|
เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#21
|
||||
|
||||
ถาม : ในด้านสิทธิของมนุษย์ ทุกคนมีสิทธิที่จะรวมกลุ่มประท้วงในเรื่องต่าง ๆ เช่น ในต่างประเทศส่วนใหญ่จะประท้วงเรื่องโลกร้อนหรือเพศที่ ๓ และในปัจจุบันที่ประเทศไทยเท่าที่ผมติดตามข่าวมา ไม่แน่อาจจะมีการประท้วงในด้านการเมือง ตัวผมอยากทราบว่า ถ้าการที่คนเราไปเข้าร่วมการประท้วงเพื่อจะช่วยเหลือประเทศชาติ จะเป็นบุญหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ถ้าไปด้วยใจที่ประกอบไปด้วยโทสะ คิดเบียดเบียนเขา โอกาสที่จะรับบาปมีมากกว่าเยอะ ถาม : พระสงฆ์ในศาสนาพุทธสามารถรวมกลุ่มประท้วง เพื่อประเทศชาติหรือศาสนาได้หรือไม่ครับ และจะเป็นการขัดพระวินัยหรือเปล่าครับ ? ตอบ : ถ้าในเรื่องของพระวินัยไม่ได้กล่าวเอาไว้ แต่มีห้ามการกระทำประหนึ่งฆราวาส และขณะเดียวกันท่านก็ให้คล้อยตามพระราชา (กฎหมาย) ถ้ากฎหมายมีห้ามเอาไว้ก็แปลว่าทำไม่ได้
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-07-2019 เมื่อ 02:00 |
สมาชิก 164 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#22
|
||||
|
||||
ถาม : ที่หลวงพ่อบอกกล่าวเตือนผมว่า "ยังไม่เบื่อที่จะถามใช่ไหม ? จำไว้ว่ายิ่งถามยิ่งฟุ้งซ่าน มีแต่โทษมากกว่าประโยชน์ ถ้ายังไม่เห็นโทษก็ถามมาได้เรื่อย ๆ แต่ถ้าเห็นโทษเมื่อไรก็บอกด้วย" ผมพิจารณาดูแล้วถ้าว่ากันตรง ๆ การที่ผมถามมากสามารถทำให้ผมฟุ้งซ่านได้ พอผมฟุ้งซ่านจิตใจจะไม่สงบ ผมที่จิตใจไม่สงบฌานสมาบัติที่เสื่อมก็เกิดไม่ได้ พอฌานสมาบัติเกิดไม่ได้ ญาณที่เป็นเครื่องรู้ ที่มีอำนาจในการหาเหตุหาผลอย่างไม่น่าเชื่อ ก็ไม่สามารถเกิดได้ พอญาณเกิดไม่ได้ ผมก็ไม่สามารถเอาความสามารถด้านนี้มาใช้ประโยชน์เพื่อช่วยตนเองได้และช่วยคนอื่นไม่ได้อีกด้วย สรุปแล้วกำลังใจผมยังอ่อนแออยู่มาก ๆ อยากถามความเห็นของหลวงพ่อ ว่าผมเข้าใจถูกหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : เขาเรียกว่าดีชั่วรู้หมด แต่อดไม่ได้ ออกแนวปทปรมะเลย..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-07-2019 เมื่อ 09:34 |
สมาชิก 158 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#23
|
||||
|
||||
ถาม : การฆ่าพ่อแม่หรืออนันตริยกรรม จำเป็นหรือไม่ครับที่จะต้องฆ่าด้วยกายอย่างเดียว หรือวาจากับใจ ก็สามารถทำได้ด้วย ?
ตอบ : ทำได้..เช่นเกลี้ยกล่อมว่า พ่อ...ตายแล้วสบาย รีบตายเถอะ ในบาลีเขาบอกไว้เลย มรณสังวัณณา แปลว่า สาธยายคุณประโยชน์ของความตาย แล้วอีกฝ่ายหนึ่งยอมตาย โดนอาบัติปาราชิกเท่ากัน
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-07-2019 เมื่อ 09:35 |
สมาชิก 162 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#24
|
||||
|
||||
ถาม : โยมมักเห็นนิมิตพระพุทธรูปในสมาธิบ่อย ๆ ค่ะ เป็นเพราะเหตุใดคะ และจากนี้จะพิจารณาต่ออย่างไรคะ ?
ตอบ : เป็นเพราะกำลังใจเกาะดีมากกว่าชั่ว วิธีที่ดีที่สุดก็คือ จับภาพพระเป็นอนุสติไปเลย
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-07-2019 เมื่อ 09:35 |
สมาชิก 164 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#25
|
||||
|
||||
ถาม : ครั้งที่แล้วหลวงพ่อพูดถึงการตายของคนใกล้ตัวสองคน หลวงพ่อได้กล่าวถึงจิตสุดท้าย โยมสงสัยว่าถ้าอย่างคนที่ตายด้วยวิธีการุณยฆาต จะมีโอกาสไปสู่ภพภูมิที่ดีมากกว่าไหมคะ เพราะในจิตสุดท้ายเขาไม่มีทุกขเวทนากัน ?
ตอบ : ต้องดูว่าจิตสุดท้ายของเขาเกาะอะไร ไม่ใช่ดูว่ามีทุกข์หรือไม่มีทุกข์ สภาพจิตเกาะอะไรก็ไปอย่างนั้น ถาม : อย่างในเนเธอร์แลนด์จะอนุญาตให้ทำการุณยฆาตได้ ถ้าหมอลงความเห็นว่ากำลังจะตายภายในระยะเวลาอันใกล้มาก ๆ แทนที่จะปล่อยให้ทรมาน หมอก็จะฉีดยาให้ค่อย ๆ หลับไป ถ้าเราขอตายแบบนี้ เป็นการละเมิดกฎแห่งกรรมไหมคะ ? ตอบ : ถือว่าเป็นการฆ่าตัวตายอย่างหนึ่ง ก็คงต้องทำต่อเนื่องไปอย่างน้อย ๕๐๐ ชาติ..! จำเอาไว้ว่าในเรื่องของวิทยาศาสตร์หรือการแพทย์ เอามาเกี่ยวข้องกับศีลธรรมไม่ได้ เพราะว่าเป็นคนละส่วนกัน Euthanasia หรือ Mercy Killing เป็นค่านิยมของต่างประเทศเขา ส่วนใหญ่ที่ทำอย่างนั้นเกี่ยวเนื่องกับเศรษฐกิจ ก็คือถ้าอยู่ต่อไปจะสิ้นเปลืองมาก เพราะว่าลูกหลานต้องจ่ายเงิน แบบบ้านเราที่เข้าโรงพยาบาลเอกชนคืนหนึ่งตั้งสามสี่หมื่นบาท ในเมื่อเกี่ยวเนื่องกับเศรษฐกิจ วิธีคิดแบบฝรั่งก็คือ ทำกำไรให้มากที่สุด ขาดทุนให้น้อยที่สุด ก็ปล่อยให้ตายไปดีกว่า จะได้หมดเปลืองน้อย ในเมื่อเป็นส่วนของทางโลกที่โยงผลได้ผลเสียของทางเศรษฐกิจ ก็เลยเอามาปนกับเรื่องของศีลธรรมไม่ได้ เพราะว่าเป็นคนละประเด็นกัน ถาม : ถ้าเราขอตายแบบนี้ จะยังมีโอกาสเข้าพระนิพพานได้ไหมคะ ถ้ายังระลึกถึงพระนิพพานได้ ? ตอบ : ถ้าความสามารถเท่ากับพระโคธิกะก็ได้ แต่คาดว่าคงไม่มีอย่างพระโคธิกะท่านอีกแล้ว
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-07-2019 เมื่อ 09:38 |
สมาชิก 157 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#26
|
||||
|
||||
ถาม : ศีลข้อ ๗ เว้นจากการฟ้อนรำ ขับร้อง บรรเลงดนตรี ดูการละเล่นอันเป็นข้าศึกต่อพรหมจรรย์ ถ้าเราเล่นเฟซบุ๊ก ดูยูทูบ ดูละครทีวี จะผิดศีลข้อนี้ไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าไม่ได้ทำไปเพื่อการปฏิบัติธรรม ก็ผิดเต็ม ๆ
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-07-2019 เมื่อ 09:38 |
สมาชิก 162 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#27
|
||||
|
||||
ถาม : มีคนฝากทำบุญบวชพระมากับผม แต่ทางเจ้าภาพงานบวชบอกไม่รับ เพราะมีเงินเพียงพอแล้ว ผมสามารถนำเงินที่เขาฝากทำบุญบวชพระมานี้ ไปทำบุญสังฆทาน วิหารทาน หรือธรรมทาน จะได้หรือไม่ครับ ?
ตอบ : ระวังจะโดนโทษเท่ากับย้ายเจดีย์ ไปหาที่อื่นซึ่งเขามีบวชพระ แล้วก็ทำให้เขาไปสิ ถาม : เพื่อนของผมจะบวชเดือนหน้านี้ครับ ผมตั้งใจว่าจะเก็บเงินเพื่อนำไปทำบุญงานบวชของเพื่อนคนนี้ สัปดาห์ละ ๑ ครั้ง ผมอยากทราบว่า ถ้าผมทำบุญไปทั้งหมด ๓ ครั้ง ผมจะได้อานิสงส์การบวชพระแค่ครั้งเดียว หรือว่าได้ทุกครั้งที่ทำบุญครับ ? ตอบ : ต้องดูว่าเราบวชพระกี่รูป ไม่ใช่ดูว่าบวชกี่ครั้ง เป็นเจ้าภาพบวชพระ ๑ รูป อานิสงส์จะได้เท่าไร ? ถ้าเขาบวช ๒ รูป ก็เพิ่มเข้าไปเท่าตัว ถ้าบวช ๓ รูปก็คูณ ๓ เข้าไป ไม่ใช่ทำเป็นจำนวนครั้ง ต่อให้คุณทำสัก ๑๐๐ ครั้ง ถ้าบวชรูปเดียวกันก็ได้บุญเท่าเดิม
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-07-2019 เมื่อ 09:39 |
สมาชิก 162 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#28
|
||||
|
||||
ถาม : ปกติผมเป็นคนที่ไม่ห้อยพระในตอนนอน หลังจากตื่นนอนแล้วก็ไปอาบน้ำ ในระหว่างที่กำลังอาบน้ำอยู่ ผมสามารถที่จะอาราธนาวัตถุมงคลเตรียมไว้ก่อนได้หรือไม่ครับ พอหลังจากอาบน้ำเสร็จ ตอนจะออกจากบ้านก็นำวัตถุมงคลมาห้อยคอโดยที่ไม่ต้องอาราธนาใหม่อีกรอบ ไม่ทราบว่าผมทำแบบนี้ได้หรือไม่ครับ ?
ตอบ : ถ้าใจสามารถเกาะพระได้ตลอดก็ไม่ต้องอาราธนาใหม่ ถ้าทำไม่ได้ก็จงอาราธนาเสียดี ๆ..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-07-2019 เมื่อ 09:39 |
สมาชิก 160 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#29
|
||||
|
||||
ถาม : เมื่อเดือนก่อนที่มีผู้ถามหลวงพ่อเรื่องการขายคอนโดที่พัทยา หลวงพ่อบอกว่าให้ไปบนหลวงพ่อสุ่น วัดแหลมสิงห์ อยากทราบว่า หากลูกต้องการขายตึกแถวที่อุดรธานี ควรจะไปกราบขอพรหรือบนที่ไหนดีคะ ?
ตอบ : หลวงพ่อสุ่นอยู่อุดรธานีไหม ? ถ้าอยู่ก็บนได้เลย ทางภาคอีสานนี่ใครจะบนอะไรก็วิ่งไปหาพ่อปู่ศรีสุทโธกันหมด เพราะฉะนั้น..อยู่อุดรธานีถือว่าเป็นพื้นที่อีสานก็ไปบนทางนั้นแล้วกัน รู้จักท่านไหม ?
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-07-2019 เมื่อ 09:40 |
สมาชิก 160 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#30
|
||||
|
||||
ถาม : รถที่ได้รับการเสกและมีวัตถุมงคลในรถ ถ้าเราขึ้นไปนั่งหรือยืนบนหลังคารถจะเป็นการสมควรหรือไม่คะ ?
ตอบ : ถ้ารู้ว่ามีวัตถุมงคลเป็นรูปพระพุทธ เป็นรูปพระสงฆ์อยู่ ถ้ายังตั้งใจขึ้นไป แปลว่าโดนโทษปรามาสพระรัตนตรัย
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-07-2019 เมื่อ 09:40 |
สมาชิก 162 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#31
|
||||
|
||||
ถาม : ที่หอฉันวัดท่าขนุน เวลาที่พระฉันอาหารอยู่ชั้นล่าง การขึ้นไปบนชั้นสองจะเป็นการสมควรหรือไม่คะ ?
ตอบ : ถ้าคิดมากก็ไม่สมควร ถ้าคิดว่าเป็นคนละส่วนกัน ก็ไม่ต้องไปยุ่งกับส่วนนั้น อันนี้เขาเรียกว่าปรุงแต่งหาเรื่องลงนรก..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-07-2019 เมื่อ 09:41 |
สมาชิก 165 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#32
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "หลายอย่างที่เราได้ยิน ได้ฟัง ศึกษามา บางทีเป็นคนละส่วน คนละประเด็นกัน แต่เราก็จับมาชนกัน อย่างเช่นประเด็นเรื่องการทำแท้ง เรื่องการุณยฆาต เรื่องพวกนี้ถ้าเอาศีลธรรมเข้าไปจับเมื่อไรก็ผิดเมื่อนั้น แต่เราจะเห็นว่าในหลายประเทศมีกฎหมายอนุญาตให้ทำได้ กฎหมายอนุญาต..ไม่ได้แปลว่าไม่ผิดศีลธรรม
เรื่องของการหลงประเด็นเหล่านี้ แม้แต่ในคณะสงฆ์ก็เป็น เช่น การต้องอาบัติหรือทำให้ศีลขาดของพระ ทันทีที่ทำกรรมนั้นสำเร็จ ศีลก็ขาดไปแล้ว แต่ปัจจุบันนี้ส่วนใหญ่แล้วรอให้มีการฟ้องศาล รอให้ศาลตัดสินก่อน..ซึ่งไม่ใช่ เพราะว่าในเรื่องของทางธรรมนั้น โทษของคุณรับไปเต็ม ๆ ทันทีที่ทำกรรมนั้นสำเร็จ ไม่ใช่ไปรับเอาตอนที่ศาลตัดสิน ปัจจุบันมีมากกว่านั้นอีก อย่างเช่นโดนข้อหาฉ้อโกงเงิน ถ้าจำนวนเงินเกิน ๑ บาท ซึ่งลักษณะนั้นก็คือต้องอาบัติปาราชิก ขาดความเป็นพระไปในทันทีที่ทำ แต่สมัยนี้มีการคืนเงินและหมดโทษด้วย ขอบอกว่าหมดโทษแค่การลงโทษทางโลกที่กฎหมายเขาว่าไว้เท่านั้น ส่วนในเรื่องของทางธรรมคุณยังคงรับไปเต็ม ๆ อยู่ดี"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-07-2019 เมื่อ 03:02 |
สมาชิก 153 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#33
|
||||
|
||||
"การหลงประเด็นในปัจจุบันนี้มีมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะบรรดาสื่อต่าง ๆ ถึงเวลาก็พิพากษาตัดสินด้วยตัวเองเสร็จสรรพเรียบร้อย พอเหตุการณ์ไม่ได้เป็นไปตามที่ตนเองคิดว่าคาดว่าเอาไว้ ก็ไม่มีการแก้ข่าวให้ ลักษณะนี้เป็นการสร้างกรรมหนักให้กับตนเอง ถ้าเกิดชาติใหม่เมื่อไร เรื่องที่จะโดนคนอื่นเขาใส่ร้ายหรือใส่ไคล้นินทา โดนสารพัดข้อหาโดยที่ตนเองไม่ได้ทำ ก็ถือเป็นเรื่องปกติสำหรับคนประเภทนี้"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-07-2019 เมื่อ 03:03 |
สมาชิก 153 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#34
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "กำลังใจของเราส่วนใหญ่แล้วมีการยึดมั่นถือมั่นที่แก้ไม่ตก ก็คือมักจะคิดว่าสิ่งที่ตัวเองคิด สิ่งที่ตัวเองพูด สิ่งที่ตัวเองทำนั้นดีแล้ว ถูกแล้ว อาตมาอยากจะบอกว่าดีแค่นั้น ถูกแค่นั้น ถ้ากำลังใจของเราละเอียดขึ้น มีการปฏิบัติที่สูงขึ้น ก็จะมองเห็นว่า ที่ผ่านมานั้นยังไม่ถูก แต่ก็จะไปยึดมั่นถือมั่นว่า ตอนนี้ดีแล้ว ถูกแล้วอีก
ท้ายสุดจะเป็นการตู่ว่าสิ่งที่พระพุทธเจ้ารู้มีแค่นี้ ซึ่งอันตรายมาก เพราะว่าจะกลายเป็นโทษปรามาสพระรัตนตรัยโดยไม่รู้ตัว เหมือนกับหิ่งห้อยในกะลาครอบ แล้วไปเดาว่าดวงอาทิตย์สว่างเท่ากับความสว่างของตนเองในกะลาเท่านั้น นักปฏิบัติธรรมจะต้องพยายามระมัดระวังตรวจสอบอยู่เสมอ อยู่ในลักษณะของ อัตตนา โจทยัตตานัง คือกล่าวโทษโจทย์ตนเองอยู่เสมอ โดยเอากำลังใจของพระอริยเจ้ามาประกอบ ก็คือ ตราบใดที่ยังมีสังขารร่างกายนี้อยู่ ตราบนั้นยังไม่ดีจริง เรื่องของกิเลสเป็นเรื่องยาก เพราะว่ากิเลสฝังรากลึกอยู่ในใจของเรามา ชาติแล้วชาติเล่าจนนับไม่ถ้วน มายาของกิเลสก็มาก หลอกเราอยู่ทุกเวลา ทุกนาที ดึงให้เราสนใจสิ่งอื่นที่นอกเหนือไปจากศีล สมาธิ ปัญญาที่เราปฏิบัติอยู่ เมื่อเป็นเช่นนั้นการปฏิบัติธรรมจึงต้องใช้ความระมัดระวัง และใช้ปัญญาให้มากเข้าไว้ ไม่อย่างนั้นก็อาจจะเผลอเดินตามกิเลสไปโดยไม่รู้ตัว"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-07-2019 เมื่อ 03:05 |
สมาชิก 151 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#35
|
||||
|
||||
"โดยเฉพาะหลายท่านที่ได้ทิพจักขุญาณ อาตมายืนยันว่ายิ่งรู้เห็นชัดเจนเท่าไร โอกาสโดนหลอกก็ยิ่งมากเท่านั้น ไม่รู้ไม่เห็นเลยจะปลอดภัยกว่า แต่ว่าส่วนใหญ่ก็คัน อยากจะรู้ อยากจะเห็น อยากจะเป็น ถ้าอยากแบบนั้นก็ทำไปเถอะ พอเป็นแล้วจะรู้ว่าสาหัสแค่ไหน เพราะว่าส่วนใหญ่แล้วท่านทั้งหลายเหล่านั้น ก็มีความยึดมั่นอยู่ว่า กูเห็น กูก็เลยเชื่อ ผู้รู้เตือนก็ไม่ฟัง เพราะว่าเห็นมาด้วยตัวเอง
อาตมาเคยเปรียบเทียบให้ฟังหลายครั้งว่า เราเห็นคนเขาไล่ยิงไล่ฟันกันมา เราก็ลากมีดลากปืนไปช่วย จะโดนเขากระทืบตาย เพราะว่าเขากำลังถ่าย Fast 9 กันอยู่ สิ่งที่เราเห็นจริงไหม ? จริง...แต่เรื่องที่เราเห็นนั้นจริงไหม ? ไม่จริง...เพราะว่าเขาแสดงหนังกันอยู่ ฉะนั้น...ยิ่งรู้เห็นชัดเจนเท่าไร โอกาสโดนหลอกก็ยิ่งมาก เพราะว่าเราไปยึดมั่นถือมั่นว่า กูเห็น กูจึงเชื่อ วิธีที่ปลอดภัยที่สุดคือรับรู้ทุกอย่างด้วยความเคารพ ไม่ต้องให้ความสนใจมาก ถ้าเป็นไปตามนั้นก็ขอบคุณที่มาแสดงให้รู้ล่วงหน้า ถ้าไม่เป็นไปตามนั้น เรื่องทั้งหลายเหล่านี้โอกาสผิดมีมากกว่าถูกอยู่แล้ว เราไม่ต้องไปใส่ใจ เรื่องที่ ๑ ถูก ก็อย่าปักใจว่าเรื่องที่ ๒ จะถูกด้วย เรื่องที่ ๑ ที่ ๒ ถูก ก็อย่าปักใจว่าเรื่องที่ ๓ จะถูกด้วย ถ้าทำอย่างนี้ได้โอกาสโดนหลอกก็น้อยลงหน่อย แค่น้อยลงนะ..ไม่ใช่ไม่โดน ฉะนั้น...ในส่วนนี้ที่ปลอดภัยที่สุดก็คือ พิจารณาให้เห็นว่า ถ้าเกิดมาก็ต้องโดนแบบนี้ ขึ้นชื่อว่าการเกิดมาแบบนี้จะไม่มีสำหรับเราอีก ต้องบอกว่าพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ตัดความอยากในร่างกาย ตัดความอยากเกิดเสีย ก็ในเมื่อเขาเอามาหลอกเรา เราก็เบื่อ เบื่อแล้วก็เลิกคบไปเลย"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-07-2019 เมื่อ 03:07 |
สมาชิก 153 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#36
|
||||
|
||||
"แบบเดียวกับอาตมา มีอยู่ระยะหนึ่ง มีผีบ้าง มีเทวดามาบ้าง มาบอกว่าขุมทรัพย์อยู่ที่นั่นที่นี่ ให้ไปขุดเพื่อเอามาใช้ในงานของพระพุทธศาสนา พอไปสถานที่ก็ตรงกับที่เขาบอกทุกอย่าง แต่ขุดแล้วไม่ได้ เขาก็อ้างว่าทำผิดอย่างนั้น เวลาไม่ถูกอย่างนี้ ต้องมาใหม่ โดนไปสองครั้งอาตมาเลิกเลย บอกว่า "ถ้าคราวหน้าจะให้ ขนเอาไปขายแล้วโอนเงินเข้าบัญชีมาถึงจะรับ มึงไม่ต้องเสียเวลามาหลอกอีกแล้ว กูไม่ไป...!"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-07-2019 เมื่อ 03:08 |
สมาชิก 150 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#37
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านสั่งพระไว้ ว่าพยายามอ่านพระไตรปิฎกให้จบ ท่านบอกว่าท่านอ่านพระไตรปิฎกปีละ ๑ จบ อาตมาลองทำดู ๓๐ ปีได้แค่ ๗-๘ จบ ทั้ง ๆ ที่เป็นคนที่อ่านหนังสือเร็วมาก
เหตุที่เป็นเช่นนั้น เพราะว่าส่วนท้าย ๆ ที่เป็นพระอภิธรรม ๔๒,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ เป็นส่วนที่ทำความเข้าใจได้ยากมาก ถ้าอ่านแล้วไม่เข้าใจ อาตมาก็ไม่อยากอ่าน ก็เลยพยายามอ่านแบบทำความเข้าใจไปด้วย ก็เลยอ่านได้ช้ามาก จากที่หลวงพ่อท่านอ่านปีละจบ อาตมา ๓๐ กว่าปี อ่านได้แค่ ๗-๘ จบ ก็แปลว่าห่างจากที่ท่านต้องการเป็นอันมาก"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-07-2019 เมื่อ 03:09 |
สมาชิก 154 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#38
|
||||
|
||||
เครื่องเสียงมีปัญหา "หาสาเหตุด้วยว่าพังเพราะอะไร ไม่ใช่แค่รู้ว่าพัง ถ้าแค่รู้ว่าพัง งวดหน้าก็จะพังอีก ถ้าเป็นไปได้ก็ยกแผงไปให้เขาเช็คว่าจุดไหนเสีย ไดโอดตัวเดียวก็มีปัญหาแล้ว เพราะว่าเครื่องเสียงละเอียดอ่อน
ถ้าจะเอาดังกว่านี้เราก็เพิ่มเสียง ถ้าจะเอาเบาก็พูดเบาลง ถ้ามากกว่านี้แล้วกินกำลังเครื่องมากยังไม่พอ เสียงยังก้องสะท้อนอีก เมื่อวันก่อนพูดอยู่ในงานศพท่านมหาสันติ เจ้าของเครื่องเสียงก็เร่งเสียง เลยต้องด่าไป “มึงจะเร่งไปหาอะไร กูพูดเบาเอง” ของเขาพอดีอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าถ้ารู้สึกว่าดังไปอาตมาจะพูดเบาลง ถ้าหากว่าเบาไป พูดแล้วเหนื่อย จะให้เขาเร่งเสียงขึ้น แต่ไอ้นี่แสนรู้..รีบเร่งเองเลย"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-07-2019 เมื่อ 03:10 |
สมาชิก 154 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#39
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "เมื่อวันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๖๒ ไปร่วมงานปฐมนิเทศเจ้าสำนักปฏิบัติธรรมและตัวแทนจากสำนักปฏิบัติธรรม ซึ่งไปทบทวนการปฏิบัติธรรม ๑๕ วัน ที่อาคารปฏิบัติธรรมโพธิญาณมหาวิชชาลัย
พอให้โอวาทเสร็จ เจ้าคณะภาคท่านก็บอกให้นำเจริญพุทธมนต์ถวายสมเด็จพระสังฆราช มีแต่คนเกี่ยงกัน ท่านเจ้าคุณราชรัตนมุนีหรือท่านเจ้าคุณบุญเทียม เลขานุการหนฯ ท่านก็ไม่เอา โยนให้ท่านเจ้าคุณปัญญา ท่านเจ้าคุณปัญญา เลขานุการภาคฯ ก็โยนมาให้พระอาจารย์เล็ก อาตมาเข้าใจดีว่าทำไมท่านเกี่ยงกัน เวลาพระหรือโยมสวดมนต์มาก ๆ แล้วจะลากจนยืด คนนำสวดเหนื่อยตายเลย พอพระอาจารย์เล็กขึ้นไปปัญหานี้ไม่มี เพราะว่าจะสวดให้เร็วกว่าปกติครึ่งจังหวะ พอเขาเร่งตามก็จะพอดี แต่ก็เหนื่อย เพราะว่าต้องเสียงดังกว่าเขาและต้องคุมจังหวะเขาได้ เพียงแต่ว่าปัญหาสวดมนต์ยืดอืดเป็นเรือเกลือจะไม่มี แบบเดียวกับที่วัดท่าขนุน สั่งพระท่านไว้เลยว่า ถ้างานใหญ่ ๆ โยมเยอะ ๆ สวดให้เร็วกว่าปกติครึ่งจังหวะแล้วจะพอดี ไม่อย่างนั้นแล้วโดนถ่วงจะอืดเป็นเรือเกลือ แล้วก็ไปกันไม่ได้ พอพระท่านเหนื่อยมาก ๆ ท่านก็จะหยุด ก็ปล่อยโยมกันไป "พุท....โธ" เป็นทุกที่ ไปสังเกตได้ สำคัญที่หัว ถ้าหากว่าหัวเร่งขึ้นเสียงดังได้ พวกนั้นจะตามมาเอง แต่ถ้าหัวเร่งไม่ขึ้นนี่ตายเลย วันก่อนก็เลยโยนกันไปโยนกันมา ในที่สุดหน่วยกล้าตายอย่างอาตมาก็ต้องขึ้นไป"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-07-2019 เมื่อ 03:13 |
สมาชิก 146 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#40
|
||||
|
||||
"โดยเฉพาะบรรดาเจ้าสำนักปฏิบัติธรรมส่วนใหญ่แล้วอาวุโสมาก สังเกตกันว่าถ้าคุยเรื่องการปฏิบัติธรรมว่าสายไหนดีอย่างไร ? เหมาะอย่างไร ? จะเถียงกันแหลกทุกครั้ง ก็คือเอากิเลสไปชนกัน โดยที่ลืมไปว่าการปฏิบัติธรรมทุกสายมาจากพระพุทธเจ้าทั้งหมด เพียงแต่ว่าครูบาอาจารย์ของตนเองนั้นถนัดแบบไหนก็สอนแบบนั้น พอมีคนเชื่อถือมาก ๆ เข้าก็กลายเป็นสายหนึ่งขึ้นมา
อย่างปัจจุบันนี้ถ้าพูดถึงสายธรรมกายก็ยังแยกออกเป็น ๒ สายก็คือธรรมกายแบบวัดปากน้ำ หรือธรรมกายแบบวัดธรรมกาย ถ้าธรรมกายแบบวัดปากน้ำก็ยังมีวัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม เป็นต้นแบบอยู่ เพราะว่าหลวงป๋าท่านปฏิบัติจนกระทั่งทำได้จริง แล้วท่านเป็นพระ แต่ว่าในวัดปากน้ำ บรรดาท่านที่ทำแล้วอยู่ในระดับหัว ๆ เป็นแม่ชีทั้งหมด ก็เลยกลายเป็นวัดหลวงพ่อสดธรรมกายารามต้องออกหน้า เป็นสายธรรมกายวัดปากน้ำ ส่วนทางด้านธรรมกายสายวัดธรรมกายคลองหลวง ท่านไปไกลแล้ว มีสาขาทั่วโลกเลย"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-07-2019 เมื่อ 03:15 |
สมาชิก 155 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
คำสั่งเพิ่มเติม | |
|
|