#1
|
||||
|
||||
คาถากันโรคภัยไข้เจ็บ (สักกัตวาฯ)
"อโรคยา ปรมาลาภา" ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ
สุขภาพเป็นสิ่งสำคัญ หวังว่าทุกคนจะถนอมดูแลร่างกาย เพื่อปฏิบัติหน้าที่ทางโลกและปฏิบัติธรรมได้อย่างเต็มที่ พระคาถานี้เป็นส่วนหนึ่งของพระอาฏานาฏิยปริตร ในหนังสือสวดมนต์วัดท่าขนุน จะอยู่ในบทสวดมนต์พิเศษ วันพฤหัสบดี (เย็น) เป็นพระคาถาที่ช่วยรักษาโรคภัยไข้เจ็บ เพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ====================== ส่วนของพระคาถาว่าดังนี้ สักกัตวา พุทธะระตะนัง............โอสะถัง อุตตะมัง วะรัง หิตัง เทวะมะนุสสานัง............ พุทธะเตเชนะ โสตถินา นัสสันตุ ปัททะวา สัพเพ............ทุกขา วูปะสะเมนตุ เม . สักกัตวา ธัมมะระตะนัง............โอสะถัง อุตตะมัง วะรัง ปะริฬาหูปะสะมะนัง.............. ธัมมะเตเชนะ โสตถินา นัสสันตุ ปัททะวา สัพเพ............ภะยา วูปะสะเมนตุ เม . สักกัตวา สังฆะระตะนัง............โอสะถัง อุตตะมัง วะรัง อาหุเนยยัง ปาหุเนยยัง.......... สังฆะเตเชนะ โสตถินา นัสสันตุ ปัททะวา สัพเพ............โรคา วูปะสะเมนตุ เมฯ ====================== แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-02-2017 เมื่อ 02:05 |
สมาชิก 68 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ หยาดฝน ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
||||
|
||||
การจำพระคาถานี้นั้นง่ายมาก หยาดฝนได้ทำตัวอักษรเป็นสีน้ำเงินไว้ให้
แบ่งการจำเป็นสองส่วน ส่วนแรกคือส่วน "สีดำ" นั้น ซ้ำเหมือนกันหมดทั้งสามครั้ง ส่วนที่สองคือสีน้ำเงิน ส่วนสีน้ำเงินนั้นก็ไล่เป็น พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ นึกถึงความหมายของพระคาถาว่า พุทธะ คือ พระพุทธเจ้า และ รัตนะ/รัตนัง คือแก้ว รวมกันเป็น พุทธระตะนัง...แล้วไล่ไปว่าบทต่อไปคือ พระธรรม ก็เป็น "ธรรมระตะนัง" และพระสงฆ์ "สังฆะระตะนัง" ตามลำดับ ส่วนกลางเดี๋ยวค่อยทีหลัง ส่วนก่อนสุดท้ายนั้นง่าย "พุทธะเตเชนะ" - เตเชนะ คือ เดช หมายความว่า เดชแห่งพระพุทธเจ้า..แล้วก็ไล่ไปในบทพระธรรม ก็เป็น ธัมมะเตเชนะ และสังฆะเตเชนะ ตามลำดับ ที่เหลือก็แค่จำส่วนกลางนั้นสัมพันธ์กับส่วนต้นและสุดท้าย กล่าวคือแต่ละรัตนะนั้นมีคุณด้านใด และเดชแต่ละรัตนะช่วยให้สิ่งใดดับไป พุทธระตะนัง - หิตัง เทวะมะนุสสานัง (เป็นที่พึ่งแก่หมู่เทวดาและมนุษย์ กล่าวคือ เทวะ - เทวดา และมะนุสสา - มนุษย์) ธัมมะระตะนัง - ปะริฬาหูปะสะมะนัง (ช่วยระงับความกระวนกระวาย) สังฆะระตะนัง - อาหุเนยยัง ปาหุเนยยัง (อันนี้จำไม่ยาก เพราะอยู่ในบทอิติปิโสปกติอยู่แล้ว คือพระสงฆ์เป็นผู้ควรแก่การสักการะด้วยของบูชาและการต้อนรับ แปลในความเข้าใจของหยาดฝนคือ เป็นเนื้อนาบุญ) ต่อมาก็จำเดชว่า เดชของแต่ละรัตนะช่วยดับเรื่องใด พุทธะเตเชนะ - ทุกขา (เดชแห่งพระพุทธเจ้า ช่วยดับ "ทุกข์") ธัมมะเตเชนะ - ภะยา (เดชแห่งพระธรรม ช่วยดับ "ภัย") สังฆะเตเชนะ - โรคา (เดชแห่งพระสงฆ์ ช่วยดับ "โรค") แยกจำเสร็จแล้วก็มาประกอบกัน แค่นี้ก็จำได้ไวค่ะ หากหยาดฝนทำให้สับสน ก็ขออภัย..เพียงต้องการแบ่งปันเกร็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการจำพระคาถาเท่านั้น การท่องนั้น...โดยส่วนตัวทำเช่นนี้ค่ะ ถ้าขี้เกียจก็ตื่นเช้าหนึ่งจบ ก่อนนอนหนึ่งจบ ถ้าไม่ขี้เกียจ ไม่สบายหรือเจ็บไข้ได้ป่วยอยู่ เวลารินน้ำดื่มก็ท่องไปด้วยหนึ่งจบ ขี้เกียจกินยาก็ถือยาในมือ เหม่อ ๆ ถอนหายใจ นึกว่าไม่อยากกินยาเลย เวลาที่นึกก็ท่องได้อีกหนึ่งจบ ถ้าสวดให้คนอื่น เปลี่ยนจาก "เม" ท้ายบทเป็น "เต" คือ "...วูปะสะเมนตุ เตฯ" แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย หยาดฝน : 19-02-2017 เมื่อ 00:18 |
สมาชิก 63 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ หยาดฝน ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#3
|
||||
|
||||
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย หยาดฝน : 04-08-2017 เมื่อ 17:59 |
สมาชิก 63 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ หยาดฝน ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
คำสั่งเพิ่มเติม | |
|
|