|
เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#41
|
||||
|
||||
ถาม : เท่ากับสายใต้ไม่มีใครทำเบี้ยแก้แล้วสิครับ ?
ตอบ : ก็มีแหกคอกออกมา ไม่รู้ว่าศึกษามาจากทางไหน ทางด้านพัทลุงก็มีพ่อท่านคล้อย วัดภูเขาทอง พ่อท่านใช้ วัดปากพล ถาม : แต่เขาอ้อไม่มีเลย ? ตอบ : เขาอ้อมีพ่อท่านคล้อย วัดภูเขาทอง แต่ไม่รู้ว่าศึกษามาจากใคร เพราะว่าเขาอ้อไม่ใช่ตำราของมหาเถรคันฉ่อง หรือว่าหลวงพ่อสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว ทางเขาอ้อมาจากอินเดียเลย ของเขาอ้อมาจากคัมภีร์อาถรรพ์เวทย์ของศาสนาฮินดู ถาม : แต่ตัวที่บันทึกจริง ๆ ของเขาอ้อ เป็นภาษาไทยนะครับ ? ตอบ : เขาเขียนกันมา เขียนลอกต่อ ๆ มา ใครถนัดภาษาไหนก็เขียนเป็นภาษานั้น ถาม : ตัวที่ใช้ก็ใช้สระเสกนะครับ อะ อา อิ อี ? ตอบ : เยอะแยะไป ทางด้านสายเหนือก็เหมือนกัน กะ ขะ คะ ฆะ งะ ก็คือลักษณะของการแกะเอาคำภาวนาโยงจิตให้เป็นสมาธิ อะไรก็ได้...บอกไปเถอะ ลูกศิษย์ฟังไม่รู้เรื่องก็คิดว่าขลัง ก็เลยเสกไปเรื่อย เออ..ก็ขลังนี่หว่า..! ถาม : ของหลวงพ่ออุตตมะจะมียันต์ที่ใช้ครอบจักรวาล ซึ่งพอแกะออกมาแล้ว ตะ ถะ ทะ ธะ นะ เอามาใส่วงกลมด้วยเสกด้วยมหาปัฏฐาน ตอบ : ส่วนใหญ่ทางด้านมอญ - พม่าโน้นเขาจะเอา ๒๔ ปัฏฐานมาใช้กันเยอะ
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-09-2019 เมื่อ 15:19 |
สมาชิก 178 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#42
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "ปีนี้เป็นปีแห่งการรับรางวัลจริง ๆ ลานธรรม ลานวิถีไทยตัวอย่างของกรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม วัดท่าขนุนอยู่ชื่อที่ ๒ ของประเทศไทย ชื่อแรกดันเป็นมัสยิดบ้านร่าหมาด ตำบลเกาะกลาง อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ นี่อาตมารับจนไม่รู้ว่าตัวเองรับรางวัลอะไรมาบ้าง"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-09-2019 เมื่อ 15:19 |
สมาชิก 182 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#43
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "อาตมาเสกวัตถุมงคลแล้วคนเขานิยมกัน อย่างหนึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าตัวเองเป็นพระเครื่อง พระเครื่องในความหมายของหลวงพ่อวัดท่าซุงก็คือ พร้อมที่จะติดเครื่องถล่มชาวบ้านอยู่ตลอดเวลา..!"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-09-2019 เมื่อ 15:20 |
สมาชิก 186 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#44
|
||||
|
||||
ถาม : กฐินที่วัดท่าขนุนปีนี้ วันที่เท่าไรคะ ?
ตอบ : ๑๔ ตุลาคม ๒๕๖๒ ที่วัดจะทอดกฐินในวันตักบาตรเทโวฯ ของทุกปี ตอนช่วงเช้าตักบาตรเทโวฯ ช่วงบ่ายทอดกฐิน เจ้าอาวาสก็ถือโอกาสอู้ ไม่ทำงาน ๓ วัน ไปเข้ากรรมฐาน ไม่ต้องทำงาน ถนอมพลังงานตัวเอง ไม่ต้องกินไป ๓ วัน ออกมาก็มาบิณฑบาตในวันตักบาตรเทโวฯ ช่วงเช้า ส่วนช่วงบ่ายก็รับกฐิน อาตมาเข้ากรรมฐานตั้งแต่วันที่ ๑๑ วันที่ ๑๓ ก็ออก ช่วงเข้ากรรมฐานก็เสกขันน้ำมนต์ให้กับเจ้าภาพกฐินด้วย คือบาตรน้ำมนต์รุ่นเก่าราคาแพงมาก เนื่องจากว่าทำจากเนื้อชนวนหลวงพ่อนาก ก็เลยหารุ่นใหม่ที่ราคาอยู่ในระดับจับต้องได้ให้ญาติโยมได้ทำบุญกัน พอดีไปเจอคนทำราคาไม่แพง ทำแล้วน่าจะได้กำไรเยอะ...ก็เลยทำ ที่ลงยันต์ไว้ที่ขันน้ำมนต์ก็มียันต์มงกุฎพระพุทธเจ้า อันนี้ป้องกันอันตรายทุกอย่าง ยันต์สุกิตติมา บางคนเขาเรียกคาถาวัวกินนมเสือ เมตตาขนาดไหนก็ไม่รู้ ? รู้แต่ว่าวัวสามารถกินนมเสือได้ แล้วก็ปิดท้ายด้วยยันต์มหาโสฬส ซึ่งจะมีตรีนิสิงเหแทรกอยู่ข้างในด้วย
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-09-2019 เมื่อ 15:21 |
สมาชิก 182 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#45
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "วัดท่าขนุนเป็นวัดอันดับต้น ๆ ของทองผาภูมิที่ติดอันดับเรื่องความสะอาด เกิดจากพระเณรท่านขยันช่วยกันดูแล แรก ๆ อาตมาก็กวาดเองเก็บเอง ไป ๆ มา ๆ กวาดเมื่อไรโดนท่านแย่งไม้กวาดทุกที ก็เลยเอาไปเถอะ ไปทำกันเองก็แล้วกัน สรุปว่าอาตมาแก่แล้ว ไม่ต้องออกแรงเยอะ"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-09-2019 เมื่อ 15:22 |
สมาชิก 184 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#46
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "วันนี้พระอานนท์เทศน์ ถ้าพระอานนท์เทศน์ก็แปลว่าจะต้องมีคนฟังเยอะ คือที่วัดท่าขนุนในช่วงพรรษาจะมีเทศน์วันพระทั้งเช้าทั้งค่ำ พระจะหมุนเวียนเปลี่ยนกันเทศน์ คราวนี้พระใหม่ท่านชื่ออานนท์ พอบวชแล้วท่านก็เลยกลายเป็นพระอานนท์ เลขานุการส่วนตัวของพระพุทธเจ้า..! นี่เขาเพิ่งจะทำบุญวันพระเสร็จ ส่งรูปมาให้ดู มีอะไรไม่ดีหลวงพ่อจะได้ด่าเสียแต่เนิ่น ๆ..!
วัดท่าขนุนดีอยู่อย่างว่า พระที่บวชเข้าไปท่านตั้งใจจะเอาดีกันจริง ๆ ก็เลยไม่ค่อยมีปัญหาเหมือนกับที่อื่น ที่อื่นบวชเข้าไปบางทีก็ท้าตีท้าต่อยกัน บางคนก็ถึงขนาดท้าเจ้าอาวาสชก..! ไม่ไปท้าเจ้าอาวาสวัดท่าขนุนบ้าง ? ท้าเจ้าอาวาสวัดท่าขนุนชกจะได้รู้ว่าอนาคตเป็นอย่างไร...! อย่างท่านอานนท์ก็แบบเดียวกับอาตมา บวชตอนอายุมากแล้ว ได้เปรียบชาวบ้านเขา อาตมาบวชตอนอายุ ๒๗ ปี ต้องบอกว่าความยับยั้งชั่งใจมีมากขึ้น ถ้าบวชตอน ๒๐ ปี ก็คงจะตีกันวัดแตกไปตั้งแต่แรกแล้ว ท่านอานนท์นี่หัวหงอกแล้วค่อยมาบวช"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-09-2019 เมื่อ 16:37 |
สมาชิก 179 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#47
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "มีโยมเอาหลวงพ่อสมเด็จองค์ปฐมปางกายมนุษย์หน้าตัก ๑๐ นิ้วไปลงจำหน่ายในเว็บ ๑ ล้านบาท มึงช่างกล้า...! กูทำแจกฟรี ได้ของฟรีไปเอาไปลงล้านหนึ่ง ตอนนั้นมีทุนไม่มาก เพราะว่าพระครูแสงเป็นคนทำ ได้มา ๑๒๒ องค์ หน้าตัก ๑๐ นิ้วนะ ที่ทำปลอมกันอยู่ที่ท่าพระจันทร์นั่นหน้าตักไม่ถึง เพราะฉะนั้น...วัดดูง่าย ๆ ก็รู้เลย ฝีมือก็ไม่ถึงด้วย
ขอให้รู้ไว้ว่าหลวงพ่อวัดไหน ถ้าท่าพระจันทร์ยอมลงทุนปลอมวัตถุมงคล แสดงว่าท่านดังแล้ว ของวัดท่าขนุนที่โดนปลอมมีพระองค์ที่ ๑๑ ทั้งใหญ่ทั้งเล็ก และพระกริ่งพิชัยสงคราม เสียดายอย่างเดียวว่าตะกรุดปลอมไม่ได้ ไม่อย่างนั้นถ้าตะกรุดปลอมได้คงปลอมไปแล้ว แต่ก็มีนะ ประเภทเอามาขายแล้วมาบอกว่าเป็นตะกรุดมหาสะท้อน โยมก็ซื้อไปดอกละ ๒๐,๐๐๐ - ๓๐,๐๐๐ บาท แกะออกมาเป็นของที่ไหนก็ไม่รู้ ลายมือก็ไม่ใช่ ยันต์ก็ไม่ใช่"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-09-2019 เมื่อ 16:37 |
สมาชิก 178 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#48
|
||||
|
||||
"อาตมาเองกำลังให้เขาทำทำเนียบวัตถุมงคล เผื่อถึงเวลาคนจะได้มีตัวอย่างไว้ดู ไม่ต้องไปโดนเขาหลอก ไม่อย่างนั้นก็ไปโดนเขาหลอกเอาง่าย ๆ
วัตถุมงคลวัดท่าขนุนเน้นประณีต พวกฝีมือลวก ๆ นี่ไม่ใช่แน่ โดยเฉพาะเหรียญพระสังกัจจายน์กับหลวงปู่หลิวขี่เต่า ท่านอาจารย์เทพปล่อยสุดฝีมือเลย ทำถวายวัดท่าขนุน เฉพาะตัวเหรียญอย่างเดียวประกอบ ๘ ครั้ง เพราะว่าชิ้นส่วนพระสังกัจจายน์กับหลวงปู่หลิว หัว ขา แล้วก็หางเต่า เป็นคนละชิ้นหมดเลย ลูกศิษย์ทางด้านวัดสี่แยกฯ บ่นว่าของสวยขนาดนี้ทำไมไม่เอาไว้กับวัดของตัวเอง ของพระอาจารย์เล็กลูกศิษย์ท่านบูชาทีเดียวหมด พวกผมก็อดรับประทาน เมื่อวันที่ ๔ แวะไปวัดไร่แตงทอง ต้นตำหรับหลวงปู่หลิวมา เอาเหรียญเต่ามังกรหยกให้หลวงพ่อสายชลท่านดู เป็นเพื่อนกัน ท่านก็บอกว่า “ของผมดูไม่ได้ ไม่สวยเหมือนของอาจารย์” บอกท่านว่า “ของคุณดูไม่ได้แต่พุทธคุณดี คนเขาก็แย่งกันบูชา” วัดอยู่ลึกขนาดนั้นแต่รถติดเหมือนกับกรุงเทพฯ เลย"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-09-2019 เมื่อ 16:38 |
สมาชิก 177 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#49
|
||||
|
||||
"เดี๋ยวนี้คนขับรถของอาตมามีข่มขู่ “จะให้เข้าหรือไม่ให้เข้า ? ถ้าไม่ให้เข้าจะพาหลวงพ่อกลับ” เขาก็เลยต้องรีบหาทางให้เข้า
ทางเข้าวัดไร่แตงทองไม่ได้แคบนะ แต่เนื่องจากว่ารถแต่ละคันนี่มัวแต่ยึกยักกันอยู่ ไม่รู้ว่าจะจอดตรงไหนดี ก็พาคันอื่นเขาติดไปด้วย โอ้โฮ...แล้วติดที ๒ - ๓ กิโลเมตร ไปเจอคนใจร้อนประเภทวิ่งแซงขวาขึ้นมา เจอรถสวน อ้าว..ติดกันอีก คนโน้นก็ไม่รู้ว่าจะถอยอย่างไร คันนี้ก็มีรถจ่อท้ายอยู่ แต่น่าเสียดายว่าหลวงพ่อสายชลท่านเป็นมะเร็ง เป็นทีหนึ่ง ๓ ก้อน "โลภมากไปหรือเปล่า ? แบ่งให้ผมสักครึ่งก็ได้" ท่านบอกว่า "๓ ก้อนแบ่งแล้วไม่ลงตัว..อย่าเอาเลย ถ้ามีสัก ๒ หรือ ๔ ยังแบ่งครึ่งกันได้..!" ตอนนี้ท่านให้คีโมอยู่ ฉันอะไรไม่ได้เลย อาเจียนหมด ท่านบอกว่า "ผมคงไม่ได้ตายเพราะมะเร็งหรอก ผมตายเพราะกินไม่ได้..!" ท่านบ่นว่าจะสร้างพระศรีอริยเมตไตรยทันไหม ? ตอนนี้ได้แค่จมูก ถามว่าพระศรีอริยเมตไตรยองค์นี้ใหญ่แค่ไหน ? ลืมถามว่าหน้าตักเท่าไร รู้อยู่อย่างเดียวว่าใช้ทองเหลือง ๑๗๐ ตัน ตันหนึ่งก็ ๑,๐๐๐ กิโลกรัม คูณ ๑๗๐ ไปดู กี่หมื่นกี่แสนกิโลกรัม ?"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-09-2019 เมื่อ 16:39 |
สมาชิก 174 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#50
|
||||
|
||||
"หลวงพ่อสายชลปรารภว่า สร้างองค์พระสัก ๘๐ ล้านบาท ทำอาคารสัก ๘๐ ล้านบาท ไม่รู้ว่าจะได้อยู่ทำจนเสร็จไหม ? อาตมาเลยบอกว่า "แล้วคุณไปเครียดอะไร ? นั่นเป็นปัญหาของคนอยู่ ไม่ใช่ปัญหาของคนตาย" ท่านบอกว่า "หาให้เขา ๗๐ - ๘๐ % แล้ว ขาดอยู่นิดหน่อย คนมาสร้างต่อไม่ได้ก็เป็นเรื่องของเขา"
ท่านเพิ่งซื้อที่ข้างวัดไป ๑๐ ไร่ เพื่อที่จะให้เขาจอดรถ ที่จอดรถเก่าไม่พอ ถามว่าเจอไปไร่ละเท่าไร ? "๕ ล้านบาท" เรื่องของญาติโยมที่ขูดเลือดขูดเนื้อพระนี่เป็นทุกที่ พวกที่ข้างวัดท่าขนุนนี่เขตเทศบาล ราคาประเมินชัด ๆ ไร่ละ ๒๐๐,๐๐๐ บาท เขาบอกขายอาตมาไร่ละล้าน..! หลวงพ่อสายชลก็เหมือนกัน เขาเองราคาเดิมไร่ละ ๗๐,๐๐๐ - ๘๐,๐๐๐ บาท แต่เอาไร่ละ ๕ ล้าน ก็ต้องให้เขา เพราะว่าเราต้องใช้ ไร่อ้อยอยู่ลึกจากถนนใหญ่เข้าไป ๑๒ กิโลเมตร ใครจะไปบ้าซื้อไร่ละ ๕ ล้านบาท..! หลวงพ่อสายชลท่านบ้าพอ ซื้อไร่ละ ๕ ล้านบาท อยากได้กูก็ให้ เพราะว่ากูจะเอา...!"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-09-2019 เมื่อ 16:40 |
สมาชิก 180 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#51
|
||||
|
||||
ถาม : รู้สึกเสียดาย เป็นตัวโลภหรือตัวรักคะ หรือทั้งสองตัว ?
ตอบ : ตัวหลง..หลงว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านั้นดีจึงเสียดาย
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-09-2019 เมื่อ 16:40 |
สมาชิก 170 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#52
|
||||
|
||||
ถาม : หนูภาวนาคาถาเงินล้านจนเหมือนเป็นอัตโนมัติ ประคองไปได้ ๓ อาทิตย์แล้วก็ล้ม กำลังจะเริ่มใหม่ บางวันก็ได้ บางวันก็ไม่ค่อยดีอยู่ บางวันนั่งสมาธิแล้วไม่เป็นสมาธิ ก็คิดว่าจะนั่งทำไม หนูก็เลยมาพิจารณาร่างกายแทน พิจารณาไปจนน้ำตาร่วง คิดว่าชีวิตนี้ไร้สาระ ที่ผ่านมาโดนหลอกมาขนาดนี้เลยหรือ เราไปทำใครเขาไว้ ก็ขอโทษเจ้ากรรมนายเวร หนูคิดไปเองหรือเปล่า ควรจะทำแบบนี้ต่อไปอีกหรือไม่คะ ?
ตอบ : แบ่งเป็น ๒ ประเด็น ประเด็นแรกคือเรื่องของสมาธิ เราอยากได้คืนมากเกินไป คราวนี้ตัวอยากได้มากเกินไปทำให้ฟุ้งซ่าน ก็เลยไม่ทรงตัว เพราะว่าภาวนาเมื่อไรเราก็อยากให้สงบเหมือนเดิม กลายเป็นว่าตัวอยากให้สงบเป็นตัวฟุ้งซ่าน ต้องทำใจว่าเรามีหน้าที่ภาวนา ส่วนผลจะเป็นอย่างไรช่างมัน ถ้าอย่างนั้นจะได้คืนเร็ว ประการที่ ๒ คือ ควรจะมีการพิจารณาประกอบไปด้วยทุกครั้ง เอาให้เห็นชัด ๆ เลยว่าอัตภาพร่างกายนี้ไร้สาระ เกิดมาชาติแล้วชาติเล่าก็ยังต้องทนทุกข์ทรมานอยู่อย่างนี้ ขึ้นชื่อว่าการเกิดมาแบบนี้จะไม่มีสำหรับเราอีกแล้ว พยายามสรุปจบลงตรงนี้ให้ได้ทุกครั้ง ถ้าสภาพจิตยอมรับจริง ๆ ก็อย่างที่ว่า คือซึ้งจนน้ำตาร่วงเอง พอเห็นอย่างนั้นชัดเจนจริง ๆ แล้ว ว่าร่างกายเราไม่มีอะไรดีเลย ในเมื่อตัวเราไม่มีอะไรดี ตัวคนอื่นก็เหมือนกัน เรายังไม่อยากได้ใคร่ดีในตัวเอง จะไปอยากได้ใคร่ดีในตัวคนอื่นได้อย่างไร ? ท้ายสุดคนอื่นก็ไม่ดี โลกนี้ก็ไม่ดี ในเมื่อเราไม่ต้องการอีก ความปรารถนาในการเกิดไม่มี ก็ตัดกิเลสของตัวเองได้ไปตามลำดับขั้น ก็คือ ศีล สมาธิ ปัญญา ของเรามีเท่าไร ก็จะได้ไปตามที่เราสั่งสมมา ถ้าสามารถพ้นไปได้เลยก็ถือว่าจบจึงต้อง พิจารณาไว้ทุกครั้ง อย่ารอให้ภาวนาไม่ได้แล้วค่อยมาพิจารณา
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-09-2019 เมื่อ 16:40 |
สมาชิก 165 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#53
|
||||
|
||||
ถาม : เราจะรู้เมื่อไรว่าควรจะเริ่มพิจารณาแบบวิปัสสนาแล้ว ?
ตอบ : ภาวนาจนใจไม่เอาแล้ว พอไม่เอาแล้วเราก็มาพิจารณา ส่วนใหญ่แล้วพวกเราภาวนาอย่างเดียว ภาวนาแล้วก็ปล่อยทิ้งไปเฉย ๆ ไม่ได้เอามาใช้งานในการพิจารณา ก็เลยทำให้เสียของเปล่า แต่ไม่เป็นไรหรอก...ต้องลองผิดลองถูกอย่างนี้กันทั้งนั้นแหละ
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-09-2019 เมื่อ 16:40 |
สมาชิก 168 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#54
|
||||
|
||||
ถาม : เกือบทุกอาทิตย์จะพาแม่ไปถวายภัตตาหารพระสงฆ์ มีพระอาจารย์รูปหนึ่งท่านเป็นพระครู ท่านสอนอานาปานสติ หนูก็พาแม่ไป พอหนูมีปัญหา หนูก็ไปถามท่าน พอท่านรู้ว่าหนูเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง ท่านก็หาว่ามโนมยิทธิเป็นการเอาจิตส่งออก หนูไม่รู้จะอธิบายอย่างไร ?
ตอบ : อย่าไปเถียงกับท่าน เพราะว่าท่านไม่เคยปฏิบัติแบบนี้ ท่านจึงไม่เข้าใจ การที่จิตเราส่งออกแล้วเกิดทุกข์ เพราะว่าเป็นการส่งออกโดยไม่มีการควบคุม แต่มโนมยิทธิอย่างน้อยเราก็ต้องทรงอุปจารสมาธิขึ้นไป ก็แปลว่าเราไปโดยมีการควบคุม ในเมื่อไปโดยมีการควบคุม ถึงเวลาจะไปฟุ้งซ่านให้เป็นทุกข์ได้อย่างไร ? อย่าไปเสียเวลาอธิบาย..เพราะว่าเราไม่เก่งจริง ถาม : ท่านก็พยายามดึงเราออกจากทาง ทำให้อึดอัดค่ะ ? ตอบ : บอกกับท่านว่า สิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนทุกอย่างเป็นความดีทั้งหมด เรายินดีที่จะทำตรงนี้ ถ้าหากท่านเห็นว่าสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนไม่ดี ก็แปลว่าท่านเองก็ยังไม่ดีพอ
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-09-2019 เมื่อ 16:40 |
สมาชิก 167 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#55
|
||||
|
||||
ถาม : พระที่รู้จักคุยกันว่า พระที่ศีลยังไม่บริสุทธิ์ จะไปได้ฤทธิ์ได้อภิญญาได้อย่างไร ?
ตอบ : บอกกับท่านสิว่า ผมเห็นฆราวาสได้ฤทธิ์ได้อภิญญากันเยอะแยะ ไม่เห็นต้องศีล ๒๒๗ ข้อ ศีล ๕ ยังไม่ครบเลย เพียงแต่ตอนปฏิบัติครบอยู่พักเดียวเท่านั้น แสดงว่ากำลังใจท่านสู้ฆราวาสห่วย ๆ ยังไม่ได้เลย..! ถาม : ท่านถือว่าท่านเก่งจริง ๆ ? ตอบ : เขาเรียกว่า สีลัพพตุปาทาน ยึดมั่นในหลักปฏิบัติของตนว่าเหนือกว่าผู้อื่น กลายเป็นยึดมันถือมั่นไป ถึงได้กลายเป็นอุปาทาน กามุปาทาน ทิฏฐุปาทาน สีลพัตตุปาทาน อัตตวาทุปาทาน สีลพัตตุปาทาน นี่ก็คือยึดมั่นในศีลพรต คือหลักปฏิบัติของตน อัตตวาทุปาทาน ยึดมั่นในวาทะ คือต้องกูเท่านั้นคนอื่นไม่ใช่ ออกไปแนวสัจจกนิครนถ์ คือ กูเก่งคนเดียว
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-09-2019 เมื่อ 16:40 |
สมาชิก 162 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#56
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "ชราธัมโมมหิ ชะรัง อะนะตีโต เรามีความแก่เป็นธรรมดา ไม่อาจจะล่วงพ้นความแก่ไปได้ พะยาธิธัมโมมหิ พะยาธิง อะนะตีโต เรามีความเจ็บไข้เป็นธรรมดา ไม่สามารถจะล่วงพ้นความเจ็บไข้ไปได้ มะระณะธัมโมมหิ มะระณัง อะนะตีโต เรามีความตายเป็นธรรมดา ไม่อาจล่วงพ้นความตายไปได้
นี่มองข้ามขั้นไปนิด ตอนนี้แก่แล้ว เจ็บแล้ว จึงต้องมองไปถึงตาย ก็เหลือแค่ว่าเป้าหมายหลังจากตายแล้วจะไปไหน ? ลงต่ำ อยู่ที่เดิม ขึ้นสูง หรือพ้นไป ? จริง ๆ แล้วมีคนเขาบอกว่า คนเราเลือกเกิดไม่ได้ เลือกอยู่ไม่ได้ เลือกงานไม่ได้ เลือกตายไม่ได้ จริง ๆ แล้วเลือกได้นะ เลือกเกิดนี่ส่วนใหญ่เลือกกันมาแล้ว เพราะว่าทำแบบนั้นถึงได้แบบนั้น นี่ถามว่าเลือกตายไม่ได้ ? ได้..ตายก็ตามที่คุณเลือกไว้นั่นแหละ ทำอย่างไรก็ไปตามนั้น เราเลือกเอง ลิขิตชีวิตตัวเอง แต่ไปบอกว่าเลือกไม่ได้"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-09-2019 เมื่อ 16:40 |
สมาชิก 165 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#57
|
||||
|
||||
ถาม : หนูร่วมทำบุญถอดเทปคำสอนครูบาอาจารย์ค่ะ ?
ตอบ : การถอดเทปคำสอนครูบาอาจารย์ บางคนรัก เกรงใจ แล้วก็กลัวจนเกินไป ไม่กล้าเปลี่ยนแปลงทั้ง ๆ ที่บางอย่างท่านพูดก็ผิด แทนที่จะช่วยแก้ให้ถูกก็ไม่แก้ เรื่องนี้อาตมาเจอมาตั้งแต่สมัยยังอยู่ที่วัดท่าซุง ถอดเทปหนังสือหลวงพ่อวัดท่าซุงใหม่ ๆ คนถอดเคารพจัด กระทั่งเสียงกระแอม เสียงไอยังใส่ลงไป จะเอามาทำอะไรวะ ? คำพูดที่จะแก้ไขจากภาษาพูดเป็นภาษาเขียนก็ไม่กล้าอีก นั่นเขาเรียกว่าอ่อนไหวจนเกินไป ถ้าไม่กล้าทำงานก็อย่าโผล่หน้ามา ถ้าโผล่หน้ามาต้องพร้อมที่จะลงนรก..! ถอดเทปมา ถอดเสียงมา ต้องแก้ไขให้สมบูรณ์ คนอ่านจะได้ลื่นไหลไม่สะดุด แทนที่จะมีโทษกลับมีประโยชน์มากกว่า แต่นี่กลัวโทษกันอย่างเดียว ไม่กล้าแก้ ไม่กล้าทำกันเลย
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-09-2019 เมื่อ 16:40 |
สมาชิก 169 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#58
|
||||
|
||||
ถาม : ปกติผมจะอุทิศส่วนกุศลให้กับเทวดาประจำตัวทุกวัน แต่ต่อมาผมก็คิดว่า เราอยากจะอุทิศส่วนกุศลล่วงหน้าไปเลย บอกว่า ต่อไปนี้ทั้งชีวิตของข้าพเจ้าทำบุญอะไรมา ท่านโมทนาได้เลย ข้าพเจ้าไม่อยากมาอุทิศส่วนกุศลให้ทุกวันแล้ว แบบนี้ได้ไหมครับ ?
ตอบ : เทวดานั้นได้ เพราะว่าท่านมีสภาพจำแล้วก็โมทนา แต่เราจะขาดทุน เพราะว่าปัตติทานมัยของเราจะขาดไป เพราะเราไม่ได้ทำทุกวันเหมือนเดิม คือผลบุญที่ได้จากจิตของเราสละความดีของตนให้กับผู้อื่นจะหายไป เพราะฉะนั้น...จะขี้เกียจก็ได้ แต่ก็ต้องขาดทุนหน่อย
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-09-2019 เมื่อ 16:40 |
สมาชิก 176 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#59
|
||||
|
||||
ถาม : ตอนผมเป็นเณร ผมสึกมาแล้ว ผมเอาปัจจัยที่ได้จากตอนเป็นเณรกลับบ้านมาด้วย แต่ต่อมาผมก็คิดว่าไม่สมควรที่จะเอากลับบ้าน ก็เลยนำปัจจัยนั้นไปทำบุญที่วัดเดิม ทำบุญค่าน้ำค่าไฟทั้งหมด อย่างนี้ผมจะเป็นหนี้สงฆ์หรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ต้องดูว่าทิ้งระยะนานแค่ไหน ? ถาม : ในวันนั้นเลยครับ ? ตอบ : ถ้าวันนั้นเลยก็ไม่เป็นไร แต่เสี่ยงนรกมาก ถ้าพลาดแล้วตายก่อนก็ซวยไป ถ้าทิ้งระยะเราต้องดูด้วยว่าปัจจัยที่เราให้ไป ได้กับช่วงนี้ไหม ? เพราะว่าบางทีเวลาผ่านไปค่าของเงินลดลง เราเคยเอาเงินมาซื้อก๋วยเตี๋ยวได้หนึ่งชาม สมมติว่าตอนนั้น ๕ บาท แต่ตอนนี้ ๒๐ บาท เราก็ต้องใช้คืนเป็นจำนวน ๒๐ บาท ถาม : ตอนนั้นจำได้ว่าออกจากวัดมาก็ ๒ - ๓ ชั่วโมง วัดใกล้บ้านก็เอาไปคืนเลย ? ตอบ : นี่ถ้าเป็นพระก็ต้องอาบัติปาราชิก ขาดจากความเป็นพระไปแล้ว ยังดีที่เณรไม่มีอาบัติปาราชิก ถาม : ผมสึกมาแล้วนี่นะครับ ? ตอบ : ถ้ามีเถยยจิตที่จะเอา จะคิดเอาตอนไหน ก็ต้องคิดเอาตอนก่อนที่คุณจะสึก..ใช่ไหม ?
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-09-2019 เมื่อ 02:54 |
สมาชิก 163 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#60
|
||||
|
||||
ถาม : ผมท่องพระคาถาเงินล้าน ต่อมาก็เปลี่ยนมาท่องพระคาถาอื่นอย่างพระคาถาอื่น ผมต้องตั้ง นะโมฯ ๓ จบใหม่ไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าต่อเนื่องกันไปก็ไม่ต้อง ถาม : แล้วถ้าเว้นสัก ๓ ชั่วโมง ต้องท่อง นะโมฯ ใหม่ ? ตอบ : เอาเป็นว่าตอนช่วงเช้าตั้งไว้ก็แล้วกัน ภายในวันนั้นจะว่าคาถาอะไรก็ว่าไป
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-09-2019 เมื่อ 02:55 |
สมาชิก 167 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
คำสั่งเพิ่มเติม | |
|
|