|
เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#1
|
||||
|
||||
เก็บตกจากบ้านเติมบุญ ต้นเดือนกรกฎาคม ๒๕๖๒
ถาม : การอาราธนาตะกรุดมหาสะท้อน สามารถอธิษฐานขอให้ผลของมหาสะท้อนไม่บังเกิดกับคนบางคนได้หรือไม่ครับ ?
ตอบ : ไม่ได้..ถ้าต้องการแบบนั้นมีอยู่อย่างเดียวคืออย่าไปใช้
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-07-2019 เมื่อ 16:45 |
สมาชิก 188 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
||||
|
||||
ถาม : ถ้าจิตเกิดความอิจฉาริษยา จะโมทนาบุญคนอื่นได้ผลหรือไม่ ?
ตอบ : ถ้าไปริษยาจะเอากำลังใจที่ไหนไปโมทนา ? กำลังใจที่โมทนาบุญคนอื่นต้องประกอบไปด้วยมุทิตาจิตอย่างแรงกล้า ริษยากับมุทิตาเป็นเหรียญคนละด้านกัน จึงทำไม่ได้อยู่แล้ว
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-07-2019 เมื่อ 16:45 |
สมาชิก 187 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#3
|
||||
|
||||
ถาม : เรื่องอุปฆาตกรรม ถ้าช่วยชีวิตสัตว์อื่น ๆ เช่น ช้าง ไก่ งู ตัวเงินตัวทองที่เขากำลังฆ่า มีอานิสงส์เช่นเดียวกับการปล่อยปลา โค กระบือ หรือไม่ ?
ตอบ : ส่วนใหญ่พวกเราเข้าใจผิด คิดว่าการปล่อยชีวิตสัตว์เป็นการตัดอุปฆาตกรรม จะเรียกว่าเป็นการเข้าใจผิดก็ไม่ได้ เป็นการเข้าใจถูกแต่ผิด การปล่อยชีวิตสัตว์ที่เขาจะฆ่าจะตัดอุปฆาตกรรมได้ต่อเมื่อมีอุปฆาตกรรมนั้นเข้ามา ถ้าคนไม่มีอุปฆาตกรรมเข้ามาแล้วจะเกิดผลอะไร ? การปล่อยเขาให้มีชีวิตรอด ให้เขาได้รับความสุข ความสะดวก ความสบาย ต่อไปเราทำอะไรก็มีความสุข ความสะดวก ความสบายทั้งหมด ไม่ใช่ปล่อยแล้วไปแก้อุปฆาตกรรมอย่างเดียว
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-07-2019 เมื่อ 16:46 |
สมาชิก 182 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#4
|
||||
|
||||
ถาม : ปกติจะมีอาการตึงตามระหว่างคิ้วและบริเวณศีรษะอยู่แล้ว ต่อมานำธงมหาพิชัยสงครามมาเลี่ยมคล้องคอ ปรากฏอาการเหล่านี้มีกำลังแรงขึ้น เป็นเพราะธงมหาพิชัยสงครามมาช่วยเสริมหรือไม่ ?
ตอบ : ลองเอาออกดู ถ้าเอาออกแล้วเบาลง ใส่เข้าแล้วเพิ่มขึ้นก็แปลว่าใช่
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-07-2019 เมื่อ 16:46 |
สมาชิก 181 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#5
|
||||
|
||||
ถาม : การทำบุญ เช่น โอนเงินเป็นค่ารักษาพยาบาลช่วยเหลือสัตว์ที่บาดเจ็บ อาทิ หมา แมว นก ตัวเงินตัวทอง จะเป็นอานิสงส์ผลบุญแบบใด ?
ตอบ : ตัวเราช่วยรักษาอาการเจ็บไข้ได้ป่วยของเขา ถึงเวลาก็ส่งผลให้ตัวเรามีความเจ็บไข้ได้ป่วยน้อยหรือว่าไม่มีเลย เพียงแต่ว่าเราทำบุญกับสัตว์เดรัจฉานซึ่งผลบุญจะมีน้อยกว่าทำกับคน ถึงทำบุญกับคนในลักษณะของการรักษาพยาบาล ผลบุญก็ยังน้อยกว่ารักษาพยาบาลพระภิกษุสามเณร ถ้าจะรอผลการตอบรับหรืออานิสงส์ที่เราทำ การทำกับสัตว์เดรัจฉานก็ได้น้อยกว่าและมาช้าหน่อย
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-07-2019 เมื่อ 16:47 |
สมาชิก 179 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#6
|
||||
|
||||
ถาม : ถ้าเรามองเห็นพลังและกำลังกิเลสกับนิวรณ์ของเราเอง อย่างที่ไม่เคยได้เห็นมาก่อนเลยในชีวิต เราควรจะทำอย่างไรต่อไป ?
ตอบ : ถ้ารู้ว่าน่ากลัว..ก็ละและก็เลิกทำสิ่งทั้งหลายเหล่านั้น ถ้ายังไม่รู้ก็จงทำต่อไป..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-07-2019 เมื่อ 16:48 |
สมาชิก 173 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#7
|
||||
|
||||
ถาม : ผู้ที่เสียชีวิตแล้วไปเกิดเป็น ๒ อย่าง เช่น เป็นเปรตในเวลากลางวัน แล้วมาเป็นเทวดาในเวลากลางคืน ล่าสุดที่ได้ทราบคือ เป็นอสุรกายในเวลากลางวัน แล้วเป็นเทวดาในเวลากลางคืน เขาเป็นผู้ที่มีทั้งบุญและบาปเท่ากันหรือไม่ ?
ตอบ : ไม่จำเป็นต้องเท่ากัน ในส่วนที่เขากระทำนั้นมักจะเป็นบุญผสมบาป อย่างเช่นตั้งใจเลี้ยงสัตว์ให้ได้รับความสะดวกสบาย แต่กลับไปกักขังสัตว์นั้น
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-07-2019 เมื่อ 16:48 |
สมาชิก 170 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#8
|
||||
|
||||
ถาม : สมมติว่ามีชายคนหนึ่งเดินอยู่ริมหน้าผา มองลงไปเห็นเสือกำลังจะกินลูก ตัวเองมีเนื้อปริมาณพอให้เสือกินอิ่ม แต่ปรากฏว่าชายคนนั้นคิดว่า ได้โอกาสบำเพ็ญบารมีจึงสละชีวิตตนเองกระโดดลงไปให้เสือกิน ชายคนนั้นจะได้ปรมัตถบารมีหรือไม่ ?
ตอบ : ไม่แน่...ส่วนใหญ่พวกสละชีวิต ตัดแขนตัดขา ตัดศีรษะ ควักหัวใจ เชือดเนื้อตัวเองถวายเป็นทาน มักจะเป็นกำลังใจระดับอุปบารมีเท่านั้น ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ? เพราะว่าปรมัตถบารมีมีปัญญามากกว่า รู้ว่ามีวิธีทำที่ดีกว่านั้น ถาม : และถ้าสามารถสละเนื้อนั้นได้แล้วไม่ทำ จะเป็นเรื่องปัญญาบารมีพร่องหรือไม่อย่างไรครับ ? ตอบ : เป็นทานบารมีพร่อง ไม่ใช่ปัญญาบารมีพร่อง
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-07-2019 เมื่อ 16:49 |
สมาชิก 174 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#9
|
||||
|
||||
ถาม : หากภาวนาพระคาถาเงินล้านไปตามความเคยชิน มีสมาธิบ้างไม่มีบ้าง จนถึงส่วน "พุทธะมะอะอุ นะโมพุทธายะ" แต่ไม่แน่ใจว่า ส่วน "มิเตพาหุหะติ" ก่อนหน้าได้ภาวนาหรือข้ามมา ควรย้อนกลับไปภาวนาให้แน่ใจหรือต่อไปเลยครับ ?
ตอบ : ถ้าไม่ได้เน้นคุณภาพก็ว่าต่อไปเลย แต่ถ้าเน้นคุณภาพก็ว่าใหม่ เอาให้ชัดเจนทุกคำ
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-07-2019 เมื่อ 16:49 |
สมาชิก 176 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#10
|
||||
|
||||
ถาม : มีคนดูแลพ่อแม่ตัวเองแล้วไม่ยอมใส่สายให้อาหารตามที่หมอแนะนำ เพราะกลัวพ่อแม่ตัวเองเจ็บ พี่น้องซึ่งไม่ได้ดำเนินการดูแลพ่อแม่โดยตรงพยายามหว่านล้อมให้ทำ คนที่ดูแลนั้นก็เถียงไปเรื่อย ๆ ไม่ยอมทำตาม พี่น้องระอาใจเลยบอกว่าจะทำอะไรก็ทำ หากพ่อแม่ตายไป พี่น้องที่พูดว่าจะทำอะไรก็ทำ จะได้รับโทษอนันตริยกรรมไปด้วยหรือไม่ครับ ?
ตอบ : อนันตริยกรรมตรงไหน ? จะทำอะไรก็ทำแปลว่าอะไร ? แปลว่าให้ทำสิ่งดี ๆ กับพ่อแม่ก็ได้ อย่าไปตีความผิดสิ
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-07-2019 เมื่อ 16:50 |
สมาชิก 172 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#11
|
||||
|
||||
ถาม : เรื่องที่หลวงพ่อเตือนเรื่องน้ำแล้ง แล้งเฉพาะกรุงเทพฯ หรือทั้งประเทศครับ ?
ตอบ : รอดูไป
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-07-2019 เมื่อ 16:50 |
สมาชิก 173 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#12
|
||||
|
||||
ถาม : กรรมฐานกองใด ประเภทใด ที่ฝึกแล้วสามารถแยกกายให้เป็นภาพลวงตาได้จาก ๑ เป็น ๒ จาก ๒ เป็น ๓ ไปได้เรื่อย ๆ ครับ ?
ตอบ : ส่วนใหญ่จะแยกเป็นทวีคูณ ไม่ใช่จาก ๑ เป็น ๒ เป็น ๓ ให้ฝึกมโนมยิทธิเต็มกำลัง ถ้ามีความสามารถจริง สามารถแยกกายในออกมาได้ให้เห็นเป็นหลาย ๆ ร่างพร้อม ๆ กัน หรือไม่ก็ใช้ในส่วนของภูตกสิณทั้ง ๔ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ ฝึกซ้อมให้คล่อง จะ สามารถอธิษฐานเป็นหมื่นเป็นแสนร่างพร้อม ๆ กันก็ได้
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-07-2019 เมื่อ 16:50 |
สมาชิก 168 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#13
|
||||
|
||||
ถาม : สมัยที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสรู้ ท่านได้เสวยวิมุตติสุข ๗ สัปดาห์ และใน google อธิบายว่าวิมุตติสุขคือความสุขที่เกิดจากการหลุดพ้น ผมอยากทราบว่า วิมุตติสุขจริง ๆ คือนิโรธสมาบัติหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : คนละเรื่องกัน วิมุตติสุขเป็นความสุขที่ตนเองพ้นจากกิเลสทั้งปวง ส่วนนิโรธสมาบัตินั้นเป็นการใช้กำลังฌานทำให้สภาพจิตของตนเองเป็นกลาง ไม่ปรุงแต่งทั้งดีและชั่ว ถาม : การที่ได้มโนมยิทธิและถอดจิตไปพระนิพพาน จัดว่าเป็นวิมุตติสุขหรือเปล่าครับ ? ตอบ : ถ้าไม่หมดกิเลสไม่มีทางเป็นวิมุตติสุขได้
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-07-2019 เมื่อ 16:51 |
สมาชิก 168 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#14
|
||||
|
||||
ถาม : ผมอ่านมาว่า พระโพธิสัตว์บางท่านได้ถวายมหาทานด้วยการเผาตัวเอง หรือตัดหัวตนเองเพื่อเป็นพุทธบูชา อานิสงส์นี้ทำให้พอตรัสรู้แล้วจะเป็นพระพุทธเจ้าอายุยืนเป็นหมื่น ๆ ปี แต่พระพุทธเจ้าของเราสมัยที่เป็นพระโพธิสัตว์ ท่านได้สละชีวิตตนเองให้เสือกิน เพราะกลัวว่าเสือจะกินลูกเสือ คำถามคืออานิสงส์ที่ถวายชีวิตตนเองให้กับพระพุทธเจ้ากับเสือ ไม่เหมือนกันใช่ไหมครับ ถึงแม้ว่าตนเองจะเสียชีวิต ?
ตอบ : เสือเป็นสัตว์เดรัจฉาน ส่วนพระพุทธเจ้าเป็นสุดยอดของพระอริยเจ้า ถ้าเทียบอานิสงส์ก็คงจะห่างกันชนิดมองไม่เห็น แต่ความจริงแล้วไม่ใช่ เพราะว่าพระพุทธเจ้าของเราจะมีความต่างกันนั้น ต่างกันด้วยขนาดรูปร่าง ต่างกันด้วยฉัพพรรณรังสี ต่างกันด้วยพาหนะที่ออกมหาภิเนษกรมณ์ ต่างกันด้วยต้นไม้ที่ตรัสรู้ เป็นต้น สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ไปศึกษาเอาในพุทธวงศ์ ขุททกนิกาย พระสุตตันตปิฎก
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 02-07-2019 เมื่อ 21:20 |
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#15
|
||||
|
||||
ถาม : การที่เราทำผิดกฎหมายในบางประเทศ แต่ไม่ได้ผิดศีล ถือว่าเป็นความชั่วเป็นบาปไหมครับ ? เช่น การปลูกกัญชาในไทยถือว่าผิด แต่บางประเทศไม่ผิด ?
ตอบ : ถ้าตั้งใจฝืนแปลว่าทำชั่วทั้งนั้น ดังนั้น..ถึงที่อื่นเขาไม่ห้าม แต่ในบ้านเราห้าม ถ้าทำเมื่อไรก็ผิด ก็ชั่วทั้งนั้น แปลว่าถ้าตั้งใจฝืนก็เป็นบาป
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-07-2019 เมื่อ 01:56 |
สมาชิก 157 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#16
|
||||
|
||||
ถาม : การที่บ้านเมืองเราได้นักการเมืองมาโดยที่ไม่ยุติธรรม หรือเรียกง่าย ๆ ว่าด้วยวิธีการโกง อยากทราบว่าเป็นเพราะบาปกรรมของประเทศไทยในอดีตที่ไปตีเมืองอื่น ๆ ทำให้ประเทศอื่นเสียหาย หรือเป็นแค่เพราะเขาพวกนี้มีอำนาจมากกว่าพวกเราครับ ?
ตอบ : รู้จัก "จ่านิว" ไหม ? ถ้ารู้จัก "จ่านิว" ก็เก็บคำถามนี้กลับไปเลย
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-07-2019 เมื่อ 01:57 |
สมาชิก 160 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#17
|
||||
|
||||
ถาม : จุดประสงค์ของการบวชคือการที่จะเข้าถึงพระนิพพาน แต่ผมอยากทราบว่า ถ้าบวชมาเพื่ออยากให้คนกราบไหว้ และเรียนเพื่อที่จะได้เปรียญสูง ๆ เพื่อจะได้รับความสรรเสริญ แต่ก็ไม่ได้ผิดศีล แต่ผิดด้านอริยมรรค อยากทราบว่าจะลงนรกสถานเดียวไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าศีลสมบูรณ์ก็ไม่แน่ว่าจะต้องไปนรก เพียงแต่ว่าตอนตายถ้ากำลังใจไปเกาะในสิ่งที่เศร้าหมอง ก็อาจจะลำบากหน่อย
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-07-2019 เมื่อ 01:57 |
สมาชิก 160 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#18
|
||||
|
||||
ถาม : ผมอยากทราบว่าการที่เรามีความเห็นว่า ถ้าเราเป็นพระพุทธเจ้า เราก็จะมีพระญาณต่าง ๆ ที่สามารถนำพาดวงจิตไปแดนพระนิพพานได้ เพื่อเจอความสุขที่แท้จริง เราก็เลยอยากเป็นพระพุทธเจ้า และอีกกรณีหนึ่งถ้าอยากเป็นพระพุทธเจ้าเพราะคิดว่าเท่ดี พรหม เทวดา บูชาสรรเสริญเรา อยากทราบว่าความตั้งใจทั้ง ๒ นี้สามารถทำให้บรรลุเป็นพระพุทธเจ้าได้เหมือนกันเปล่าครับ ?
ตอบ : ความตั้งใจไม่ได้ทำให้บรรลุเป็นพระพุทธเจ้า แต่ความเพียรพยายามในการสร้างบารมีด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ ทำให้บรรลุเป็นพระพุทธเจ้า เพราะฉะนั้น..ถึงเราจะตั้งใจอย่างไร ถ้ามีความเพียรอย่างแท้จริงก็บรรลุได้ทั้งนั้น
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-07-2019 เมื่อ 01:58 |
สมาชิก 157 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#19
|
||||
|
||||
ถาม : ผมเดิน ๆ อยู่แล้วเห็นรูป ถ้าผมหยุดที่ตาเห็นรูป ไม่ได้ไปคิดว่าคนที่เดินมาเป็นใคร ราคะจะไม่เกิดใช่ไหมครับ ?
ตอบ : แค่เห็นเป็นผู้หญิงกับผู้ชายก็แย่แล้ว แสดงว่าสภาพจิตปรุงแต่งไปแล้ว ราคะพร้อมที่จะเกิดแล้ว
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 02-07-2019 เมื่อ 07:50 |
สมาชิก 162 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#20
|
||||
|
||||
ถาม : ถ้าคนที่ไม่ได้เป็นพระอรหันต์แต่อยากจะทรงสังขารุเปกขาญาณต้องใช้ฌานสมาบัติ หรือสมาธิมาช่วยหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : จะเป็นระดับไหนก็ใช้สมาธิทั้งนั้น แต่ยิ่งระดับสูง ด้วยความที่สติปัญญาของท่านแหลมคมว่องไวมาก มีความชำนาญในการตัดละกิเลสหรือป้องกันไม่ให้กิเลสเกิดขึ้นมากกว่า มีความคล่องตัวมากกว่า บางทีการกระทำของท่านก็เหมือนกับไม่ได้ตั้งท่าอะไรเลย หรือบางท่านใช้สมาธิเข้าช่วยโดยไม่รู้ตัว สิ่งทั้งหลายเหล่านี้จะว่าไปแล้วก็คือ ศีลเป็นพื้นฐานของสมาธิ สมาธิเป็นพื้นฐานของปัญญา ปัญญาไปคุมศีลและสมาธิอีกทีหนึ่งทั้งหมด ผูกพันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ไม่ว่าเราจะไปในแง่ไหนมุมไหนก็มีส่วนของสมาธิรวมอยู่ด้วยทั้งนั้น
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-07-2019 เมื่อ 01:59 |
สมาชิก 158 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
คำสั่งเพิ่มเติม | |
|
|