|
เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#301
|
||||
|
||||
"ตอนแรกเขาก็กะว่าจะพาพวกเราไปทิ้งไว้ที่ช็อปปิ้งมอลล์แล้วให้นั่งแท็กซี่กลับ ปรากฏว่าฝนตกหนัก ก็เลยทำให้เขาเปลี่ยนแผนใหม่ พาพวกเราไปส่งที่โรงแรมเอ๋อเหมย เก็บข้าวเก็บของ อาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วค่อยพาไปช็อปปิ้ง
ในเมื่อเป็นลักษณะอย่างนั้น พอเข้าโรงแรมได้อาตมาก็ไม่ออกแล้ว ปล่อยคนอื่นเขาไปกันเอง ปรากฏว่าไปได้ดีมาก อาตมาคำนวณตามที่คนขับรถบอกว่า ช็อปปิ้ง ๒ ชั่วโมง ไปถึง ๑๕.๐๐ น. ก็น่าจะเสร็จ ๑๗.๐๐ น. เผื่อเวลาเดินทางกลับโรงแรมด้วยก็ ๑๗.๓๐ น. พอไปเคาะห้อง...เงียบ ๑๘.๓๐ น. ไปเคาะห้อง...เงียบ ๒๐.๐๐ น. ไปเคาะห้อง...เงียบ เออ...นอนก็ได้วะ..! คือตั้งใจจะไปขอโลชั่นมาทาแก้คัน ปรากฏว่าโยมไปแล้วเหมือนปล่อยเสือเข้าป่า ไปแล้วหายวับไปเลย วันรุ่งขึ้นได้ยินเล่าว่ากลับมา ๒๐.๓๐ น. ตอนเช้าก็ไปถามว่าทำไมถึงช้า ? ได้คำตอบว่าฝนตก ลมแรง แล้วอากาศหนาวมาก ออกมารอแท็กซี่ได้พักหนึ่ง ทนหนาวไม่ไหวก็ผลุบกลับเข้าไปในห้างกัน พอกลับเข้าไปในห้างก็ประเภทว่าอยู่เฉย ๆ ก็น่ารำคาญจึงเดินดูของไปเรื่อย นึกขึ้นมาได้ก็โผล่ออกมาหาแท็กซี่ใหม่ แท็กซี่ยังไม่มาแถมยังหนาวก็กลับเข้าไปใหม่ ก็เลยนาน อาตมาจำขึ้นใจตั้งแต่ก่อนบวชแล้วว่า อย่าปล่อยผู้หญิงเข้าช็อปปิ้งมอลล์ ไม่ค่อยกลับง่าย ๆ หรอก..!"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-12-2019 เมื่อ 11:24 |
สมาชิก 100 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#302
|
||||
|
||||
"ตอนนั้นปล่อยคนอื่นเขาไป ส่วนตัวเองนอนภาวนา อยู่ ๆ ห้องก็สว่างขึ้น ๆ อาตมาก็เอ๊ะ..กลางวันแล้วหรือ ? เพิ่งภาวนาไม่นานเอง ปรากฏว่าแสงสว่างเป็นสีเขียวกับสีเหลือง ผสมผสานกันงามมาก ๆ ลองนึกถึงว่าแสงแดดเหลือง ๆ ถ้าส่องผ่านใบไม้อ่อนเขียว ๆ แล้วสวยแบบไหน ก็แบบนั้นแหละ
เสร็จแล้วก็มีรูปหลวงพ่อโตวัดเขาเล่อซานโผล่มา จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นหลวงปู่แก่ ๆ ท่านบอกว่า ท่านชื่อ "ไห่ทง" เป็นผู้ที่แกะสลักหลวงพ่อโตที่เขาเล่อซาน ใช้เวลาแกะพระองค์นั้น ๗๑ ปี ไม่ใช่ท่านอายุ ๗๑ ปีนะ ท่านแกะภูเขาทั้งลูกเป็นพระ จึงถามท่านว่าแล้วรัศมีที่หลวงปู่ส่งมาแปลว่าอะไร ? ท่านบอกว่าท่านปรารถนาพุทธภูมิ เพิ่งได้แค่ ๒ สี ได้สีเขียวกับสีเหลือง ยังต้องหาอีก ๔ สี ได้ไม่ครบ ๖ สีก็ไม่สามารถที่จะไปรอตรัสรู้ได้ แสดงว่าหลวงปู่ยังต้องเกิดอีกเยอะ อาตมาขอพรท่านว่า นอกจากเดินทางกลับเมืองไทยสะดวกปลอดภัยแล้ว ไปถึงขอให้ทำงานได้ เพราะว่าถ้าอากาศเปลี่ยนมาก ๆ ไปแล้วนอนหงิกอยู่ทำงานไม่ได้ก็จะแย่ เนื่องจากว่างานกฐินปลดหนี้ยังรออยู่"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-12-2019 เมื่อ 11:26 |
สมาชิก 114 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#303
|
||||
|
||||
วันศุกร์ที่ ๒๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๒
"คราวนี้พอหลวงปู่ท่านมา อารมณ์ใจก็รื่นเริงบันเทิงใจมาก ภาวนาไม่นานลืมตาขึ้นมา อ้าว..ตีสาม ก็แปลว่าวันนี้คือวันสุดท้ายที่เราจะอยู่ในเมืองจีนกัน ต้องเดินทางกลับแล้ว วันเสาร์ที่ ๒๖ ต้องไปสกลนครเตรียมเป็นเจ้าภาพทอดกฐินปลดหนี้ โรงแรมเอ๋อเหมยที่เฉิงตูนั้น ถ้าใครไปอาตมาแนะนำให้พัก คือนอกจากที่พักจะดีมากแล้ว บุฟเฟ่ต์อาหารเช้าเขาตักได้ไม่อั้น จะกินแบบจีนหรือฝรั่งก็มีทั้งนั้น แบบฝรั่งก็มีแซนด์วิช เค้ก ขนมปังปิ้ง มีอะไรสารพัด แบบจีนก็มีข้าวต้มทุกอย่างเลย ทั้งข้าวต้มเกาเหลียง ข้าวฟ่าง ถั่วไม่ทราบชนิดนำมาต้มเป็นข้าวต้ม เลือกเอาเลยว่าต้องการแบบไหน อาตมาก็ประเภทเจ๊กปนลาว ถึงเวลาเอาขนมปังทาเนย แต่ก็เอาข้าวต้มด้วย ที่แนะนำเพราะว่าสถานที่ดีและอาหารก็ดี แต่เวลาลงไปอย่าลืมบัตรห้อง เพราะว่าเขาจะเอาบัตรของเราไปรูดผ่านเครื่องให้รู้ว่าเราเข้ามากินแล้ว ใครที่ไม่มีบัตรห้องก็แปลว่าเป็นตัวปลอมแอบเข้ามากิน"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม |
สมาชิก 96 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#304
|
||||
|
||||
"เสร็จเรียบร้อยก็ขึ้นรถ โชเฟอร์พาวิ่ง วิ่งไป ๆ เราก็เอ๊ะ..นี่ทางออกนอกเมือง เพราะว่าวิ่งไปรถก็น้อยลง ปรากฏว่าพอถึงถนนสายหนึ่งเขาก็เลี้ยวเข้าไป ลักษณะเหมือนลานจอดรถเก่า ๆ อยู่หน้าตึกเก่า ๆ ที่หมดสภาพแล้ว
ถามเขาว่ามาทำอะไร เขาบอกว่าพามาซื้อของ จะให้ซื้ออะไร มีตึกร้างอยู่หลังหนึ่ง ปรากฏว่าไกด์เขาพาขึ้นไปชั้นที่ ๒ พอโผล่เข้าไปแล้วก็ตกใจ คือขนาดประมาณเซ็นทรัลเวสต์เกตบ้านเรา ซ่อนอยู่ในตึกร้าง สารพัดของที่ระลึก จะของกินของใช้อะไรก็มีหมด ไปยืนงง ๆ เพราะอาตมาเป็นคนเห็นของเยอะแล้วเลือกไม่ค่อยเป็น ปล่อยคนอื่นเขาเลือกกันไป คราวนี้ด้วยความเคยชินจะถ่ายรูป อาเจ๊เขาบอกว่าอย่าถ่าย ถามไปถามมาได้ความว่าเป็นร้านที่แอบเปิดโดยที่รัฐบาลไม่รู้ ถ้าถ่ายรูปไปเดี๋ยวความลับแตกจะพาซวยกันหมด ก็คือบรรดาโชเฟอร์หรือไกด์เขาจะมีเส้นมีสายเกี่ยวกับพวกนี้อยู่ ถึงเวลาพาเราไปซื้อของดีราคาถูกได้โดยไม่เสียภาษี ดังนั้น..เพื่อความปลอดภัยก็ไม่ให้ถ่ายรูป"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม |
สมาชิก 90 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#305
|
||||
|
||||
"ซื้อเสร็จเอาข้าวเอาของไปเก็บก็ได้เวลาอาหารกลางวัน เขาบอกว่ามื้อนี้จะเลี้ยงอาหารขยะ ...(หัวเราะ)... พาไปกินแฮมเบอร์เกอร์ เจ้าประคุณเอ๋ย..แฮมเบอร์เกอร์อันหนึ่งเกือบจะเท่าจานบ้านเรา คนจีนทำไมกินข้าวกันเยอะขนาดนั้น ? ข้าวกล่องของเขาที่อาตมาเอามา ถ้าเป็นบ้านเราต้องกิน ๔ คนถึงจะหมดกล่อง แฮมเบอร์เกอร์ของเขาก็อันใหญ่ประมาณนั้นแหละ มีคนเดียวที่รู้เท่าทันคือหม่าม้า รู้ว่าพวกนี้ชิ้นใหญ่แน่เลยสั่งมาแต่ไก่ทอด..!
แล้วอย่างหนึ่งที่เห็นก็คือ ร้านขายแฮมเบอร์เกอร์เขามีการส่งแบบเดลิเวอรี ปรากฏว่าผู้จัดการกำลังอธิบายพนักงานในร้านทั้งหมดอยู่ มีการฉายความรู้ต่าง ๆ ขึ้นจอโปรเจคเตอร์ให้ด้วย ใช้เวลานานเหมือนกัน พวกเราใช้เวลาในร้านเกือบ ๑ ชั่วโมง เขาก็ใช้เวลาใกล้เคียงกัน ประมาณว่าคุณไปส่งของแล้วมีปัญหาอะไรบ้าง ลูกค้ามีความต้องการอะไรเป็นพิเศษ เขตไหนสั่งสินค้าของเรามากที่สุดทำนองนั้น พวกนี้เขาเก็บเป็นข้อมูล ถึงเวลาจะได้บริการลูกค้าได้"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม |
สมาชิก 90 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#306
|
||||
|
||||
"พอพวกเรากินเสร็จออกมาหารถ เขาบอกให้ไปรอที่ป้ายรถเมล์ เดี๋ยวรถจะวนมารับ อาตมาก็เลยไปรอรถเมล์ในนครเฉิงตูมา ปรากฏว่ารออยู่พักหนึ่งรถเมล์จริงผ่านไปหลายคันแล้ว รถของเราก็ยังไม่มา ไกด์ของเราโทรศัพท์ถามได้ความว่าลานจอดรถเดินไปอีกบล็อกหนึ่ง ก็เลยให้พวกเราเดินต่อไป ไปถึงรถเขาออกมาพอดีก็ขึ้น ไปส่งที่สนามบินเฉิงตู
อาตมาเองปลดข้าวของทุกอย่างที่อยู่ในตัวใส่กระเป๋า ขาไปน้ำหนักกระเป๋า ๖.๕ กิโลกรัม ไป ๑๐ วันนะ ขากลับของเพิ่มขึ้น น้ำหนัก ๖.๘ กิโลกรัม ได้เพิ่มมา ๓ ขีด..! ญาติโยมก็กระดี๊กระด๊าจะขอเฉลี่ยน้ำหนัก ปรากฏว่าทุกคนที่กระเป๋าใบยักษ์ ๆ ชั่งแล้วก็อยู่ระดับ ๒๑ กิโลกรัมเศษ ๆ เขาอนุญาตให้ ๒๐ กิโลกรัม แต่ถ้าไม่เกิน ๒๓ กิโลกรัมก็อนุโลมให้ ก็เลยมีเสียงร้องเย้กันขึ้นมาเพราะว่าผ่านทุกคน"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม |
สมาชิก 89 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#307
|
||||
|
||||
"ผ่านเครื่องเอ็กซเรย์มาเจอเด็ก ๆ ๔ คน หน้าตาคุ้น ๆ ปรากฏว่าเป็นเด็กนักเรียนของโรงเรียนพระสุธรรมยานเถระวิทยาที่วัดท่าซุง เขาได้ทุนไปเรียนที่ประเทศจีน ก่อนที่จะไปก็มาลาอาตมาที่นี่ ก็ยังบอกกับเขาว่า เดี๋ยวมีเวลาหลวงตาจะไปเยี่ยม ปรากฏว่าไม่กี่วันหลวงตาไปเยี่ยมเสียแล้ว ...(หัวเราะ)...
เด็ก ๆ เขาเอาของมาฝากหลวงตา มีแต่ของกิน ของที่เอามาฝากนี่ประมาณว่า ถ้าหลวงตาหลงอยู่ในเฉิงตูสักอาทิตย์หนึ่งก็อยู่ได้..! พยายามจัดใส่กระเป๋าที่ยังมีช่องว่างอยู่เยอะแยะ ใส่ไปใส่มาท้ายสุดต้องเอาบะหมี่กระป๋องคืนไปกระป๋องหนึ่ง ก็คือบะหมี่ชื่อว่ากระป๋อง แต่อาตมาอยากจะเรียกว่าบะหมี่ถัง เพราะว่ากระป๋องใหญ่มาก ...(หัวเราะ)... บอกเขาว่าเอากลับไปกินเอง หลวงตาเอาลงกระเป๋าไม่ได้ พอเช็คอินได้ตั๋วมาแล้วก็ไปรอที่ประตูหมายเลข ๑๐๓ จีนเขาสร้างสาธารณูปโภคทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นรถเมล์ รถไฟ เครื่องบิน เขาเผื่ออีก ๒๐ ปีข้างหน้า ดังนั้น..สนามบินเขาเลยใหญ่มาก คาดว่าส่วนประตูที่ไม่เกินหมายเลข ๑๐๐ จะเป็นส่วนของผู้โดยสารในประเทศ พอไปถึงประตูรอขึ้นเครื่อง ทุกคนวางของ แล้วก็ซาวด์เสียงกันว่าใครจะเฝ้า ที่เหลือจะได้ไปช็อปปิ้ง สรุปว่าอาตมาก็จะไปเดินดูของเหมือนกัน ไม่ได้ซื้อหรอก แต่ไปดูเสียหน่อย ท้ายสุดทิดดอยเลยต้องเป็นผู้เสียสละเฝ้ากระเป๋า"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม |
สมาชิก 91 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#308
|
||||
|
||||
"อาตมาไปเดินดูของในร้าน พวกร้านที่เป็นเครื่องหยกกับวัตถุโบราณ เขาห้ามถ่ายรูป ซึ่งไม่เคยเป็นปัญหาสำหรับอาตมาเลย เดินประกบขนาดไหนก็ถ่ายได้ เพราะเราต้องการเวลาแค่วินาทีเดียว พอเดินดูจนรู้ว่าของทุกชิ้นราคาแพงขนานแท้ก็กลับไปนั่งเฝ้ากระเป๋าบ้าง ปรากฏว่าอีกพักเดียวทิดเฟิร์สวิ่งมาตาม หลวงพ่อไปช่วยดูให้หน่อย ว่าของแท้หรือเปล่า ? แล้วที่แน่ ๆ ขอกู้เงินหลวงพ่อด้วย..! เงินไม่พอซื้อ เขาบอกราคามา ๔,๕๙๘ หยวน ก็เลยต้องไปดูให้เขา สรุปว่าเสียเงินแล้วค่อยกลับมานั่งได้
พวกเราขึ้นเครื่องที่สนามบินเฉิงตู กลับมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิประมาณ ๑๗.๐๐ น. ความจริงได้กำไรมา ๑ ชั่วโมง เพราะเวลาบ้านเราช้ากว่าประเทศจีน ๑ ชั่วโมง ตอนที่เรามาถึงคือ ๑๘.๐๐ น. ของประเทศจีน แต่บ้านเราเป็นเวลา ๑๗.๐๐ น. เจ้าประคุณรุนช่องเอ๋ย...รถติดอย่าบอกใคร จากสนามบินสุวรรณภูมิวิ่งมาถึงบ้านเติมบุญที่นี่ใช้เวลาเกือบ ๒ ชั่วโมง"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม |
สมาชิก 89 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#309
|
||||
|
||||
"มาถึงอันดับแรกเลยก็คือสรงน้ำ อาบน้ำเช็ดตัวเสร็จเหงื่อแตกพลั่ก ๆ ...(หัวเราะ)... ดูอุณหภูมิบ้านเรา ๓๓ องศาเซลเซียส ตายละวา...อุณหภูมิต่างกันสุดขั้ว -๖ กับ ๓๓ ต่างกัน ๓๙ องศาเซลเซียส นั่งเหงื่อแตกพลั่กอยู่ครึ่งค่อนชั่วโมง ส่วนที่เหลือใครมีเรี่ยวมีแรงก็ซักผ้า ส่วนอาตมาขอนอนดีกว่า เพราะว่ารุ่งขึ้นต้องเดินทางไปงานกฐินปลดหนี้ที่จังหวัดสกลนคร นอนเก็บแรงไว้ก่อน
สรุปว่าทริปนี้ประทับใจตรงที่ว่า ไปหาที่ตายตอนอายุ ๖๐ ปี แต่อุตส่าห์รอดมาได้ แล้วที่แน่ ๆ คือเจ้าที่ท่านจัดโปรแกรมได้สุดยอดมาก ทุกอย่างลงตัวเป๊ะ ๆ หมด อะไรที่อยากดูได้ดู อะไรที่อยากเห็นได้เห็น ท่านคงหวังจะให้เราไปใหม่ ส่วนเราก็คิดว่าไม่อยากจะไปอีก บรรยากาศแบบนี้ครั้งเดียวก็เกินพอกระมัง ...(หัวเราะ)..."
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม |
สมาชิก 87 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#310
|
||||
|
||||
ถาม : ตกลงน้ำมนต์เอากลับมาได้ไหมคะ ?
ตอบ : เขาเปลี่ยนไปใส่ขวดแชมพู หรือขวดสบู่เล็ก ๆ ของโรงแรม ซึ่งสามารถนำขึ้นเครื่องได้ ในเมื่อเปลี่ยนไปใส่ขวดเล็ก ขนาดไม่เกินที่เขาห้ามก็เลยผ่านได้ ส่วนอาตมาเองนี่ลำบาก สนามบินเขาตรวจเข้มงวดมาก ขนาดพระให้เอาจีวรออก อาตมาก็ว่าเอาออกหมดทุกอย่างแล้ว คราวนี้กำไลงาช้างวงเบ้อเริ่มเลย เขาถามว่าอะไร ก็ตอบว่ากำไลงาช้าง เขาบอกให้เอาไปสแกน ก็ส่งไปสแกนแต่โดยดี ซึ่งผ่านมาแบบงง ๆ คือสงสัยว่าเขาเห็นเป็นอะไรถึงได้ปล่อยผ่านมา แต่ก็ไม่อยากที่จะสงสัย ฝีมือท่านทำได้ก็ให้ท่านทำไปเถอะ เรามีหน้าที่รับอย่างเดียว แต่หวังว่าพวกเราไปแล้วจะไม่ซื้อมา มีสิทธิ์ติดคุกหัวโต..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม |
สมาชิก 92 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#311
|
||||
|
||||
ถาม : กำไลใหญ่ไหมคะ ?
ตอบ : ใหญ่มาก มาบ้านเราราคาคงไม่หนี ๗-๘ หมื่นบาท อยู่ที่โน่นเขาบอกราคามา ๔,๙๐๐ กว่าหยวน เขาขายเป็นกรัมตามน้ำหนัก เฉลี่ยแล้วกรัมหนึ่งประมาณ ๒๐ หยวน ประเทศจีนโดนต่างชาติเขาแอนตี้เรื่องที่ยังมีการใช้วัสดุจากงาช้าง ใช้ซากสัตว์ในการทำสมุนไพรต่าง ๆ ที่แน่ ๆ ก็คือญาติโยมเห็นอาตมาโดน รปภ.สาวจีนลูบทั้งตัวแล้วบอกว่าขนลุกแทน เขาไม่สนใจว่าพระหรือไม่พระ เขาตรวจอาวุธอย่างเดียว ถึงเวลาก็ลูบแทบจะหัวจรดเท้าว่าพกอะไรมาบ้างหรือเปล่า โยมพอเห็นเขาบอกให้เอาผ้าจีวรออก แต่ละคนบ่นกันใหญ่ ขนาดพระยังไม่เว้นเลย เพราะฉะนั้น..ที่เหลือก็ถอดเสียดี ๆ ถ้าขนาดพระเขายังไม่เว้นแล้วละก็..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม |
สมาชิก 94 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#312
|
||||
|
||||
เก็บตกเดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๒ หมดแล้วค่ะ
ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย ทาริกา คะน้า เถรี เผือกน้อย นายกระรอก และรัตนาวุธ
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม |
สมาชิก 99 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
คำสั่งเพิ่มเติม | |
|
|