูกศิษย์ลูกหาของท่าน เขาก็ทำแบบนี้กันทั้งนั้น ฉะนั้น ถ้าหากว่าใครอยากรู้ว่าทำอย่างไร ให้ไปหาวิธีการดู อาตมาก็ตั้งไปแล้ว มีคนยอมเหนื่อยแทน ต้องรีบฉวยโอกาสไว้

พวกเราก็ไม่ต้องอธิษฐานอะไรมากหรอก ขอให้หายโรคหายภัย ใครมีโรคภัยไข้เจ็บอะไรที่หมอธรรมดารักษาไม่หาย ก็ขอบารมีคุณยายแม่ชีบุญเรือน โตงบุญเติมอธิษฐาน ขอพระธรรมของพระพุทธเจ้าสงเคราะห์ให้

อาตมาจำได้ว่าในกระทู้คนมีเงินฯ เคยเอาพระปิดตาล้มลุกของคุณยายแม่ชี กับพระอื่น ๆ ไปออกอยู่หลายองค์ อย่างสายหลวงพ่อฤๅษีของพวกเรา ท่านใช้คำว่าอาราธนาบารมีพระท่านสงเคราะห์ ของคุณยายแม่ชีท่านใช้คำว่า อธิษฐานขอพระธรรมของพระพุทธเจ้าสงเคราะห์ ก็ความหมายเดียวกัน ฉะนั้น...ใครก็ตามที่ขอบารมีพระได้ จะเสกของได้ขลังทุกคน"

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-11-2018 เมื่อ 02:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #179  
เก่า 28-11-2018, 21:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,150 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"จะว่าไปแล้วนักปฏิบัติผู้หญิงเก่ง ๆ ในเมืองไทยเราก็เยอะ อย่างคุณยายแม่ชีบุญเรือน โตงบุญเติม ก็เป็น ๑ ในจำนวนนั้น รุ่นหลัง ๆ ก็อย่างคุณยายแม่ชีแก้ว เสียงล้ำ เสียดายที่ว่าทางสายของหลวงพ่อฤๅษีวัดท่าซุง มีฆราวาสหญิงชายที่เป็นนักปฏิบัติชั้นยอดอยู่มาก แต่ด้วยความที่เป็นฆราวาส ก็เลยยกเป็นตัวอย่างให้กับคนอื่นไม่ได้

ที่ยกเป็นตัวอย่างให้คนอื่นไม่ได้ เพราะว่าถ้าเราไปกราบไหว้บูชา คนก็จะรู้สึกว่าแปลก ๆ แต่ว่าทางด้านสายของหลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุงนี่ เป็นเครื่องที่พิสูจน์ได้ชัดว่า คนเราจะหญิงจะชาย ไม่จำเป็นต้องบวช ขอให้ตั้งใจปฏิบัติจริง ก็สามารถเข้าถึงธรรมได้ทั้งนั้น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-11-2018 เมื่อ 02:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 157 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #180  
เก่า 28-11-2018, 21:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,150 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "อย่าไปแย่งวัตถุมงคลรุ่นที่คนเขาชอบกัน หลวงพ่อโต วัดระฆัง ท่านบอกแล้วว่า พระของท่านจะจริงจะปลอม จะเก่าจะใหม่ ถ้านึกถึงท่านก็มีอานุภาพเท่ากัน แล้วเรื่องอะไรเราจะไปซื้อองค์ละร้อยล้านแบบเสี่ยวิชัยท่าน แต่ว่าพระร้อยล้านของท่านก็ขลังจริงเหมือนกัน ขนาดเฮลิคอปเตอร์ตก ไฟไหม้ทั้งลำ พระไม่ระคายผิว แม้แต่พลาสติกยังไม่เป็นอะไรเลย

ไปนึกถึงอีกคนหนึ่งก็คือเสี่ยเหลา (นายแคล้ว ธนิกุล) นั่นโดนเอ็มสิบหกกระหน่ำกระจายเลย อมสมเด็จวัดระฆังไว้ในปากก็ตาย
ไม่เข้าสักนัดเดียว แต่ กระดูกหักหมด ลูกศิษย์ที่เขาทำเกี่ยวกับมูลนิธิร่วมกตัญญูเขาบอก ช่วงนั้นอาตมาก็เป็นประธานมูลนิธิกู้ภัยอยู่ เขาเล่าให้ฟังว่าไปเก็บศพเฮียเหลานี่ไม่มีแผลเลย แต่ตาย กระสุนแรงมากจนกระดูกหักหมด พอรู้สึกว่าอีกฝ่ายหนึ่งตามล่า ก็อมพระสมเด็จวัดระฆังไว้ในปาก แต่ต้องบอกว่าหมดวาระจริง ๆ ก็เลยต้องตายจนได้

อย่างของคุณวิชัย ศรีวัฒนประภา นามสกุลเก่าจำง่ายกว่า แต่ว่านามสกุลใหม่เป็นนามสกุลพระราชทาน ท่านเองก็หมดวาระจริง ๆ เหมือนกัน พระเรียบร้อยทุกองค์ ไม่เป็นอะไรเลย ไฟยังไม่ไหม้เลย แต่ตัวเองตาย ท่านแขวนพระ ๓ องค์ มีพระสมเด็จวัดระฆัง พระรอดลำพูน แล้วก็ล็อกเก็ตหลวงพ่อเกษม เขมโก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-11-2018 เมื่อ 03:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 150 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 20:13



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว