|
เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#41
|
||||
|
||||
“อย่าประมาทนะ เชื้อโรคไม่เว้นใครหรอก ขนาดไม่ประมาทยังโดนเลย ตอนนี้รอบบ้านของเรามีแต่ระบาดรอบสองไปแล้ว บ้านเรากำลังรอดูอยู่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คนไทยส่วนใหญ่ประมาทมาก ไม่ค่อยจะใส่หน้ากาก ไม่ค่อยจะเว้นระยะ และถ้าไม่ได้เจอสถานที่ซึ่งเข้มงวดอย่างที่นี่ ก็ปล่อยเลยตามเลย วันไหนติดเชื้อเข้าไป จะบอกว่าเสียใจก็ไม่ทันแล้ว ถึงจะรักษาหายแต่ปอดก็ชำรุด ใช้งานไม่ดีเหมือนเดิม
เหตุที่เราประมาทเพราะว่าขาดสติ ในเมื่อขาดสติ..ความประมาทก็ย่อมเกิดขึ้นได้เป็นปกติ อย่าลืมว่าธรรมะของพระพุทธเจ้าทั้งหมด พระองค์ท่านตรัสว่า อัปปะมาเทนะ สัมปาเทถะ จงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อม ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ พระองค์ท่านสรุปลงเหลือแค่นี้เท่านั้น”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 09-09-2020 เมื่อ 19:40 |
สมาชิก 246 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#42
|
||||
|
||||
ถาม : ไม่ทราบว่ายังรับร่วมบุญหล่อพระชำระหนี้สงฆ์ปิดทองอยู่หรือเปล่าคะ ?
ตอบ : เต็มแล้ว..แต่ที่เขาทำมาก็ยังไม่พอหรอก ยังรับได้อีก ปิดยอดสั่งสร้างพระไปแล้ว ตอนนี้ช่างกำลังขึ้นลายองค์พระอยู่ ถาม : หนูรับเงินทำบุญของเพื่อนมาแล้วถวายไม่ทัน ? ตอบ : ช่างบอกว่าประมาณวันที่ ๒๐ นี้น่าจะเห็นหน้าเห็นหลัง อาตมาบอกเขาไว้ว่าอย่างไรก็ให้เสร็จภายในสิ้นเดือน เพราะว่าจะฉลองพระวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๖๓
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-09-2020 เมื่อ 16:13 |
สมาชิก 207 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#43
|
||||
|
||||
พระอาจารย์เล่าว่า “ช่วงนี้เป็นประสบการณ์เกี่ยวกับพระกริ่งสะท้านไตรภพที่ไหลมาเทมา โดยเฉพาะมีอยู่สองรายที่บอกว่าพออาราธนาพระกริ่งแล้ว เกิดฟ้าร้องสนั่นหวั่นไหว ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยร้องมาก่อน แล้วเป็นเรื่องบังเอิญว่าทั้งสองรายต่างใช้พระกริ่งสะท้านไตรภพเนื้อทองคำ อาตมาเองก็เลยสงสัยว่า ถ้าเป็นเนื้ออื่นจะเป็นบ้างไหม ? บางรายก็ขอเงินเลย แล้วดันได้อีกต่างหาก แสดงว่าขอเป็น..!”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-09-2020 เมื่อ 16:14 |
สมาชิก 222 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#44
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า “งานหล่อพระที่จะมาถึงของวัดท่าขนุนเป็นที่รอคอยกัน โดยเฉพาะการหล่อหลวงพ่อพระพุทธลีลาประทานพรเนื้อทองคำ กับพระปัจเจกพระพุทธเจ้าเนื้อเงินพร้อมกัน ความจริงตอนแรกอาตมากำหนดงานแยกไว้คนละปี แต่เนื่องจากว่าท่านอาจารย์สุชาติ เลิศภูมิปัญญา ปฏิมากรผู้ปั้นแบบ ท่านเมตตาปั้นแบบพระปัจเจกพุทธเจ้าให้เสร็จทันกำหนด ในเมื่อต้นแบบเสร็จแล้วก็หล่อไปเลย ภารกิจจะได้ลุล่วงไปอีกงานหนึ่ง อาตมาเองไม่ไว้ใจชีวิตตัวเอง อย่าลืมว่าหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ท่านก็มรณภาพอายุใกล้เคียงนี้ อาตมาเองก็อายุ ๖๐ กว่าแล้วเหมือนกัน
และอีกอย่างหนึ่ง ถ้าหากว่าภาวะสงครามรุนแรงขึ้น ข้าวของหลายอย่างอาจจะแพงมากกว่านี้ รายจ่ายอาจจะต้องเพิ่มมากขึ้นกว่านี้ แต่ก็ดีที่ว่าญาติโยมหลายท่านช่วยเหลือกัน โดยเฉพาะนำเม็ดเงินไปแลกกับพระกริ่งสะท้านไตรภพ ก็ทำให้อาตมาไม่ต้องหนักใจในส่วนของวัสดุหล่อพระ บางท่านก็คิดว่าการที่ตนเองเอาเม็ดเงินไปแลกพระกริ่ง เท่ากับไม่ได้อานิสงส์หล่อพระ อาตมาขอยืนยันว่าได้ เพราะอาตมาประกาศอย่างชัดเจนว่าเอาเม็ดเงินไปหล่อพระ ไม่ใช่ว่าเราตั้งใจไปแลกพระ..ไม่ได้ตั้งใจไปหล่อพระ..แล้วจะไม่ได้บุญ ต่อให้ไม่ได้บุญอะไรเลย อย่างน้อยก็ได้บุญเวยยาวัจมัย คือการขวนขวายให้งานบุญนั้นสำเร็จ ด้วยการนำเม็ดเงินไปส่งถึงวัดท่าขนุน เป็นต้น"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-09-2020 เมื่อ 16:15 |
สมาชิก 215 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#45
|
||||
|
||||
"คราวนี้งานต่อไปที่ญาติโยมกำลังรอนำเม็ดเงินหรือว่าเงินสดไปแลกพระกริ่งสะท้านไตรภพเนื้อทองแดง ในวันที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๖๓ ซึ่งเป็นวันบูรพาจารย์วัดท่าขนุน ก็ต้องบอกว่าท่านที่ไปช้าอาจจะไม่ได้อะไรเลย เนื่องจากว่าเมื่อวันที่ ๒๒ สิงหาคมที่ผ่านมานั้น มีหลายท่านที่พลาดจากพระกริ่งสะท้านไตรภพเนื้อเงินชนวน อาตมาเห็นแล้วสงสารเพราะว่าเดินทางกันมาไกล ก็เลยเปิดให้แลกพระกริ่งเนื้อทองแดงไปแล้วส่วนหนึ่ง
คราวนี้ข้อจำกัดอยู่ตรงที่ว่า ใครที่ได้ใช้สิทธิ์แลกเนื้อเงินไปแล้ว จะขอให้งดไม่ให้แลกเนื้อทองแดง ถามว่าตรวจสอบได้ไหม ?..ได้ เพราะว่าได้มีการทำระบบรองรับไว้ ด้วยการบันทึกหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน ถ้าท่านมาขอแลกซ้ำ ถึงเวลากรอกหมายเลขบัตรเข้าไป ระบบจะเด้งขึ้นมาฟ้องว่าเคยใช้สิทธิ์แลกไปแล้ว ก็อยู่ที่ท่านว่าจะเลี่ยงด้วยการขอร้องให้ใครไปแทน คราวนี้ท่านมีโอกาสพลาดถ้าไปช้าอย่างหนึ่ง แล้วขณะเดียวกันถ้าหากว่าไปในลักษณะของการเป็นคนที่เคยได้รับสิทธิ์ไปแล้ว อันนี้ก็พลาดแน่นอน"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-09-2020 เมื่อ 16:16 |
สมาชิก 206 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#46
|
||||
|
||||
"อาตมาเองนั้นตอนที่ทำพระกริ่ง ก็ไม่ได้คิดว่าจะเป็นที่ต้องการของท้องตลาดขนาดนี้ คาดว่าจะมีของปลอมตามมาในเวลาอันรวดเร็ว แต่ว่าปลอมอย่างไรก็จะไม่เหมือน เหตุที่ไม่เหมือนก็เพราะว่า การบรรจุนั้นเราบรรจุแล้วขัดเรียบไปเลย จากนั้นค่อยยิงเลเซอร์ทับ
ส่วนใหญ่ท่านที่ปลอมก็มักจะปลอมโดยการอุดฐาน เพราะว่าถ้าขัดจะเสียเวลาทำนาน ก็จะทำให้เห็นข้อต่างกันตรงนี้อย่างชัดเจน ส่วนองค์ไหนที่ทำมาแล้วเป็นองค์ตัวอย่าง เป็นองค์ต้นแบบ หรือเป็นองค์ชำรุด ก็คือตรวจสอบแล้วไม่ผ่าน ที่มีอยู่ประมาณ ๖ องค์ อาตมาก็ตอกโค้ดไปเลย เพื่อที่จะได้ยืนยันว่าเป็นของวัดเราอย่างแน่นอน"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-09-2020 เมื่อ 16:17 |
สมาชิก 215 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#47
|
||||
|
||||
พระอาจารย์เล่าว่า “ช่วงเดือนสิงหาคม ๒๕๖๓ นี้ อาตมาป่วยหนักสองรอบ เพราะว่าบิณฑบาตแล้วเปียกฝนบ่อย ถามว่าป่วยหนักไหม..? ก็คงจะเหมือน ๆ เดิม เพียงแต่ว่าอายุมากขึ้น สภาพร่างกายทนต่อโรคน้อยลง ก็เลยเกิดอาการอย่างที่เห็น..คือหมดสภาพ
โยมอุตส่าห์ไปตุ๋นยาพระกระโดดกำแพงให้ ฉันไป ๓ รอบ หลับสบายขึ้น แต่แรงจะลุกยังไม่ค่อยมี แล้วจะไปกระโดดกำแพงได้อย่างไร..? ก็เลยนึกขำ ๆ ว่ายาพระกระโดดกำแพงนี่ต้องเป็นพระหนุ่มเณรน้อย ประเภทอายุหกสิบกว่าอย่างอาตมานี่นะหรือ..? แค่ลุกจากที่นอนยังไม่ค่อยจะไหวเลย..! อาตมาเป็นคนไม่นอนเตียง จะนอนกับพื้นไปเลย เหตุเป็นเพราะว่าสมัยเด็ก ๆ ที่บ้านพ่อแม่มีลูกมากตั้ง ๑๓ คน ก็นอนเบียดกันบนเตียง แล้วคนที่ตกเตียงเป็นประจำคืออาตมาเอง ก็เลยเลิกนอนเตียง นอนกับพื้นมาจนเคย ดังนั้น..พระเถระบางท่านเข้าไปในห้องแล้วตกใจ “อะไร..อาจารย์ไม่มีเตียงเลยหรือ..!?” อาตมาต้องบอกว่า “เตียงนั้นมีเยอะ แต่ผมไม่ใช้ครับ..!” อาตมาเคยชินกับการนอนกับพื้น การนอนกับพื้นเวลาลุกต้องยันตัวมากกว่า เพราะว่าเอาขาห้อยลงมาข้างเตียงไม่ได้ พอถึงเวลาจะลุกขึ้น ออกแรงยันตัวขึ้นมายังยากเลย แล้วจะไปกระโดดกำแพงอย่างไร..?”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-09-2020 เมื่อ 20:09 |
สมาชิก 209 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#48
|
||||
|
||||
พระอาจารย์บอกโยมที่ใส่กางเกงยีนส์ขาด ๆ ว่า “กางเกงตัวนี้ให้โยนทิ้งไปได้เลย..!
โบราณเขาถือมากเรื่องใส่ผ้าขาด เหมือนกับแช่งตัวเองให้ลำบากยากจน แต่เด็กสมัยนี้กลับเห็นเป็นของเท่”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-09-2020 เมื่อ 20:10 |
สมาชิก 217 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#49
|
||||
|
||||
พระอาจารย์เล่าว่า “อาตมาไปเจอสุดยอดช่างฝีมือในการตีมีด ก็เลยสั่งเขาทำมีดหมอให้ ๓๐๐ เล่ม ปรากฏว่าได้เล่มตัวอย่างมาก็ได้เรื่อง เพราะว่าพายุฝนพากอไผ่ล้มทับถนน ก็เลยหวดด้วยมีดหมอตัวอย่างที่ได้มากระจายไปเลย ของเขาดีจริง..ใช้งานจริงได้เต็มที่เลย..!”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-09-2020 เมื่อ 20:11 |
สมาชิก 221 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#50
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า “ช่วงนี้อาตมารับกฐินปลดหนี้ของวัดนรตานีสโมสร (พระอารามหลวง) จังหวัดปัตตานี เพื่อร่วมสร้างพุทธมณฑลปัตตานี ปัจจัยได้ครบตามความตั้งใจแล้ว ๗ ล้าน ๕ แสนบาท แล้วก็รับกฐินเพื่อสร้างพระจุฬามณีวัดถ้ำป่าไผ่ไว้ ๑๐๐ กอง เป็นเงิน ๕ แสนบาท ตามมาด้วยที่พักเด็กโรงเรียนหมู่บ้านเด็กอีก ๗ แสนบาท และตอนนี้ที่เขากำลังแจ้งมาอีกประมาณ ๕ ล้านบาทก็คืออาคารปฏิบัติธรรมของวิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรี
เดี๋ยวจะค่อย ๆ ให้เขาเปิดกระทู้ทำบุญไล่ไป บางคนก็แปลกใจว่าอาตมาให้บูชาวัตถุมงคลตั้งมากตั้งมาย แล้วเงินหายไปไหนหมด ? ไม่ได้หายไปไหนหรอก อยู่แถว ๆ นี้แหละ เงินมีเอาไว้ใช้ โดยเฉพาะใช้ในเรื่องกองบุญการกุศล ในเรื่องของการสร้างความเจริญให้กับพระพุทธศาสนา ใช้ในงานสาธารณสงเคราะห์ผู้ที่ลำบากเดือดร้อน ถ้าญาติโยมทำบุญมาก็ไม่ต้องห่วง..อาตมาใช้เงินเป็น มีเท่าไรก็ไม่เหลือ..!”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-09-2020 เมื่อ 20:12 |
สมาชิก 241 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#51
|
||||
|
||||
พระอาจารย์อ่านหน้าซองที่โยมใส่ปัจจัยร่วมทำบุญ “พระปัจเจกพระพุทธเจ้าใช้ จ.จาน สะกดนะจ๊ะ โยมเขียนด้วย ป.ปลา ไม้หันอากาศ ด.เด็ก อย่างนั้นคือ ‘ปัดทิ้ง’
ปัจเจก (อ่านว่า ปัด-เจก-กะ) แปลว่าเฉพาะตน ก็คือพระองค์ท่านตรัสรู้แล้วไม่สอนคนอื่นให้รู้ตาม สอนแค่ ศีล สมาธิ ปัญญา เบื้องต้นเท่านั้น เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะว่าไม่ใช่หน้าที่ของท่าน หลายคนอาจจะคิดว่าบรรลุถึงขนาดเป็นพระพุทธเจ้าแล้ว ทำไมไม่สอนใคร..? เพราะว่าวิสัยของท่านเป็นเช่นนั้น ก็คืออยากรู้..แต่ไม่อยากสอน เรียนเพราะอยากรู้..ไม่ได้เรียนเพราะอยากสอน เมื่อเป็นเช่นนั้นพระองค์ท่านก็เลยกลายเป็นผู้รู้เฉพาะตน พุทธ (อ่านว่า พุด-ทะ) คือผู้รู้ ปัจเจกพุทธ (อ่านว่า ปัจ-เจก-กะ-พุด-ทะ) คือผู้รู้เฉพาะตน สำหรับคนไทยเรา อะไรที่สูงส่งเราจะใส่คำว่า ‘เจ้า’ ตามหลังไปด้วย ก็เลยกลายเป็น ‘ปัจเจกพุทธเจ้า’ ขอให้รู้ว่าคำหลังนี่มาจากภาษาไทยปนเข้าไป อย่างพระพุทธเจ้านี่บาลีเรียกว่า ‘สัมมาสัมพุทธ’ เรายกย่องพระองค์ก็เลยเป็น ‘สัมมาสัมพุทธเจ้า’ ตอนนี้ยังขาดเม็ดเงินอยู่ ๓๐๐ กิโลกรัมเพื่อที่จะหล่อพระปัจเจกพระพุทธเจ้า จะเปิดให้แลกพระกริ่งสะท้านไตรภพเนื้อทองแดง ๕ องค์ต่อเม็ดเงิน ๑ กิโลกรัม ในช่วงวันที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๖๓ นี้”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-09-2020 เมื่อ 12:14 |
สมาชิก 198 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#52
|
||||
|
||||
พระอาจารย์เล่าว่า “เมื่อสักครู่มีหนังสือส่งมาให้ไปประชุมเรื่องที่ดินของวัดที่มีปัญหาอยู่ เขาส่งมาเป็นร้อยวัดเลย มีวัดท่าขนุนด้วย อาตมาก็เลยส่งคำถามกลับไปว่า มีทั้งโฉนด มีทั้ง นส. ๓ ก ยังมีปัญหาอะไรอีก ?
ถ้าเป็น ภ.บ.ท.๕ ซึ่งย่อมาจาก เอกสารการเสียภาษีบำรุงท้องที่ จะมีปัญหา เพราะว่าไม่ได้แสดงความเป็นเจ้าของ แสดงแค่ว่าเราใช้พื้นที่นั้นทำประโยชน์ เขาบอกว่าอาจจะเป็นไปได้ว่าเป็นข้อมูลเก่าที่ยังไม่ได้ปรับปรุง เพราะเขาลงไว้ว่าตั้งวัดปี ๒๔๘๓ แต่ปี ๒๔๗๒ ในหลวงรัชกาลที่ ๗ ถวายธรรมาสน์และพระพุทธรูปรัชกาลให้แก่หลวงปู่พุก เจ้าอาวาสวัดท่าขนุนสมัยนั้น ซึ่งมีเอกสารระบุไว้ชัดเจน แล้วเอกสารของสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติบอกว่า ตั้งวัดปี ๒๔๘๓ แถมที่ดินวัดมีปัญหาอีกด้วย ถ้ามีปัญหาอาตมาจะได้เอาโฉนดไปจํานองซะ..! คิดว่าหลายวัดคงมีปัญหาและตกใจว่าทำไมที่ดินตัวเองมีปัญหาไปได้ บังเอิญอาตมาไม่ค่อยตกใจหรอก ถามกลับไปเลยว่ามีปัญหาตรงไหน..?”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-09-2020 เมื่อ 12:16 |
สมาชิก 200 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#53
|
||||
|
||||
ถาม : คุณย่าของหนูเพิ่งเสีย ถ้าหนูตั้งใจจะถือศีลแปด ๗ วัน ๗ คืน ให้บุญกับย่าอย่างนี้ ท่านจะได้รับไหมคะ ?
ตอบ : ช้าไปหน่อย อะไรที่ให้ได้ ให้ไปก่อน ไม่ใช่รอไปอีก ๗ วันกว่าเราจะถือศีลจบ ให้ตั้งใจว่า ศีล สมาธิ ปัญญา อะไรที่เราสร้างมาตั้งแต่ต้นจนถึงบัดนี้ เราขออุทิศให้ท่าน ขอให้ท่านอนุโมทนา เราจะได้รับประโยชน์ความสุขเท่าไร ขอให้ท่านได้รับด้วย แล้วที่เหลือค่อยไปทำเพิ่มทีหลัง
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-09-2020 เมื่อ 12:16 |
สมาชิก 210 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#54
|
||||
|
||||
พระอาจารย์แนะนำว่า “ช่วงนี้เริ่มเข้าสู่ปลายฤดูฝน ช่วงอากาศเปลี่ยนแปลงรุนแรง ถ้าใครมีคนแก่ มีคนป่วยอยู่ที่บ้าน ให้ดูแลให้ดี ถ้าหากว่าคนแก่ คนป่วยอาการหนัก ๆ ร่างกายทนไม่ไหวก็จะไปเลย ดังนั้น..อย่าประมาท ดูแลไม่ดีเราก็จะเสียผู้ที่เรารัก เราเคารพในบ้านไป
ญาติโยมทั้งหลายส่วนใหญ่แล้วสร้างความดีไว้น้อย ถึงเวลาจะไปแต่ละทีก็ลำบากลำบน ตัดสินใจแล้วตัดสินใจอีก ตัดไม่ขาด สำหรับอาตมานี่โยมไม่ต้องห่วง จะไปวันไหนก็ปุปปับไปเลย ไม่เสียเวลาตัดสินใจนาน ตอนนี้อาตมาเป็นคนแก่สมบูรณ์แบบ ตื่นขึ้นมาแต่ละวันก็แทบจะโอดโอยไปหมด เพราะว่าเลือดลมไม่ค่อยจะเดิน จะปวดเมื่อยร่างกายมาก ประมาณสองอาทิตย์หลังมานี้ เสียท่ามาสองรอบแล้ว ปกติแล้วอาตมาสามารถตื่นเองก่อนนาฬิกาปลุกเป็นเรื่องปกติ แต่เดี๋ยวนี้อยู่ที่วัดกลายเป็นตื่นตามเสียงระฆังเลย ปกติก่อนเสียงระฆังดังขึ้นอาตมาจะไปนั่งรอแล้ว ปรากฏว่าช่วงหลังมานี่เสียงระฆังมาแล้วค่อยตื่น สองอาทิตย์โดนไปสองครั้ง แสดงว่าร่างกายไม่ไหว ทำงานมาก ๆ ก็ทรยศแล้ว ถึงตั้งระบบไว้ ระบบก็รวน ไม่อยากจะทำงาน ถ้าหากว่าจะนับก็คือชายชราอายุ ๖๒ ปี ถ้าเป็นฆราวาสทั่วไป ก็เป็นปู่เป็นตาแล้ว”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-09-2020 เมื่อ 12:18 |
สมาชิก 205 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#55
|
||||
|
||||
พระอาจารย์คุยงานเรื่องพัฒนาชุมชนวัดท่าขนุน “ที่หน้าวัดท่าขนุนยังมีทางรถไฟสายมรณะสมัยสงครามโลกคาอยู่ อาตมาจะเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ของชุมชน”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-09-2020 เมื่อ 12:19 |
สมาชิก 208 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#56
|
||||
|
||||
พระอาจารย์เล่าว่า “ปกติเวลาอาตมาบิณฑบาต มีญาติโยมหลายรายทั้งที่ใส่บาตรและไม่ใส่บาตร จะถ่ายรูปตอนอาตมาเดินบิณฑบาต แล้วก็เอาไปแชร์กันในเฟซบุ๊กหรืออินสตาแกรม ปรากฏว่าระยะนี้เป็นหน้าฝน ส่วนใหญ่เวลาบิณฑบาต อาตมาจะเปียกเป็นลูกหมาตกน้ำ แล้วมีคนมาบอกว่า “หลวงพ่อครับ วันไหนหลวงพ่อเปียกมาก ๆ เขาแชร์กันกระจายเลย ถ้าวันไหนหลวงพ่อไม่เปียก เขาไม่ค่อยแชร์กันหรอก” อาตมาก็เลยสรุปว่า เขาอยากให้หลวงพ่อเปียก..!”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-09-2020 เมื่อ 12:19 |
สมาชิก 212 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#57
|
||||
|
||||
ถาม : เราไปถวายของพระแด่พระสงฆ์ พระพุทธรูป ที่วัด แล้วเราเอากลับมารับประทานที่บ้านได้ไหมคะ ?
ตอบ : ถ้าเป็นของที่เขากินเหลือแล้ว ก็กินที่วัดนั่นแหละ อย่าเอากลับมาเลย..อันตราย เพราะว่าเป็นของสงฆ์ไปแล้ว ถาม : แต่เป็นของที่เราเอาไปเองนะคะ ? ตอบ : ของเรา ถ้าหากว่าเหลือ ไม่ได้ถวายพระ..เอากลับได้ แต่ถ้าถวายไปแล้ว..กลายเป็นของสงฆ์ ถาม : แล้วถ้าเป็นพระพุทธรูปละคะ? ตอบ : พระพุทธรูปยิ่งซวยหนักเลย พระพุทธรูปเป็นครุภัณฑ์ มีศีลพระกำหนดไว้ชัดเจนเลยว่า ห้ามถวายแม้วัดอื่น ก็คือว่าพระรับไปแล้วยังถวายวัดอื่นไม่ได้เลย เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะว่า เจ้าของเขาอาจจะเสื่อมศรัทธา ถ้าหากว่าเขาเสื่อมศรัทธา น้อยใจว่าเอาของเขาไปให้ที่อื่น เขาก็อาจจะไม่บำรุงวัดอีก ถาม : (ไม่ได้ยิน) ตอบ : ถ้าหากว่าเป็นของเล็ก ไม่ใช่พระพุทธรูปหน้าตัก ๔ นิ้วขึ้นไป ก็สามารถแบ่งปันให้กับที่อื่นได้
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-09-2020 เมื่อ 14:52 |
สมาชิก 177 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#58
|
||||
|
||||
ถาม : อยากจะฝึกสมาธิให้คุณพ่อค่ะ (คุณพ่อเดินไม่ได้ ช่วยกันอุ้มขึ้นมาข้างบนเพื่อถวายสังฆทาน)
ตอบ : ให้คุณพ่อดูลมหายใจ หายใจเข้า...ตามไปจนสุด หายใจออก...ตามออกมาจนสุด ดูอยู่แค่นั้น ถ้าไม่รู้จะนึกอย่างไรก็ พุท..เข้า โธ..ออก พุทโธ..พุทโธ ไปเรื่อย ถ้าคิดถึงเรื่องอื่นก็กลับมานึกถึงลมหายใจตรงนี้ใหม่ แรก ๆ จะลำบากหน่อย เพราะว่าเรามักจะคิดโน่นคิดนี่ไปเรื่อย แต่ถ้าหากว่าพอนาน ๆ ไปจะอยู่ได้นานขึ้น..นานขึ้น ยิ่งนานขึ้นเท่าไร อำนาจจิตจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-09-2020 เมื่อ 14:53 |
สมาชิก 183 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#59
|
||||
|
||||
ท่านอาจารย์ของอาตมาคือ ดร. มนตรา เลี่ยวเส็ง ตอนที่ท่านเรียนปริญญาโท เครียดมากจนเส้นเลือดในสมองแตก เป็นอัมพาตนอนแข็งทื่อ ด้วยความที่ท่านเป็นเด็กวัดมาก่อน ฝึกกรรมฐานเป็น ตามดูลมเป็น ดูไป ๆ อำนาจจิตมากขึ้น..มากขึ้น สมาธิแข็งแรงขึ้น แข็งแกร่งมากขึ้น ก็ตั้งใจว่า “เราต้องลุกได้..!” สั่งตัวเองเลย..! ท้ายสุดท่านก็ลุกขึ้นเดินได้
นั่นเกิดจากอำนาจจิตตัวเองล้วน ๆ เลย คิดอยู่อย่างเดียวว่าถ้าเรานอนอยู่ ให้คนอื่นคอยป้อนน้ำป้อนข้าว อุ้มไปถ่ายอุจจาระปัสสาวะแบบนี้ไม่ไหว เราต้องลุกเองให้ได้ ก็เลยตั้งใจทำสมาธิแล้วก็ลุกได้ ปัจจุบันนี้สอนหนังสือหัวไม่วางหางไม่เว้น พอเก็บตกชีวิตคืนมาได้ก็ต้องใช้ให้คุ้ม ลองไปฝึกดูนะ อย่างนั้นท่านเป็นอัมพาตนอนอยู่กับที่ ไปไหนไม่ได้เลย ก็ยังเอาจนลุกขึ้นมาได้ ของเขายิ่งกว่าเราอีก ต้องบอกว่าท่านอาจารย์มนตราเป็นตัวอย่างที่ดีมากในเรื่องแบบนี้ ถาม : ก็คือต้องปฏิบัติในพระกรรมฐานใช่ไหมคะพระอาจารย์ ? ตอบ : สมาธิเรายิ่งทรงตัวเท่าไร เราจะยิ่งบังคับร่างกายได้มากเท่านั้น ถึงเวลาสั่งเลย ลุกซะดี ๆ ถ้าพลังจิตถึงระดับร่างกายก็ต้องลุก ถาม : ของคุณพ่อนี่ต้องกินสมุนไพร ? ตอบ : ยาอะไรที่หมอบอกว่าดีก็กินไปเถอะ แต่ว่าให้เอาสมาธิเข้าไปช่วยด้วย
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-09-2020 เมื่อ 14:55 |
สมาชิก 188 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#60
|
||||
|
||||
พระอาจารย์เล่าว่า “เขาบอกว่ารัฐบาลจะแจกเงิน อาตมาเคยบอกเพื่อนพระว่า “เคาะกะลาให้หมาดีใจ” คืออย่าไปหวัง จนป่านนี้เงินพระยังไม่มีท่านใดได้สักรูป และยังไม่มีใครได้สักบาท ส่วนวัดท่าขนุนช่วยเพื่อนพระรูปละ ๕,๐๐๐ บาท ไปสองรอบแล้ว รอบละสี่แสนกว่าบาท..!
ตอนแรกบอกว่าจะให้ได้ ๑๐๐ บาทต่อรูปต่อวัน เป็นเวลาสองเดือน แล้วก็ลดลงมา มติ ครม.ให้แค่ ๖๐ บาทต่อรูปต่อวัน เป็นเวลาสองเดือน มติ ครม.ออกมาจนป่านนี้ เงินอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ ? อาตมาถึงได้บอกว่านักการเมืองส่วนใหญ่ขาดความรับผิดชอบ ทำงานแบบหาเสียงเอาดีเข้าตัว ส่วนเรื่องของงานหลังจากที่พูดเสร็จแล้ว จะเกิดอะไรขึ้นไม่ได้รับผิดชอบเลย”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-09-2020 เมื่อ 14:56 |
สมาชิก 192 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
คำสั่งเพิ่มเติม | |
|
|