|
เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#21
|
||||
|
||||
ถาม : ในการที่เราโมทนาเงินหรือธนบัตรในการทำบุญ แล้วนำเงินหรือธนบัตรนั้นไปฝากให้เขาโอนให้ โดยที่คนโอนจะได้ธนบัตรไป แล้วเขานำเงินในบัญชีโอนทำบุญให้เรา อยากทราบว่าอานิสงส์ของบุญเราจะได้เต็มหรือไม่ครับ ?
ตอบ : น่าจะแหว่งไปนิดถ้าธนบัตรขาด..! ก็ได้เท่าเดิมนั่นแหละ เพียงแต่สะดวกขึ้นเสียด้วย ไม่ต้องไปเองให้เหนื่อย แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-03-2019 เมื่อ 02:11 |
สมาชิก 177 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นายกระรอก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#22
|
||||
|
||||
ถาม : หากภาวนาคาถาเงินล้านแบบช้า ๆ พร้อมกับลมหายใจไปด้วย เป็นเวลา ๑ ชั่วโมง ซึ่งอาจจะไม่ครบ ๑๐๘ จบ การภาวนาแบบนี้จะเท่ากับภาวนาปกติครบ ๑๐๘ จบหรือไม่ครับ ?
ตอบ : จะภาวนาแบบไหนก็ตามสำคัญตรงสมาธิ ถ้าสมาธิทรงตัวมากเท่าไร ผลของคาถาก็มีมากเท่านั้น แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-03-2019 เมื่อ 02:11 |
สมาชิก 177 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นายกระรอก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#23
|
||||
|
||||
ถาม : ยันต์พุทธบารมีที่พระอาจารย์ได้ถอดมาจากธงมหาพิชัยสงครามนั้นมีอานุภาพอย่างไรบ้างครับ ?
ตอบ : พุทโธ อัปปมาโณ อธิบายไม่หมดหรอก เอาเป็นว่าถ้ามั่นอกมั่นใจ เขามีนิวเคลียร์ตรงไหนก็เดินเข้าไปตรงนั้นแหละ ถ้าตายทางวัดท่าขนุนเผาให้ฟรี..! ถาม : มีวิธีอาราธนาอย่างไรครับ ? ตอบ : ไปดูในเก็บตกฯ แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-03-2019 เมื่อ 02:11 |
สมาชิก 182 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นายกระรอก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#24
|
||||
|
||||
ถาม : ผมได้ร่วมทำบุญซื้อที่ดินถวายวัดแห่งหนึ่งหลายครั้ง และทางวัดได้ซื้อที่ดินเรียบร้อยแล้ว แต่ได้ทราบมาว่าโฉนดเป็นชื่อของโยมไม่ใช่ชื่อวัด ผมเห็นว่าการกระทำดังกล่าวไม่น่าจะถูกต้อง ผมเข้าใจถูกต้องไหมครับ ?
ตอบ : โฉนดเป็นชื่อนายไชยบูลย์ สุทธิผลหรือเปล่า เห็นสงสัยกันจัง ? เรื่องของการทำทาน ก่อนจะทำหรือนึกว่าจะทำมีความปีติ ก็คือชุ่มชื่นอิ่มเอิบใจ ในระหว่างที่ทำมีความปีติ คือชุ่มชื่นอิ่มเอิบใจ เมื่อทำไปแล้วนึกถึงเมื่อไรก็เกิดปีติ คือความชุ่มชื่นอิ่มเอิบใจ ถ้าอย่างนี้ผลของทานเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ เรากำลังหาเรื่องให้ผลบุญของตัวเองลดน้อยลง แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-03-2019 เมื่อ 02:12 |
สมาชิก 176 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นายกระรอก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#25
|
||||
|
||||
ถาม : ผมนั่งสมาธิทุกเช้าโดยเปิดเสียงหลวงพ่อวัดท่าซุงและรู้ลมหายใจเข้าออกพร้อมกับภาวนาพุทโธ และหูก็ฟังท่านไปด้วย ผมทำอย่างนี้ถูกไหมครับ ?
ตอบ : ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าถูกหรือเปล่า ? เพราะว่าคุณทำไม่ใช่อาตมาทำ แต่ว่าส่วนใหญ่แล้วการใช้เสียงธรรมเป็นเครื่องโยงใจจะทำให้สมาธิทรงตัวได้ง่ายขึ้น เพราะฉะนั้น..ก็ควรที่จะทำบ่อย ๆ จะได้ผ่อนแรงตัวเอง ไม่ต้องเสียเวลาไปปล้ำผีลุกปลุกผีนั่งอยู่นาน แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-03-2019 เมื่อ 02:13 |
สมาชิก 178 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นายกระรอก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#26
|
||||
|
||||
ถาม : หนูนั่งกรรมฐานทุกคืนก่อนนอน ขอบารมีหลวงพ่อฤๅษีฯ หลวงพ่อเล็ก และพระวิสุทธิเทพ ให้นำจิตของลูกขึ้นสู่พระนิพพาน เดี๋ยวนี้ละเมอบ่อย ๆ รวมถึงมีแผลช้ำเป็นจ้ำช่วงขาลงไป เป็นเพราะเหตุใดคะ ?
ตอบ : ไปโดนผัวตีมาหรือเปล่า ? ..(หัวเราะ).. การละเมอบางทีเราเหวี่ยงแขนเหวี่ยงขาไปโดนตัวเองก็เป็นเรื่องปกติ เพียงแต่ว่าสภาพจิตก่อนนอนของเราเกาะอะไร ถึงเวลาก็ไปตามนั้น ยังจะไปกังวลกับสิ่งที่เกิดขึ้นตอนที่ไม่รู้ตัวอยู่อีก แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-03-2019 เมื่อ 02:13 |
สมาชิก 173 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นายกระรอก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#27
|
||||
|
||||
ถาม : เราสามารถอุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวรและเทพเจ้าทุกพระองค์แทนผู้มีพระคุณที่ดูแลเราได้ไหมคะ ?
ตอบ : เราอุทิศได้ แต่ว่าสิ่งที่เราอุทิศนั้นเกิดจากผลบุญของเรา ส่วนผู้ที่เราอุทิศแทนก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย สรุปว่าเทวดาท่านได้กำไร ก็คือได้บุญเพิ่มขึ้นมา ในส่วนของผลบุญของบุคคลผู้นั้นก็ดี หรือว่าการกระทำของบุคคลผู้นั้นก็ดี ในเมื่อเจตนาไม่มี การกระทำไม่เกิด กรรมก็คือไม่มี ก็แปลว่าไม่เกิดผลอะไรขึ้นกับเขา แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-03-2019 เมื่อ 02:14 |
สมาชิก 174 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นายกระรอก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#28
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "ท่านใดที่จองเหรียญพุทธบารมีสุริยันทรงกลดไว้ โบราณเขาให้ทำน้ำมนต์ล้างหน้า แต่ใครจะรักษาโรคก็อธิษฐานเอาตามอัธยาศัย
พระพุทธเจ้าล้างหน้า พระธรรมเจ้าล้างทุกข์ พระสังฆเจ้าสร้างสุข นะโมพุทธายะ เสกน้ำล้างหน้าทุกวัน ถ้าหาขันน้ำมนต์มาไม่ได้ จะใช้ขันอะไรก็ได้"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-03-2019 เมื่อ 19:54 |
สมาชิก 194 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#29
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า “ในเรื่องของการภาวนา คาถาจะยาวจะสั้นอย่างไรก็ตาม ปล่อยให้เป็นไปตามสบายไม่ต้องไปบังคับ ถึงเวลาเราแค่ตามรู้ว่าตอนนี้ลมผ่านจมูก ลมผ่านอกลงไปที่ท้อง ลมออกจากท้องผ่านอกมาปลายจมูก ส่วนตัวคาถาหรือคำภาวนาจะตรงกับคำไหน จะตรงกับช่วงไหนก็ไม่เป็นไร ทำให้เบา ๆ สบาย ๆ ดีกว่าที่จะไปกด ไปบังคับตัวเองให้เครียด ด้วยการตั้งใจว่าคำนี้ต้องลงจังหวะนี้ คำนี้ต้องลงฐานนี้ ถ้าอย่างนั้นโอกาสที่ภาวนาแล้วได้ดี หรือให้อารมณ์ใจทรงตัวก็ยาก เพราะว่าเราบังคับจิตตัวเองมากจนเกินไป”
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-03-2019 เมื่อ 19:55 |
สมาชิก 182 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นายกระรอก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#30
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า “ญาติโยมทั้งหลาย..ช่วงนี้ก็อากาศเปลี่ยนจากหนาวมาร้อน แต่ถ้าเป็นที่ทองผาภูมินี่มี ๓ ฤดูเลย เพราะฉะนั้น..ช่วงอากาศเปลี่ยนแปลงรุนแรง มีคนแก่มีคนป่วยต้องดูแลให้ดี ไม่อย่างนั้นแล้วคนแก่หรือคนป่วยเลือดลมไม่ดี ทนการเปลี่ยนแปลงของอากาศไม่ได้ ดีไม่ดีก็จะไปเอาง่าย ๆ
แม้กระทั่งตัวเราก็เหมือนกัน ถ้ารู้ว่าสุขภาพอ่อนแอ เจ็บไข้ได้ป่วยอยู่ ก็พยายามดูแลรักษาให้ดี ห้องปรับอากาศมีโทษมากกว่าประโยชน์ ไม่จำเป็นอย่าไปใช้ สิ่งแรกเลยก็คือ อากาศหนาวทำให้เส้นสายในตัวเราหด กลายเป็นเส้นจมเส้นตึงโดยอัตโนมัติ ถ้าสงสัยว่านอนทั้งคืน ตื่นขึ้นมาทำไมปวดไปทั้งตัว บางคนก็คอเอียงไปข้างหนึ่ง บอกว่าตกหมอน ทั้ง ๆ ที่หัวก็อยู่บนหมอนนั่นแหละ ก็เพราะว่าอากาศเย็นทำให้เส้นของเราหดตัว ถ้าใครอ่อนไหวมากก็หดมาก จึงมีอาการเช่นนั้น ประการที่สองก็คือ ห้องปรับอากาศส่วนใหญ่แล้วอากาศใหม่ไม่มี เป็นการหมุนเวียนอากาศเก่าข้างในเท่านั้น โอกาสที่เราจะขาดออกซิเจนมีมาก พอร่างกายได้รับออกซิเจนไม่พอ ส่งไปเลี้ยงร่างกายบางส่วนไม่ถึง ร่างกายส่วนนั้นก็ต้องพยายามดิ้นรนเพื่อให้ตัวเองอยู่รอด วิธีดิ้นรนให้อยู่รอดก็คือสร้างเซลล์ที่มีความทนทานใหม่ ๆ ขึ้นมา พอสร้างขึ้นมามาก ทำอันตรายกับร่างกายตัวเองก็เดือดร้อนอีก เพราะเขาเรียกเซลล์นั้นว่า 'มะเร็ง'” แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-03-2019 เมื่อ 19:57 |
สมาชิก 173 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นายกระรอก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#31
|
||||
|
||||
“อาตมาอยากสรุปว่า ปัจจุบันที่เป็นมะเร็งกันมากเพราะว่านอนห้องปรับอากาศด้วย เพราะฉะนั้น..ถ้ามีโอกาสก็เปิดให้อากาศถ่ายเทไว้ทุกวัน ส่วนใหญ่ผู้หญิงสมัยนี้ดี ฝึกโยคะกันบ่อย การหายใจแบบโยคะช่วยได้มาก เพราะว่าหายใจได้ทั่วท้อง การหายใจแบบโยคะ เป็นการหายใจ ๓ ช่วง ก็คือหายใจด้วยปอดช่วงบน หายใจด้วยปอดช่วงล่าง และหายใจทะลวงถึงท้องหรือสะดือ ซึ่งในส่วนนั้นทางการแพทย์เขารับไม่ได้ เพราะเขาเห็นว่าปอดมีอยู่แค่ช่วงหน้าอก จะหายใจลงไปถึงสะดือได้อย่างไร ?
อาตมาขอยืนยันว่าถ้าหายใจเป็น หัวแม่เท้าก็หายใจถึง..! เพราะว่าตัวอาตมาเองทำเป็นปกติ ร่างกายของเราทุกส่วนสามารถใช้แทนจมูกได้ ขุมขนของเราทุกขุมขนสามารถรับอากาศหรือสารอาหารเข้าไปได้ เพราะฉะนั้น..บรรดาสุภาพสตรีที่ฝึกโยคะ พยายามหายใจตามแนวโยคะ จะช่วยลดอาการเจ็บไข้ได้ป่วยอื่น ๆ ลงไปได้เยอะ ส่วนสุภาพบุรุษก็ไม่ต้องไปทำตามโยคะหรอก ให้เอาอานาปานสติ ทรงอารมณ์ตั้งแต่ปฐมฌานละเอียดขึ้นไป ปราณละเอียดไปได้ทั่วตัวก็ดีพอกันนั่นแหละ” แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-03-2019 เมื่อ 19:58 |
สมาชิก 180 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นายกระรอก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#32
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า “ตอนนี้สมาคมผู้ค้าทองกำลังหาข้อมูลอยู่ว่า คนซื้อทองไปทำอะไรกันเยอะแยะ ทั้ง ๆ ที่เศรษฐกิจไม่ได้เรื่องอย่างนี้
ของอินเดียเขาจะมีช่วงการใช้ทองมาก ก็คือเดือนที่เป็นมงคล เขาจะมีการแต่งงานกัน ไม่ว่าจะแขกอินเดียที่เป็นฮินดูส่วนใหญ่ก็ดี หรือแขกตะวันออกกลางที่เป็นมุสลิมก็ตาม ใช้ทองคำได้อลังการมาก ก็คือโปะเข้าไปจนแทบจะเลี่ยมทองทั้งตัว ส่วนประเทศจีนส่วนใหญ่ก็คือช่วงตรุษจีน มีธรรมเนียมการให้เงิน ก็คือเพื่อให้ลูกหลานหรือว่าคนรับใช้ได้มีสตางค์เที่ยวช่วงปีใหม่ ซึ่งเราเรียกว่าตรุษจีน มาภายหลังมีการนิยมให้ทองคำมากขึ้นเรื่อย ๆ ทางประเทศจีนจึงใช้ทองคำกันมากช่วงตรุษจีน ส่วนประเทศไทยของเราก็ใกล้เคียงกัน เพราะว่าพี่น้องเชื้อสายจีนมีมาก เพียงแต่ว่าช่วงนี้หลังตรุษจีนแล้ว เขาเลยสงสัยว่าทำไมถึงซื้อทองคำกันมาก ? ทั้ง ๆ ที่เศรษฐกิจก็ไม่เอาไหน อาจจะคิดว่ารัฐบาลลุงตู่บริหารดีขึ้นมาหรืออย่างไร ถึงได้เงินสะพัดขนาดนี้..!” แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-03-2019 เมื่อ 20:00 |
สมาชิก 177 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นายกระรอก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#33
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า “เหรียญพุทธบารมีสุริยันทรงกลด เนื้อชนวนหลวงพ่อนากเสร็จเรียบร้อยแล้ว รออย่างเดียวว่าจะเอาไปเข้าพิธีที่ไหน อาตมาตั้งใจมอบให้เป็นรางวัลแก่บุคคลที่เป็นเจ้าของกองทุนจัดงานวันเกิด ๖๐ ปีของอาตมา ก็คือท่านทั้งหลายสละเงินกองทุนละ ๒๐,๐๐๐ บาท เพื่อที่จะจัดงานวันเกิดให้อาตมา โดยที่ไม่ได้คิดต้องการผลตอบแทนใด ๆ นอกจากแสดงความกตัญญูต่อครูบาอาจารย์
ในเมื่อท่านมีมิตรจิต อาตมาก็มีมิตรใจ หลังจากที่ทำบาตรน้ำมนต์แล้ว ก็เทส่วนที่เหลือทั้งหมดลงไปสร้างเหรียญ ได้แค่ประมาณ ๔๕๐ เหรียญ ก็คือ ๑๕๐ เหรียญสำหรับบาตรน้ำมนต์ และ ๓๐๐ เหรียญสำหรับกองทุน เพราะฉะนั้น..ขอแสดงความยินดีกับท่านผู้เป็นเจ้าของกองทุนด้วย ใครจะเอาไปโก่งราคาต่อก็เชิญตามสบาย เพราะว่าให้ท่านไปแล้ว..! แต่ส่วนใหญ่ก็ถ่ายรูปลงเฟซบุ๊กเอาไปอวดกัน” แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-03-2019 เมื่อ 20:01 |
สมาชิก 193 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นายกระรอก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#34
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "ระยะนี้เรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นภายในวัดไม่ได้ส่งผลดีต่อพระพุทธศาสนาเลย โดยเฉพาะในส่วนของการบวชนาคแล้วเสียงดัง ตามที่อาตมาได้กล่าวไปแล้วว่า พระภิกษุสามเณรของเรานั้น อันดับแรกต้องปฏิบัติตามพระธรรมวินัย อันดับที่ ๒ คือกฎหมายบ้านเมือง อันดับที่ ๓ คือจารีตประเพณี คราวนี้การแห่นาคกลายเป็นจารีตประเพณีไปแล้ว
พอมีเรื่องกระทบกระทั่งกันขึ้นมาแทนที่จะลงโทษคนผิด กลับมาบีบบังคับพระและวัดห้ามไม่ให้มีเสียงดัง ถ้าญาติโยมสังเกตจะเห็นว่าปัจจุบันนี้ข้อกฎหมายต่าง ๆ ออกมาอยู่ในลักษณะที่ทำให้การบวชเป็นไปโดยยากที่สุด น่าเบื่อหน่ายที่สุด จนกระทั่งเขาจะไม่คิดบวชกัน แต่ขณะเดียวกันถ้าหากว่าทำอะไรผิดพลาด จะโดนสึกง่ายที่สุด"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-03-2019 เมื่อ 01:54 |
สมาชิก 173 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#35
|
||||
|
||||
"ถ้าหากว่าเราคิดกันแบบทฤษฎีสมรู้ร่วมคิด ก็คือต้องมีใครสักคนที่วางแผนชักใยในการทำลายพุทธศาสนาอย่างถึงแก่น โดยที่อาศัยเหตุการณ์ต่าง ๆ มาค่อย ๆ ตัดรอนสิทธิในการบวชของพระไปเรื่อย ๆ
ล่าสุดจะบวชพระ ต้องส่งสำนักงานพุทธศาสนาให้ตรวจประวัติ ส่งกองปราบปรามให้ตรวจประวัติ พระเราปัจจุบันติดด้วยการทำมาหากิน การจะบวชตามประเพณีเป็นเรื่องที่สละเวลา ๓ วัน ๕ วันก็ยากแล้ว แต่ว่ามาติดขั้นตอนในการบวช ก็คือพอไปสมัครเป็นนาคแล้ว ต้องเสียเวลาอย่างน้อย ๆ ก็ ๑๕ วันกว่าที่จะได้รับอนุญาตจากทางราชการ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพระธรรมวินัยเลย"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-03-2019 เมื่อ 01:54 |
สมาชิก 172 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#36
|
||||
|
||||
"พระธรรมวินัยก็คือพระอุปัชฌาย์ ๑๐ พรรษาขึ้นไป มีความเข้าใจในพระธรรมวินัยเป็นอย่างดี สามารถให้การอุปสมบทกุลบุตรได้ แล้วการบวชก็คือพ่อแม่เห็นด้วย พระอุปัชฌาย์ไม่คัดค้าน พิจารณาแล้วว่าสมควรได้ยกขึ้นอุปสัมบันก็บวชได้
แต่อย่างในปัจจุบันนี้มีการกำหนด อย่างเช่นว่า ถ้าหากว่าเป็นการปกครองคณะสงฆ์หนกลาง ๒๓ จังหวัด บุคคลที่จะเป็นพระอุปัชฌาย์ต้องมี ๒๐ พรรษาขึ้นไป นี่มากกว่าที่พระพุทธเจ้าท่านกำหนด ๑ เท่าตัว แล้วพระที่กว่าจะบวชถึง ๒๐ พรรษานี่คิดว่าง่ายไหม ? ประการต่อไปก็คือการปกครองคณะสงฆ์หนอื่น ๆ อย่างน้อยก็ ๑๕ พรรษา ยกเว้นว่าอยู่ในที่กันดารอาจจะได้รับอนุมัติเป็นพิเศษ พรรษาไม่ต้องถึงแต่ก็ต้องเกิน ๑๐ อยู่ดี"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-03-2019 เมื่อ 01:55 |
สมาชิก 169 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#37
|
||||
|
||||
"ก็แปลว่าระเบียบคณะสงฆ์ก็มาบีบบังคับ กฎหมายบ้านเมืองก็มาบีบบังคับ สถานการณ์การทำมาหากินการครองชีพก็มาบีบบังคับ เราเห็นว่าโอกาสที่พุทธศาสนาของเราจะแกร็นแล้วก็ตายมีสูงมาก
โดยเฉพาะเจตนาของศาสนาอื่นที่แฝงเข้ามา เพื่อที่จะทำลายพุทธศาสนาโดยตรง แม้ว่าในสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ข้าราชการส่วนหนึ่งก็เป็นอิสลาม บ้าไหมที่รับเข้าไป ? ตรวจสอบเจอแล้วเอาออกไม่ได้ด้วย หาว่าเป็นการริดรอนสิทธิคนอื่นเขา แล้วทำไมหน่วยงานอย่างคณะกรรมการกลางอิสลามไม่เอาคนพุทธเข้าไปบริหารบ้าง ?"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-03-2019 เมื่อ 01:57 |
สมาชิก 168 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#38
|
||||
|
||||
"ส่วนที่น่าตำหนิที่สุดคือส่วนราชการของเรา สำนักนายกรัฐมนตรี มีรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมาย ให้รับผิดชอบเกี่ยวกับสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ ตัวสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ ที่มีหน้าที่ถวายการรับใช้ต่อพระภิกษุสงฆ์ แล้วก็กรมการศาสนาที่ส่วนหนึ่งต้องรับผิดชอบศาสนาพุทธ แต่ปัจจุบันนี้เหมือนกับเป็นกรมการศาสนาอิสลามไปแล้ว หน่วยงานทั้งหลายเหล่านี้ ตลอดถึงมหาเถรสมาคมของเรา สมควรที่จะได้รับการตำหนิอย่างมาก เกิดเหตุอะไรขึ้นไม่มีการชี้แจงต่อประชาชน ว่าที่ถูกที่ควรคืออะไร มีแต่ออกกฎ ออกระเบียบ ออกกฎหมายมาบังคับพระ แล้วท้ายที่สุดก็จะไม่เหลือพระให้โยมทำบุญ
เรื่องพวกนี้ส่วนใหญ่แล้วเราไปหลงประเด็นกันหมด คำว่าหลงประเด็นก็คือ กลายเป็นว่าอาศัยกระแสสังคมในช่วงนั้น ๆ ซึ่งบางทีสื่อบางสื่อก็เป็นศาสนาอื่นเขาจ้างไว้ ให้ช่วยกันประโคมโหมให้เป็นข่าวใหญ่ขึ้นมา แล้วอีกฝ่ายหนึ่งก็ฉวยโอกาสออกกฎหมายหรือระเบียบอะไรมาบีบบังคับ เพื่อต้อนพระพุทธศาสนาของเราให้เล็กลงไปเรื่อย ๆ กระทั่งท้ายสุดก็ไม่มีอะไรเหลือ"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-03-2019 เมื่อ 01:58 |
สมาชิก 169 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#39
|
||||
|
||||
"มีทั้งพวกที่ตระหนักถึง แต่ไม่กล้าพูด ไม่กล้าคิด ไม่กล้าต่อต้าน แล้วก็อีกพวกหนึ่งที่ไม่ได้ตระหนักถึง จะเป็นเพราะความโง่หรือแกล้งโง่ก็ตาม กลายเป็นแนวร่วมในการช่วยกันกระทืบและทำลายพระพุทธศาสนาไปด้วย
เรื่องพวกนี้ขอให้ญาติโยมทั้งหลายได้ตระหนักไว้ว่า ภัยของพุทธศาสนาเข้ามาจนติดตัวแล้ว อาตมาขอแค่ว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ ให้ญาติโยมพิจารณาให้ดี ๆ ว่าพรรคไหนอวยอิสลาม พรรคไหนสนับสนุนอิสลาม พรรคไหนอิสลามตั้งขึ้นมา พรรคไหนเป็นแนวร่วมอิสลาม กรุณาอย่าเลือก ให้เลือกพรรคที่สนับสนุนศาสนาพุทธ ไม่อย่างนั้นแล้วเราจะไม่เหลือศาสนาเอาไว้เลย"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-03-2019 เมื่อ 01:59 |
สมาชิก 172 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#40
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวกับโยมว่า "ไม่ต้องไปพยายามลดน้ำหนัก ลดอาหารก็แล้วกัน โดยเฉพาะมื้อหลังเพลไปแล้ว ถือศีล ๘ ก็ไม่รอดหรอก ถ้ากินแต่น้ำหวานเข้าไปเช้ายันค่ำ น้ำหวานน้ำอัดลมนี่ตัวดีเลย โค้ก ๑ ขวดหรือ ๑ กระป๋อง มีน้ำตาลตั้ง ๖ ช้อนชา ก็เท่ากับกินน้ำตาลเข้าไปตลอดเวลา"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-03-2019 เมื่อ 01:59 |
สมาชิก 180 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
คำสั่งเพิ่มเติม | |
|
|