|
เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#21
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "เห็นโยมแขวนพระกริ่งปลดหนี้สองแผ่นดินแล้วนึกขึ้นมาได้ ท่านอาจารย์ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี ศิลปินแห่งชาติ ต้องเรียกว่าปรมาจารย์เพลงขลุ่ยเมืองไทย ท่านเล่าให้ฟังเมื่อสองวันก่อน บอกว่าใช้พระกริ่งปลดหนี้สองแผ่นดินกับเหรียญพุทธบารมีรุ่นสอง พร้อมกับภาวนา เมสัมมุกขา สัพพาหะระติ เต สัมมุกขา แล้วตัวปัญหาหายไปจากชีวิตเองโดยไม่ต้องทำอะไร ก็คือมีบุคคลที่คอยสร้างปัญหาให้กับท่านอยู่ตลอดเวลา หลังจากที่ใช้วัตถุมงคลสองอย่างนี้ พร้อมกับภาวนาคาถามหาสะท้อนเป็นปกติ เขาก็ปลีกตัวเองไป ทำให้ทุกอย่างสะดวก คล่องตัวขึ้นมาก"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-08-2019 เมื่อ 02:03 |
สมาชิก 204 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#22
|
||||
|
||||
"พวกเราฟังไว้เป็นประสบการณ์ในการใช้วัตถุมงคลอย่างหนึ่ง จริง ๆ แล้วก็คือ ด้วยใจที่เคารพในพระรัตนตรัย ยึดพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งจริง ๆ ที่เป็นกุศลใหญ่เสริมเข้ามา ในเมื่อกุศลใหญ่เข้ามา อกุศลถอยไปก็เป็นเรื่องปกติ เพียงแต่ว่าขึ้นอยู่กับจังหวะเวลาของใคร แบบเดียวกับน้องโบว์ (ภคมน)
อาตมาตั้งใจทำธงให้เป็นธงค้าขาย น้องโบว์เอาธงไปให้รุ่นพี่นำไปใช้ในงานประมูลแข่งกับเขา บอกว่าให้อาราธนาธงนี้ก่อนแล้วค่อยไปประมูล ปรากฏว่าได้งานมาพันกว่าล้านบาท..! รุ่นพี่ก็เลยยึดธงไป โดยไม่แบ่งให้น้องโบว์แม้แต่บาทเดียว ถ้าเป็นอาตมาจะคิดค่าเช่าเป็นรายวัน...! พวกเรื่องประสบการณ์วัตถุมงคล ส่วนใหญ่คนเขาพบมาโดยตรง ก็เกิดความศรัทธาเลื่อมใสมาก"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-08-2019 เมื่อ 02:05 |
สมาชิก 199 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#23
|
||||
|
||||
"ถ้าเปิดให้เขียนประสบการณ์เกี่ยวกับวัตถุมงคลวัดท่าขนุน ดูท่าว่าจะอ่านกันไม่ไหว เพราะฉะนั้น..อย่าไปเปิดเลย เพราะว่าอ่านแล้วเขาก็จะหาแต่รุ่นนั้น ซึ่งหมดไปแล้ว เป็นเรื่องปกติเลย รุ่นไหนมีประสบการณ์คนก็จะเอารุ่นนั้น ทีนี้พอรุ่นนั้นมีประสบการณ์ดันจะไปเฉพาะเอาองค์นั้น แล้วเจ้าของใครเขาจะไปให้เล่า ?"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-08-2019 เมื่อ 02:06 |
สมาชิก 193 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#24
|
||||
|
||||
"อาตมาเองก็โดนเพื่อนพระบางท่านที่อยู่ในกลุ่มไลน์สำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดตำหนิมา บอกว่าไปเที่ยวเสกวัตถุมงคล ไม่ใช่สิ่งที่พระพุทธเจ้าสอน ควรที่จะเอาธรรมะบริสุทธิ์ไปให้แก่ญาติโยม
อาตมาก็บอกว่า คนเข้าร้านข้าวแกงมากกว่า หรือเข้าร้านขายเพชรมากกว่า ? ก็ต้องคนเข้าร้านข้าวแกงมากกว่า เพราะว่าเขาต้องกินอยู่ทุกวัน เนื่องจากเงินยังมีไม่เพียงพอ ไม่เหลือเฟือขนาดจะไปซื้อเพชร สำคัญอยู่ที่เราว่าทำอย่างไรที่จะแนะนำคนขายข้าวแกงว่า มีเพชรซึ่งมีคุณค่ามหาศาลอยู่ ถ้าหากว่าคุณรวบรวมเงินได้เพียงพอแล้วก็ควรที่จะซื้อติดตัวเอาไว้บ้าง แบบเดียวกับหลักธรรมของพระพุทธเจ้าก็คือเพชร แต่คนส่วนใหญ่กำลังใจไปไม่ถึง ก็ไปได้แค่ขั้นต้น โบราณจารย์ท่านฉลาด ท่านให้เรายึดวัตถุมงคล โดยไม่ให้ห่างจากทาน ศีล ภาวนา เราจะเห็นว่าวัตถุมงคลบางชิ้นเราต้องภาวนาคาถาเงินล้าน ต้องใส่บาตรประจำ วัตถุมงคลบางชิ้นเราต้องรักษาศีลอย่างน้อยสองข้อ ก็คือ ต้องไม่ลักขโมย ต้องไม่กินเหล้า เป็นต้น"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-08-2019 เมื่อ 10:54 |
สมาชิก 186 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#25
|
||||
|
||||
"ถึงเวลาก็ต้องมีการอาราธนา ก็คือการภาวนา ก็แปลว่าโบราณาจารย์ ครูบาอาจารย์ท่านมีความฉลาด กำลังใจของเรายังต่ำอยู่ ไม่สามารถที่จะกอบโกยเอาเพชรมาได้ ท่านก็พยายามที่จะต่อ ก็คือต่อบุญต่อกำลังใจของเรา หาทางเสริมบุญของเราให้เพียงพอ เหมือนอย่างกับสร้างต้นทุนให้เราพอที่จะซื้อเพชรนั้นได้ ไม่ใช่ไปยืนตำหนิชี้หน้าด่าคนอื่น ว่าดีแต่ชวนชาวบ้านเขากินข้าวแกง ไม่ใช่ชวนชาวบ้านซื้อเพชร เขาไม่มีสตางค์นี่คุณ จะได้พูดเต็มปากเต็มคำว่าเศรษฐกิจดี แล้วดีอยู่กี่คน เรื่องนี้เกี่ยวกันหรือเปล่า ? ไม่เกี่ยวนะ..บ่นแล้วก็พูดเลยไป
เรื่องพวกนี้ที่ไหน ๆ ก็เหมือนกัน พอตนเองทำไปถึงระดับหนึ่ง จะเกิดมานะ เกิดทิฐิ เห็นว่าตนเองทำดีแล้ว ถูกแล้ว ถ้าคนอื่นไม่ทำแบบนี้ก็คือใช้ไม่ได้ ถ้าลักษณะอย่างนี้ต้องบอกว่าโลกทัศน์คับแคบมาก ไม่มองบริบทและความเป็นจริงในสังคมของเรา ในสังคมที่คนยังไปถูท่อนไม้ ยังไปไหว้หมาหน้าเป็นลิง ยังไปไหว้ต้นกล้วยออกปลีกลางต้น ยังไปไหว้ต้นมะพร้าวออกจั่นเหมือนหงอนพญานาค แล้วคุณจะไปเอาธรรมะบริสุทธิ์ที่ไหนมาให้เขาได้ ? ใคร ๆ ก็รู้ว่าปริญญาเอกเป็นความรู้สูงสุดที่บ้านเรามี เด็กไม่ทันจะจบ ป.๔ แล้วบอกให้ไปเรียนปริญญาเอก เขาจะเรียนไหวไหม ? ท่านไม่ค่อยจะนึกถึงตรงนี้กัน ในเมื่อเกิดทิฐิมานะขึ้นมาก็แบก แบกความรู้ แบกความดี วาระสุดท้ายแม้แต่ดีชั่วก็แบกไม่ได้ ต้องวางหมด เพราะถ้าไม่วางก็ไปไหนไม่ได้ แต่ทีนี้เรายังแบกดีอยู่ จะไปเอาดีได้อย่างไร ? เพราะว่าดีแท้ต้องเลิกแบก แต่บางทีอาตมาเองก็ดูแล้ว ในเมื่อท่านกำลังใจเป็นแบบนี้ ก็อยู่ในประเภทน้ำชาล้นถ้วย เทลงไปก็ล้นทิ้งเสียเปล่า ๆ ดีไม่ดีก็ขัดคอกันด้วย จึงต้องเงียบไว้ก่อน ปล่อยท่านแสดงทัศนคติของท่านไป โดยที่คิดว่าเอาที่ท่านสบายใจก็แล้วกัน"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-08-2019 เมื่อ 10:57 |
สมาชิก 190 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#26
|
||||
|
||||
โยมเอาพระแตกมาถวาย พระอาจารย์กล่าวว่า "ส่วนใหญ่พวกเราไปกลัวพระแตก พระหัก ถ้าซ่อมขึ้นมาจะได้อานิสงส์เบญจกัลยาณีด้วย ต้องเรียกว่าทิ้งบุญไปแบบน่าเสียดาย ไม่มีอะไรซ่อมแค่ติดกาวไว้ก็ยังดี
นางสาวภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก นางงามจักรวาลชาวไทย ตอนได้รับมงกุฎแล้ว แวะไปกราบหลวงพ่อวัดท่าซุง พวกเราก็ถามหลวงพ่อท่านว่า พอจะบอกได้ไหมครับ ว่าทำไมภรณ์ทิพย์ถึงได้รางวัล ? หลวงพ่อท่านบอกว่า ชาติก่อนรักษาศีลและเจริญเมตตาเป็นปกติ ซ้ำยังได้ซ่อมพระพุทธรูปด้วย เกิดมาก็เลยกลายเป็นคนสวยที่สุดในโลกของยุคนี้ เป็นอย่างไร ลืมป้าปุ๋ยไปหรือยัง ? ไม่ได้สวยอย่างเดียวนะ ตอนนี้รวยบรรลัยเลย เพราะว่าสามีรวย ยังอุตส่าห์เดินทางไปทำงานเกี่ยวกับการช่วยเหลือเด็กไปทั่วโลก ต้องบอกว่าคนมีบุญแล้วต่อบุญตัวเองเป็น แบบเดียวกับโจวเหวินฟะ กับ หลี่เหลียนเจี๋ย บริจาคเงินเข้ามูลนิธิ บริจาคเงินให้พระพุทธศาสนาบ้าง ท่านทั้งหลายเหล่านี้มีบุญและต่อบุญตัวเองเป็น ใช้บุญตัวเองเป็น อานิสงส์จะตามไปชาติถัด ๆ ไป ถ้าต่อบุญตัวเองไม่เป็น หมดชาตินี้ ชาติต่อไปก็จะลำบาก"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-08-2019 เมื่อ 11:25 |
สมาชิก 189 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#27
|
||||
|
||||
โยมมาถวายสังฆทานให้ผู้ตาย "สบายใจได้นะ แม่ตามมาโมทนาได้ ถ้ามาได้ แสดงว่าสบายแล้ว มีแต่เราที่ลำบาก"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-08-2019 เมื่อ 11:25 |
สมาชิก 196 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#28
|
||||
|
||||
มีโยมมาถวายสังฆทาน พระอาจารย์กล่าวเตือนสติว่า "อย่าจริงจังกับชีวิตมาก จริงจังมากก็เครียด ผ่อน ๆ คลาย ๆ บ้าง แบกมากก็หนัก"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-08-2019 เมื่อ 11:25 |
สมาชิก 196 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#29
|
||||
|
||||
ถาม : การที่บุคคลมีจริตนิสัยมักง่าย ขี้เกียจ แต่เป็นในลักษณะที่ว่า ถ้ามีปัญหาที่ต้องแก้ไข จะหาวิธีที่ง่ายและเร็วที่สุดในการแก้ปัญหา และในด้านธรรมะอยากจะทรงฌานสมาบัติ สลับฌานได้ตามใจนึก ก็ภาวนาไปเรื่อย ๆ ก็สักแต่ว่าทำสะสมไปเรื่อย ๆ ไม่ได้รีบร้อน ถ้าตอนไหนเบื่อก็หาอย่างอื่นทำจะได้ไม่เครียด การที่มีนิสัยหรือจริตแบบนี้ ต้องแก้หรือไม่ครับ ?
ตอบ : ถ้าเป็นสันดานแล้วแก้ไม่ได้ คนที่จะละสันดานได้มีอยู่ท่านเดียวคือพระพุทธเจ้า
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-08-2019 เมื่อ 20:28 |
สมาชิก 176 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#30
|
||||
|
||||
ถาม : การที่เราปฏิบัติได้ในระดับหนึ่ง และรู้สึกพอใจแค่นี้ แต่ก็ยังมีธรรมขั้นสูงที่ดีกว่าตอนนี้รออยู่ แต่ก็ไม่ได้เร่งรีบอะไร ก็ค่อย ๆ ทำไป อยากทราบว่าวิธีคิดแบบนี้ใช้ได้หรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ใช้ได้สำหรับเขา ก็คือสำหรับบุคคลที่ยังจะต้องเกิดอีกนาน..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-08-2019 เมื่อ 20:29 |
สมาชิก 172 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#31
|
||||
|
||||
ถาม : ขอสอบถามหลวงพ่อเรื่องสังโยชน์เบื้องสูงในข้อมานะ ผมเข้าใจถูกหรือเปล่าครับบุคคลที่ทรงฌานสมาบัติ ๘ ทรงอภิญญา มีความรู้ทางโลกและทางธรรมมาก มีวิปัสสนาญาณสูง และเข้าถึงธรรมจริง ๆ ท่านเหล่านี้ไม่มีความหยิ่งไม่ถือตัว แต่จะใช้ประโยชน์จากความรู้ความสามารถที่เรียนมาเพื่อช่วยตนเองและคนอื่น ?
ตอบ : ไปถามท่าน จะได้คำตอบที่ชัดที่สุด
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-08-2019 เมื่อ 20:29 |
สมาชิก 166 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#32
|
||||
|
||||
ถาม : การที่เราช่วยแชร์คำสอนของพระอรหันต์ หลวงปู่ หลวงพ่อที่สอนตามพระพุทธเจ้า บน Facebook และหวังว่าสิ่งที่เราทำจะเป็นปัจจัยช่วยให้เขาไม่ต้องเกิด หรือเกิดน้อยลง อยากทราบว่าคนที่ทำแบบนี้ จะช่วยให้ตนเองทรงฌาน ๔ และเข้าถึงอารมณ์วิปัสสนาขั้นสูงได้ง่ายขึ้นหรือไม่ หรือว่าต้องเพียรพยายามอย่างเดียวครับ ?
ตอบ : อานิสงส์ที่เราได้เป็นส่วนของธรรมทาน ส่วนเรื่องของการทรงฌานทรงสมาบัติ เป็นความเพียรเฉพาะตน เหมือนอย่างกับว่าเราจะกินข้าว แต่เราก็เที่ยวเอาข้าวของไปเที่ยวแจกคนอื่นเขา แต่เราไม่หุงกินเสียที แล้วเมื่อไรเราถึงจะได้กิน ?
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 08-08-2019 เมื่อ 21:21 |
สมาชิก 176 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#33
|
||||
|
||||
ถาม : มีโอกาสไหมครับที่ทางวัดท่าขนุนจะสร้างสมเด็จองค์ปฐม (แบบหลวงพ่อทองคำ) ลอยองค์ ขนาดแขวนคอ ?
ตอบ : มีน้อยมาก
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-08-2019 เมื่อ 20:30 |
สมาชิก 176 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#34
|
||||
|
||||
ถาม : คนที่จมน้ำตาย ทำไมบางคนถึงถูกพวกอมนุษย์แอบซ่อนศพหรือทำให้หาศพไม่เจอด้วย ?
ตอบ : เขาอยากซ่อนเอง
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-08-2019 เมื่อ 20:30 |
สมาชิก 173 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#35
|
||||
|
||||
ถาม : พระอาจารย์เคยเล่าถึงการนำสังฆทานที่ถูกเก็บไว้จนเก่ามาใช้ประโยชน์ โดยนำบางส่วนมาชั่งกิโลขาย บางส่วนนำมาปรับปรุงให้ดีเพื่อให้ผู้คนใช้บูชาต่อ แล้วหลวงปู่ฤๅษีบอกว่าเป็น “สันดานเศรษฐี” การนำของสงฆ์มาทำลักษณะนี้ มีหลักการอย่างไร จึงจะไม่ติดหนี้สงฆ์และเป็นบาปกรรม และเป็นดังเช่นหลวงปู่ฤๅษีบอก ?
ตอบ : สร้างมูลค่าเพิ่มให้มากที่สุด โดยที่คาดคำนวณว่าถ้าเป็นของใหม่แล้วราคาจะได้กัน ก็คือราคาใกล้เคียงกัน จะได้ไม่เป็นหนี้สงฆ์ อาตมาเอาเทียนคู่หนึ่งไปเข้าพิธีเสาร์ ๕ แล้วเอามาขายสองร้อยบาท โดยปกติเทียนทั้งห่อขายได้ถึงสองร้อยหรือเปล่าก็ไม่รู้ ?
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-08-2019 เมื่อ 20:31 |
สมาชิก 176 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#36
|
||||
|
||||
ถาม : พระเถระรูปหนึ่งที่มรณภาพไปแล้ว ท่านเคยเล่าว่า เหตุที่ชาตินี้ ท่านมีรูปร่างเตี้ยสั้น เพราะในอดีตชาติหนึ่ง ท่านไปเด็ดก้านดอกไม้ที่เขาถวายบูชาพระให้สั้น ด้วยห่วงแจกันดอกไม้จะล้ม ท่านบอกว่าเป็นผลกรรมที่ไปขัดเจตนาผู้ที่ถวาย กรณีนี้หากไม่ใช่กระทำด้วยเจตนาดี ผลกรรมจะหนักกว่านี้หรือไม่ ?
ตอบ : ขนาดเจตนาดียังหนักแบบนี้ ถ้าเจตนาไม่ดีจะไม่หนักกว่าก็เป็นเรื่องที่ประหลาดแล้ว
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-08-2019 เมื่อ 20:31 |
สมาชิก 180 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#37
|
||||
|
||||
ถาม : ผมได้ปฏิบัติสมาธิมาได้ระยะหนึ่ง ในการทำสมาธิ ยืน เดิน นั่ง นอน แม้แต่ขับรถ ผมไม่ทราบว่าทรงสมาธิได้ถึงระดับไหน แต่เมื่อต้องการจะเข้าสมาธิ ไม่จำเป็นต้องตั้งท่ากำหนดลมหายใจเข้าออก หรือภาวนาพุทโธ เพียงแค่นึกก็เป็นสมาธิแล้ว บางครั้งเมื่อมีอารมณ์รัก โลภ โกรธ หลง มากระทบ ก็เข้าสมาธิได้ทันระงับไว้ได้ จะสังเกตจากอาการทางร่างกายคือ ไม่เครียด ไม่ปวดหัว กำลังจะสู้ได้ทุกงาน เมื่อผมได้กลับไปอ่าน คำสอนของหลวงพ่อในโอกาสต่าง ๆ ก็มั่นใจว่าเดินมาถูกทางแล้ว และเข้าใจมากยิ่งขึ้น ไม่หวั่นไหวในโลกธรรม ๘ ประการ
ถาม : ผมมีคำถามอยากจะสอบถามหลวงพ่อว่า หากเราทรงสมาธิถึงฌาน ๔ ได้เป็นปกติ เป็นไปได้ไหมที่เราไม่รู้ตัว ? ตอบ : คนโง่ประเภทนั้นมีเยอะนะ อาตมาเจออยู่หลายคนเหมือนกัน มีอยู่คนหนึ่งเป็นพระอริยเจ้าแล้วยังไม่รู้ว่าตัวเองเป็น พยายามบอกอย่างไรก็โง่อยู่อย่างนั้น แต่เขาทำได้ ก็เลยแปลกใจว่าโง่แบบไหน คนที่จะเข้าถึงความเป็นพระอริยเจ้าต้องฉลาดสุด ๆ ไม่อย่างนั้นเข้าไม่ถูกทางหรอก แต่ใบ้ให้ตายเขาก็ไม่รู้ตัวว่าเป็น ส่วนอีกรายทรงฌานได้ทุกเวลาที่ต้องการ แต่เขาไม่รู้ คิดว่าตัวเองไม่สบาย ถึงเวลาตั้งใจจะขับรถก็จะแข็งทื่อเป็นหิน ต้องเขย่าตัวเองให้หลุด ดู ๆ แล้วก็ตลกดีเหมือนกัน ก็น่าจะมีนะ...ประเภทที่ทรงฌานได้แต่ตัวเองไม่รู้ตัว ถาม : หากผู้นั้นกำลังประสบกับวิบากกรรมหนัก การอธิษฐานขอผลของฌาน ๔ จะมีผลเป็นอย่างไร ? ตอบ : ก็ต้องลองดู เพราะว่าฌานสี่ไม่ต้องอธิษฐานขอผล เขาใช้ได้เลย อย่าลืมว่ามีส่วนของฌานฤทธิ์ ฤทธิ์ที่เกิดขึ้นจากการทรงฌานสมาบัติ หากว่าไม่เกินวิสัยก็สามารถจะทำได้อย่างที่ตนต้องการ
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-08-2019 เมื่อ 02:24 |
สมาชิก 168 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#38
|
||||
|
||||
ถาม : สองปีมานี้มีเหตุจำเป็นต้องจ่ายเงินเป็นจำนวนมากซึ่งไม่อาจจะเลี่ยงได้ ดูเหมือนว่าที่หน้าจะมีขี้แมลงวันจำนวนมากที่จมูก ซินแสบางท่านบอกว่าเป็นลักษณะของคนที่ต้องจ่ายเงินมากปรากฏขึ้นมา และควรเอาออกจะได้หมดปัญหานี้ นอกจากสวดคาถาวิระทะโยแล้ว ควรทำอะไรเพิ่มเติมเป็นพิเศษอีกหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ใช้สบู่กัญชา เห็นเขาว่าทำให้ขี้แมลงวันลอกได้..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-08-2019 เมื่อ 02:25 |
สมาชิก 173 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#39
|
||||
|
||||
ถาม : คนสองคนเอ่ยปากขออโหสิกรรมซึ่งกันและกันทุกอย่างต่อหน้ากันแล้ว แต่หลังจากนั้นฝ่ายหนึ่งก็เกิดการกระทำที่เบียดเบียนอีกฝ่ายอย่างรุนแรง โดยที่หลังการขออโหสิกรรมครั้งนั้น ฝ่ายที่ถูกเบียดเบียนไม่ได้กระทำสิ่งใดที่ดูเหมือนการสร้างเหตุล่วงเกินอีก นอกจากมีความเห็นไม่ตรงกันบ้างในบางเรื่องตามปกติทั่วไป ตามหลักการเมื่อขออโหสิกรรมต่อหน้ากันและกันไปแล้วกรรมที่ทั้งคู่จองเวรกันมาย่อมสิ้นสุดลง ทำไมกรรมของทั้งคู่ถึงยังไม่ขาดจากกันครับ ?
ตอบ : ก็ไปเริ่มต้นใหม่ เหมือนกับใช้หนี้หมดแล้วก็ยืมอีก ย่อมต้องเป็นหนี้อีก
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-08-2019 เมื่อ 02:25 |
สมาชิก 171 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#40
|
||||
|
||||
ถาม : ถ้าจะอาราธนาบาตรน้ำมนต์และเหรียญเนื้อนาก เพื่อทำน้ำมนต์รักษาโรคหรือทำน้ำมนต์เพื่อเป็นศิริมงคล ต้องใช้คาถาบทใดครับ ผมอ่านจากเก็บตกเป็นคาถาเสกน้ำล้างหน้า จึงไม่แน่ใจว่าใช้อาราธนาในกรณีนี้ได้หรือไม่ครับ ?
ตอบ : ถ้าไม่รู้จะใช้คาถาอะไรก็ อิติปิ โสฯ สามห้อง ใส่ไป ๑๐๘ จบได้ยิ่งดี ..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-08-2019 เมื่อ 02:26 |
สมาชิก 178 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
คำสั่งเพิ่มเติม | |
|
|