|
เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#1
|
||||
|
||||
เก็บตกจากบ้านเติมบุญ ต้นเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๓
ลูกชายมาถวายสังฆทานอุทิศให้พ่อแม่ที่เป็นอิสลาม "ความเชื่อไปคนละทิศคนละทางกัน แต่ถ้าเราสังเกตเกี่ยวกับการทำบุญให้กับผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ไม่ว่าชาติใดภาษาใดเขาก็มี ในเมื่อมีอยู่ ถึงเวลาของใครสามารถทำได้ตรงที่สุด ก็ถือว่าเป็นโชคดีของผู้ตายที่ลูกหลานทำบุญได้ตรง"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-02-2020 เมื่อ 02:56 |
สมาชิก 210 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
||||
|
||||
ถาม : ถ้าตอนตายแล้วรู้สึกเจ็บปวดมาก ๆ ปวดหัวมาก ๆ ไม่สามารถนึกถึงพระนึกถึงความดีได้ และจิตไปจับความรู้สึกเจ็บ ถ้าก่อนตายจิตจับแต่ความรู้สึกเจ็บ ตายแล้วจะไปไหนหรือครับ ?
ตอบ : ก็ต้องดูว่าก่อนที่จะจับความรู้สึกเจ็บนั้น เรานึกถึงอะไรก็ไปตรงนั้นแหละ ในบาลีเขาเรียกว่า อาสันนกรรม กรรมก่อนตาย กำลังใจสุดท้ายเกาะอะไรก่อนก็ไปที่นั่น ส่วนใหญ่ที่ไปเกาะความเจ็บปวด จิตใจเศร้าหมองก็มักจะลงทุคติ
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-02-2020 เมื่อ 02:57 |
สมาชิก 197 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#3
|
||||
|
||||
ถาม : ผมอ่านมาว่า ถ้าจิตเรานึกถึงใคร จิตจะไปหาคน ๆ นั้นทันที ผมสงสัยว่า ถ้าผมนึกถึงพระอริยเจ้าที่ละสังขารไปแล้ว ท่านจะรับรู้ว่าผมคิดถึงท่านหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ถ้าท่านละสังขารไปแล้ว ต่อให้ไม่ใช่พระอริยเจ้าก็รู้ เพราะว่าในเขตของท่านมีความเป็นทิพย์เฉพาะของตนอยู่
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-02-2020 เมื่อ 02:57 |
สมาชิก 203 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#4
|
||||
|
||||
ถาม : อาราธนาพระเครื่องสมเด็จองค์ปฐมติดตัวด้วยการสวดพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ ๓ จบ ทุกเช้าครั้งเดียว ถ้าหากถอดท่านออก ต้องอาราธนาใหม่อีกรอบหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ถ้ามั่นใจก็ไม่ต้อง ถ้าไม่มั่นใจก็ว่าใหม่เสียอีกครั้งหนึ่ง ถาม : เฉพาะพระเครื่องสมเด็จองค์ปฐมต้องอาราธนาพระคาถา อิทธิฤทธิฯ อีกหรือไม่ครับ ? ตอบ : ใช้ อิติปิ โสฯ ๓ ห้อง ๓ จบก็พอแล้ว หรือถ้ารู้คาถาเยอะ จะอาราธนามากกว่านั้นก็ได้
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 04-03-2020 เมื่อ 14:43 |
สมาชิก 203 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#5
|
||||
|
||||
ถาม : มีดหมอชาตรีด้ามฤๅษี สามารถใช้งานด้านมหาอำนาจเหมือนมีดหมอดาบฟ้าฟื้นหรือไม่ครับ ?
ตอบ : มีดหมอส่วนใหญ่ถ้าทำถูกวิธี ก็เป็นมหาอำนาจในตัวอยู่แล้ว เคล็ดลับคือเป็นอาวุธ ในเมื่อเป็นอาวุธ บุคคลก็ย่อมยำเกรง เกรงกลัว จึงเป็นมหาอำนาจในตัวอยู่แล้ว
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-02-2020 เมื่อ 02:58 |
สมาชิก 200 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#6
|
||||
|
||||
ถาม : เงินวิระทะโย หากนำไปใช้บูชาพระพุทธรูป ผ้าไตร ถวายสังฆทาน จะถือว่าผิดวัตถุประสงค์หรือไม่ครับ ?
ตอบ : ใช้ได้ในเขตของวิหารทาน สังฆทาน หรือธรรมทาน เพราะว่าเงินวิระทะโยจริง ๆ ก็คือ เงินที่ตั้งใจใส่บาตร การใส่บาตรโดยไม่จำกัดถือว่าเป็นสังฆทานอยู่แล้ว ฉะนั้น..อย่าใช้ให้ต่ำกว่าสังฆทาน
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-10-2020 เมื่อ 03:37 |
สมาชิก 196 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#7
|
||||
|
||||
ถาม : ภาวนาคาถาเงินล้านทั้งชุดแล้วรู้สึกหนัก กับรู้สึกว่าบางจุดเหมือนภาวนาอย่างไรก็ไม่ดี ต้องย้ำ ๆ หลายรอบกว่าที่จะผ่านได้ หากจะภาวนาแยกเป็นคาถาย่อยในคาถาเงินล้านไปทีละส่วน ส่วนละหลายจบ จนครบทุกบท จะได้ผลเหมือนภาวนาทั้งบทรวดเดียวหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราภาวนามากน้อยเท่าไร และขณะเดียวกันสมาธิจิตมีคุณภาพแค่ไหน ถ้าภาวนาไม่ครบ ส่วนที่ควรได้อาจจะขาดไป อย่างเช่นว่า เราภาวนาบทอื่นย้ำ ๆ อยู่ แล้วลืมคาถาปัดอุปสรรค ก็อาจจะมีอุปสรรคเกิดขึ้นมา หรือไม่ก็ลืมคาถาพิทักษ์ทรัพย์ ถึงได้มาก็อาจจะใช้หมด เป็นต้น
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-02-2020 เมื่อ 02:59 |
สมาชิก 191 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#8
|
||||
|
||||
ถาม : คาถามหาประสาน ประสานกระดูกที่ร้าวแตกหักได้หรือไม่ครับ ?
ตอบ : ได้ทั้งเลือดเนื้อและกระดูก สมัยอาตมาเด็ก ๆ มีตาชม ตาชมโดนแทงเลือดสาด โดดน้ำตูม..โผล่ขึ้นมาแผลหาย ไปถามทีหลังถึงได้รู้ว่าเคล็ดลับของครูบาอาจารย์ ให้กลั้นใจว่าคาถา ทีนี้ครูบาอาจารย์ท่านก็คงกลัวว่าตาชมจะสงสัยว่าทำไมต้องกลั้นใจด้วย ก็เลยบังคับให้โดดน้ำไปเลย...หมดเรื่องกันไป
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-02-2020 เมื่อ 03:00 |
สมาชิก 192 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#9
|
||||
|
||||
ถาม : ถ้าในหมู่บ้านของผม มีพระรูปหนึ่งมาบิณฑบาตอยู่เป็นประจำ ซึ่งผมก็ทราบว่า ท่านจำพรรษาอยู่เพียงรูปเดียวในวัด แล้วผมก็ใส่บาตรกับท่าน และเนื่องจากหลวงพ่อเคยกล่าวไว้ว่า เวลาใส่บาตรหากเราตั้งกำลังใจเอาไว้ว่า เราจะไม่ใส่บาตรเจาะจงพระรูปใดรูปหนึ่ง ให้ใส่บาตรกับพระรูปใดก็ได้ ก็ถือว่าเราได้อานิสงส์สังฆทาน แต่ว่าหมู่บ้านที่ผมอาศัยอยู่ ที่วัดนั้นมีท่านเป็นพระอยู่เพียงรูปเดียว ผมอยากทราบว่า ผมจะได้อานิสงส์สังฆทาน หรือปาฏิปุคคลิกทาน ?
ตอบ : ได้อานิสงส์สังฆทาน เพราะว่าเราไม่ได้เจตนาว่าจะใส่บาตรพระรูปไหน ต่อให้ไม่ครบ ๔ ก็เป็นสังฆทาน สงสัยอย่างเดียวว่าคนใส่ทำใจได้ไหม ? เพราะรู้อยู่แล้วว่าทั้งหมู่บ้านมีพระอยู่รูปเดียว
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-02-2020 เมื่อ 03:01 |
สมาชิก 191 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#10
|
||||
|
||||
ถาม : สมมติว่าผมไปถวายสิ่งของให้กับวัด ๔ วัด โดยไม่ได้เจาะจงพระรูปใด แต่ผมรู้อยู่แก่ใจอยู่แล้วว่า ทั้ง ๔ วัดนั้นมีพระอยู่แต่ละวัดเพียง ๑ รูป อยากทราบว่า การกระทำในลักษณะนี้จะได้อานิสงส์ปาฏิปุคคลิกทาน ๔ ครั้ง หรือได้อานิสงส์สังฆทาน ๔ ครั้ง หรือได้อานิสงส์สังฆทาน ๑ ครั้งครับ ?
ตอบ : ได้สังฆทาน ๔ ครั้ง เพราะว่าถวาย ๔ ครั้ง แต่เชื่อเถอะว่า...คนถามถ้าไปถวายก็ได้ปาฏิปุคคลิกทานทุกครั้ง เพราะว่าเห็นพระรูปเดียวแล้วทำใจไม่ได้
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-02-2020 เมื่อ 03:01 |
สมาชิก 180 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#11
|
||||
|
||||
ถาม : ผมมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการรักษาศีลข้อที่ ๔ ว่า ถ้าเราพูดไม่ตรงกับความเป็นจริงที่เกี่ยวข้องกับเรื่องส่วนตัวของเรา ซึ่งถ้าบอกให้เขารู้ตรง ๆ ก็จะทำให้ตัวเราเองไม่สบายใจ อย่างเช่นว่า ถ้าหากมีคนมาถามว่า ทำไมถึงไม่มากินข้าวเย็นด้วยกัน เราตอบเขาไปว่า เราไม่หิว แต่ในความเป็นจริงแล้วเราหิว แต่เราไม่ชอบขี้หน้าเขา เราเลยไม่อยากไปด้วย ซึ่งถ้าหากเราไปกับเขาแล้วโทสะกำเริบก็เกรงว่า เราจะทำเรื่องที่ไม่ดี หรือถ้าบอกเขาไปตามตรงว่า เราไม่ชอบเขา ก็เกรงว่าจะมีปัญหากัน ซึ่งการที่ผมพูดไม่ตรงกับความจริงไปบ้างก็ไม่ได้ทำให้ใครเสียหาย อย่างนี้ผมผิดศีลข้อ ๔ หรือไม่ครับ ?
ตอบ : เรื่องนั้นเป็นเรื่องโกหก เรารู้ว่าเป็นเรื่องโกหก เราตั้งใจที่จะโกหก เราลงมือทำ บุคคลอื่นเชื่อถือตามนั้น ถ้าครบทุกข้อก็ผิดเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ ถ้าขาดข้อไหนความผิดก็ลดไปตามส่วน
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-02-2020 เมื่อ 03:02 |
สมาชิก 179 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#12
|
||||
|
||||
ถาม : ถ้ามีคนมาทำให้เราโกรธ ผมจะถือคติว่า เราไม่ควรคบคนพาล แต่ก็ยังรู้ตัวอยู่ว่า เรายังโกรธเขาอยู่ และผมก็ไม่ไปคบค้าสมาคมกับเขา ผมเข้าใจว่า การวางกำลังใจในลักษณะนี้ยังพร่องในกรรมบถ ๑๐ คือยังมีความพยาบาทอยู่ แต่ก็ยังอยู่ในขอบเขตของการไม่จองล้างจองผลาญ ไม่เอาคืนเขา แต่ผมกลัวว่า ถ้าหากเราคบคนพาล เขาจะพาเรา คิด พูด ทำ ในสิ่งไม่ดี ซึ่งผมก็ไม่มีหลักประกันอะไรว่าเขาจะเป็นคนดี โดยพิจารณาจากสิ่งที่เขาทำเบื้องต้น ผมคิดว่าการไม่ไปคบหาสมาคมกับเขาเลยจะมีประโยชน์มากกว่าข้อเสีย ผมคิดถูกหรือไม่ และหลวงพ่อมีความเห็นว่าอย่างไรครับ ?
ตอบ : ถูกแค่นั้น ถ้าสามารถทำใจได้มากกว่านั้น ก็สามารถที่จะเมตตาสงเคราะห์เขาได้ เราเองใช้วิธีตัดปัญหาด้วยการเลิกคบไปเลย จึงทำให้ขาดตัวเมตตา
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-02-2020 เมื่อ 03:03 |
สมาชิก 172 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#13
|
||||
|
||||
ถาม : ผมมีข้อสงสัยในเรื่องของมานะกิเลสว่า เราต้องกำหนดจิตไว้ว่า เราจะไม่ตีตนดีไปกว่าใคร ไม่ตีตนด้อยไปกว่าใคร และไม่ตีตนเสมอใคร แต่เวลาที่ผมกำหนดจิตว่า "เราจะไม่ตีตนด้อยไปกว่าใคร" จะทำให้ความรู้สึกว่า "เราดีกว่าคนอื่น" เด้งขึ้นมาพร้อม ๆ กัน ซึ่งถ้าผมกำหนดจิตไว้แค่ว่า "เราจะไม่ตีตนดีกว่าใคร" หรือ "ไม่ตีตนเสมอใคร" จะทำให้เรานอบน้อมถ่อมตนได้มากกว่า หลวงพ่อมีความเห็นว่าอย่างไรครับ ?
ตอบ : อยู่กับลมหายใจเข้าออก ถ้าสติสมบูรณ์พร้อมจะรู้เองว่าควรทำอย่างไร
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-02-2020 เมื่อ 03:03 |
สมาชิก 172 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#14
|
||||
|
||||
ถาม : สมมติว่าเราเห็นคนอื่นที่เขาได้ดีเจริญก้าวหน้ากว่าเรา แล้วเราก็พยายามที่จะทำให้ได้ดีแบบเขา ไม่ว่าจะเป็นทางธรรม โดยการตั้งใจทำความดี ละเว้นความชั่ว และทางโลก โดยการมีความเพียรตั้งใจในการทำงาน การที่ผมตั้งใจเอาไว้แบบนี้ ถือว่าเราเข้าข่ายไม่อยากให้คนอื่นดีกว่าตนเองหรือไม่ แล้วเราควรตั้งกำลังใจแบบนี้ต่อไปหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราคิดหรือเปล่า ว่าไม่อยากให้เขาดีกว่าเรา แต่ถ้าเราอาศัยเขาเป็นตัวอย่าง เพื่อที่จะพากเพียรให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นไป ก็จัดเป็นวิริยบารมีด้วย
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-02-2020 เมื่อ 03:04 |
สมาชิก 170 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#15
|
||||
|
||||
ถาม : ถ้าผมจำไม่ผิด หลวงพ่อเคยบอกเอาไว้ว่า ให้เราภาวนาให้จิตทรงตัวเป็นสมาธิมากที่สุด แล้วค่อยคลายออกมาพิจารณาวิปัสสนาญาณในลักษณะที่ว่า ทุกอย่างไม่เที่ยง ร่างกายไม่ใช่ของเรา สุดท้ายก็สลายหายไปหมดว่างเปล่าไม่มีอะไรเหลือ แต่ผมกลับรู้สึกว่า ตอนผมพิจารณาว่าทุกอย่างว่างเปล่า ร่างกายไม่ใช่ของเราตั้งแต่แรก จิตจะเข้าสู่สมาธิได้ดีกว่าการภาวนาแบบอื่น ๆ แบบนี้ควรทำอย่างไรดีครับ ?
ตอบ : วิธีไหนทำให้ใจเป็นสมาธิ รัก โลภ โกรธ หลง กินใจเราไม่ได้ ให้ทำวิธีนั้น
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-02-2020 เมื่อ 03:04 |
สมาชิก 175 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#16
|
||||
|
||||
ถาม : การที่เราตั้งใจสร้างบุญบารมีในหมวดทาน ศีล ภาวนา และระงับความชั่ว ในลักษณะที่ตั้งใจเอาไว้ว่า จะได้มีบุญเยอะ ๆ เก็บไว้ เพื่อตอนที่เราตายไปแล้วจะได้ไปสู่สุคติ แล้วพอมาเกิดเป็นมนุษย์ใหม่จะได้พบเจอแต่เรื่องดี ๆ ผมเข้าใจดีว่า ควรจะตั้งกำลังใจเพื่อเป็นไปในทางละกิเลสเพื่อเข้าสู่พระนิพพาน แต่ผมก็คิดว่า เราก็ยังทำอยู่ในขอบเขตของการสร้างบุญบารมีและระงับความชั่วอยู่ และก็ไม่ได้ไปผิดทางขนาดนั้น ผมคิดถูกหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ถูกแค่นั้น การตั้งเป้าหมายควรที่จะตั้งให้สูงสุดเอาไว้ เพื่อจะได้ใช้ความพยายามอย่างสูงสุดเท่าที่เรามีอยู่ ถ้าตั้งเป้าหมายเอาไว้ต่ำ ความเพียรจะน้อยลง ถ้าไปไม่ถึงเป้าหมาย ก็จะได้แค่นิดเดียว ตั้งเป้าหมายไว้สูงสุด ก็จะใช้ความเพียรพยายามอย่างสูงสุด ต่อให้ไม่ถึงเป้าหมาย ก็ยังได้มากกว่าคนอื่นเขา
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-02-2020 เมื่อ 03:05 |
สมาชิก 177 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#17
|
||||
|
||||
ถาม : ถ้ามีสะพานบุญท่านหนึ่งรับฝากเงินจากผู้อื่น เพื่อไปทำบุญในงานบุญแห่งหนึ่ง แล้วสะพานบุญท่านนั้นก็เอาเงินจำนวนนั้นทั้งหมดไปให้อีกคนหนึ่งที่สะดวกไปงานบุญ ให้เอาเงินไปทำบุญในงานบุญนั้นให้อีกที แต่ปรากฎว่าคนที่รับเงินไปทำบุญจากท่านที่เป็นสะพานบุญนั้น ไม่ได้เอาเงินไปทำบุญ หรือนำเงินไปทำบุญผิดวัตถุประสงค์ของกองบุญ ไม่ทราบว่าใครจะติดโทษย้ายเจดีย์ ระหว่างท่านที่เป็นสะพานบุญ กับคนที่รับเงินจากสะพานบุญไปทำบุญให้ ?
ตอบ : คนที่รับเงินไปต่อแล้วไม่ไปทำให้เขา
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-02-2020 เมื่อ 03:05 |
สมาชิก 175 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#18
|
||||
|
||||
ถาม : ผมมีข้อสงสัยว่า พระเจ้าอชาตศัตรูซึ่งท่านได้รับพุทธพยากรณ์ว่า จะได้ตรัสรู้เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าในอนาคต แล้วมีช่วงที่พระพุทธเจ้าเสด็จไปโปรด แล้วตรัสเอาไว้ว่า หากพระเจ้าอชาตศัตรูไม่ไปฆ่าพ่อตัวเองก่อนที่พระพุทธเจ้าจะมาโปรด ท่านก็จะได้บรรลุมรรคผล ผมไม่เข้าใจว่า ในเมื่อท่านบำเพ็ญบารมีเพื่อที่จะเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้ามาตั้งแต่ต้น แล้วท่านจะมาบรรลุมรรคผลเป็นสาวกภูมิได้อย่างไรครับ ก็จริงอยู่หลังจากท่านสำนึกผิดไปแล้ว ท่านก็ได้ทำบุญอย่างหนัก แต่ก็ไม่น่าจะได้รับพุทธพยากรณ์จากการสร้างบารมีแค่ชาตินั้นเพียงชาติเดียว ?
ตอบ : กรรมชั่วที่เข้ามาขวาง ทำให้หนทางเปลี่ยนไป กำลังบุญเดิมที่ท่านทำมา ถ้าไม่ได้ทำอนันตริยกรรม อย่างน้อยก็ได้เป็นพระอริยเจ้าระดับโสดาบัน แต่เนื่องจากว่าไปสร้างอนันตริยกรรมเข้าไว้ ก็เลยทำให้กระแสนั้นเปลี่ยนไป พอมาตอนท้ายกลับมาทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ผลบุญจึงส่งให้ท่านได้เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า เนื่องจากว่าเห็นความดีในพระพุทธศาสนาแล้ว อาจจะมีการตั้งกำลังใจปรารถนาไว้เช่นนั้นก็ได้
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-02-2020 เมื่อ 03:06 |
สมาชิก 175 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#19
|
||||
|
||||
ถาม : มีหลายครั้งที่ผมสวดมนต์ไปเรื่อย ๆ จะมีแต่อาการชาตามใบหน้าและร่างกาย ไม่มีอาการหิว แต่มักจะไม่ค่อยอยากขยับปาก ก็เลยหยุดสวดมนต์ไปเอง พอหยุดสวดมนต์ อาการชาตามร่างกาย และอาการตึง ๆ บนใบหน้าก็จะมีอยู่สักพัก จากนั้นก็จะหายไป แล้วก็สามารถขยับปากเพื่อสวดมนต์ได้อีก พอสวดมนต์อีก ก็มีอาการแบบที่ว่านี้อีก จนกระทั่งไม่อยากขยับปาก ต้องหยุดสวดมนต์เอง ไม่ทราบว่าอาการที่เป็นอยู่นี้คืออะไร แล้วผมควรทำอย่างไรต่อไปครับ ?
ตอบ : เขาเรียกว่าสมาธิเริ่มทรงตัว อย่าลืมว่าการสวดมนต์เราต้องตั้งใจ ถ้าเราไม่ตั้งใจจะเผลอสวดผิด ในเมื่อเราตั้งใจนั่นก็คือการตั้งสมาธิ ถ้าสมาธิทรงตัวมากขึ้น จิตกับประสาทเริ่มแยกออกจากกัน ก็จะบังคับร่างกายได้ยาก คราวนี้กำลังใจของเรายังทรงอยู่ได้แค่ระยะเดียว เมื่อเลยช่วงนั้นไปก็จะหลุดออกมา เมื่อตั้งใจที่จะสวดมนต์ใหม่ สมาธิก็จะกลับเข้าไปทรงตัวระดับนั้นอีก ก็ขยับปากลำบากอีก ถาม : ผมได้ยินที่หลวงพ่อบอกว่าสวดมนต์ให้ถึงฌาน ๔ ได้ ไม่ทราบว่าต้องทำอย่างไรครับ ? ตอบ : ทำอย่างนั้นแหละ จับลมหายใจไปพร้อมกับการสวดมนต์ เพียงแต่ต้องซ้อมเข้าออกสมาธิให้คล่องตัวกว่านั้น
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-02-2020 เมื่อ 03:08 |
สมาชิก 176 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#20
|
||||
|
||||
ถาม : ผมได้ยินมาว่า น้ำมันชาตรีใช้สกัดร้อนได้อย่างเดียว ถ้าเอาน้ำมันชาตรีมาผสมกับน้ำมันที่สกัดเย็นจะใช้ไม่ได้ผล อันนี้จริงหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ไปถามคนบอก หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านไม่ได้บอกไว้แบบนั้น ท่านแค่บอกว่าเติมน้ำมันอะไรก็ได้ เติมเท่าไรก็ยังมีอานุภาพเหมือนเดิม
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-02-2020 เมื่อ 16:13 |
สมาชิก 182 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
คำสั่งเพิ่มเติม | |
|
|