|
เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#21
|
||||
|
||||
วันอาทิตย์มีคนลืมของไว้ที่บ้านเติมบุญ "ใครทำหายโปรดมารับคืนด้วย เป็นกุญแจสำนักงานกับโทรศัพท์ ถ้ามารับกุญแจบอกด้วยว่ามีกี่ดอก ส่วนโทรศัพท์อาตมาจะให้เปิดให้ดู เปิดไม่ได้ก็ไม่ต้องรับคืนไป
ตอนนี้ที่บ้านเติมบุญมีแว่นตาหลายอัน เจ้าของไม่มารับคืน และยังมีข้าวของอื่นอีกหลายชิ้น ปัจจุบันนี้เลขานุการที่วัดของอาตมา กำลังจะขยับขยายไปเป็นเจ้าอาวาส ท่านกำลังมอบหมายงานให้กับเลขาฯ วัดคนใหม่ จะมีสมบัติที่คนลืมไว้ที่วัดเป็นกุรุสเลย ของที่อาตมาเก็บไว้เอง มีกระเป๋าเงินใบหนึ่ง ซึ่งมีแต่เงินล้วน ๆ ไม่มีบัตรอย่างอื่นอะไรแม้แต่ใบเดียว เก็บจนราขึ้นแล้วเจ้าของยังไม่มาเอาคืน คราวหน้าโปรดเขียนอะไรเอาไว้สักนิด ที่อยู่หรือเบอร์โทรศัพท์ก็ได้ ไม่ใช่ว่ามีแต่เงินล้วน ๆ"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-11-2019 เมื่อ 16:58 |
สมาชิก 179 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#22
|
||||
|
||||
"สมัยที่อาตมายังเป็นฆราวาส จะมีกระเป๋าเงินไว้ให้เขาล้วง แต่ก็ยังใส่พวกนามบัตรเอาไว้ กระเป๋ามีไว้ให้เขาล้วงจริง ๆ ส่วนเงินที่จะใช้ก็ใส่กระเป๋าเสื้อเอาไว้ ถ้าเป็นกระเป๋าเสื้อเขาไม่ค่อยกล้าล้วง เพราะว่าใกล้สายตาของเรา
เวลาไปต่างประเทศ พวกมัคคุเทศก์หรือไกด์มักจะเตือนเสมอว่า "กระเป๋าอยู่ข้างหน้าเป็นของเรา กระเป๋าอยู่ข้างหลังเป็นของเขา กระเป๋าอยู่ข้าง ๆ แบ่งกันคนละครึ่ง" นักล้วงเขามือไวจริง ๆ บางทีเขาทำงานเป็นทีม มากัน ๓-๔ คน คนหนึ่งเดินเข้ามามีเอกสารเข้ามาถามเรา ส่วนอีกคนหนึ่งเหมือนนักท่องเที่ยวด้วยกัน เรามัวแต่ไปอธิบายขยายความให้เขา หันมาอีกทีกระเป๋าตัวเองกลวงโบ๋ไปแล้ว บางรายเดินมากระแทกเลย พอเราหันไปมองหน้า เพื่อนทางนี้ก็ล้วงกระเป๋าไปแล้ว"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-11-2019 เมื่อ 16:59 |
สมาชิก 177 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#23
|
||||
|
||||
"มีโยมอยู่คนหนึ่งไปฮ่องกง เขาบอกว่านักล้วงฮ่องกงฝีมือล้ำเลิศมาก เผลอเมื่อไรจะเหลือแต่ตัว โยมคนนี้ซื้อไอศกรีมไปนั่งกินในส่วนสาธารณะ กระเป๋าเงินก็วางแล้วนั่งทับไว้ แน่จริงมาล้วงสิ...! นั่งกินไอศกรีมอยู่ เด็ก ๓-๔ ขวบวิ่งมาล้มตรงหน้า รีบลุกไปพยุงเด็ก หันกลับมากระเป๋าหายไปแล้ว...! เขาเก่งขนาดนั้น
ของพวกนี้อาตมาก็สงสัย มารู้ทีหลังว่าเขาฝึกกันจริงจังมาก เอาน้ำมา ๑ กะละมัง ต้องจุ่มมือลงไปโดยที่ไม่ให้น้ำกระเพื่อม จนกระทั่งสามารถทำได้ในจังหวะปกติ ก็คือความเร็วแบบปกติ แล้วน้ำไม่กระเพื่อมได้ หลังจากนั้นก็กางมุ้ง เย็บกระเป๋าไว้รอบมุ้ง เอาธนบัตรใส่ไว้ ทำอย่างไรจะคีบธนบัตรออกมาโดยที่มุ้งไม่สั่นได้ ระดับต่อไปคนไม่สูบบุหรี่ก็ต้องหัด พอเหลือขี้บุหรี่ยาว ๆ แล้ว ต้องเอานิ้วมือคีบขี้บุหรี่ออกมา โดยที่ขี้บุหรี่ไม่แตก ยิ่งกว่าฝึกวิทยายุทธอีก"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-11-2019 เมื่อ 17:01 |
สมาชิก 179 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#24
|
||||
|
||||
"ส่วนพวกกรีดกระเป๋าเขาไม่ได้ใช้มีด ไม่ได้ใช้มีดโกน เพราะว่าของพวกนั้นโดนจับได้ง่าย เขาใช้เหรียญสตางค์นี่แหละ ฝนแค่ครึ่งซีก จนคมกริบเป็นมีดโกนเลย ใช้นิ้วมือหนีบไว้ ขึ้นรถก็เหมือนกับเตรียมจ่ายเงินค่ารถเมล์ แต่พอเห็นเป้าหมาย ก็ดันเหรียญด้านที่คมขึ้นมากรีด
มีโยมอยู่คนหนึ่งต้องบอกว่าบุญรักษา พวกนี้เห็นกระเป๋าถือมีเหลี่ยม ๆ อยู่ข้างใน ก็คิดว่ามีกระเป๋าเล็กอยู่ด้านใน จัดการกรีดเลย ปรากฏว่าที่โผล่ออกมาเป็นหนังสือมนต์พิธีครึ่งเล่ม...! ขยันสวดมนต์ ไปไหนก็พกหนังสือสวดมนต์ด้วย ต้องบอกว่าบุญรักษาจริง ๆ คนกรีดคงเครียดไปเลย แต่ถ้ากระเป๋าราคาแพงโดนกรีดไปก็น่าเสียดาย เขาฝนเหรียญได้คมมาก เหมือนกับมีดโกนเลย ดันขึ้นมานิดเดียวเอง...แล้วกรีด เทคนิคบางทีพวกนี้เขาเล่าให้ฟังบ้าง บางทีก็เจอด้วยตนเองบ้าง"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-11-2019 เมื่อ 17:03 |
สมาชิก 176 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#25
|
||||
|
||||
"หลวงพ่อวัดท่าซุงเล่าเรื่องตาไป๊ให้ฟัง ตาไป๊เป็นนักย่องเบาตัวฉกาจ ขึ้นบ้านไหนไม่เคยพลาด หลวงพ่อสงสัยอยู่อย่างเดียว ตาไป๊ทำอย่างไรหมาไม่เห่าเลย ?
เมื่อตาไป๊ล้างมือในอ่างทองคำ เข้าวัดถือศีลปฏิบัติธรรมท่านก็ไปแอบถาม “ลุง..ทำอย่างไรขึ้นบ้านไหน หมาถึงไม่เห่าเลย ?” ตาไป๊บอกว่า “ลงทุนหน่อยคุณ ซื้อเนื้อหรือหมูมาสักกิโลฯ สับให้ดีเลย ปนกัญชาลงไปเยอะ ๆ ทอดให้หอม จะขึ้นบ้านไหนก็เอาไปทิ้งไว้ตามรั้ว หมามากินแล้วจะเมา จับหางลากรอบบ้านยังไม่ร้องสักแอะเลย” “เวลาขึ้นบ้านไปนี่อย่าย่อง ให้เดินแรง ๆ ถ้ามีเสียงอืออาให้กระแอมรับไปด้วย ถ้าลักษณะอย่างนั้นเขาจะไม่คิดว่าขโมย แต่จะคิดว่าเป็นคนในบ้านด้วยกัน” ใครจะไปลองดูก็ได้นะ แต่สมัยนี้น่ากลัว กล้องวงจรปิดดูทางโทรศัพท์ก็ได้"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-11-2019 เมื่อ 02:57 |
สมาชิก 174 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#26
|
||||
|
||||
"ปัจจุบันนี้พระก็โดนบ่อย โยมโทรมาบอกว่าวันนั้นเวลานั้นจะทำบุญที่บ้าน ขอนิมนต์พระเก้ารูป รบกวนหลวงพ่อนิมนต์ให้ด้วย บ้านอยู่เลขที่นั้นซอยนั้น เรียกรถแท็กซี่มาเลย โยมจะจ่ายค่ารถเอง
หลวงพ่อก็ลงวันเวลาไว้ พอถึงเวลาพระเก้ารูปนั่งรถแท็กซี่ไป วนหาทั่วซอย ไม่มีบ้านเลขที่ซึ่งบอกเอาไว้ ถามคนในซอยก็ไม่มีใครรู้ ไม่มีบ้านไหนมีท่าทีว่าจะจัดงาน ก็เลยกลับวัด พอไปถึงปรากฏว่ากุฏิโดนงัด...! เขานิมนต์พระออกไป พระไม่อยู่แล้ว ก็งัดกุฏิเลย สมัยนี้เป็นพระยังลำบาก โยมเขานิมนต์ทางพระก็คิดว่าอย่างน้อยไปสวดมนต์ เขาถวายมาสักร้อยสองร้อย ยังมีค่าน้ำค่าไฟ ที่ไหนได้..กลับมาค่าน้ำค่าไฟที่เก็บไว้ก็หมดไปด้วย...!"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-11-2019 เมื่อ 02:09 |
สมาชิก 173 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#27
|
||||
|
||||
"บางรายเด็ดกว่านั้นอีก เดินไปหาตำรวจจราจร “หมู่ ๆ ผมทำกุญแจรถหาย เอากระบะที่บ้านมาแล้ว ช่วยยกรถให้ที” ตำรวจก็ช่วยยกมอเตอร์ไซค์ขึ้นรถกระบะ ผูกมัดอย่างดี “ขอบคุณมากครับ” ยกมือไหว้แล้วก็ไป รถใครก็ไม่รู้...! ตำรวจช่วยขโมยอย่างดีเลย เจ้านี้หน้าด้านพอจนตำรวจเชื่อว่าเป็นรถเขาเอง
ฉะนั้น...โลกของเราเต็มไปด้วยอันตราย ถ้าเป็นการปฏิบัติธรรมเขาเรียก ภยตูปัฏฐานญาณ เห็นความเป็นโทษเป็นภัย เห็นเป็นของน่ากลัว เห็นแล้วทำอย่างไร ? จะอยู่กับโลกนี้หรือจะหนี ? เชิญเลือกเอาตามอัธยาศัย"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-11-2019 เมื่อ 03:05 |
สมาชิก 178 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#28
|
||||
|
||||
พูดถึงมีดหมอหลวงพ่อเดิม "มีดหมอหลวงพ่อเดิมคู่นี้ตาฉิมแกตั้งใจทำไว้ใช้เอง แต่ลูกหลานเอามาขายเสียแล้ว ตาฉิมทำมีดหมอถวายหลวงพ่อเดิมด้วยใจจริง ๆ ฝีมือของแกจะเห็นว่าประณีตกว่าคนอื่น เสียดายอย่างเดียวที่แกไม่รู้หนังสือ ถ้าแกรู้หนังสือคงจะตอกอักขระได้สุดยอดมาก ของแกแต่ละเล่มแกะลายแล้วสวยเสมอกันเห็นได้ชัด"
ถาม : ช่างทำมีดหมอของหลวงพ่อเดิมมีใครบ้างครับ ? ตอบ : ช่างฉิม ช่างแม้น ช่างสอน ช่างไข่ ตาฉิมต้องบอกว่ามีจรรยาบรรณช่าง พอสิ้นหลวงพ่อเดิมแกก็เลิกทำเลย ส่วนช่างอื่น ๆ ยังทำต่อมา ส่วนด้ามที่เห็นเป็นลิงจริง ๆ แล้วคือหนุมาน มีเคล็ดลับตรงที่ว่าฆ่าไม่ตาย หนุมานฆ่าไม่ตาย ทำอะไรก็สำเร็จ เจ้านายรักใคร่ เมตตา ถ้าอ่านรามเกียรติ์จะเห็นว่าพระรามเรียกอยู่ ๒ ชื่อ คือ นางสีดากับหนุมาน
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-11-2019 เมื่อ 03:07 |
สมาชิก 174 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#29
|
||||
|
||||
พระอาจารย์เล่าว่า "ญาติโยมหลายท่านอาจเคยได้ยินว่าอาตมาไปเมืองจีนมา ระยะหลังที่ไปไหนอาตมามีหลักปฏิบัติอยู่ ๒ อย่าง อย่างแรกคือ ไม่จัดเอง อย่างที่สองคือ ต้องมีคนจ่ายสตางค์ให้ถึงจะไป..!
ที่อาตมาไม่ยอมจัดพาใครไปไหนเพราะว่าเข็ด เนื่องจากว่าคนได้ไปก็ไปเที่ยวโพสต์อวดเขาทั่วประเทศไทย คนไม่ได้ไปก็มาต่อว่าต่อขาน..รำคาญ..! ประการที่สองก็คือ เงินทองไม่ได้มีไว้เที่ยว เพราะฉะนั้น..ถ้าใครอยากให้อาตมาไปด้วย อันดับแรกไปหาที่ซึ่งอาตมาอยากไปมาให้ได้ อันดับที่สอง หาสตางค์มาจ่ายให้ด้วย"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-11-2019 เมื่อ 03:08 |
สมาชิก 181 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#30
|
||||
|
||||
"ไปเมืองจีนเที่ยวนี้ เป็นสถานที่ซึ่งอยู่ในเขตพระพุทธศาสนาแบบวัชรยานของทิเบต ก็คือเขตมณฑลเสฉวนภาคตะวันตก ซึ่งเป็นเขตปกครองตนเองของชาวเชียงและชาวทิเบต ก็เลยอยากไปดูว่าของเขาต่างจากเรา หรือว่าต่างจากในทิเบตเท่าไร
คราวนี้หัวหน้าทัวร์คือคุณตั้ว (นายชัยพฤติ จันทร์วัฒนะ) เป็นคนจัดแต่ไม่ได้จัดไปเที่ยว เขาจัดไปถ่ายรูป ต้องการแค่ทีมเล็ก ๆ คณะใหญ่สุดที่เขาเคยจัดก็คือไม่เกิน ๑๖ คน เพราะถ้าคณะใหญ่มากก็ดูแลกันลำบาก ไม่ว่าจะเรื่องที่พัก เรื่องยานพาหนะ เพราะว่าเขตที่ไปนั้น เป็นเขตที่ค่อนข้างกันดาร ความประสงค์ก็เลยตรงกัน เพราะว่าอาตมาไม่มีนิสัยเที่ยวซื้อของ ไปที่ไหนซื้อของหนึ่งชิ้นแล้วก็จบ ซื้อไว้เป็นที่ระลึกว่าเคยมาแล้วเท่านั้น ในเมื่อเขาไปถ่ายรูป เขาก็ต้องหาสถานที่สวย ๆ แล้วส่วนใหญ่ทางด้านโน้นก็เป็นสถานที่ทางพระพุทธศาสนา ไม่ว่าจะเป็นภูเขา แม่น้ำ ทะเลสาบ ซึ่งจะเกี่ยวเนื่องกับพระพุทธศาสนาวัชรยาน จะมีประวัติเกี่ยวโยงกับพระโพธิสัตว์ท่านนั้น เกี่ยวโยงกับคุรุท่านนี้ ก็เลยขอไปด้วย ถ้าให้ไปเที่ยวไปซื้อของอาตมาไม่ไป...เข็ด เคยไปกับเพื่อนแล้วเขาซื้อของชิ้นหนึ่ง ๗๐,๐๐๐-๘๐,๐๐๐ บาท อาตมาได้แต่นั่งตาปริบ ๆ ซื้อของแพงที่สุดราคา ๖๓๐ บาท ไม่ได้ขี้เหนียว ปกติเป็นคนชอบซื้อของด้วย แต่ซื้อมาแล้วไม่รู้ว่าจะเก็บเอาไว้ทำอะไร ?"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-11-2019 เมื่อ 11:14 |
สมาชิก 175 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#31
|
||||
|
||||
"คราวที่แล้วไปญี่ปุ่น โยมก็ออกทั้งค่าเครื่องบิน ค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าเดินทาง เสียดายเงินแทนโยม เพราะว่าอยู่ญี่ปุ่นเช่ารถทุกวัน เฉพาะค่าเช่ารถอย่างเดียวคิดเป็นเงินไทยแสนกว่าบาท..! ให้อาตมาเอาเงินไปผลาญแบบนั้นก็คงไม่ใช่เรื่องแน่ เพราะว่าทุกวันนี้งานที่ทำเพื่อพระพุทธศาสนาก็ต้องใช้เงินจำนวนมาก จึงใช้วิธีว่า..ถ้าสถานที่นั้นเป็นสถานที่อยากไป และมีคนจ่ายเงินให้..ก็จะไป กติกาค่อนข้างจะโหดร้ายทารุณ แต่ก็รู้สึกว่าจะมีคนต้องการให้ไปด้วยมาก
อีกไม่กี่เดือนจะต้องไปประเทศอินเดีย ค่าใช้จ่ายทั้งหมดหลายหมื่นบาท เพราะว่ามีการนั่งเครื่องบินภายในประเทศด้วย มีโยมเต็มใจถวายให้ แต่เขาก็เปิดรับคณะ ได้ยินว่ารับไป ๓๐ คน..ตาย..! ยิ่งคณะใหญ่เท่าไรก็ยิ่งเป็นภาระมากเท่านั้น อาตมาคงไม่ตายหรอก เพราะว่าไปไหนไม่ค่อยจะเป็นภาระให้กับคนอื่นเขา แต่คนจัดทัวร์จะเหนื่อยตาย งวดนี้ที่ไปจีนมีการเดินและปีนเขา เพื่อไปยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางพระพุทธศาสนาของวัชรยาน อย่างทะเลสาบห้าสี หรือว่าทะเลสาบน้ำนม ทะเลสาบไข่มุก โน่น..หัวหน้าทัวร์ตามหลังอยู่ลิบ ๆ ประมาณ ๑ ชั่วโมง ลูกทัวร์ไปถึงไหนแล้วก็ไม่รู้ ? เราก็ต้องเห็นใจนะ หัวหน้าทัวร์อายุ ๔๐-๕๐ ปีแล้ว ลูกทัวร์เพิ่งจะ ๖๐ ปีเท่านั้น...!"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-11-2019 เมื่อ 03:15 |
สมาชิก 180 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#32
|
||||
|
||||
"อากาศที่นั่นหนาวมาก กลางวันอากาศสูงสุด ๑๒ องศาเซลเซียส กลางคืนก็ลบ ๕-๖ เป็นประจำ สวยมาก...หิมะตก ญาติโยมบางท่านบอกว่าไม่ได้สั่นแค่ตัวนะ หน้าก็สั่นไปด้วย ไม่รู้เหมือนกันว่าหน้าสั่นได้อย่างไร ส่วนอาตมาเองได้ฮีตเตอร์ประจำตัว มีเจ้าที่คอยดูแล หนาวแค่ไหนก็ไม่รู้สึกรู้สา เดินเที่ยวไปเรื่อย คนเดินตามก็จะน้อยลงไปเรื่อย..หนาวจนเดินไม่ไหว
เวลาไปไหนถ้าเรารู้จักหาเจ้าที่เจ้าทาง ขอความอนุเคราะห์สงเคราะห์จากท่าน จะได้รับความสะดวกทุกครั้ง ก่อนหน้านี้อาตมาไม่เคยยุ่งกับท่านเลยเรื่องเกี่ยวกับดินฟ้าอากาศ แต่ตอนไปญี่ปุ่นปีก่อนนี่หนาวจริง ๆ ที่รู้สึกหนาวก็ไม่สามารถจะแก้ได้ด้วยผ้าห่ม เนื่องจากว่าเตียงญี่ปุ่นนั้น อาตมานอนแล้วขาโผล่ออกไปพ้นเตียงเกือบศอก ก็เลยอยู่นอกผ้าห่มไปเกือบศอก คือญี่ปุ่นเขาตัวสั้น เขาเอามาตรฐานของเขา เนื่องจากว่าที่ไปพักนั้นเป็นที่พักของคนญี่ปุ่น ประมาณโฮมสเตย์บ้านเรา เขาเรียกว่าเรียวกัง ก็เลยทำให้เขาใช้มาตรฐานญี่ปุ่น ซึ่งอาตมาเองมาตรฐานชายไทย ก็เลยยาวเกินเตียงเขาไปศอกหนึ่ง คราวนี้พอตีนหนาวมาก ๆ นอนไม่หลับ มองซ้ายมองขวาเห็นเจ้าที่เขาส่งคนมาคอยดูแล ก็เลยบอกว่า “ดูแลภาษาอะไรวะ คนหนาวจะตายห่..ไม่รู้จักช่วยกันบ้าง ?” คราวนี้อุ่นสบาย นึกว่านอนอยู่ที่วัดเลยหลับเพลิน ตั้งแต่นั้นมาก็เลยรู้ว่าเจ้าที่สามารถใช้เป็นฮีตเตอร์ได้ด้วย...! ทิดดอยเขาว่า ทำไมอยู่ใกล้หลวงพ่อแล้วอุ่น ?"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-11-2019 เมื่อ 09:22 |
สมาชิก 163 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#33
|
||||
|
||||
"ไปเสฉวนตะวันตกเที่ยวนี้ วันเดินทางก็คือวันพุธที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๖๒ ปรากฏว่าพระครูสุนทรวัชรกิจ เพื่อนร่วมรุ่นปริญญาเอกจัดงานวันเกิดวันนี้ทุกปี แล้วก็นิมนต์อาตมาทุกปี ก็เลยใช้วิธีวิ่งออกจากวัดท่าขนุนแต่เช้ามืดไปถึงอำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี ๘ โมงกว่า ถวายมุทิตาสักการะเสร็จก็ขอตัววิ่งเข้ากรุงเทพฯ มาเลย
อาตมา ป้ามอย (มณีวรรณ สัมฤทธิ์) น้องเล็ก (จิราพร ซื่อตรงต่อการ) นึกว่าไปถึงช้า ปรากฏว่าพวกเราไปถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เจอพวกคุณตั้ว (ชัยพฤติ จันทร์วัฒนะ) คุณบี () ของทางคณะทัวร์เขาเป็นชุดแรกเลย หลังจากนั้นญาติโยมก็ค่อย ๆ แสดงตัวมาทีละคนสองคน จนได้ครบคณะก็ไปเช็กอิน ปรากฏว่าไชน่าแอร์บริการดีมาก บอกว่าเลื่อนจาก ๖ โมงครึ่งไปเป็น ๗ โมง ๑๐ นาที ก็คือ ๑ ทุ่ม ๑๐ นาที ภาษานักบินเขาว่า Flight นี้ Delay อาตมาก็แปลกใจ เพราะว่าตัวเองนั่งเครื่องบินมีแต่ถึงก่อนเวลา เนื่องจากว่าถ้ารู้สึกว่าช้าก็จะบอกกับเจ้าที่เขาว่า "ช่วยดันตูดเครื่องบินให้หน่อย" เพราะการช่วยดันตูดนี่แหละ แม้กระทั่งรถไฟสายใต้ซึ่งปกติไปถึงสุไหงโกลกช้า ๓-๔ ชั่วโมงเป็นปกติ พาอาตมาไปถึงก่อนเวลาหน้าตั๋ว จึงไม่มีคนมารับสักคนเดียว จนเดินไปถึงบ้านโยมแล้ว โยมค่อยโทรมาถามว่า "ตอนนี้ท่านอยู่ที่ไหน ?" บอกว่า "อยู่ในบ้านแล้ว" ในเมื่อเครื่องเสียเวลา จึงทำให้ไปถึงเฉิงตูเที่ยงคืนครึ่งของเมืองจีน ถ้าเป็นบ้านเราก็ประมาณ ๕ ทุ่มครึ่ง เพราะว่าเวลาต่างกันชั่วโมงหนึ่ง เข้าพักที่โรงแรมเอ๋อเหมย โรงแรมนี้ใครไปเฉิงตูอาตมาขอแนะนำ ก็คือนอกจากอะไรต่อมิอะไรดีทุกอย่างแล้ว เขายังมีมุมเฉพาะของคนนิยมชา จะมีใบชาสารพัดชนิดขาย มีเครื่องมือชงชาสารพัดชนิดขาย ใครมีรสนิยมด้านนี้ก็ไปได้เลย อาตมาตอนแรกไม่รู้ เดินทะเล่อทะล่าตึงตังเข้าไป พอเห็นข้างในเงียบฉี่ แล้วมีคนกำลังนั่งดมกลิ่นชาอยู่ เวรแล้ว..ไปทำเขาเสียอารมณ์หรือเปล่าหว่า ?"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-11-2019 เมื่อ 14:25 |
สมาชิก 154 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#34
|
||||
|
||||
"เฉิงตูเป็นมหานครใหญ่ รถติดกระจายพอ ๆ กันกับกรุงเทพฯ ของเรา ถ้าใครไปเที่ยวเสฉวนก็ต้องลงเฉิงตูก่อน ไปเที่ยวซีอานส่วนใหญ่ก็ลงที่เฉิงตูก่อน สนามบินใหญ่โตมโหฬาร เพราะว่าประเทศจีนรู้ว่าประเทศตัวเองใหญ่ สาธารณูปโภคทุกอย่างสร้างเผื่อความเจริญไว้อีก ๒๐ ปีข้างหน้า
อย่างอาตมาเวลารอเครื่อง ต้องเดินไปรอที่ประตู ๑๐๓ เกือบตาย...! สนามบินใหญ่ ๆ เขาจะมีรถ มีรถราง มีรถไฟให้ขึ้น แล้วก็วิ่งไปรอที่ประตูขึ้นเครื่อง ที่ไปมาหลายแห่งอย่างฝรั่งเศสก็ต้องนั่งรถไฟไป ไป ดูความเจริญของพี่จีนเขาแล้ว ก็เข้าใจเลยว่าทำไมสหรัฐอเมริกาและทางยุโรปถึงได้กลัวจีนกันมาก เพราะว่าประเทศจีนยังโตได้อีกมหาศาล ทุกแห่งที่ไปมาตลอด ๑๐ วัน เขากำลังมีการก่อสร้างใหม่ ๆ มากมาย พูดง่าย ๆ ว่าไม่ต้องพึ่งพาโลกภายนอก จีนทำกันเอง ขายกันเอง พลเมืองพันกว่าล้านคนนี่ก็เพียงพอที่จะให้เศรษฐกิจเติบโตแล้ว แล้วจีนยังทำการค้าในลักษณะต่างตอบแทน ก็คือหาเพื่อน ก็เลยทำให้ทางสหรัฐฯ และยุโรปสู้ไม่ได้ มีวิธีเดียวที่จะหยุดจีนได้ก็คือสงคราม แต่ใครคิดจะทำสงครามกับจีนต้องคิดให้ดี เพราะว่าตอนนี้เทคโนโลยี 5G นั้น คนจีนเก่งที่สุด"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-11-2019 เมื่อ 14:27 |
สมาชิก 160 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#35
|
||||
|
||||
"ประเทศจีนช่วงนี้กำลังหนาว ขณะที่เฉิงตูฝนตก ลมพัดมานี่สะท้านเยือกเลย อากาศช่วงนี้สูงสุดประมาณ ๑๗ องศาเซลเซียส ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ ๑๐ หรือ ๑๑ องศาเซลเซียส นี่เฉพาะเฉิงตูเท่านั้น
ที่รู้เพราะว่าในโรงแรมเขามีมาตรวัดอุณหภูมิแผ่นเบ้อเริ่ม เป็นลายการ์ตูนด้วย ถึงเวลาขึ้นตัวอักษรมา ๓ ภาษา ภาษาจีน ภาษาทิเบต แล้วก็ภาษาอังกฤษ ที่มีภาษาทิเบตเพราะว่าเฉิงตู มณฑลเสฉวน เขามีเขตปกครองตนเองทิเบต คนทิเบตเยอะมาก"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-11-2019 เมื่อ 14:28 |
สมาชิก 162 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#36
|
||||
|
||||
พูดถึงมีดหมอหลวงพ่อเดิม "มีดหมอ ๒ เล่มนี้นี้ฝีมือช่างฉิม คาดว่าเขาทำไว้ใช้เอง แต่ลูกหลานทรยศเอามาขาย ฝีมือช่างฉิมทำจะประณีตที่สุดในบรรดาดาลูกศิษย์หลวงพ่อเดิมทั้งหมด ที่ด้ามเขาแกะสลักเห็นเป็นรูปลิงนั้นคือหนุมาน มีเคล็ดลับว่าใครฆ่าก็ไม่ตาย ลมพัดมาแล้วฟื้นใหม่ หนุมานทำอะไรก็สำเร็จ เจ้านายใช้งานแล้วปล่อยได้เลย ไม่เคยพลาด เป็นที่รักใคร่เมตตา เจ้านายเรียกใช้อยู่ตลอด แล้วแถมยังมีติดเจ้าชู้ด้วย ไปทำงานที่ไหนก็ได้เมียที่นั่น โบราณเขาถือเคล็ดตรงนี้ ก็เลยสร้างรูปหนุมาน
ถ้าหากว่าดูไม้เก่าเป็น ดูเหล็กเก่าเป็นจะปลอดภัย สมัยนี้ส่วนใหญ่เขาเอาเหล็กไปกัดด้วยโซดาไฟให้เป็นสนิม ดูได้ ๒ อย่าง อย่างแรกก็คือสนิมทั่วถึงจนเกินไป อย่างที่สองคือขุมในร่องรอยสนิมไม่เป็นธรรมชาติ เพราะว่าไม่ได้เก่าจริง"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-11-2019 เมื่อ 14:32 |
สมาชิก 158 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#37
|
||||
|
||||
"มีดหมอหลวงพ่อเดิมถือว่าเป็นมีดหมออันดับหนึ่งของประเทศไทย ในชีวิตมีไว้เป็นเกียรติประวัติวงศ์ตระกูลสักเล่มหนึ่งก็พอแล้ว อาตมาเล่นเครื่องรางของขลังมา ๔๐ กว่าปี ต้องบอกว่าได้มีดหมอหลวงพ่อเดิมมาไม่ถึง ๒๐ เล่ม ๔๐ กว่าปีได้มาประมาณ ๒๐ เฉลี่ยประมาณ ๒ ปีกว่าถึงจะได้เล่มหนึ่ง
ส่วนใหญ่เกิดจาก ๒ อย่างด้วยกัน อย่างแรกก็คือเจ้าของหวง อย่างเล่มของบ้านจ่าตุ่ม อาตมาตามตื๊อมาเป็น ๑๐ ปีแล้วไม่เคยปล่อย ทั้ง ๆ ที่รู้จักสนิทสนมกันขนาดนั้น ถามเมื่อไรก็เลิกคุย ประการที่สองก็คือเก่าจนหมดสภาพ บางคนดูแลไม่ดี ทั้งปลอก ทั้งฝัก ติดกันเป็นเนื้อเดียวกับใบ ชักไม่ออกเลย ในเมื่อไม่สามารถพิสูจน์สภาพได้ ก็ไม่สามารถที่จะตั้งราคาซื้อได้ ประการที่สามราคาแพงจัด อย่างที่อาตมาเอามาปล่อย ๕๐,๐๐๐ บาท ในตลาด ๒๐๐,๐๐๐ บาทนี่สบายเลย เพราะว่าสวยสมบูรณ์มาก แต่คราวนี้อาตมาจะเอาเงินไปร่วมสร้างพระจุฬามณีกับทางด้านหลวงพ่อวัดป่าเลไลยก์ ช่วงก่อนก็เอาไปก่อสร้างวิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรี"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-11-2019 เมื่อ 14:33 |
สมาชิก 158 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#38
|
||||
|
||||
"เดี๋ยวรอให้พ้นลอยกระทงแล้ว อาตมาจะถามท่านเจ้าคุณชรัชว่า ปี ๒๕๖๓ จะเอากฐินไปช่วยสร้างพุทธมณฑลปัตตานีท่านจะตกลงไหม ? ในเมื่อต้องการเงิน แล้วญาติโยมท่านใดที่มีเงินเหลือเฟือ ไม่เดือดร้อนก็มาบูชาไป ได้ไปก็เป็นเป็นสมบัติประจำตระกูลได้เลย เพราะว่าส่วนใหญ่ที่อาตมาเลือก ถ้าสภาพไม่สมบูรณ์ก็ไม่ซื้อ
ปกติแล้วคนนครสวรรค์ ถ้าเรื่องมีดหมอเขาจะเล่นของหลวงพ่อรุ่ง วัดหนองสีนวล เอาของหลวงพ่อเดิมไว้ขาย เพราะว่าหลวงพ่อรุ่งเป็นศิษย์พี่ อายุพรรษามากกว่าหลวงพ่อเดิม ๑๑ พรรษา แล้วก็สำเร็จวิชามีดหมอจากหลวงพ่อขำ วัดเขาแก้วมาก่อนหลวงพ่อเดิมด้วย มีดหมอยุคแรก ๆ ของหลวงพ่อเดิม ก็ยังต้องอาศัยหลวงพ่อรุ่งช่วยกำกับว่าต้องทำอย่างไร แต่ว่าหลวงพ่อเดิมท่านดังกว่าเพราะว่าวัดท่านอยู่ใกล้สถานีรถไฟหนองโพธิ์ คนลงรถไฟก็เข้าวัดได้เลย ส่วนวัดของหลวงพ่อรุ่งนี้ต้องเดินไปอีกเป็นวัน คนนครสวรรค์ก็เลยบอกว่า "มีดหมอหลวงพ่อเดิมมีไว้ขาย มีดหมอหลวงพ่อรุ่งมีไว้ใช้" สองคนเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน เพราะว่าแม่หลวงพ่อรุ่งกับแม่หลวงพ่อเดิมเป็นพี่น้องกัน เรียนวิชามาจากหลวงพ่อขำ วัดเขาแก้วเหมือนกัน"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-11-2019 เมื่อ 14:36 |
สมาชิก 156 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#39
|
||||
|
||||
"มีดหมอที่ผ่านมืออาตมามากที่สุด น่าจะเป็นมีดหมอหลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม ๔๐ กว่าปีนี้ผ่านมือมาน่าจะถึง ๒๐๐ เล่ม แต่ไม่ต้องถามนะ เดี๋ยวนี้เหลืออยู่ ๓-๔ เล่มเท่านั้น เพราะว่าส่วนใหญ่พอมีคนมาขอบูชาก็ปล่อยต่อเขาไป พวกนั้นมาเห็นอาตมาขายไม่แพงเท่าท้องตลาด ก็เอาไปปล่อยต่ออีกรอบหนึ่ง
ของพวกนี้อันดับแรก...ต้องรู้แหล่ง อันดับที่สอง...ต้องดูของเป็น อันดับที่สาม...ต้องมีราคาในใจของตัวเอง ถ้าเกินราคาที่ตั้งไว้ สวยแค่ไหนก็อย่าสู้ เพราะว่าถ้าเราสู้ไปครั้งหนึ่ง ครั้งต่อไปจะแพงขึ้นไปอีก อาตมาชื่นชมอาจารย์ตัวเอง คือท่านอาจารย์วิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ อาจารย์วิสุทธ์ตั้งราคาไว้ในใจนี่ ต่อให้สวยแค่ไหนก็ตาม ถ้าราคาเกินที่ตั้งไว้..ท่านไม่ซื้อ เป็นคนตบะดีมาก ท่านบอกว่า "ผมเจอมีดหมอหลวงปู่ทองเฒ่า วัดเขาอ้อ เชื่อไหม..? ผมนอนไม่หลับไป ๒ คืนเลย แต่แพง..ผมไม่ซื้อ" ขนาดนอนไม่หลับไป ๒ คืนแสดงว่าสวยจริงสวยจัง ถามว่าอาจารย์ได้มาแล้วหรือยัง ? “ไม่ซื้อครับ..แพง”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-11-2019 เมื่อ 14:38 |
สมาชิก 152 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#40
|
||||
|
||||
"บรรดาพวกที่เป็นเซียนเครื่องรางของขลังหรือพระเครื่อง มีความอดทนสูงมาก หลายคนนี่แวะเวียนมาหาอาตมาเป็นปี ๆ นิสัยเดียวกับที่อาตมาตามไป "เต๊าะ" ป้าสุ (คุณสุมาลี ทิมแท้) ที่บ้านจ่าตุ่ม ก็คือมีโอกาสก็แวะไปเรื่อย ๆ ไปเยี่ยมบ้าง ไปคุยกันบ้าง เอาของฝากไปให้บ้าง ได้ไม่ได้ก็ช่าง คือมีความอดทนสูงมาก พูดง่าย ๆ ว่าตื๊อจนกว่าเจ้าของจะใจอ่อน
วันก่อนน้องเล็กก็ไปตื๊อเอามีดที่จ่าตุ่มทำไว้เล่มหนึ่ง ตอนนั้นเขาใส่ตู้โชว์เก็บเอาไว้เข้าพิพิธภัณฑ์ส่วนตัวแล้ว ยังไปแคะมาจนได้ แต่มีดหมอหลวงพ่อเดิมเล่มที่อาตมาเล็งไว้ ตั้งหลายปีแล้วป้ายังไม่ยอมใจอ่อนเลย"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-11-2019 เมื่อ 14:40 |
สมาชิก 152 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
คำสั่งเพิ่มเติม | |
|
|