กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๔ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกรกฎาคม ๒๕๖๔

Notices

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกรกฎาคม ๒๕๖๔ เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกรกฎาคม ๒๕๖๔

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 26-07-2021, 20:45
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,598
ได้ให้อนุโมทนา: 216,275
ได้รับอนุโมทนา 739,957 ครั้ง ใน 36,062 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๖๔

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๖๔


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 26-07-2021, 23:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้เป็นวันจันทร์ที่ ๒๖ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔ ถือว่าเป็นวันที่สองของการเข้าพรรษา ช่วงสองวันที่ผ่านมา เสียงธรรมจากวัดท่าขนุนกลายเป็นการเทศน์ในช่วงในวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษาแทน

สำหรับระยะนี้ผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่นหยิ่นฟ้ากับพายุโซนร้อนจัมปากา ก็ทำให้ทางด้านทองผาภูมิฝนตกทั้งวันทั้งคืนต่อเนื่องกันมาหลายวันแล้ว

คราวนี้การที่ฝนตกก็เอื้ออำนวยให้เชื้อโรคแพร่ระบาดได้ง่ายขึ้น เพราะว่าเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ถ้าอยู่ในพื้นที่แห้ง ไม่กี่ชั่วโมงก็ตาย แต่ถ้าอยู่ในน้ำ จะอยู่ได้นานกว่าเป็นเท่าตัว ก็ต้องระมัดระวังกันมากขึ้น โดยเฉพาะญาติโยมทั้งหลายที่อยู่ทางบ้าน ตอนนี้กองทัพโควิดล้อมคุณไว้หมดแล้ว..! ไม่จำเป็นอย่าโผล่หัวออกไปให้เดือดร้อน เพราะว่าถ้านับยอดผู้ติดเชื้อกันจริง ๆ จัง ๆ ก็จะมากกว่าที่ทางราชการแจ้งพวกเราเยอะมาก

อีกส่วนหนึ่งก็คือพี่น้องชาวอีสาน โดยเฉพาะที่อยู่ริมแม่น้ำโขง ถ้าหากว่าพื้นที่เคยโดนน้ำท่วมถึง ให้หาทางขยับขยายล่วงหน้าไว้ก่อน อย่าให้ปุบปับน้ำมาแล้วก็ทำอะไรไม่ทัน ของบางอย่างถ้าเรามีการเตรียมพร้อม เรื่องที่หนักก็จะเป็นเบา เรื่องที่เบาก็จะเป็นหาย แต่ถ้าเราไม่มีการเตรียมพร้อม เรื่องที่เบาก็หนัก เรื่องที่หนักก็อาจจะถึงแก่ชีวิตได้..!

สภาพของดินฟ้าอากาศทุกวันนี้ จะว่าไปแล้วก็เกิดจากน้ำมือมนุษย์ล้วน ๆ แต่เพียงแต่ว่าถ้าเป็นสมัยโบราณ เมื่อดินฟ้าอากาศผิดปกติ ฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล เกิดภัยธรรมชาติ ชาวบ้านจะรวมตัวกันไปเรียกร้องให้ผู้นำถือศีลปฏิบัติธรรม อย่างน้อยก็ ๗ วัน แต่ปรากฏว่าทุกวันนี้ที่ไปเรียกร้อง ไม่ได้เรียกร้องให้ผู้นำถือศีลปฏิบัติธรรม แต่เรียกร้องให้ผู้นำลาออก ไปไกลเหมือนกันนะ...!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 27-07-2021 เมื่อ 23:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 26-07-2021, 23:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ช่วงนี้ในวงการสงฆ์ของเรา ไม่ว่าจะเป็นพระเป็นเณรติดเชื้อโควิดกันมาก อย่างที่วัดผ่องพลอยวิริยาราม ซอยลาซาล สามเณรติดเชื้อกันไปทีหนึ่งสองสามร้อยรูป พระผู้ใหญ่ที่ติดเชื้อโควิด อย่างหลวงพ่อเจ้าคุณมนู วัดมหาธาตุฯ หรือว่าหลวงพ่อวัดตึก นนทบุรีก็ถึงกับเสียชีวิต..!

โดยเฉพาะของเราเริ่มมีการเสียชีวิตนอกบ้าน พูดกันอย่างไพเราะมาก ถ้าพูดชัด ๆ ก็คือตายข้างถนน..! ซึ่งการที่ทุกอย่างมาถึงตรงนี้ จะโทษว่าเป็นความผิดพลาดของรัฐบาลอย่างเดียวก็ไม่ได้ เพราะว่าแม้แต่ประเทศมหาอำนาจใหญ่ ๆ โต ๆ อย่างสหรัฐอเมริกา อย่างอังกฤษก็บริหารผิดพลาด ประชากรตายเป็นจำนวนมาก มากกว่าสงครามโลกอีก แล้วหลังจากที่ฉีดวัคซีนไป เกิดความมั่นใจขึ้นมาแบบรู้ไม่เท่าทันโรค ก็เกิดการระบาดขึ้นมาใหม่

ขอย้ำว่าวัคซีนยี่ห้อใดก็กันเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ไม่ได้ เพราะว่าการฉีดวัคซีน จะไปเพิ่มภูมิคุ้มกันในเลือด แต่เชื้อไวรัสลงไปทำลายปอด ไม่ได้เข้าไปในเลือด เพียงแต่ว่าถ้าเรามีภูมิคุ้มกัน ร่างกายแข็งแรง โอกาสรอดก็จะมีมากกว่า จึงเป็นเรื่องที่พวกเราทั้งหลายต้องนำเอาหลักความไม่ประมาท ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาใช้ อย่างชนิดที่ "ห้ามการ์ดตกอย่างเด็ดขาด" ทำอย่างไรที่เราจะเก็บตัว ถ้าจะเอาปลอดภัยก็ ๒๑ วัน ซึ่งหลายคนบอกว่า "ตายกันพอดี" ทำไมถึงตายกันพอดี ? เพราะว่าขาดอาหาร

อาหารในที่นี้นอกจากคำว่า กวฬิงการาหาร อาหารคือข้าว กับ น้ำ ขนม ทั่วไปแล้ว ก็ยังมีผัสสาหาร อาหารคือลมหายใจเข้าออก แต่ส่วนที่บอกว่าขาดอาหารตายก็คือ วิญญาณาหาร อาหารที่เข้ามาทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-07-2021 เมื่อ 02:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 26-07-2021, 23:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เราจะสังเกตว่าทำไมนักเที่ยวถึงต้องไปเที่ยว ? จนกระทั่งกลายเป็นสาเหตุให้เชื้อไวรัสแพร่ระบาดอย่างรุนแรงมาก ก็เพราะว่าขาดอาหาร อาหารตา อาหารใจ อยากได้อาหารก็ต้องไป ตรงจุดนี้ต้องบอกว่า บรรดานักเที่ยวทั้งหลายนั้น ไม่เข้าใจถึงสภาพจิตใจของตน อยากจะยกตัวอย่างชัด ๆ ถึงผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว คือ ไมเคิล แจ็คสัน

ไมเคิล แจ็คสันไม่เข้าใจว่า สิ่งที่ตนเองไม่พอใจทั้งหมดนั้น ต้องแก้ที่ใจ แต่กลับไปแก้ที่ร่างกาย ด้วยการผ่าตัดเปลี่ยนใบหน้า เปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก เปลี่ยนจนพิพิธภัณฑ์มาดามทุสโซต์ถึงกับสาปแช่งเขาแล้ว เพราะว่าต้องแก้หุ่นขี้ผึ้งตามตลอดเวลา แต่ถ้าหากเปลี่ยนจากการแก้ไขร่างกายมาแก้ไขทางใจก็จบ และไม่น่าจะถึงแก่ชีวิต

บรรดานักเที่ยวก็เหมือนกัน เมื่อถึงเวลาเจอแสง เจอสี เจอเสียง ไม่ว่าจะเป็นเหล้า เป็นสาว ๆ เป็นดนตรี รู้สึกมีความสุข พอกลับบ้านก็ทุกข์ ต้องการมีความสุขอีกก็ไปใหม่ โดยที่ไม่เข้าใจว่าความสุขที่เกิดขึ้นจากการเที่ยวนั้น เป็นความสุขเพียงชั่วครั้งชั่วคราว เป็นความสุขจากการกระตุ้นของสิ่งภายนอกที่ไม่ยั่งยืน ถ้าจัดการไม่ถูก อาจจะทุกข์สาหัสเข้าไปอีก อย่างเช่นว่าทางบ้านจับได้ ก็บ้านแตกสาแหรกขาด

แต่ถ้าท่านทั้งหลายหันมาแก้ไขทางใจ อย่างเช่นว่าการให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ปีติที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติธรรม จากการที่ได้ให้ทาน ได้รักษาศีล ได้เจริญภาวนา เป็นปีติที่ยั่งยืน เพราะว่าเราสร้างขึ้นมาภายในใจของเราเอง เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ช่วยค้ำจุนหนุนเรา ให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนาได้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-07-2021 เมื่อ 02:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 26-07-2021, 23:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แต่ปีติจากการเที่ยวนั้น โดนกระตุ้นเร้าจากสิ่งภายนอก ซึ่งบางทีก็ถึงขนาดต้องใช้ยาเสพติดช่วย พอขาดก็กลับไปทุกข์หนักเหมือนเดิม จึงต้องแสวงหาให้มากยิ่งขึ้น บรรดานักเที่ยวถึงไม่สามารถหักห้ามตัวเองได้ เพราะว่าปรารถนาความปีติหรือความสุขที่เกิดขึ้น

แบบเดียวกับที่อดีตนักเขียนผู้ล่วงลับไปแล้วอย่างโกวเล้ง หรือที่ภาษาจีนกลางเรียกว่ากู่หลง บอกว่า "ข้าพเจ้าไม่ได้ชอบดื่มสุรา แต่ข้าพเจ้าชอบบรรยากาศในวงสุรา" นั่นคือลักษณะเดียวกัน เพราะว่าการได้พบปะพูดคุย ได้ฟังดนตรี ได้ดื่มเหล้า มีสาว ๆ อยู่เคียงข้าง ก็เกิดอาการปีติขึ้นในใจ สร้างความสุขให้เกิดขึ้น

แต่ปีติที่ได้รับการกระตุ้นเร้าจากสิ่งภายนอก พอขาดสิ่งกระตุ้นก็หายไปหมด โดยเฉพาะการกระตุ้นด้วยยาเสพติด มีแต่ต้องใช้มากยิ่ง ๆ ขึ้น จนในที่สุด ร่างกายรับไม่ไหวก็ถึงแก่ชีวิต หรือถ้าดวงดีหน่อย โดนตำรวจจับได้ก็ติดคุก รอดตายจากยาเสพติด แต่ว่าไปอยู่ในคุกแทน จนกระทั่งมีคนบอกว่า "ยาเสพติด คนเสพสบาย คนขายติดคุก" มาตอนหลังเปลี่ยนเป็น "คนเสพก็ตาย คนขายติดคุก" แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไร เพราะว่าไม่ยั่งยืน

เราจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องกระตุ้นตนเองด้วยการปฏิบัติในศีล ในสมาธิ ในปัญญา จากบุคคลที่ไม่มีศีล สามารถฝืนจนรักษาศีลได้ครบถ้วน จะเกิดปีติ เพราะว่าประสบความสำเร็จในสิ่งที่ทำได้ยาก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-07-2021 เมื่อ 02:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 26-07-2021, 23:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถึงเวลาเจริญสมาธิภาวนา จิตก้าวเข้าไปสู่ความสงบในเบื้องต้น รัก โลภ โกรธ หลง โดนกำลังสมาธิกดดับลงชั่วคราว คนที่โดนไฟราคะ โลภะ โทสะ โมหะ เผาอยู่ตลอดเวลา อยู่ ๆ ไฟดับลง มีความสุขจนบอกไม่ถูก และจะเป็นแรงกระตุ้นให้เราทำให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป ให้เจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป

ดังนั้น...ในส่วนนี้จึงขอเจริญพรแก่ญาติโยมทั้งหลาย ทั้งที่ฟังอยู่ที่วัดและฟังอยู่ที่บ้าน ไม่ว่าจะในหรือต่างประเทศก็ตาม เมื่อรู้ชัดในตรงนี้แล้ว ก็อยู่ที่เราต้องเลือกว่า จะยอมลำบากก่อนแล้วสบายเมื่อปลายมือ ก็คือหันมาให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา หรือว่า จะยอมลำบากแล้วก็ตายเมื่อปลายมือ เพราะว่าเราไปอาศัยสิ่งกระตุ้นเร้าจากภายนอก โดยเฉพาะพวกยาเสพติดทั้งปวง

เรื่องเหล่านี้ ท่านที่มีปัญญาแค่เห็นก็รู้แล้วว่าควรจะเลือกอะไร แต่ว่าบุคคลที่ตกอยู่ใต้อำนาจของกิเลสชักจูง ส่วนใหญ่แล้วไม่มีกำลังที่จะถอนตัวออกมา เพราะว่ากำลังสมาธิไม่พอ ในเมื่อกำลังสมาธิไม่พอก็หักห้ามตัวเองไม่ได้ เหมือนกับคนขับรถ รถพุ่งลงเหว ไม่สามารถที่จะแก้ไขอะไรได้ เพราะไม่มีกำลังที่จะหยุดรถนั้นได้

แต่สำหรับบุคคลที่มีสมาธิภาวนาทรงตัว กำลังใจเข้มแข็งพอ สามารถหักห้ามตนเองไม่ให้ตกลงเหวไปได้ และพยายามหลีกหนีให้พ้นจากเหวนั้นอีกด้วย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-07-2021 เมื่อ 02:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #7  
เก่า 26-07-2021, 23:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ เราต้องเลือกเองด้วยปัญญาของตน เรื่องของสุรายาเสพติด อาตมภาพไม่เคยเตือนใครให้เลิก เพราะรู้ดีว่าถ้าเขาคิดเองไม่ได้ ตัดใจเองไม่ได้ เราพูดไปให้ปากฉีกถึงหูเขาก็ไม่เลิก..!

แบบเดียวกับช่วงที่มาทองผาภูมิใหม่ ๆ มีอาจารย์โรงเรียนท่านหนึ่งไปขอใช้พื้นที่ในการฝึกลูกเสือ ก็ปรึกษาหารือกันว่าจะตั้งแต่ละฐานตรงไหนบ้าง ปรากฏว่าแกคุยกับพระไปก็ดื่มเหล้าไป อาตมาก็คุยไปเรื่อยเปื่อย จนท้ายสุดแกเองอดใจไม่ได้ ก็ถามขึ้นมาว่า

"อาจารย์..ตกลงจะไม่ห้ามผมจริง ๆ หรือ ? คนอื่นแค่รู้ว่าผมกินเหล้า ก็สารพัดที่จะยกศีลยกธรรมขึ้นมาห้าม นี่อาจารย์เห็นผมกินต่อหน้าต่อตา ยังไม่ห้ามผมเลย..!"

อาตมาบอกว่า "เงินก็เงินมึง สุขภาพก็ของมึง ทำไมกูต้องไปยุ่งด้วย..?!" คนที่คิดเองไม่ได้ ใครก็ห้ามไม่สำเร็จ ต้องคิดเองได้ ถึงจะห้ามได้สำเร็จ มาระยะหลังเขาสามารถเลิกเหล้าได้สำเร็จ ไม่มีใครห้าม หมอเพียงแค่บอกว่า "ถ้ากินต่อก็ตาย เพราะว่าตับแข็งหมดแล้ว..!"

เรื่องพวกนี้ที่บอกกล่าวให้กับพวกเราได้ทราบกัน ไม่ว่าจะเรื่องของภัยธรรมชาติที่หนักหน่วงขึ้น เรื่องของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ที่เราต้องระมัดระวัง ไม่ประมาท และท้ายที่สุดการที่เราให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนาอย่างจริง ๆ จัง ๆ จนสามารถที่จะสร้างปีติให้เกิดขึ้นเป็นอย่างน้อย ก็สามารถที่เป็นเครื่องหนุนเสริมของเราให้ปฏิบัติได้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป

วันนี้รบกวนเวลาของพวกเรามาพอสมควรแล้ว จึงขอยุติลงแต่เพียงเท่านี้


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๒๖ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-07-2021 เมื่อ 02:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 44 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 23:15



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว